Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 256

LamNamBubPaPit
BC

บทที่ 256

ไม่เธอก็มันต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!

กู้ซีจิ่วกุมมีดสั้นนิ่งสงบ

C

อ๋าวอัสนีโลหิต เธอเคยอ่านเจอในบันทึกสัตว์ในตำนาน

ปล่อยสายฟ้าได้ ใช้เลือดเซ่นสังเวยได้ เปลี่ยนแปลงสีขนได้เหมือนกิ้งก่า นิสัยดุร้าย เจ้าคิดเจ้าแค้น ถ้าเผลอล่วงเกินมัน มันจะตามพัวพันไม่หยุดหย่อน ไม่ตายไม่เลิกรา รวดเร็วถึงขั้นแซงหน้าเลือดาวได้ เคลื่อนไหวดุจสายฟ้า เร็วจนน่าตื่นตะลึง…

ยามนี้เธอกรีดท้องเจ้าตัวนี้จนเป็นรูกว้าง เห็นได้ชัดว่ายั่วโมโหมันเข้าแล้ว ดังนั้นไม่ว่าเธอหนีไปไหน ก็จะถูกเจ้าตัวนี้ตามก่อกวนจนถึงที่สุด!

นอกเสียจากเธอจะใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตา แต่วิชาเคลื่อนย้ายของเธอถูกผนึกไปแล้ว…

ตอนนี้เหลือเพียงคำเดียวเท่านั้น…สู้!

ไม่เธอก็มันต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!

‘ท่านหนีไปหาทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตรงนั้นสิ เขาต้องจัดการมันได้แน่!’ หยกนภาออกความเห็นแก่เธออีกครั้ง

มุมปากกู้ซีจิ่วกระตุกน้อยๆ กล่าวเพียงสองคำว่า ‘หุบปาก!’

จะหนีตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว!

ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอคำนวณความเคลื่อนไหวด้านนี้ไว้เล็กน้อยแล้ว ด้วยประสิทธิ์ภาพการได้ยินของตี้ฝูอี เขาย่อมได้ยินแล้วแน่นอน หากเขาคิดจะมาคงมานานแล้ว แต่เขาก็ไม่ปรากฏตัวเลย เป็นอัน แน่นอนว่าเขามีความคิดของเขา…

หยกนภาเงียบงัน

อ๋าวอัสนีโลหิตเป็นสัตว์ที่จิตใจแปรปรวนยิ่ง กู้ซีจิ่วกรีดท้องมันจนเป็นรูกว้างขนาดนั้น อวัยวะภายในจึงโผล่ออกมาครึ่งหนึ่ง ทว่ามันฟื้นฟูได้รวดเร็วนัก บาดแผลนั้นเล็กลงด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า…

ดูเหมือนพลังชีวิตของเจ้าตัวนี้จะแข็งแกร่งอย่างยิ่ง หากแทงไม่ถูกจุดสำคัญที่สุดของมัน มันก็ไม่ตาย…

‘จุดอ่อนของมันอยู่ตรงไหน?’ กู้ซีจิ่วถามหยกนภา

‘มะ…ไม่รู้’ ยากมักที่หยกนภาจะพูดติดอ่าง ‘อ๋าวอัสนีโลหิตหายากยิ่ง มีเพียงบนยอดเขาทั้งสามของป่าทมิฬถึงจะมีเจ้าสิ่งนี้’

“เวรเอ๊ย!” กู้ซีจิ่วผรุสวาทออกมาอย่างที่เห็นได้ยากนัก!

คงมิใช่ว่าครั้งนี้ เธอหล่นลงมาในป่าทมิฬหรอกกระมัง?!

ดูท่าคงมีแต่ต้องหลั่งเลือดแล้ว!

แววอำมหิตวาบผ่านนัยน์ตาเธอ กู้ซีจิ่วตวัดมีดสั้น ร่างกายไหววูบ พุ่งเข้าไปโจมตีอ๋าวอัสนีโลหิต!

หลังจากกู้ซีจิ่วมาถึงโลกนี้ก็ยังไม่เคยต่อสู้แบบจริงจังถึงขั้นหลั่งเลือดเลย หยกนภาจึงไม่เคยเห็นมาก่อนว่าฝีมือของเธอแข็งแกร่งมากแค่ไหน จนมาถึงตอนนี้!

