Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1269

บทที่ 1269 เขาดีต่อเธอเสมอมา…

ไม่มีผู้ใดไม่เลื่อมใสผู้แข็งแกร่ง กู้ซีจิ่วใช้ความสามารถที่แท้จริงของตนเอาชนะจนได้รับความเคารพจากพวกเขา คนที่ไปเก็บเกี่ยวเหล่านี้เลื่อมใสเธอจนแทบหมอบราบกราบกรานแล้ว ตอนที่บุรุษเหล่านี้ลงมาก็รายล้อมเธอเสมือนดาวล้อมเดือนก็มิปาน ยามที่พูดคุยกับเธอก็แทบจะเรียกเธอว่าลูกพี่แล้ว หลังจากลงมาก็เล่าถึงท่าทางของกู้ซีจิ่วตอนอยู่บนต้นไม้ไปทั่ว ย่อมทำให้ผู้อื่นทั้งตกตะลึง ทั้งประหลาดใจ

เดิมทีการปรากฏตัวขึ้นของกู้ซีจิ่วก็น่าประหลาดใจอยู่แล้ว เนื่องจากมีรูปโฉมงดงามดึงดูดความสนใจของผู้อื่น ยามนี้ยิ่งดึงดูดความสนใจของผู้คนมากขึ้นไปอีก นี่ย่อมก่อให้หวงซังเซียงไม่พอใจขึ้นมา วันต่อมาจึงเริ่มแพร่ข่าวลือออกไป บอกว่ากู้ซีจิ่วตอนที่อยู่บนต้นไม้ กู้ซีจิ่วมีความสัมพันธ์คลุมเครือกับหัวหน้ากลุ่มเก็บเกี่ยว…

หัวหน้ากลุ่มคนนี้มีภรรยาอยู่ที่นี่ด้วย และภรรยาคนนี้ก็ไม่มีข้อบกพร่องอื่นใดเลย เพียงแต่ขี้หึงไปหน่อยเท่านั้น เมื่อได้ยินข่าวลือนี้ย่อมเดือดดาลขึ้นมา ทะเลาะวิวาทกับสามีตนทั้งคืน ด้วยเหตุนี้ข่าวลือนี้จึงมีนัยยิ่งขึ้น…

อันที่จริงเมื่อเกิดข่าวลือเช่นนี้ขึ้น ต่อให้แพร่กระจายไปวุ่นวายใหญ่โต แต่คนที่อยู่ในเรื่องมักจะได้เป็นคนสุดท้ายอยู่เสมอ

กู้ซีจิ่วได้ยินข่าวลือนี้เข้าในตอนบ่ายของวันถัดมา เมื่อคืนเธอนอนไม่หลับเลยจริงๆ วุ่นวายสาละวนอยู่ตลอดยังว่าดี สมองจะได้ไม่คิดเหลวไหลฟุ้งซ่าน แต่มนุษย์เราพอเงียบสงบลง จะนึกถึงเรื่องที่ไม่อยากจดจำเหล่านั้นขึ้นมา เรื่องราวในอดีตที่เธอพยายามสลัดทิ้งก็ปรากฏขึ้นมาในสมองโดยอัตโนมัติ เธอคิดถึงเขา…

นึกถึงสิ่งละอันพันละน้อยเหล่านั้นในยามที่อยู่ร่วมกับเขา คิดว่าตอนนี้เขาจะทำอะไรอยู่?

คิดว่าเขาจะตามหาเธอหรือเปล่า?

คิดว่าถ้าหากเขาหาพบจะทำอย่างไร?

คิดสารพัดสารพัน ทุกความคิดล้วนเกี่ยวข้องกับเขา การดื่มพิษเพื่อดับกระหาย[1] ช่วยอะไรตนไม่ได้เลย

เมื่อคุณรักใครสักคนอย่างลึกซึ้ง ต่อให้ทราบภายหลังว่าผู้ชายคนนั้นป็นผู้ชายสวะคนหนึ่ง ก็มิใช่บอกว่าปล่อยวางแล้วก็วางได้เลย นับประสาอะไรกับตี้ฝูอีที่ไม่ใช่ผู้ชายสวะ เขาดีต่อเธอเสมอมา…

ดังนั้นถึงแม้ครั้งนี้เธอจะปล่อยมือ จากมาตรงๆ แต่ความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวดในก้นบึ้งของจิตใจกลับไม่ลดน้อยลงสักนิดเลย ตราบใดที่เธอมีสติแจ่มใสอยู่ ก็สามารถยืนหยัดวางท่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้

ที่นี่กับป่าทมิฬแตกต่างกันเพียงประการเดียวเท่านั้น ก็คือที่นี่มีกลางวัน และกลางคืน

ช่วงกลางวัน แสงตะวันจะสาดส่องเล็กน้อย เหมือนวันฟ้าครึ้มตามโลกปกติ ช่วงกลางคืนจะมืดจนเหยียดมือออกไปก็ไม่เห็นนิ้ว แต่ในหมู่บ้านจะจุดตะเกียงเจ้าพายุชนิดหนึ่ง ด้วยการสาดส่องของตะเกียงเหล่านี้ ในหมู่บ้านจึงมีแสงสว่างอยู่บ้าง ตอนกลางคืนก็มีคนคอยเฝ้ายาม ดังนั้นจึงไม่ต้องเกรงว่าจะมีตัวอะไรบุกมาโจมตี…

ยามราตรีอารมณ์ของผู้คนค่อนข้างอ่อนไหว ดังนั้นในยามราตรีที่มืดมิดไร้ผู้คนเช่นนี้ กู้ซีจิ่วนอนอยู่บนฟูก เรื่องราวในอดีตสับสนวุ่นวาย เธอจึงหลับ ไม่ลง ความคิดรวมตัวเข้าด้วยกันปานด้ายที่ยุ่งเหยิง พัวพันสลับซับซ้อนอยู่ในใจ

เมื่อก่อนเธอคิดว่าตัวเองเป็นสตรีที่ยกได้วางเป็นผู้หนึ่งมาโดยตลอด ยามนี้ถึงได้ทราบว่าที่เมื่อก่อนปล่อยวางได้ง่ายดายปานนั้นเป็นเพราะยังไม่เคยมีความรักมาก่อนก็เท่านั้น…

อย่างไรก็ตามบางทีสวรรค์อาจจะไม่อยากให้เธอพบหน้าเขาอีก ดังนั้นถึงทำให้เจ้าหอยยักษ์จับผลัดจับผลูพาเธอมายังสถานที่เช่นนี้

ที่แห่งนี้เธอเคยตรวจสอบดูแล้ว ถึงแม้พื้นที่จะกว้างใหญ่ มีภูเขามีต้นไม้ มีดอกไม้ใบหญ้า ทว่าสามารถมองเห็นขอบเขตได้ ไม่ว่าจะบุกฝ่าออกไปจากทิศทางไหน สุดท้ายล้วนถูกกำแพงที่มองไม่เห็นขวางกั้นไว้ เมื่อสัมผัสโดนขอบเขตก็จะถูกดีดสะท้อนกลับมา

เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแหกเขตแดน เคยลองใช้มามากมายหลายวิธีแล้ว ผลคือยิ่งใช้แรงมากเท่าไหร่ แรงดีดสะท้อนก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น หลังจากที่เธอลองอยู่สามสี่ครั้ง ก็ทราบว่าไม่อาจทำลายได้ และเธอก็เคยคิดจะให้เจ้าหอยยักษ์ที่จับพลัดจับผลูใช้วิชาดำดินแล่นเข้ามา…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!