Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 145

บทที่ 145

คิดไม่ถึงว่าผู้ที่มาคือหลงซือเย่!

กู้ซีจิ่วนิ่งงัน ‘เมื่อกี้คนผู้นั้น…คล้ายกับเขา’

เมื่อครู่ถึงแม้เธอจะหลับตาอยู่ แต่ยามที่คนผู้นั้นเพิ่งเข้ามาเธอก็รู้สึกตัวแล้ว!

เธอตื่นตัวอย่างยิ่ง รู้ดีว่าตัวเองสูญเสียพลังการเคลื่อนย้ายในพริบตาไปแล้วความสามารถในการป้องกันตัวเลยต่ำลง อีกทั้งคนผู้นี้สามารถหลบเลี่ยงผู้คุ้มกันด้านนอกที่มีอยู่มากมายขนาดนั้นได้ เข้ามาอย่างโอหัง วรยุทธ์ต้องสูงส่งจนน่าตะลึงแน่นอน!

หากเขาคิดร้ายกับเธอจริงๆ เธอคงไม่มีแม้แต่โอกาสจะตะโกนเรียกผู้อื่น!

ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่คงสภาพเดิมเอาไว้ แสร้งหลับอยู่เหมือนเก่า ดูว่าสุดท้ายแล้วคนผู้นั้นจะทำอย่างไร

เธอแสร้งหลับได้แนบเนียนมาก ไม่ต่างกับการหลับจริงๆ เลย ดังนั้นคนผู้นั้นเลยมองไม่ออก

เมื่อคนผู้นั้นแหวกม่านของเธอ เธอได้กลิ่นหอมของยาจางๆ จากกายเขา…

เธอคุ้นเคยกับกลิ่นยาเช่นนี้ยิ่ง เป็นกลิ่นที่อยู่บนกายของคนผู้นั้น กลิ่นของหลงซี!

เมื่อก่อนพอเธอได้กลิ่นของเขาจะรู้สึกสบายใจมาก แต่ยามนี้ได้กลิ่นแล้วกลับทำให้ทั้งร่างของเธอแข็งเกร็ง!

เคราะห์ดี ต่อให้ทั้งร่างเธอจะแข็งเกร็งแต่ก็เป็นเพียงในความคิดเท่านั้น ร่างกายของเธอยังไม่มีอาการลนลานเลยสักนิดเหมือนเดิม มิฉะนั้นเกรงว่าการแสร้งหลับของเธอจะเสแสร้งต่อไปไม่ได้แล้ว

อันที่จริงเธออยาก ลืมตามองมาก มองว่าสุดท้ายแล้วใช่หลงซีหรือไม่ แต่กลิ่นอายบนร่างคนผู้นั้นทรงพลังเกินไป เธอเกรงว่าการเคลื่อนไหวผิดปกติเพียงเล็กน้อยของเธอจะทำให้อีกฝ่ายลงมือสังหารทันที!

กลิ่นบนกายของคนผู้นั้นก็ไม่ได้เหมือนหลงซีไปซะทั้งหมด ยังมีกลิ่นประหลาดอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาด้วย แฝงความเยือกเย็นจางๆ เอาไว้ ความเย็นนั้นแทรกซึมเข้าไปในกระดูกของคนโดยตรง

ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอไม่ได้เห็นใบหน้าแท้จริงของอีกฝ่ายเลย

หยกนภาคล้ายจะไม่เชื่อ ‘ท่านกล่าวว่าคนผู้นี้คือหลงซีหรือ? ท่านไม่ได้ลืมตาแล้วรู้ได้อย่างไรว่าใช่เขา?’

