Skip to content

ราชินีพลิกสวรรค์ 190

ตอนที่ 190

นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการชำระหนี้แค้น

เขาของเลี่ยเทียนซื่อ แทงทะลุผ่านร่างของมู่สิงโจว และแยกเขาออกเป็นสองท่อน

สิ่งที่น่าแปลกคือ ไม่มีเลือดไหลออกมาจากร่างกายของเขา

ดวงตาของเจียงหลีจดจ้อง ใช้ชวนเสินอิ่นออกมาใช้อีกครั้ง เปลี่ยนตำแหน่งอยู่ ตลอดเวลา เมื่อนางออกจากสถานที่เดิม หมัดเจ้าสังหารก็เลื่อนลงมาจากกลางอากาศ ผสมกับแสงสีทองเพื่อทำลายก้อนอิฐบนพื้น พื้นดินถูกปกคลุมไปด้วยรอยที่แตกละเอียด ทันที

เจียงหลียืนอย่างมั่นคงท่ามกลางฝุ่นละอองที่เพิ่มขึ้น และมองมู่สิงโจวที่ปรากฏตัวที่จุด ระเบิด ลอบคิดในใจ สิบผู้องอาจแห่งเมืองหลวงนี้ไม่อาจถูกฆ่าให้ตายอย่างง่ายๆ

“ฝีมือไม่เลว ยังมีความสามารถอะไรอีก ใช้มันออกมาเถอะ” มู่สิงโจวยังคงไม่มองไปที่ เจียงหลี

ในใจของเขา ไม่ว่าเจียงหลีจะมีความสามารถเพียงใด ก็ยังเป็นเพียงแค่ทาสคนหนึ่ง เล็กน้อยเหมือนมด

และการดูถูกแบบนี้ กลับเป็นสิ่งที่เจียงหลีต้องการ นางยกมุมปากและยิ้มผ่านทางดวงตา ที่สดใสนี้ไม่อาจรู้ถึงแผนการในความคิดของนาง “รัชทายาท ถ้าเช่นนั้นพระองค์ต้อง ระวังตัวด้วยแล้ว”

ฝ่ามือหยกขนาดใหญ่ ที่เจียงหลีจินตนาการออกมาจากในหัว ได้ทะลุผ่านฝุ่นและหมอก เข้าไปคว้าตัวมู่สิงโจวเข้าอย่างจัง

“หัตถ์เทพเด็ดดารา!” มู่สิงโจวแค่มองแวบหนึ่งก็จำศิลปะการต่อสู้นี้ได้แต่เขาผู้ไม่รู้เหตุ และผลมาก่อน เกิดมีข้อสงสัยว่าทำไมเจียงหลีถึงสามารถออกกระบวนท่านี้ได้

“หัตถ์เทพเด็ดดาราของเจ้ายังไม่ร้อนแรงพอ ข้าจะทำให้เจ้าเห็นว่าหัตถ์เทพเด็ดดาราที่แท้จริงเป็นเช่นไร!” มู่สิงโจวไม่ได้หลีกเลี่ยงหรือซ่อนตัว ปฏิบัติต่อมือหยกนั้นราวกับว่ามันเป็นความว่างเปล่า

ในเวลาเดียวกัน เหนือศีรษะของเขา ปรากฏมือหยกที่ดีพอๆ กับมือขวาของเขา

ทันทีที่มือหยกนี้ปรากฏขึ้น มาพร้อมพลังที่บ่งบอกถึงความหยิ่งผยองว่าไม่อาจเป็นที่สอง รองใคร มันทำลายหัตถเทพเด็ดดาราของเจียงหลีโดยตรงและคว้าไปทางเจียงหลี

เจียงหลีเงยหน้าขึ้น ร่างกายของนางถูกปกคลุมไปด้วยเงาของมือหยก และพลังวิญญาณ ในร่างกายของนางดูเหมือนจะหยุดนิ่ง เหมือนว่าภายใต้มือหยกนี้ นางทำได้เพียงคืบ คลานเท่านั้น

เมื่อมือหยกตกลงมา ร่างของนางก็กลายเป็นกระแสแห่งแสงและนางหลบหนีจากการ ควบคุมของฝ่ามือนั้นด้วยความเร็ว

“กระบวนท่านี้ไม่เลวเลย” มู่สิงโจวแสดงความคิดเห็น แต่มีความปรารถนาอยู่ในแววตา ของเขา

“ฉีกเวหา!”

เจียงหลีใช้ทักษะพรสวรรค์ของนางอีกครั้ง

เลี่ยเทียนซื่อที่ขยายใหญ่ขึ้น ได้มุ่งหน้าไปโจมตีมู่สิงโจว

“ฉีกเวหาาา!”

“ฉีกเวหาาา!”

