บทที่ 312
ผจญภัยในทุ่งน้ำแข็ง
ถึงแม้ร่างกายเธอจะเติบโตสมวัยยิ่ง แต่ใบหน้ายังเยาว์วัยอยู่
หยกนภาหมุนวนรอบกายเธอหนึ่งรอบ จากนั้นก็ผิวปากเหมือน ‘นักเลง’
‘เจ้านาย แบบท่านนี่เรียกว่าหน้ามัธยม นมมหาลัยใช่หรือไม่?’
คำตอบของกู้’ซีจิ่วคือการตบมันกระเด็น ‘ไอ้หยกโรคจิต ไสหัวไป!’
เจ้าหยกเลวช่างเปรียบเปรย!
หน้าอกนี้เพิ่งจะเจริญเติบโต ขนาดสมส่วน ใหญ่ตรงไหนกัน?
‘เจ้านาย ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเห็นรูปลักษณ์ปัจจุบันของท่านหรือยัง?’ หยกนภาซุบซิบ
‘ยัง’ กู้ซีจิ่วเริ่มแต่งหน้า หน้ากระจก ‘อีกครึ่งเดือนถึงจะเป็นวันที่เขาต้องโยนข้าเข้าป่าทมิฬ หลายเดือนมานี้ย่อมไม่มีความจำเป็นต้องพบกัน’
เธอไม่ได้พบทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเกือบครึ่งปีแล้ว การเดินทางของเขาเป็นความลับเหมือนยามปกติ ได้ยินคนเอ่ยถึงท่านทูตสวรรค์ผู้นี้บ้างเป็นบางครั้ง กล่าวว่าครึ่งปีมานี้เขาไม่เคยกลับไปที่วังคํ้านภาเลย แม้แต่องค์จักรพรรดิมีธุระอยากพบปะเขาก็หาตัวไม่พบ…
วิชาแปลงโฉมของกู้ซีจิ่วลํ้าเลิศยิ่ง เพียงชั่วอึดใจเดียว เธอก็เปลี่ยนเป็นอีกแบบแล้ว
หยกนภาเพ่งพิศเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแวบหนึ่ง มอบคำวิจารณ์แก่เธอสองคำ ‘หล่อมาก!’
แล้วถามต่ออีก ‘หนนี้คิดจะไปที่ใด?’
‘ทุ่งนํ้าแข็งลี้ลับ’
กู้ซีจิ่วต้องเตรียมข้าวของพิเศษบางส่วนเพื่อเข้าป่าทมิฬ ดังนั้นหลายเดือนมานี้เธอมักจะออกไปข้างนอกบ่อยๆ
บางครั้งก็ซื้อ แต่บางอย่างเธอต้องไปรวบรวมด้วยตัวเอง เนื่องจากหายาก มีเงินก็ไม่สามารถซื้อหาได้…
เพื่อหลีกเสียงความยุ่งยากที่ไม่จำเป็น เวลาออกไปข้างนอกเธอจะแปลงโฉมแบบธรรมดา คนจะได้ไม่สังเกต
หนนี้เธอจะไปทุ่งนํ้าแข็งลี้ลับเพื่อค้นหาดอกไม้พิเศษชนิดหนึ่งที่สามารถต้านทานอากาศเป็นพิษได้…ดอกอสูรเหมันต์
………………………
ณ ทุ่งนํ้าแข็งลี้ลับ
พายุหิมะโหมกระหน่ำ สายลมคลั่งแผดเสียงก้อง
กู้ซีจิ่ววิ่งอยู่บนทุ่งหิมะกว้างไกลไม่มีที่สิ้นสุด
สายลมและหิมะพัดปะทะใบหน้าอย่างหนักหน่วงดุจคมมีด
เนินเขาอยู่ไกลออกไป แท่งน้ำแข็งงอกย้อยในบริเวณใกล้เคียงล้วนปกคลุมด้วยพายุหิมะไร้ที่สิ้นสุดนี้ ทำให้คนแทบจะมองไม่เห็นทัศนวิสัยโดยรอบ
