บทที่ 183
เจ้านาย จะไปไหนต่อ
กินจนอิ่มดื่มจนพอแล้ว เธอก็หยิบชุดอุปกรณ์ในถุงเก็บของออกมาแปลงโฉม
รูปร่างเตี้ยเป็นข้อบกพร่องร้ายแรงอย่างหนึ่งสำหรับเธอ ผนวกกับปานแดงขนาดใหญ่บนหน้าผาก ยามแปลงโฉมก็ด้องใช้สีเข้มๆ ปกปิดไว้ ดังนั้นเธอคิดทบทวนอยู่หลายรอบแล้ว จึงแต่งเป็นเด็กสาวบ้านนอกหน้าคลํ้า
ภาพเงาสะท้อนในคันฉ่องทรงดอกกระจับเป็นเด็กสาวบ้านนอก แววตาขลาดเขลา มิได้กระจ่างบริสุทธิ์อีกต่อไป
กู้ซีจิ่วยิ้มอย่างพึงพอใจ รู้สึกว่าตนช่างมองการณ์ไกลโดยแท้ เตรียมอุปกรณ์แปลงโฉมทุกอย่างไว้ในถุงเก็บของตลอด ไม่เช่นนั้นวันนี้คงได้ลำบากกันจริงๆ
‘เจ้านาย ตอนนี้พวกเราจะไปไหนกัน?’ จู่ๆ เสียงหยกนภาก็ดังขึ้นมา
‘อ้าว เจ้าฟื้นขึ้นมาได้แล้วหรือ?’ กู้ซีจิ่วเหลือบมองมัน เจ้าตัวบัดซบนี่แกล้งตายอยู่ตั้งนาน ยามนี้โผล่หัวออกมาแล้ว
‘เจ้านาย ไม่ใช่ว่าข้าไม่ภักดี แต่ข้าถูกผนึกพลังวิญญาณกะทันหัน สูญเสียสติสัมปชัญญะไม่รู้จะทำยังไง…’ ในนํ้าเสียงหยกนภาแฝงการได้รับความไม่เป็นธรรมไว้เล็กน้อย
กู้ซีจิ่วใจเต้นวูบหนึ่ง! เงาร่างของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอีแวบขึ้นมาในสมอง
ต้องเป็นฝีมือของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายโรคจิตผู้นั้นแน่นอน!
คนผู้นั้นไม่ใช่มนุษย์แน่ๆ!
กู้ซีจิ่วก็ดูคนเป็น สายตาเฉียบคม คนทั่วไปเธอพบหน้าเล็กน้อย สนทนาไม่กี่ประโยค ก็สามารถคาดเดาตื้นสึกหนาบางกับนิสัย เฉพาะคร่าวๆ ของอีกฝ่ายได้แล้ว แต่เธอกลับมองคนผู้นี้ไม่ออก
รู้สึกได้ตามสัญชาตญาณว่าคนผู้นี้อันตรายอย่างยิ่ง! ด้วยฝีมือของเธอตอนนี้ ไม่ควรไปยุแหย่เขาจะดีที่สุด
‘เจ้านาย พวกเราจะไปไหนต่อ?’ หยกนภาถามขึ้นมาอีก
‘ไปจากอาณาจักรนี้ ย้ายไปอาณาจักรอื่น’
ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ เธอทำได้แค่หนีออกจากอาณาจักรเฟยซิงไปก่อนชั่วคราว ลี้ภัยก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที
‘ข้ารู้สึกอยู่ตลอดว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นั้นคงไม่ยอมรามือแค่นี้’ หยกนภาวิตกกังวล
กู้ซีจิ่วตบกำไลบนข้อมือเบาๆ แย้มยิ้มทรงเสน่ห์ ‘เขาไม่ยอมแล้วจะทำอะไรได้? ข้ามีวิชาเคลื่อนย้ายในพริบตา เขามีความสามารถพอมาจับข้าหรือ?’
‘หึๆ…’ กู้ซีจิ่วเพิ่งจะกล่าวจบ จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะแผ่วเบาดังขึ้นข้างหู
เสียงหัวเราะสดใสดั่งสายลมฤดูใบไม้ผลิแฝงเสน่ห์ดึงดูดไว้รางๆ ดุจดั่งเสียงสวรรค์
ทว่ากู้ซีจิ่วกลับหน้าเปลี่ยนสี หยิบจานใบหนึ่งปาไปยังทิศทางที่เสียงหัวเราะดังมา
‘ตุบ!’ จานร่วงลงพื้น เกิดเสียงดังขึ้น!
เคราะห์ดีที่พื้นปูด้วยพรมหนา จานตกลงไปจึงไม่แตก
ขณะที่จานร่วงลงพื้น กู้ซีจิ่วก็ฉวยโอกาสเคลื่อนย้ายหนีไป หายไปจากตำหนักในชั่วพริบตา
“ใครกัน?!” นางกำนัลนอกตำหนักได้ยินเสียงเคลื่อนไหว จึงรีบผลักประตูเข้ามา
นางเดินวนรอบห้องอย่างรวดเร็ว ก็ไม่พบเงาคนเลยแม้แต่นิด แต่กลับพบว่าชาที่เตรียมไว้ให้องค์จักรพรรดิหายไปอย่างน่าประหลาด ของว่างก็หายไปสองจานใหญ่…
นางกำนัลหน้าเปลี่ยนสี แล้วตรวจสอบอย่างละเอียดอีกรอบ ยังดีที่ข้าวของในตำหนักไม่มีอะไรหายไป
มีคนบุกรุกเข้ามาในตำหนักบรรทมของจักรพรรดิ ถือว่ามีโทษหนักฐานบกพร่องต่อหน้าที่ ถึงระดับต้องโดนตัดศีรษะ นางกำนัลย่อมไม่กล้ารายงานต่อเบื้องบน จึงรีบร้อนชงชา จัดเตรียมขนมใหม่อีกรอบ ทำให้ทั้งตำหนักกลับคืนสู่สภาพเดิม ด้วยเกรงว่าในตำหนักจะมีกลิ่นอายของผู้อื่นเพิ่มขึ้นมา นางจึงเติมธูปนํ้าลายมังกรในกระถางกำยานของตำหนักเพิ่มอีก…
นางกำนัลผู้นี้มือเท้าคล่องแคล่วเป็นพิเศษ ก่อนที่จะมีใครมาพบเห็นเข้า ที่นี่ก็กลับสู่สภาพปกติอย่างสมบูรณ์แล้ว มองไม่เห็นร่องรอยว่าเคยมีคนนอกเข้ามา
กู้ซีจิ่วใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาติดต่อกันหลายครั้ง สุดท้ายก็มาโผล่ที่บ้านร้างหลังหนึ่ง
วัชพืชในบ้านขึ้นสูงยิ่ง กู้ซีจิ่วยืนอยู่กลางพงหญ้ารกชัฏ ร่างน้อยๆ แทบจะจมหายไปในพงหญ้า