ว่องไว! แม่นยำ! ดุดัน! เหี้ยมโหด!

ร่างกายเล็กๆ ว่องไวราวกับสายฟ้าที่แลบผ่านท้องฟ้ายามราตรี ต่อสู้อยู่รอบๆ อ๋าวอัสนีโลหิตตัวนั้น

แรกเริ่มอ๋าวอัสนีโลหิตคงต้องการสังเวยเธอเป็นอาหาร เลยไม่เรียกสายฟ้ามา แต่ใช้กรงเสืบตะปบ ฟันฉีกกระชาก ตวัดหางพุ่งชน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นกระบวนท่าของสัตว์ร้ายยามโจมตีเหยื่อ

แต่หลังจากประมือกันไปสิบกว่ายก หลังจากสัตว์ร้ายตัวนั้นถูกกู้ซีจิ่วแทงร่างต่อเนื่องหลายหน ในที่สุดก็ระเบิดโทสะ! เริ่มเรียกใช้สายฟ้าแล้ว

อันดับแรก สายฟ้าอันน่าสะพรึงเส้นหนึ่งผ่าลงมาใส่กู้ซีจิ่ว หากเธอหลบหลีกช้าไปเพียงนิด คงถูกผ่าจนไหม้เป็นตอตะโกทันที…

โขดหินรอบด้านถูกผ่าจนแหลกเป็นจุณ บนพื้นก็ปรากฏหลุมไหม้เกรียมขนาดใหญ่ จะเห็นได้ว่าสายฟ้าที่เจ้าตัวนี้ปล่อยออกมาทรงอานุภาพยิ่งนัก

ชาติที่แล้วกู้ซีจิ่วฝึกฝนท่าร่างจนถุงขีดสูงสุด ท่าร่างของเธอพิสดารยิ่ง ต่อให้เป็นวิชาตัวเบาทั่วไปก็สามารถใช้ได้อย่างเหนือธรรมดา ยิ่งกว่านั้นคือเธอคร่ำหวอดอยู่ในสนามรบประเภทนี้มาเนิ่นนานเท่าใดแล้ว?

ถึงแม้อ๋าวอัสนีโลหิตตัวนั้นจะร้ายกาจ แต่เมื่อเผชิญกับกู้ซีจิ่ว มือเท้าของมันก็เก้งก้างเล็กน้อย ถูกมีดสั้นของกู้ซีจิ่วจ้วงแทงร่างหลายต่อหลายครั้ง กรีดจนเป็นบาดแผลเลือดอาบ

อ๋าวอัสนีโลหิตคำรามเสียงสนั่นดุจฟ้าร้อง ปฐพีสะเทือนจนร่างกายสั่นไหวตาม

กู้ซีจิ่วเม้มริมฝีปากบางแน่นยิ่งขึ้น

การต่อสู้ในชั่วอึดใจเช่นนี้ เธอผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาหลายครั้งแล้ว หากไม่ระวังเพียงนิดอาจเสียชีวิตภายใต้สายฟ้าของเจ้าตัวนี้ได้

แน่นอนว่าเธอใช้ยาพิษกับมันไปหลายชนิดแล้ว แต่แทบจะไม่เป็นผล อย่าว่าแต่ทำให้เจ้าตัวนี้ถูกพิษเลย กระทั่งจะให้เลือดมันกลายเป็นสีเขียวสีม่วงยังทำไม่ได้!

เจ้าตัวนี้ไม่เกรงกลัวพิษ ไม่เกรงกลัวคมมีด แล้วเธอจะฆ่ามันได้อย่างไร?

……………………

[1] สุนัขพันธ์อ๋าว เป็นชื่อสุนัขพันธุ์ใหญ่ในสายพันธุ์ Molosser ทรงพลัง แข็งแกร่งดุดัน สุนัขที่อยู่ในสายพันธุ์นี้ได้แก่ สุนัขพันธุ์ ทิเบตัน สุนัขพันธุ์คอเคเซียนเชพเพิร์ด เป็นต้น

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!