การใช้ทักษะพรสวรรค์ซ้อนสามชั้นดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที

“ทักษะพรสวรรค์ฉับพลัน!” มู่สิงโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย โดยเชื่อว่าเจียงหลีต้องมี ทักษะลับ ถึงจะช่วยการประลองยุทธ์ด้วยทักษะพรสวรรค์ของนางได้ในทันที

ความสนใจของเขา ถูกดึงดูดโดยเลี่ยเทียนซื่อขนาดใหญ่ตรงหน้า ไม่ได้สนใจเจียงหลีที่ ใช้ชวนเสินอิ่นมาทางด้านหลังเขา และดึงกริขออกมา

ตู้มๆๆ!

พลังของเลี่ยเทียนนั้นไม่เล็กน้อยแน่นอน

การซ้อนทับของทักษะการต่อสู้ที่มีความสามารถทั้งสามนี้ ทำให้พลังของการเคลื่อนไหวนั้นน่ากลัวยิ่งขึ้น

ในตอนนี้ แม้ว่ามู่สิงโจวจะรู้สึกว่าเจียงหลีปรากฏตัวอยู่ข้างหลังเขา แต่เขาก็ไม่มีเวลา คำนึงถึงเรื่องนั้น เพราะเขาต้องรับมือกับการโจมตีด้านหน้าด้วยกำลังทั้งหมดของเขา

ในใจเขายังคงเชื่อว่า การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่นี้เป็นเพียงการแสดง

ตู้มๆๆ!

พลังเลี่ยเทียนทำลายฟ้าและดิน

พลังอันน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว ทำให้กระเบื้องปูพื้นบนจัตุรัสอู่เหมินและชั้นนอกของกำแพงโดยรอบแตกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นชิ้นส่วนจำนวนนับไม่ถ้วน และตกลงมา

แรงสั่นสะเทือนทำให้ประตูอู่เหมินทั้งบานสั่นสะเทือน

หอคอยแตกออกจากฐานของกำแพง ทำให้หอคอยสั่นไหวอย่างต่อเนื่องและองครักษ์ ชั้นยอดที่อยู่ข้างบนก็ต้องรีบทรงตัว

ฟู่ว!

มีเสียงเข้าสู่เนื้อดังขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของใคร

ความเจ็บปวดที่เสียดแทงที่หลัง และคราบเลือดบนหน้าอก ทำให้มู่สิงโจวเบิกตากว้าง และมองไปที่บาดแผลของเขาอย่างไม่เชื่อสายตา

เป็นไปได้อย่างไร

มันจะทำลายการป้องกันของตนเองง่ายขนาดนี้ได้เช่นไร

นางกล้าฆ่าตัวเองให้ตายจริงๆ หรือ

ในเวลาเดียวกัน เจียงหลีที่สอดกริชเข้าไปในหัวใจของเขาทางด้านหลังก็ประหลาดใจ เช่นกัน กริชที่ลู่เจี้ยมอบให้นางมิใช่สมบัติลํ้าค่าหรือ ทำไมมันยังสามารถทำลายการ ป้องกันของหลงเจี้ยงได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นางแทงได้ลึกมาก และพลัง วิญญาณที่ควรจะทะลุการป้องกันก็กลับถ่ายเทเข้าไปในกริช

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของนางก็สำเร็จแล้ว!

“อ๊ากก! เจียงหลี!” จู่ๆ มู่สิงโจวก็เงยหน้าขึ้นและตะโกน

เจียงหลีหรี่ตาลง รู้สึกว่ามันแปลกๆ ‘ระเบิดตัวเอง,

“ลู่เสวียน!” นางตะโกนเสียงดัง

ลู่เสวียนซึ่งรออยู่แล้วอย่างไม่อาจอดทนรอได้รีบวิ่งออกไปทันที และรีบเข้าไปใต้ซากศพท่ามกลางความโกลาหล

อวี้ซูและอวี้เฉินก็วิ่งไปช่วยทันทีโดยจับร่างของนายท่านลู่และนายหญิงลู่ที่ด้านล่าง

“รัชทายาท!”

“เร็วเข้าจับพวกมันเอาไว้”

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายในที่สุดทหารองครักษ์ก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ และลงมือยิงธนูใส่เจียงหลีและคนอื่น ๆ

ถ้ามู่สิงโจวระเบิดตัวเอง พลังของมันก็เพียงพอที่จะทำลายอู่เหมินทั้งหมด ดังนั้นเจียงหลีและคนอื่นๆ ต้องหนีไปให้ใกลก่อนที่เขาจะระเบิดตัวเอง

“ท่านพ่อ! ท่านแม่!”

