บทที่ 135
เปิดโปงความสัมพันธ์
ในบรรดาขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่อยู่บนหอก็มีผู้เห็นเหตุการณ์ในตอนนั้นด้วย ต่อให้หรงเหยียนอยากโต้แย้ง ก็โต้แย้งไม่ได้นี่เป็นแรงจูงใจข้อแรกในการก่อ อาชญากรรม
สอง เขามีความสัมพันธ์กับกู้เทียนฉิง!
เขาและกู้เทียนฉิงได้กระทำเรื่องผิดจารีตกัน และมีวันหนึ่งกู้เทียนฉิงออกไปข้างนอกแล้วถูกหรงอี้พูดจาแทะโลม เกือบถูกเอาเปรียบครั้งใหญ่แล้ว!
ถึงแม้เขาจะไปพบได้ทันเวลา แต่หรงอี้ไม่เกรงกลัวเขา ทั้งยังสัมผัสลูบคลำกู้เทียนฉิงต่อหน้าธารกำนัลด้วย ทำให้องค์ชายหรงเหยียนโกรธจนตัวสั่น
นี่เป็นแรงจูงใจข้อที่สองในการก่ออาชญากรรมที่ทำให้องค์ชายหรงเหยียนเกลียดหรงอี้จนอยากจะสังหารเขาให้เร็วขึ้น
สาม เนื่องจากองค์ชายหรงเหยียนมีความสัมพันธ์กับกู้เทียนฉิง จึงแอบวางแผนจัดฉากกู้ซีจิ่ว คิดล่อลวงนางไปที่คฤหาสน์ลับของหรงอี้ทั้งยังจัดเตรียมคนมาชี้ตัวนางโดยเฉพาะ กล่าวว่านางออกไปพบชายคนรัก…คิดไม่ถึงว่ากู้ซีจิ่วจะรักนวลสงวนตัวจึงไม่ได้ใป ทำให้แผนการใส่ ความขององค์ชายหรงเหยียนไม่ประสบผลสำเร็จ
เรื่องพวกนี้องค์ชายแปด ใต้เท้าฮู่ รวมถึงกู้ซีจิ่วเป็นพยานได้
ถึงแม้จดหมายที่องค์ชายหรงเหยียนส่งให้กู้ซีจิ่วในเวลานั้นจะถูกทำลายไปแล้ว แต่ตอนนั้นองค์ชายแปดหรงเช่อได้อ่านแล้ว และจำได้ว่าลายมือที่อยู่บนจดหมายเป็นขององค์ชายหรงเหยียนจริงๆ…
หลูอ๋องเองก็มีคารมคมคาย นำพยานหลักฐานมาวางไว้ เบื้องหน้าจักรพรรดิซวน สุดท้ายจึงร้องไห้พลางกล่าว “ฝ่าบาท กระหม่อมทราบดีว่าบุตรชายของตนนั้นชั่วช้าสารเลวไม่ได้ความ เคยดูหมิ่นองค์ชายสิบสอง แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ควรถึงตายหรือเปล่า? นึกไม่ถึงว่าองค์ชายสิบสองจะโกรธแค้น ลอบวางแผนอย่างลับๆ เริ่มแรกเขาส่งองครักษ์เงาไปสังหารบุตรชายกระหม่อมที่คฤหาสน์ แล้ววางแผนป้ายความผิดให้คุณหนูกู้หก คิดจะหลอกคุณหนูกู้หกไป ทว่าคุณหนูกู้หกเป็นคนรู้เหตรู้ผล ไม่ยอมไป ถึงได้ทำให้แผนการขว้างหินก้อนเดียวได้นกสองตัวของเขาล้มเหลว รุ่งเช้าวันที่สองเขาจึงส่งคนไปใส่ความว่าคุณหนูกู้หกคบชู้สู่ชาย ทั้งยังเรียกใต้เท้าฮู่ไปด้วย เห็นได้ชัดว่าเป็นหลุมพรางอย่างหนึ่ง แผนการของเขาคือทำ ให้บุตรชายของกระหม่อมและคุณหนูกู้หกเสียชีวิตในที่เดียวกัน จัดฉากว่าบุตรชายของกระหม่อมและคุณหนูกู้หกตายไปด้วยกัน แบบนี้ทั้งได้กำจัดคุณหนูกู้หกที่เป็นก้างขวางคอทิ้ง และได้ล้างแค้นไปในเวลาเดียวกัน! มิเช่นนั้นจะประจวบเหมาะพอดีได้ขนาดนี้หรือ! คืนนั้นที่เขานัดคุณหนูหกกู้ไปพบที่เรือนอื่นบุตรชายกระหม่อมก็เสียชีวิตในคืนนั้น! ฝ่าบาท บุตรชายที่น่าสงสารของกระหม่อมตายอย่างน่าเวทนา! ถูกคนวางแผนสังหารเช่นนี้…ฝ่าบาทต้องช่วยตัดสินให้กระหม่อมนะพะย่ะค่ะ!”
