Skip to content

ราชินีพลิกสวรรค์ 221

อนที่ 221

เขาป็นคู่ของข้า

“เจียงหลี! กว่าข้าหาตัวเจ้าเจอ!”

เสียงดังฟังชัดและโอหังลอยลงมาจากฟากฟ้า ดึงดูดเจียงหลีและคนอื่น ๆ ให้เงยหน้าขึ้นมอง

ที่นี่คือพื้นที่ของสถาบันไป๋หยวน นอกจากผู้เข้าสอบแล้ว บริเวณโดยรอบยังมีลูกศิษย์และคณาจารย์ อีกมากมายที่ไม่ได้เข้าร่วมการสอบวัดผลในครั้งนี้

ประโยคนี้ดูเหมือนจะมีความหมายสำหรับศัตรูที่ต้องการแก้แค้น ทำให้คณาจารย์ของสถาบันไป๋หยวน ระมัดระวังตัวอย่างลับๆ ขึ้นมาทันที

เจียงหลี นับตั้งแต่ฆ่าคนต่อหน้าเจียงซย่า ขื่อของนางก็เป็นที่รู้จักไปทั่วสถาบันไป๋หยวน

แต่ทว่า ไม่ว่าใครจะมา ‘ชำระแค้น’ ก็ตาม ขอเพียงเจียงหลียังเป็นลูกศิษย์ของสถาบันไป๋หยวน จะไม่ ยอมให้คนอื่นมาหยามเกียรติกันถึงที่นี่เป็นอันขาด

เมื่อเทียบกับความตื่นตัวหรือความประหลาดใจของคนอื่นแล้ว เมื่อเจียงหลีได้ยินประโยคนั้น ร่างกาย ของนางราวจะระเบิดออกมาและสมองของนางก็เปลี่ยนเป็นว่างเปล่า ตูมมม ราวกับว่าขณะนั้นความ แข็งแกร่งและพละกำลังทั้งหมดที่มีรวมอยู่ในดวงตาทั้งสอง แล้วจ้องมองไปที่เปลวไฟสีแดงที่ตกลง มาจากท้องฟ้า

“ฮึ เจียงหลีนี้ปัญหาเยอะเสียจริง…” โจวยวนพึมพำอย่างมีความสุข

หลังจากนั้น เมื่อนางเห็นเงาสีแดงร่วงมาเบาๆ นางถึงกับตะลึง ความประหลาดใจผุดออกมาจากดวงตา ของนาง

“รูปงามอะไรเยี่ยงนี้!” เฉียนจวิ้นที่ยืนอยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

ชุดสีแดงพลิ้วไสวดุจดวงตะวันดั่งแสงเปลวไฟ

ซึ่งแม้แต่สีสันอันสดใสก็ไม่สามารถปกปิดความสง่างามที่มิอาจมีใครมาเทียบได้ ใบหน้าอันงดงาม ดวงตาที่คมชัด ดุจความงามแห่งไฟก็ไม่ปาน มีเสน่ห์และแพรวพราวมัก ผู้คนไม่สามารถเพิกเฉยและ ยอมจำนนต่อความงดงามนี้ไปได้เลย

ช่างสง่างามเหลือเกิน!

ช่างเป็นคนที่มากความสามารถยิ่งนัก!

ช่าง…เสียเหลือเกิน

เพียงชั่วครู่ ทุกคนต่างดื่มด่ำไปกับเสน่ห์อันเบ่งบานของเขา และคำพูดที่อธิบายถึงความงามในโลกนี้ก็ ดูจืดจางและไร้พลังอำนาจลงไปเลย ลูกศิษย์ทั้งหลายของสถาบันไป๋หยวนต่างรู้สึกประทับใจกับสีสันอันน่าตื่นตาตื่นใจนี้

ขณะที่ บรรดาคณาจารย์ของสถาบันไป๋หยวนกลับรู้สึกประหลาดใจและเหมือนมีมรสุมพายุพัดแรงผุด ขึ้นในใจ พวกเขาไม่รู้สึกถึงพลังวิญญาณที่ผันผวนของผู้ที่จะมาเยือน แต่กลับรู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่ สุดกำลังเดินทางมา

ราวกับว่าต่อหน้าเขา ทุกอย่างบนโลกเหมือนสุนัขและมดก็ไม่ปาน

หากผู้มาเยือนแข็งแกร่งจริงๆ พวกเขาสถาบันไป๋หยวนจะรับมืออย่างไร

เจียงหลีผู้นี้สร้างปัญหาเก่งจริงๆ ด้วย!