‘ข้าไม่ได้บอกว่าใช่ ข้าแค่บอกว่าคล้าย กลิ่นอายคล้ายคลึงกันมาก’ เธอไม่เคยได้กลิ่นหอมยาพิเศษแบบนี้จากร่างคนอื่นที่ไม่ใช่หลงซี

หยกนภาราวกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก ‘ท่านบอกว่าบนกายเขามีกลิ่นหอมยา? พวกเขาที่เป็นสานุศิษย์ตลอดจนผู้อาวุโสของสำนักถามสวรรค์ร่างกายล้วนมีกลิ่นหอมยาเช่นนี้ น่าจะเป็นเพราะข้องแวะกับเตาหลอมโอสถอยู่ตลอด’

‘เขาเป็นคนของสำนักถามสวรรค์หรือ? เป็นผู้ใด?’

‘เจ้าสำนักถามสวรรค์หลงซือเย่ ข้ายังนึกว่าเขาจะมาแก้แค้นท่านแทนลูกศิษย์เสียอีก! ถึงได้คิดปลุกท่านให้ท่านรีบหนีเอาชีวิตรอด นึกไม่ถึงว่าท่านจะมีสติขนาดนี้ แสร้งหลับได้สมจริงจนข้าดูไม่ออกเลย!’

คิดไม่ถึงว่าผู้ที่มาคือหลงซือเย่!

กู้ซีจิ่วประหลาดใจเล็กน้อย มิใช่ว่าเจ้าสำนักผู้นี้ไม่ลงจากเขาง่ายๆ หรอกหรือ? มิใช่ว่าเขาจะไม่ลงมาอีกสามปีห้าปี[1]หรอกหรือ? ทำไมจู่ๆ ถึงมาล่ะ? ทั้งยังล่วงลํ้าเข้ามาในห้องนอนของเธอด้วย! หรือคิดจะมาชำระแค้นให้กู่ซีซีลูกศิษย์ของ เขาจริงๆ?

หรือเขาจะเป็นหลงชีที่ทะลุมิติมา ได้ยินเรื่องราวของเธอ เลยอยากมาพิสูจน์ความจริง?

แต่อายุไม่ถูกต้อง…

‘เสี่ยวชาง เจ้าว่ามีความเป็นไปได้ไหมที่หลงซีจะทะลุมิติมาเหมือนกัน แล้วมาสวมร่างหลงซือเย่คนนี้?’

หยกนภาปฏิเสธอย่างหนักแน่นยิ่ง ‘เป็นไปไม่ได้! การยืมศพคืนวิญญาณ จะต้องยืมร่างของคนที่วิญญาณอ่อนแอ และเจ้าของร่างเดิมจะต้องหมดอาลัยตายยาก ในโลกนี้แล้วจริงๆ อย่างเช่นคุณหนูกู้หกเจ้าของเดิมร่างนี้ของท่าน วิญญาณของท่านแข็งแกร่งกว่านางมาก อีกทั้งนางก็ไม่ยินดีจะมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ ดังนั้นท่านจึงสวมร่างได้สำเร็จ ต่อให้เป็นเช่นนี้ท่านก็ต้องล้างแค้นแทนนาง ปลดเปลื้องความอาฆาตพยาบาทของนาง ท่านถึงสามารถควบคุมร่างเล็กๆ นี้ได้อย่างแท้จริง

แต่หลงซือเย่ เขาเป็นเจ้าสำนักถามสวรรค์คนผู้นี้เป็นบุคคลลึกลับยิ่ง เขาไม่เพียงแต่มีทักษะการแพทย์สูงส่ง วรยุทธ์ก็ไม่อาจคาดเดาได้ มีคนเล่ากันว่าวรยุทธ์ของเขาใกล้เคียงกับเซียน ไม่แน่อาจทัดเทียมกับท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปนี้ได้แล้ว คนที่แข็งแกร่งขนาดนี้จะถูกวิญญาณมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่งมารับช่วงสวมร่างได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด! ต่อให้ท่านคาดคะเนว่าหมูปีนต้นไม้ได้ก็ยังน่าเชื่อถือกว่านี้เลย’

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!