Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1222

บทที่ 1222 ใครเล่าจะรู้ได้ว่าคนผู้หนึ่งจะรักได้เนิ่นนานเพียงใด?

ปกติแล้วรั้งอยู่ได้ไม่ถึงพันปี ความรู้สึกสดใหม่ของเขาก็จะหมดไปแล้วออกตามล่าเป้าหมายใหม่อีกครั้ง…

แน่นอน เขาเจ้าสำราญมากรัก ต่อให้เป็นสนมที่เขาไม่โปรดปรานอีกแล้วก็ยังเลี้ยงดูอุ้มชูไว้ในวัง ปฏิบัติด้วยเป็นอย่างดี แต่จะไม่มอบวาสนาให้พวกนางอีกเลย ความโปรดปรานเชิดชูมีให้เพียงนางสนมใสซื่อที่เพิ่งแต่งให้ในปัจจุบัน…

หลานเหยากวงผู้นี้มักอ้างตัวอยู่เสมอว่าเป็นนักรักอันดับหนึ่ง ไม่รู้สึกว่าตนเจ้าชู้เสเพลเลย

เขาเคยกล่าวไว้ว่าบุรุษในแดนมนุษย์มีสามภรรยาสี่อนุอยู่ทั่วไป ต่อให้บางครั้งมีบุรุษที่แต่งภรรยาเพียงคนเดียว ก็ครองคู่กันเพียงหนึ่งชาติไม่กี่สิบปีเท่านั้น เขากลับรักใคร่เอ็นดูสนมทุกนางเกือบหนึ่งพันปี นับว่ารักมั่นอย่างยิ่งแล้ว

สนมที่อยู่เป็นเพื่อนข้างกายกู้ซีจิ่วในยามนี้เป็นสนมคนใหม่ที่เพิ่งแต่งให้เขา แต่ก็เป็นระยะเวลาสองร้อยปีแล้วเช่นกัน

ถึงอย่างไรกู้ซีจิ่วก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ปกติแล้วยามที่คิดเรื่องใดก็จะใช้วิสัยของมนุษย์ขบคิด ในความคิดของเธอรักมั่นกันไปชั่วชีวิตนับเป็นความรักที่เพียงพอจะทำให้ผู้คนริษยาตาร้อนยิ่งนักได้แล้ว แต่สำหรับเทพเซียนที่เป็นอมตะเช่นนี้ ความรักของพวกเขาจะเป็นยังไง?

แดนมนุษย์ยังมีอาถรรพ์รักเจ็ดปีเลย บอกว่าคนที่รักกันอย่างฟ้าสิ้นดินสลายเมื่อกลายเป็นสามีภรรยากันแล้ว เนื่องจากอยู่กับคนๆ หนึ่งหลายปีเข้า ความหวือหวาเร่าร้อนทั้งหมดจะค่อยๆ หายไป ส่วนใหญ่แล้วความรักจะแปรเปลี่ยนเป็นความผูกพัน แต่ผู้ชายชอบคนหรือสิ่งที่กระตุ้นสัญชาตญาณการต่อสู้ได้ ดังนั้นในช่วงเจ็ดปีของการแต่งงาน ฝ่ายชายจะปันใจไปชอบคนอื่นได้ง่ายมาก…

ส่วนเทพเซียนที่ไม่แก่ไม่ตายเช่นนี้ ให้พวกเขาพบใบหน้าเดิมๆ พันปีหมื่นปี ย่อมไม่มีความคึกคักเร่าร้อนแล้ว

สนมนางนี้แสดงให้กู้ซีจิ่วเห็นความอนิจจังของกาลเวลาที่ไร้ซึ่งความปราณี

ตามที่นางบอกมา อายุขัยของชาวเงือกมีประมาณหนึ่งหมื่นปี และตอนนี้นางก็เพิ่งอายุหนึ่งพันสามร้อยปีเท่านั้น ยังอยู่ในช่วงสาวสะพรั่งพอดี แต่หลังจากอยู่กับหลานเหยากวงมาแล้วสองร้อยปี หลานเหยากวงก็ไม่ได้รักใคร่ทะนุถนอมนางเฉกเช่นสมบัติลํ้าค่าเหมือนในอดีตแล้ว และไม่ได้ตอบสนองต่อความต้องการของนางเหมือนเมื่อก่อน…