ในที่สุดลู่เสวียนก็ช่วยท่านพ่อและท่านแม่ของเขาได้

แต่ว่า เมื่อพวกเขากำลังจะหลบหนี ทหารหลายร้อยคนได้ปิดกั้นถนนด้านหลังของพวก เขาเอาไว้หมดแล้ว

มีทหารอยู่ข้างหน้าและมู่สิงโจวที่ระเบิดตัวเองในเวลาต่อมา และทั้งสี่คนก็ตกอยู่ในความสิ้นหวัง ทางวังหลวงก็ได้ยินการเคลื่อนไหวนี้แล้วแน่นอน และมีคนถูกส่งมายังที่เกิดเหตุ

“คุณหนู! ซื่อจื่อ!” ทันใดนั้นด้านหลังของทหารองครักษ์ เสียงของบุคคลที่สามก็ดังขึ้น เจียงหลีเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นหม่าหยวนจย่า และข้างๆ เขายังมีองครักษ์ตระกูลลู่ หลายคนปรากฏตัว

ลู่เจี้ยเตรียมแผนสำรองเอาไว้จริงๆ! เจียงหลีกล่าวในใจ

กองกำลังลับของตระกูลลู่เหล่านี้ควรจะปกป้องเจียงหลีและลู่เสวียนอย่างลับๆ แต่พวก เขาไม่คาดคิดว่าองค์จักรพรรดิจะทำเช่นนี้กับศพของลู่อ๋องและพระชายา เป็นเหตุเจียง หลีและลู่เสวียนกลับมาเพื่อแย่งชิงศพ

คำสั่งที่พวกเขาได้รับคือ ถ้าเจียงหลีและลู่เสวียนไม่ตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิตและความ ตาย ไม่อนุญาตให้ปรากฏตัว แต่เมื่อครู่นี้พวกเขาอดทนที่จะไม่ออกมา และอดทนจนถึง เวลานี้จึงจะออกมา

กองกำลังลับของตระกูลลู่ต่อสู้กับเหล่าทหารองครักษ์

แต่เวลายังไม่เพียงพอ!

ทันใดนั้นเจียงหลีก็รู้สึกได้ถึงเสียงของลมที่พัดอยู่ด้านหลัง นางหันไปมองและเมื่อนาง เห็นใครบางคนกำลังมาดวงตาของนางก็หรี่ลงอยางรวดเร็ว

“ตามข้ามา!” หนานอู่เฮิ่นผู้ซึ่งปรากฏตัวราวกับเทพเจ้าที่มีพลังวิญญาณจำนวนมาก พา ทั้งสี่คนพร้อมกับศพของลู่อ๋องและพระชายาแล้วหายตัวไปในทันที

ในเวลานี้ มู่สิงโจวก็ระเบิดตัวเอง กำลังอันทรงพลังได้ถล่มอู่เหมินทั้งหมด และจมลงใต้ ดินสามวา แท่นประหารถูกทำลาย แม้แต่ทหารบางส่วนก็ไม่อาจหลีกหนีไปได้

“ไป!” หม่าหยวนจย่าเห็นเจียงหลีและคนอื่นๆ หลบหนี และรีบออกไปพร้อมกับกองกำลังลับของตระกูลลู่

การเคลื่อนไหวของอู่เหมิน เป็นเหตุให้แผ่นดินที่ซั่งตูไหวถึงสามครั้ง เมื่อข่าวไปถึงพระราชวังใบหน้าของมู่เจิ้นเฟิงก็ซีดเผือด

น่าขายหน้าเสียจริง!

เหล่าขุนนางหลายร้อยคนในราชวงศ์ ต่างคุกเข่าลงบนพื้น ไม่กล้าแม้แต่หายใจแรง

ข้อพิพาทระหว่างฮ่องเต้และตระกูลลู่ การสังหารลู่อ๋องและพระชายา ไม่สิ พวกเขาทั้ง สองฆ่าตัวตาย ส่วนด้านตระกูลลู่ ก็ได้ฆ่ารัชทายาทเช่นกัน!

ในคราวนี้ ใครจะเป็นผู้ชนะและใครจะเป็นผู้แพ้

“ส่งราชโองการออกไปให้ปิดเมือง พวกก่อกบฏของตระกูลลู่กับผู้ที่สังหารรัชทายาท จะต้องถูกจับ และส่งทหารไปล้อมสถาบันไป๋หยวนเอาไว้!” น้ำเสียงของมู่เจิ้นเฟิงดูน่า กลัว

“ฝ่าบาท สถาบันไป๋หยวน…” เหล่าขุนนางเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ แต่เมื่อเขาเห็น ใบหน้าของโอรสแห่งสวรรค์ เขาก็กลืนคำพูดที่ตามมาลงและก้มหัวของเขาลงด้วยความ หวาดผวา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!