ถึงแม้อสูรเหมันต์จะเป็นสิ่งที่มีอยู่เฉพาะสถานที่แห่งนี้เท่านั้น แต่สถานที่เติบโตกลับไม่ตายตัว หุบเขานํ้าแข็ง ยอดเขาน้ำแข็ง ธารน้ำแข็ง ล้วนเติบโตได้ทั้งนั้น
ดังนั้นถ้าต้องการตามหามัน จะต้องค่อยๆ หา ใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาเตร็ดเตร่ไปมาไม่ได้
‘เจ้านาย ท่านมาที่นี่ควรหาผู้ช่วยมาด้วยหลายๆ คน!’ หยกนภาบ่นอุบอิบ
‘เจ้าจะออกเงินไหมล่ะ?’ กู้ซีจิ่วยอกย้อนมันกลับไป
ทุ่งนํ้าแข็งลี้ลับ เป็นแดนทุรกันดารอันเลื่องชื่อของอาณาจักรเฟยซิง
มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี อุณหภูมิพอๆ กับขั้วโลกเหนือ ภูมิประเทศซับซ้อนเปลี่ยนแปลงบ่อย เต็มไปด้วยสัตว์ร้าย ชื่อเสียงรองลงมาจากป่าทมิฬ
เป็นสถานที่ที่คนทั่วไปพูดถึงแล้วหน้าเปลี่ยนสี ผู้ที่ระดับพลังวิญญาณไม่ถึงขั้นสี่ไม่กล้าย่างกรายมาที่นี่
ยิ่งทุรกันดารเท่าไหร่ก็ยิ่งมีสมุนไพรลํ้าค่าเกิดขึ้นมากเท่านั้น อสูรเหมันต์ก็เป็นสิ่งที่มีอยู่เฉพาะที่มี
ดอกไม้ชนิดนี้มีเพียงที่นี่เท่านั้นที่มี แต่จะผลิบานแค่ในเดือนสาม… ก็คือเดือนนี้
เมื่อเก็บเกี่ยวดอกไม้นี้ได้ ต้องนำไปให้ปรมาจารย์หลอมโอสถ จัดการด้วยวิธีพิเศษทันที หลอมกลั่นเป็นตัวยา ไม่เช่นนั้นถ้าเก็บเกี่ยวทิ้งไว้สองชั่วยามก็จะเปลี่ยนสี สี่ชั่วยามก็จะสูญเสียประสิทธิ์ภาพทั้งหมด
ด้วยคุณสมบัติพิเศษนี้ ดอกไม้นี้จึงไม่มีขายตามท้องตลาด มีแต่ต้องเก็บด้วยตัวเองแล้วพึ่งพาปรมาจารย์หลอมโอสถ
ต่อให้อยู่ในหุบเขาน้ำแข็งลี้ลับดอกไม้นี้ก็หาได้ยากมาก มิใช่จะตามหาได้ง่ายๆ และมิใช่จะเก็บเกี่ยวได้ง่ายๆ
นอกเหนือจากปรมาจารย์หลอมโอสถแล้ว อย่างน้อยยังต้องหายอดฝีมือสี่คนขึ้นไปมาคอยคุ้มกัน
ในอาณาจักรเฟยซิงผู้ที่สามารถบรรลุพลังวิญญาณขั้นสี่ได้มีไม่มาก แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในสำนักใหญ่ๆ หรือรับใช้ราชวงศ์เป็น องครักษ์ในวังหรือไม่ก็แม่ทัพนายพลอะไรเช่นนั้น ประชาชนทั่วไปมีไม่มาก
แน่นอน ไม่มากไม่ได้แปลว่าไม่มี
[1]ถุงหนัง อุปมาถึง สังขาร
[2] อายุลวง คือการนับอายุโดยที่หลังจากคลอดได้ 1 วันก็นับอายุเป็น 1 ขวบ เนื่องจากนับอายุในครรภ์ 10 เดือนให้เป็น 1 ปี และไม่ว่าจะคลอดในวันไหนเดือนไหนก็ตาม เมื่อพ้นวันตรุษจีนคือวันขึ้น
1 ค่ำเดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติจีนก็ให้นับเพิ่มไปอีก 1 ขวบปี