สนมนางนี้บอกเล่าลูกเล่นทั้งหมดที่หลานเหยากวงใช้เกี้ยวพานางเมื่อปีนั้นให้กู้ซีจิ่วฟัง ลูกเล่นมากมายที่ไม่หญิงสาวคนไหนก็ต้องใจเต้นรัว ทุกวันจะไปร้องเพลงหน้าเรือนเปลือกหอยที่นางพำนักอยู่ ร่ายรำเพื่อนางต่อหน้าสาธารณชน ส่งของขวัญสารพัดให้นาง เมื่อนางตกอยู่ในอันตรายก็สู้สุดชีวิตเพื่อช่วยเหลือนาง จบเกือบทำลายรูปโฉมอันงดงามที่เขาหวงแหนเสมอมาแล้ว…

ภายใต้การรุกคืบที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ สนมนางนี้ย่อมถูกยึดครองเป็นธรรมดา เดิมทีนางเป็นธิดาของอัครเสนาบดีแห่งอาณาจักรเงือก เต็มใจที่จะเป็นสนมลำดับที่แปดของเขา

กู้ซีจิ่วไม่นึกเลยว่าการไปชมสวนก็ถูกสาดนํ้าแกงไก่พิษ[1] ชามหนึ่งใส่ได้ด้วย เนื่องจากพอสนมนางนี้รำพึงรำพันจบก็กล่าวกับกู้ซีจิ่วว่า “แม่นางกู้ อันที่จริงข้าอิจฉาเจ้ามาก”

กู้ซีจิ่วถามออกไปประโยคหนึ่ง “อิจฉาอะไรข้า?”

สนมนางนี้ถอนหายใจพลางเอ่ย “อายุขัยของมนุษย์อย่างพวกเจ้าแสนสั้น ดูจากพลังวิญญาณของเจ้าน่าจะประมาณขั้นหกตอนกลางแล้วกระมัง? ต่อให้เจ้าฝึกฝนจนบรรลุขั้นเก้าได้ อายุขัยก็ประมาณพันปีเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ มากสุดเจ้าก็อยู่ข้างกายคุณชายหวงได้ไม่กี่ร้อยปี เขาสามารถรัก เจ้าไปชั่วชีวิตได้อย่างแท้จริง ทำให้เจ้าไม่ต้องลิ้มรสความรักที่ร่วงโรยไปตามกาลเวลา”

กู้ซีจิ่วเงียบงัน

ถูกสาดนํ้าแกงไก่พิษใส่เช่นนี้ ทำให้เธอนึกถ้อยคำอะไรมาตอบกลับไม่ออกไปชั่วขณะ

ความจริงแล้วเธอไม่ได้คิดมากถึงเพียงนั้นจริงๆ เมื่อได้รักก็จะรักให้ลํ้าลึก หากว่าไม่รักแล้วก็เลิกราเสีย ใครเล่าจะรู้ได้ว่าคนผู้หนึ่งจะรักได้เนิ่นนานเพียงใด?

แม้แต่ตัวเธอเองก็รับประกันไม่ได้ว่าจะรักได้เนิ่นนาน และเธอก็ดูไม่เหมือนคนที่รักมั่นยืนยาวนัก ไม่แน่เธออาจจะเป็นฝ่ายที่เปลี่ยนใจก่อนก็ได้…

เธอใส่ใจแค่ว่าเคยได้ครอบครอง ไม่ใส่ใจว่าจะยืนยาวชั่วนิรันดร์หรือไม่ ถึงแม้ตอนนี้เธอจะอยากอยู่กับตี้ฝูอีไปชั่วนิรันดร์ยิ่งนัก แต่เรื่องราวในอนาคตผู้ใดเล่าจะทราบได้?

เธอรู้แค่ว่าตอนนี้เธอรักเขา และเขาก็รักเธอเท่านี้ก็พอแล้ว

———————————————————————

[1] นํ้าแกงไก่พิษ เป็นศัพท์แสลงของชาวจีน หมายถึงพลังหรือความคิดเห็นที่เป็นไปในทางลบ ทำให้รู้สึกย่ำแย่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!