นึกไม่ถึงว่าคณาจารย์ของสถาบันไป๋หยวนจะตำหนิเจียงหลีในใจ

“ชิง…ชิงเกอ…” เจียงหลีงุนงงอยู่กับที่และพึมพำอย่างเหลือเชื่อ สายตาของนางจ้องมองไปตามร่างสี แดงนั้น และเฝ้ามองจนเขาค่อยๆ เข้าใกล้ตัวเอง “ข้าฝันไปใช่หรือไม่”

เมื่อได้ยินความไม่แน่ใจของนางเพียงเท่านี้ ริมฝีปากของมู่ชิงเกอก็โก่งโค้งขึ้นเล็กน้อยและเจตนา หยอกล้อนาง “ใช่แล้ว ดูสิว่าเจ้าอยากเจอข้ามากสักเพียงใด กลางวันแสกๆ เช่นนี้ยังฝันถึงข้าได้”

หลังจากพูดจบ นางก็ยื่นมือออกไปบีบจมูกเล็กๆ ของเจียงหลี

การกระท่านี้ถือว่าแปลกมากสำหรับมู่ชิงเกอในความทรงจำของเจียงหลี อย่างไรก็ตาม นางกลับมอง ทะลุจนเห็นถึงความจนปัญญาและความทุกข์ใจในดวงตาของมู่ชิงเกออย่างชัดเจน

“มู่! ชิง! เกอ!”

ทันใดนั้นเจียงหลีซึ่งกำลังเชื่องซึมคว้ามือของมู่ชิงเกอที่ยังไม่ทันได้ชักกลับและตะโกนเรียกชื่อที่ค้าง คาในใจมาหลายปี

“ข้าเอง” รอยยิ้มที่มุมปากของมู่ชิงเกอแพร่กระจายไปยังดวงตาอันสดใสของนาง นางมองไปที่เจียง หลีอย่างสนใจและพูดล้อเลียน “ร่างปัจจุบันของเจ้าคือ…เอ่อะ…”

ก่อนที่จะพูดจบ เจียงหลีรู้สึกถึงการเหยียดหยามที่ซ่อนอยู่

นางหัวเราะเยาะและมองหน้ามู่ชิงเกออย่างขมขื่น เจ้าก็ไม่คิดบ้างเลยหรือว่าที่ข้ากลายเป็นแบบนี้เพื่อใครกัน!”

เพื่อใครหรือ

ดวงตาของมู่ชิงเกอเป็นประกาย เจียงหลีตายเพื่อนางซึ่งกลายเป็นปมในใจนาง เมื่อนาง สามารถค้นหาเจียงหลีโดยใช้เวลานานถึงสามพันภพ วันที่นางวาดฝันไว้ได้มาถึงแล้ว

“เจียงหลี ข้าอยู่นี้แล้ว! ขอโทษที่ข้ามาสาย!”มู่ชิงเกอโอบกอดเจียงหลีไว้ในอ้อมแขนโดยไม่ได้ตั้งใจ และสัมผัสร่างกายที่แตกต่างจากร่างเดิม

เจียงหลีที่นางคุ้นเคยนั้นมีรูปร่างที่สวยงาม ใบหน้าสง่างาม มีเสน่ห์น่าหลงใหล ทุกกิริยาบท ล้วนตรา ตรึงใจ อุปนิสัยตรงไปตรงมาและทรงพลัง กล้าคิด กล้าทำ และดื้อรั้นนัก

เจียงหลีเคยเป็นคนที่นางชื่นชมมากที่สุด!

เพราะนางทำทุกอย่างได้ตามใจนึก นางสามารถทำทุกอย่างเพื่อคนที่นางรัก และลังหารคนที่นาง รังเกียจได้ นางใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ สบายอกสบายใจ และซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตน!

