Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1072

บทที่ 1072 ถูกสับเปลี่ยน

กู้ซีจิ่วมองแผ่นหลังของเขา สุดท้ายก็ถามขึ้นอย่างอดไม่อยู่ “ที่นี่…ที่นี่ปลอดภัยใช่ไหม? หากว่ามีสัตว์ร้ายโผล่มาแล้วเจ้าไม่อยู่…”

“วางใจเถอะ ถํ้าภูเขาแห่งนี้ลึกลับซับซ้อนยิ่งนัก แม้กระทั่งลิงก็หาไม่พบ ไม่เกิดปัญหาขึ้นหรอก อดทนรออยู่ที่นี่เถิด” ตี้ฝูอีไม่แม้แต่จะหันกลับไป ก้าวออกจากถํ้าไปเลย

เมื่อเขาเดินพ้นจากถํ้าสีหน้าก็เย็นชาลงอย่างสิ้นเชิง!

เมื่อครู่เขาใช้วิชาสืบวิญญาณตรวจสอบดู ในร่างนางมีวิญญาณเพียงดวงเดียว!

ไม่มีดวงวิญญาณอื่นอยู่ด้วย ดวงวิญญาณของกู้ซีจิ่วหายไปแล้ว…

ดูเหมือนมีดนั้นของเย่หงเฟิงจะมีลูกไม้อยู่ไม่น้อยเลยจริงๆ ที่นางแทงหัวใจกู้ซีจิ่วมิใช่หมายจะเอาชีวิตนางอย่างเดียว พิษบนมีดก็มิใช่เพียงทำให้นางเจ็บปวดเท่านั้น ใช้อาการไข้สูงเปลี่ยนแปลงร่างกายนาง แถมยังเคลื่อนย้ายดวงวิญญาณนางอีกด้วย

ร่างกายของกู้ซีจิ่วนอกจากตี้ฝูอีที่เป็นเทพโดยกำเนิดแล้วผู้อื่นไม่อาจยึดครองได้ ต่อให้ยึดครองได้การเคลื่อนไหวก็จะแข็งทื่อปานผีดิบ

แต่ยามนี้สังขารนี้ของนางเห็นได้ชัดว่าเปลี่ยนผู้ถือครองแล้ว และมีความเป็นได้เกือบสิบส่วนว่าผู้ที่สลับมาคือ เย่หงเฟิง!

เรื่องนี้พูดให้กระจ่างคือมีดนั้นที่เย่หงเฟิงแทงกู้ซีจิ่วมิใช่มีดธรรมดา บนมีดน่าจะมีพิษบางอย่างที่ไม่มีอยู่ในสารบบของโลกนี้ พิษชนิดนี้เปลี่ยนแปลงร่างกายของกู้ซีจิ่ว ทำให้ร่างของนางสามารถรับคำสั่งจากดวงวิญญาณอื่นได้ และมีดนั้นก็ทำร้ายดวงวิญญาณของกู้ซีจิ่ว ฝังคำสาปบางอย่างไว้บนดวงวิญญาณของนาง ทำให้นางออกจากร่างตนอย่างมิอาจควบคุมตัวเองได้…

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ดวงวิญญาณในร่างของนางถูกสับเปลี่ยนไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ดวงวิญญาณของเย่หงเฟิงอยู่ที่นี่ เช่นนั้นดวงวิญญาณของกู้ซีจิ่วไปอยู่ที่ไหนกัน?

ตี้ฝูอีกังวลใจ จึงใช้วิชาเรียกวิญญาณเรียกนางดูรอบหนึ่ง เป็นอย่างที่เขาคาดไว้ แม้แต่สักกระผีกวิญญาณก็เรียกมาไม่ได้

ด้วยนิสัยของหลงซือเย่มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะนำกู้ซีจิ่ววไปอยู่ข้างกายเขา และไม่ปล่อยให้ดวงวิญญาณของนางแยกกระจัดกระจายไป เช่นนั้นมีความเป็นไปได้แปดเก้าส่วนว่าดวงวิญญาณของกู้ซีจิ่วในยามนี้จะอยู่ในร่างโคลนนิ่งร่างนั้น!

