Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 185

บทที่ 185

สมกับเป็นจิ้งจอกน้อยจริงๆ!

ในเมื่อหนีไปก็ไม่มีประโยชน์ แล้วเธอยังจะหนีทำซากอะไร! ให้เขาเล่นแมวจับหนูหรือไง? เธอไม่ได้โง่นะ!

“ในเมื่อไม่หนี เช่นนั้นก็ตามข้ากลับไป…” ตี้ฝูอียกมือป้องหน้ามองดวงอาทิตย์ปลายขอบฟ้า แล้วกล่าวต่อ “ก่อนพระอาทิตย์ยังไม่ตก ไม่แน่อาจจะทดสอบต่อได้ เจ้ารู้ไหม ไม่ง่ายเลยกว่าข้าจะเปิดแท่นเบิกสวรรค์ได้สักครั้ง จึงไม่อาจให้มันเสียเปล่าได้”

เขายื่นมือมาหาเธอ “ข้าจะพาเจ้ากลับไป”

มือของเขาขาวเนียนดั่งหยก อยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ดูราวกับหยกสลักชั้นดี

กู้ซีจิ่วเม้มริมฝีปากจิ้มลิ้ม ในที่สุดก็ยื่นมือออกไปอย่างไม่เต็มใจ บนมือน้อยๆ ของเธอเต็มไปด้วยดิน สกปรกเหมือนเพิ่งไปขุดโคลนมา…

นัยน์ตาตี้ฝูอีสาดแสงแวบหนึ่ง ชักมือกลับทันที “ข้าคิดว่าก่อนอื่น เจ้าควรล้าง…”

พูดยังไม่ทันจบ ฝุ่นดินหอบใหญ่ก็สะบัดซัดเข้าใส่เขาจนฟุ้งตลบ!

เขายกแขนเสื้อขึ้นบังตามสัญชาตญาณ ฝุ่นดินนั้นยังไม่ทันได้สัมผัสกายเขาก็ถูกบังคับให้หยุดกะทันหัน ลอยค้างอยู่กลางอากาศ!

‘ตูม!’ เมื่อฝุ่นดินถูกบังให้หยุดก็พลันระเบิดออก! เข็มขนาดเท่าเส้นขนวัวนับไม่ถ้วนทะลวงออกมาจากด้านในนั้น พุ่งมาที่ด้านหน้าเขาโดยตรง…

การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเร็วมาก ตี้ฝูอีที่หลบหลีกอย่างรวดเร็วยังเกือบจะถูกเข็มเส้นขนวัวเหล่านั้นเจาะทะลวง ร่างของเขาถอยหลังอย่างคล่องแคล่วพร้อมสะบัดแขนเสื้ออีกครา เข็มเหล่านั้นพลันพุ่ง กลับไป…

เจตนาเดิมของเขาคือสั่งสอนบทเรียนให้แม่สาวน้อย ไม่ทันระวังใช้พลังมากไปหน่อย

เมื่อเขาได้ยินเข็มเส้นขนวัวที่พุ่งกลับไปก็รู้สึกตัวแล้วว่าไม่ถูกต้อง พุ่งกลับไปด้วยพลังเช่นนี้ นางมิถูกแทงจนพรุนเป็นตะแกรงหรอกหรือ!

เขาจึงคิดเลิกแขนเสื้อขึ้นอีกครา คิดจะดูดเข็มเหล่านั้นกลับมาอีก แต่พอเห็นทิวทัศน์เบื้องหน้าชัดเจนแขนเสื้อเขาก็ลู่ลง

เข็มเส้นขนวัวราวกับเป็นหนอนไหมฤดูใบไม้ผลิที่กัดแทะใบไม้ พืชพรรณเกษตรล้มลงไปทีละแถวๆ ส่งเสียงดังสวบสาบ…

ตี้ฝูอียืนอยู่บนต้นข้าวโพด หลุบตามองผลงานชิ้นเอกของตน

พืชพรรณเกษตรล้มเป็นวงกว้าง แต่สาวน้อยที่เดิมทีเคยอยู่ตรงนั้น กลับหายไปไม่เห็นแม้แต่เงา…

เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย รู้อยู่ชัดๆ ว่าหนีไม่พ้นแต่นางก็ยังหนีอีก นี่คือหมาจนตรอกสินะ? หรือเป็นพวกโง่งม?

เขาขยับนิ้วทำมุทราเล็กน้อย เหมือนจะสัมผัสอะไรบางอย่าง ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็ลืมตาขึ้น มีร่องรอยความประหลาดใจวาบผ่านในดวงตา เขาสัมผัสถึงสาวน้อยนางนั้นไม่ได้แล้ว!

นางพบยันต์บอกตำแหน่งที่เขาติดไว้บนร่างนางแล้วหรือ?

เป็นไปไม่ได้! ถึงแม้ยันต์บอกตำแหน่งจะเรียกขานว่ายันต์ ทว่า ไม่ได้มีลักษณะเป็นรูปเป็นร่าง แต่เขาใช้พลังวิญญาณวาดไว้บนตัวนาง หากไม่ผ่านขั้นตอนพิเศษก็จะไม่ปรากฏขึ้นมา

สมกับเป็นจิ้งจอกน้อยจริงๆ!

ตี้ฝูอีแย้มยิ้ม ดวงตาฉายแววชอบใจเข้มขึ้นกว่าเดิม…

สายนทีกว้างใหญ่ ระลอกคลื่นกระเพื่อมไหว มวลบุปผาบานสะพรั่ง ริมสองฟากฝั่ง นี่คือทะเลสาบชื่นสุคนธ์อันโด่งดังที่ตั้งอยู่นอกเมือง ผืนทะเลสาบกว้างสุดลูกหูลูกตา นํ้าในทะเลสาบลึกสุดหยั่ง ในทะเลสาบแห่งนี้มีสาหร่ายพิเศษชนิดหนึ่งเติบโตอยู่ สีสันแดงฉานดุจเปลวเพลิง แต่ละช่อลอยพลิ้วอยู่ในน้ำ ดูละม้ายคล้ายกลีบบุปผาสีแดงล่องลอยอยู่เหนือผิวทะเลสาบ

สาหร่ายชนิดนี้มีกลิ่นหอมพิเศษ เจือจางเบาบางยิ่งแต่ก็หอมหวนยิ่งเช่นกัน หากสัมผัสเพียงเล็กน้อย กลิ่นหอมเย็นจางๆ จะติดกายไปสองสามวัน

แต่มันยังมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง หลังจากกลิ่นหอมติดกายไปสามวัน หากไม่ชำระล้างทิ้งตามกำหนดจะส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ยิ่งนักออกมา กลิ่นสามารถโชยไปได้ไกลถึงแปดลี้!

เนื่องจากเจ้าสิ่งนี้ชำระล้างยาก ดังนั้นต่อให้ผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงทราบว่าน้ำในทะเลสาบสามารถทำให้คนตัวหอมได้สองสามวัน ก็ไม่กล้าไปอาบนํ้าในทะเลสาบอยู่ดี

ครั้งนี้กู้ซีจิ่วเคลื่อนย้ายมาโผล่กลางน้ำโดยตรง เธอลืมตาขึ้น ทะเลสาบใสสะอาด เป็นสีฟ้ใสดุจกระจกสี กลีบบุปผาเรียวบางมากมายล่องลอยอยู่ในทะเลสาบ ลักษณะคล้ายกลีบดอกลำโพงม่วงอยู่บ้าง เมื่อเธอวาดแขน มันก็ลอยวนอยู่เบื้องหน้า งดงามอย่างยิ่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!