แต่ตอนนี้เล่า

“เจ้าหาข้าเจอได้อย่างไร ข้าแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก” เจียงหลียังคงกอดมู่ชิงเกอไว้แน่นและถาม ด้วยเสียงแหลม

มู่ชิงเกอยิ้มเบาๆ “ลมปราณแห่งวิญญาณชั่วร้ายและลมหายใจของเจ้า แม้จะกลายเป็นขี้เถ้า ข้าก็รับรู้ ได้”

มุมปากของเจียงหลีกระตุก “คำพูดนี้ ไม่น่าพอใจเท่าไรนัก”

“ความหมายชัดเจนเป็นพอ” มู่ชิงเกอกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ

ทั้งสองเล่าเรื่องในอดีตอย่างมีความสุข แต่ผู้คนโดยรอบกลับตกตะลึงและเงียบงัน

“ชิงเกออีกแล้วหรือ ชิงเกอผู้นี้คือใครกัน” ลู่เสวียนบ่นพึมพำ

เจียงเฮ่าที่อยู่ข้างๆ ก็มองไปที่น้องสาวด้วยสายตาที่สับสน นางกอดผู้ชายในที่สาธารณะแบบนี้ได้ อย่างไร

ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่เขาไม่รู้จักด้วย!

เกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของเขาในช่วงเวลาที่พวกเขาแยกจากกัน ทำไมหลังจากการรวมตัวกันแล้ว นางถึงไม่เคยเอ่ยชื่อ ‘มู่ชิงเกอ, กับเขาเลย

ร่องรอยของความรู้สึกผิดค่อยๆ ปรากฎขึ้นในดวงตาของเจียงเฮ่า และรู้สึกเป็นหนี้ชีวิตของน้องสาวเขา มาก

“บัดซบ! ข้าคิดว่าเป็นศัตรูเสียอีก ไม่คิดว่าจะเป็นสหาย!” โจวยวนโกรธเกลียดในใจ

นางมองหน้าเจียงหลีอย่างอิจฉาและโมโหอย่างมาก รวมถึงไม่พอใจอีกด้วย เหตุใดเจียงหลีถึง ล้อมรอบไปด้วยผู้ชายที่โดดเด่นเช่นนี้

ส่วนนาง

โจวยวนอดไม่ได้ที่จะมองไปทางที่ลู่เสวียนยืนอยู่ ในระหว่างเงาผู้คนทั้งหลายนั้น ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปทางเจียงหลี

เล็บของนางจิกเข้าที่ฝ่ามือและมองไปที่เฉียนจวิ้น กลับพบว่าเขากำลังมองไปที่ตำแหน่งของเจียงหลี เช่นกัน

เจียงหลี! เจียงหลี! ทำไมเจ้ายังไม่ตกนรกไปอีก! โจวยวนสบถอย่างโกรธแค้นในใจ คณาจารย์ของสถาบันไป๋หยวนแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก

โชคดีที่ไม่ใช่ศัตรู มิเช่นนั้น…

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะขาดคู่สำหรับการสอบวัดผลในครั้งนี้นะ” มู่ชิงเกอปล่อยมือเจียงหลีและเลิกคิ้วมอง นางอย่างยียวน

โดยปกติแล้ว ทั้งสองนี้ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความก็เข้าใจกันโดยปริยาย เจียงหลีเข้าใจมู่ชิง เกอว่าหมายถึงอะไร แต่ทว่าดวงตาของนางยังคงกวาดไปรอบๆ ฝูงชนโดยไม่เต็มใจ

คนที่นางรอคอยยังไม่ปรากฎ

ความผิดหวังในดวงตาของเจียงหลี มิอาจรอดพ้นสายตาของมู่ชิงเกอไปได้ การพบเจอนางครั้งนี้ ทำ ให้ดวงตาของนางครุ่นคิดและอยากเล่นสนุกขึ้นมาทันที

และแน่นอนว่าเจียงหลีไม่รู้ว่าลู่เจี้ยได้มาถึงสถาบันไป๋หยวนตั้งแต่นางและมู่ชิงเกอสวมกอดกันแล้ว เพียงแต่เมื่อเขาเห็นทั้งสองสวมกอดกัน เขาก็ออกคำสั่งให้หยุดก้าวเดินไปข้างหน้า เขาจ้องไปที่ร่างของคนทั้งสองโดยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!