Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 406

บทที่ 406

ลากขวดน้ำมันใบใหญ่ 1

เธออดไม่ได้ที่จะดึงแขนตัวเองกลับมา “นี่ คุณชายซือเฉิน วรยุทธ์ของท่านน่าจะไม่เลวนักกระมัง อย่าดึงข้าไว้…”

“เจ้าคิดจะเขี่ยข้าทิ้งหรือ?” ซือเฉินเบิกตากว้างทันที “ข้าคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเจ้าไว้นะ เจ้าจะปล่อยให้ตายโดยไม่ช่วยเหลือไม่ได้!

กู้ซีจิ่วเอ่ย “…ท่านล้อเล่นอะไรอยู่? ท่านมาตกเต่าทองที่แม่นํ้าสลายกระดูกเพียงลำพังได้ วรยุทธ์ต้องสูงส่งมากเป็นแน่ ท่านหนีรอดได้ด้วยตัวเอง”

การที่เธอต้องใช้วิชาเคลื่อนย้ายโดยลากคนผู้หนึ่งไปด้วยมิใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ คนผู้นี้เสมือนขวดนํ้ามันใบใหญ่ ถ่วงให้เธอเดินทางช้าลง

สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือคนผู้นี้น่าจะไม่ธรรมดา ไม่ทราบว่ามีจุดประสงค์ใดถึงมาตามติดอยู่ข้างกายเธอ

หากเป็นเมื่อก่อน กู้ซีจิ่วจะพยายามค้นหาจุดประสงค์และที่มาของเขาให้ชัดเจน แต่ตอนนี้เธอไม่มีเวลาขนาดนั้น!

“ปกติแล้วไม่มีสัตว์ร้ายย่างกรายไปที่แม่น้ำสลายกระดูก เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในป่าทมิฬ ข้าขี่สัตว์พาหนะร่อนลงที่ริมฝั่งโดยตรง เตรียมการไว้ว่าตกเต่าทองได้แล้วค่อยขี่สัตว์พาหนะบินกลับไป คิดเสียที่ไหนว่าจะได้มาพบเจ้า? แล้วเจ้ายังลากตะขาบพิฆาตมาด้วยอีก…” ซือเฉินอุทธรณ์

กู้ซีจิ่วตะลึง เป็นเช่นนี้หรอกหรือ?

“แล้วยังมีที่ปลอดภัยอีกหรือไม่?” กู้ซีจิ่วไม่มีแก่ใจจะต่อปากต่อคำกับเขาแล้ว เอ่ยถามเรื่องสำคัญที่สุดก่อน

“มีเพียงริมฝั่งแม่นํ้าสลายกระดูกเท่านั้น เพียงแต่ยามนี้ก็คงไม่ปลอดภัยแล้ว สัตว์ร้ายอื่นๆ หวั่นเกรงแม่นํ้าสายนั้น ทว่าตะขาบพิฆาตกลับไม่กลัว ต่อให้เจ้าย้อนกลับไปที่นั้น พวกมันก็ไล่ตามไปเป็นแน่! ยังมีอีก เจ้าอย่าได้หวังว่าตะขาบพิฆาตสองตัวนั้นจะเลิกไล่ล่าสังหารเจ้าเพราะมองเห็นเหยื่ออื่นๆ ถ้าไม่ได้งาบเจ้าเข้าปากไปก่อน พวกมันจะไม่สังหารสัตว์อื่น…” คุณชายซือเฉินผู้นี้รู้มากเหลือเกิน อธิบายให้เธอฟังอย่างคล่องปาก

กู้ซีจิ่วกลัดกลุ้มจนหัวโตแล้ว เธอกวาดตามองรอบข้างอย่างรวดเร็ว มีเสียงสัตว์ร้ายคำรามแว่วมาจากทุกทิศ ต้นไม้สั่นไหวอย่างรุนแรง พวกมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว

ประหลาดนัก! เธอใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตา มิได้ใช้วิชาตัวเบาเลย ว่ากันตามเหตุผลแล้วไม่น่าจะหลงเหลือกลิ่นอายไว้ตามทาง แล้วสัตว์ร้ายเหล่านี้อาศัยสิ่งใดตามหา?