ถึงแม้ว่ากันตามเหตุผลแล้ว กู้ซีจิ่วไม่น่าจะสิงสู่อยู่ในร่างอื่นได้อีก เนื่องจากนี่คือชาติสุดท้ายของนางแล้ว แต่ก็มักจะมีเรื่องเหนือความคาดหมายบางอย่างเกิดขึ้นเสมอ โดยเฉพาะหลงซือเย่ที่มาจากยุคปัจจุบันผู้นี้ทราบวิชาแพทย์ของยุคปัจจุบันมากมาย แถมยังมีหลงฟั่นที่เคยสร้างกู้ซีจิ่วขึ้นมาผู้นั้นด้วย บางทีหลงฟั่นผู้นี้อาจมีวิธีเปลี่ยนแปลงดวงวิญญาณของกู้ซีจิ่ว แล้วทำให้นางเกิดใหม่ในร่างโคลนนิ่งอีกครั้งก็ได้…

วี่แววหลายอย่างชี้ชัดว่าหลงซือเย่และหลงฟั่นรวมถึงมารสวรรค์ตนนั้นจะต้องมีความเชื่อมโยงนแน่นอน และมีความเป็นไปได้เกือบสิบส่วนว่าตัว กลางที่เชื่อมโยงก็คือเย่หงเฟิงผู้นั้นที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจากโลงนํ้าแข็งอย่างน่าประหลาด!

การฟื้นคืนชีพของเย่หงเฟิงเกรงว่าจะเป็นมารสวรรค์ตนนั้นกับหลงฟั่นที่เล่นเล่ห์อยู่เบื้องหลัง เริ่มจากส่งเย่หงเฟิงมาอยู่ข้างกายหลงซือเย่ค่อยๆ สร้างผลกระทบให้เขาเปลี่ยนแปลงนิสัยของเขา ใช้ตัวยาบางอย่างขยายจิตมารของเขา ทำให้เขายอมเข้าร่วมกันกับพวกเขาด้วยความเต็มใจ

จิตมารของหลงซือเย่คือการถูกกู้ซีจิ่ว ‘หักหลัง’ เมื่อความหวาดระแวงถูกขยายขึ้น ประกอบกับมีเย่หงเฟิงผู้นี้คอยโหมกระพือเชื้อไฟอยู่เรื่อยๆ หลงซือเย่จึงเริ่มมุดเข้าสู่กับดักของพวกเขา ร่วมมือกับพวกเขาเพื่อเล่นงานกู้ซีจิ่วอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว …

ตี้ฝูอียังคงเป็นบุคคลที่ปราดเปรื่องยิ่งนักผู้หนึ่ง วิเคราะห์อยู่ในสมองครู่หนึ่งก็วิเคราะห์ภาพรวมของความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อนนี้ได้กระจ่างแล้ว

สูดหายใจเบาๆ คราหนึ่ง เขาชอบกู้ซีจิ่วที่ข้ามภพมามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่าเกลียดพ่อลูกแซ่หลงยิ่งนัก!

โดยเฉพาะเมื่อสองพ่อลูกแซ่หลงใช้ทักษะที่วิปริตมากมายถึงเพียงนี้!

ประกอบกับมีมารสวรรค์ที่มีใจทะเยอะทะยานตนหนึ่งคอยบงการอยู่เบื้องหลังด้วย…

นัยน์ตาของตี้ฝูอีมีประกายเฉียบคมพาดผ่านแวบหนึ่ง!

——————————————————————

[1] คำว่าเหยียน (言) ในชื่อของอิงเหยียนนั่วแปลว่าคำพูด แต่ตอนนี้กู้ซีจิ่วกลับเรียกเป็นตัวเหยียน (严) ที่แปลว่าเข้มงวดกวดขันแทน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!