นํ้ามูกนํ้าตาไหลพรั่งพรูออกมา ทำให้จักรพรรดิซวนปวดประสาทยิ่ง!
จักรพรรดิซวนจึงได้แต่ถามองค์ชายหรงเช่อและกู้ซีจิ่ว “ซีจิ่ว หรงเหยียนเคยเขียนจดหมายเช่นนี้ให้เจ้าหรือ? เช่อเอ๋อร์ เจ้าเห็นจดหมายฉบับนั้นหรือ?”
กู้ซีจิ่วคล้ายจะถูกความจริงอันแสนโหดร้ายโจมตีเข้า ใบหน้าเล็กๆ ซีดขาวเล็กน้อย “องค์ชายสิบสองเคยเขียนจดหมายเช่นนี้ให้ซีจิ่วจริงๆ เพคะ ตอนนั้นหม่อมฉันยังคิดว่าองค์สิบสองคงจะล้อหม่อมฉันเล่น ที่แท้…ที่แท้ กลับมีแผนร้ายเช่นนี้ซ่อนอยู่เบื้องหลังหรอกหรือ?”
องค์ชายหรงเช่อก็ถอนหายใจ “ลูกได้เห็นจริงๆ พะย่ะค่ะ เป็น…เป็นลายมือของน้องสิบสอง”
จักรพรรดิซวนมองไปที่ใต้เท้าฮู่อีก ใต้เท้าฮู่จึงบอกเล่าเรื่องราวแต่เดิมออกมาอีกครั้งว่าเช้าตรู่วันนั้นได้ไปตรวจสอบเรือนเล็กของกู้ซีจิ่ว เรื่องเกี่ยวพันถึงคดีฆาตกรรม เขาไม่กล้าปิดบังแม้แต่น้อย
สีหน้าของจักรพรรดิซวนไม่น่าดูเป็นอย่างยิ่ง มองดูองค์ชายหรงเหยียนที่หน้าขาวซีดและกู้เทียนฉิงที่คุกเข่าอย่างหวาดกลัว “เจ้าทั้งสองคนมีอะไรจะพูดไหม?”
องค์ชายหรงเหยียนคิดฮึดสู้เป็นครั้งสุดท้าย ตัดสินใจเอ่ย “เสด็จพ่อ เรื่องทั้งหมดนี้มีคน…มีคนต้องการใส่ร้ายลูก ลูกและคุณหนูกู้เทียนฉิงมิได้มีความสัมพันธ์กัน เพียงแต่เคยพบหน้ากันอยู่หลายหนยามไปจวนแม่ทัพเท่านั้น”
กู้เทียนฉิงเองก็กัดฟันไม่ยอมรับ ถ้ายอมรับชื่อเสียงทั้งชีวิตนี้ของนางก็จะพังพินาศย่อยยับ!
หลูอ๋องคล้ายจะคาดการณ์เรื่องนี้ไว้นานแล้ว เขาจึงปาระเบิดอีกสองลูกออกมา “ฝ่าบาท คุณหนูกู้เทียนฉิงผู้นี้ตั้งครรภ์ได้เกือบสองเดือนแล้ว หากฝ่าบาทไม่เชื่อ สามารถส่งหมอหลวงไปจับชีพจรตรวจดูได้พะย่ะค่ะ”