“สัตว์ร้ายของสถานที่แห่งนี้มีมีคุณสมบัติที่โดดเด่นยิ่งนักอย่างหนึ่ง นั่นก็คือจมูกที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าสุนัขล่าสัตว์ สามารถรับรู้กลิ่นอายในรัศมีห้าลี้ได้ เจ้าเคลื่อนย้ายไม่เกินกว่าห้าลี้ทุกครั้ง พวกมันย่อม สามารถดมกลิ่นได้…” ซือเฉินไขข้อข้องใจให้เธอ

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!

เช่นนั้นครั้งหน้าเธอเคลื่อนย้ายให้ไกลกว่าห้าลี้ก็ใช้ได้แล้ว!

เมื่อเห็นว่าสัตว์ร้ายเหล่านั้นจะโผล่ออกมาจากทุกทิศแล้ว กู้ซีจิ่วจึงเตรียมจะเคลื่อนย้ายอีกครั้ง ทว่าถูกซือเฉินรั้งไว้ “ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายแล้ว พวกมันล้อมเราไว้หมดแล้ว!”

กู้ซีจิ่วนิ่งอึ้ง

……………………….

กู้ซีจิ่วกับซือเฉินยืนอยู่ด้วยกันบนต้นไม้ใหญ่ ในรัศมีเจ็ดแปดจั้งรอบต้นไม้มีสัตว์ร้ายโผล่ออกมาเรื่อยๆ

สัตว์ร้ายของที่นี่ก็รูปร่างหน้าตาพิลึกกึกกือเช่นกัน มีมากมายที่กู้ซีจิ่วระบุชื่อไม่ได้ แต่ดูจากรูปลักษณ์และกลิ่นอายของแต่ละตัวแล้ว ล้วนเป็นสัตว์ที่ดุร้ายยิ่ง

พวกมันปิดล้อมอยู่ไม่ห่างจากต้นไม้ แต่ก็ไม่เข้ามาใกล้

ต้นไม้ทั่วสารทิศโยกไหว ทอดยาวออกไปไกลลิบๆ เห็นได้ชัดเจนว่าในส่วนลึกของป่าทึบย้งมีสัตว์ร้ายส่วนใหญ่ที่ยังไม่ปรากฎตัวออกมา

พวกมันล้อมพวกเธอไว้แล้วจริงๆ!

กู้ซีจิ่วกุมกระบี่วิเศษในมือแน่น แผ่นหลังเหยียดตรง เธอรู้ว่ายากจะหลีกเลี่ยงสงครามอันเลวร้ายได้แล้ว…

“พวกมันรออะไรอยู่?”

“รอหัวหน้าของพวกมัน” ซือเฉินตอบสั้นๆ “ตะขาบพิฆาตหกเนตร ก็คือหัวหน้าของพวกมัน!”

กู้ซีจิ่วสูดลมหายใจเข้านิดๆ “ผู้ที่เจ้าสองตัวนั้นตามหาคือข้า รอยามที่ข้าสู้กับเจ้าสองตัวนั้นอย่างสุดชีวิต ท่านจงฉวยโอกาสหนีไปซะ!”

ซือเฉินพลันยืดอก กอดแขนเธอแน่นกว่าเดิม “ในเมื่อเจ้ากับข้าเป็นสหายร่วมทางกันแล้ว ย่อมมีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน! ข้าจะไม่หนีไปโดยทิ้งเจ้าไว้เพียงลำพังเด็ดขาด! รอดก็รอดด้วยกัน ตายก็ตายด้วยกัน!”

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก…

…………………………….

[1] ลากขวดนํ้ามัน หมายถึง ตัวภาระ

[2] จิน เป็นหน่วยนํ้าหนักของจีน 1 จิน = 500 กรัม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!