บทที่ 1288 ไปจัดการตามที่เปิ่นจุนบอก
ในใจของมู่เฟิงขุ่นเคืองต่อกู้ซีจิ่วเล็กน้อย “มิสู้บอกไปตามจริงเสีย บอกว่านางหนีงานแต่งไปแล้ว! มิเช่นนั้นกู้เซี่ยเทียนจะมาทวงคนจากเรานะขอรับ…”
ตี้ฝูอีหงุดหงิด “เปิ่นจุนต้องเกรงกลัวกู้เซี่ยเทียนมาทวงคนด้วยหรือ?”
พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มาจริงๆ
ด้านนอกมีคนรายงานว่าแม่ทัพกู้เซี่ยเทียนมาอีกแล้ว…
หลายวันมานี้กู้เซี่ยเทียนวิ่งมาที่วังคํ้านภาวันละรอบ มาทวงตัวคน เห็นๆ กันอยู่ว่าวันพรุ่งนี้เป็นวันวิวาห์แล้วยังไม่เห็นเงาของบุตรสาวเลย กู้เซี่ยเทียนย่อมข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่ นับตั้งแต่เมื่อวานก็เริ่มเปลี่ยนเป็นมาวันละสองรอบแล้ว
มู่เฟิงมองไปทางตี้ฝูอี
ตี้ฝูอีกล่าวว่า “ไปจัดการตามที่เปิ่นจุนบอก ประกาศยกเลิกงานวิวาห์!”
มู่เฟิงไม่อาจพูดเป็นอื่นได้ “…ขอรับ!”
เกือบจะถึงวันวิวาห์แล้วจู่ๆ ก็ยกเลิกงานแต่ง ข่าวนี้ไม่ว่าสำหรับผู้ใดล้วนมีอานุภาพทำลายล้างเทียบได้กับระเบิดปรมาณู
ข่าวแพรกระจายออกไปด้วยความไวแสง แทบจะในชั่วข้ามคืน ข่าวก็แพร่สะพัดไปทั่วทุกมุมของแผ่นดินนี้แล้ว
บ้างก็ไม่เชื่อ บ้างก็ประหลาดใจ บ้างก็ผิดหวัง บ้างก็ตกตะลึง และบ้างก็รู้สึกว่ามีเงื่อนงำแฝงอยู่ในเรื่องนี้…
คาดเดาเจี๊ยวจ๊าวกันไปต่างๆ นานา การซุบซิบนินทาสารพัดผุดออกมา
ฟ้ายังไม่ทันสว่าง วังคํ้านภาก็ได้ต้อนรับแขกเหรื่อที่มาสอบถามข่าวมากมายหลายท่านแล้ว เนื่องจากทุกคนล้วนไม่เชื่อ รู้สึกว่านี่คือข่าวลือ เมื่อตรงมาประตูวังคํ้านภาที่ประดับประดาด้วยบุปผาผ้าไหมแดงถูกถอดออกแล้ว วังคํ้านภากลับไปลึกลับน่าเกรงขามอีกครั้ง ทุกคนถึงทราบว่านี่เป็นความจริง!
งานวิวาห์ยิ่งใหญ่อลังการแห่งยุคที่ตระเตรียมกันมาอย่างดีต้องล้มเลิกลงเช่นนี้หรือ?!
ทุกคนล้วนรู้สึกว่ากำลังฝันอยู่มิใช่ความจริง
เนื่องจากมีผู้คนมาสอบถามมากมายเกินไป ทำให้มู่เฟิงที่เดิมทีก็หงุดหงิดมากอยู่แล้วรำคาญใจยิ่งนัก เขาจึงขึ้นไปบนแท่นเบิกสวรรค์ แล้วป่าวประกาศเรื่องนี้เสียเลย ด้านล่างเป็นคลื่นมนุษย์ที่ได้ข่าวจึงหลั่งไหลมา เสียงของมู่เฟิงแว่วอยู่ท่ามกลางลมหนาวยามรุ่งอรุณค่อนข้างเยียบเย็นอย่างเห็นได้ชัด “ด้วยคำสั่งของท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่ให้นำมาประกาศ ณ ที่นี้ พิธีวิวาห์ของท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายกับคุณหนูกู้ กู้ซีจิ่วจะถูกยกเลิก ถึงแม้พิธีวิวาห์จะยกเลิกไปแล้ว แต่ภายหน้าทั้งสองยังคงคบหากันเป็นสหายอยู่ ผู้ใดก็ห้ามสร้างความลำบากให้แก่กู้ซีจิ่วด้วยมูลเหตุเรื่องนี้ หากมีผู้ฝ่าฝืน จะถือว่าตั้งตนเป็นศัตรูกับท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายด้วย…”
ด้านล่างเงียบกริบก่อนจากนั้นก็ฮือฮา เสียงซักถามดังขึ้นไม่หยุดปานคลื่นสมุทร
แต่หลังจากมู่เฟิงประกาศจบก็จากไปเลย ไม่ตอบอีกเลยสักคำ
ฝูงชนสับสนงงงวยนัก และขุ่นเคืองมากจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเป็นตัวตนที่สูงส่งอยู่เหนือปวงชนเหลือเกิน ยามนี้เมื่อเจียนจะถึงวันวิวาห์เขากลับมาประกาศล้มเลิกงานวิวาห์ เรื่องนี้ทุกคนล้วนรู้สึกขุ่นเคืองตี้ฝูอี ต้องเป็นเขาที่ทอดทิ้งคุณหนูกู้ของบ้านอื่นแน่นอน อย่างไรเสียตัวต้นเรื่องทั้งสองก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไร แม้กระทั่งหน้าก็ไม่โผล่มาด้วยซํ้า
แน่นอนว่ามีคนที่ออกหน้าทวงความเป็นธรรมให้ตี้ฝูอีอยู่เช่นกัน รู้สึกว่าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายทุ่มเทตระเตรียมงานวิวาห์อย่างหรูหราอลังการถึงเพียงนี้ และส่วนใหญ่ผู้คนทั้งหลายก็ต้องไว้หน้าตี้ฝูอีเดินทางมาร่วมงาน หากว่าเขาไม่ไยดีกู้ซีจิ่วคงไม่จัดงานวิวาห์ให้ยิ่งใหญ่อลังการปานนี้หรอก ยามนี้จู่ๆ ก็มาประกาศยกเลิกงานวิวาห์ ฝ่ายที่เสียหน้าคือวังคํ้านภา หากไม่มีเรื่องใหญ่โตอันใดเกิดขึ้น คาดว่าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายคงไม่ทำเช่น นี้ หากว่าท่านทูตสวรรค์จะทอดทิ้ง ในเมื่อเขาตระเตรียมงานวิวาห์ไปแล้ว เพื่อหน้าของตนก็ต้องประกอบพิธีวิวาห์นี้ให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์
ถึงแม้ภายหน้าเขาจะหย่าภรรยาแล้วแต่งงานใหม่ ก็ยังดีกว่าอย่างที่ทำอยู่ในตอนนี้ อย่างไรเสียบุรุษก็สามารถมีสามภรรยาสี่อนุได้ เมื่อไม่ไยดีค่อยโยนคนเข้าตำหนักเย็นไปก็จบเรื่องแล้วมิใช่หรือ?
ดังนั้น ต้นเหตุต้องไม่ใช่ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแน่นอน น่าจะเป็นฝ่ายหญิงที่มีปัญหา
คนของทั้งสองฝั่งโต้เถียงปัญหาข้อนี้กันจนหน้าดำหน้าแดง ผู้ใดก็ไม่ยอมลงให้ผู้ใด