บทที่ 416
เจ้าคงไม่ทิ้งข้าใช่ไหม 3
กู้ซีจิ่วเคยเห็นหอยกาบมาไม่น้อย ทว่าไม่เคยเห็นหอยกาบที่ตัวใหญ่ขนาดมาก่อน!
ฝาหอยทั้งสองเสมือนประตูเหล็กขนาดใหญ่สองบานที่มีขอบแหลมคม ยามที่งับเข้าหากันสามารถหนีบทุกสิ่งให้ขาดได้!
กระบี่ลํ้าค่าในมือกู้ซีจิ่วคือสิ่งที่องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวมอบให้เธอ เป็นศาตราวุธศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียง เคยประหัตประหารคนและสัตว์มาแล้ว ฟาดฟันเกราะที่แข็งแกร่งปานไหนก็ไม่เคยมีรอยบิ่น นึกไม่ถึงเลยว่าครานี้พอเธอแทงกระบี่เข้าไปในร่องฝาหอยที่เปิดอ้าของมันโดยบังเอิญ เจ้าสิ่งนี้พลันงับลงมา กลับบดขยี้จนแหลกเป็นชิ้นๆ เหมือนเต้าหู้ที่โดนทับไม่มีผิด…
เคราะห์ดีที่กู้ซีจิ่วชักมือออกอย่างว่องไว ไม่เช่นนั้นแม้แต่มือเธอก็คงถูกงับขาดไปด้วย!
กู้ซีจิ่วพกอาวุธติดตัวไม่น้อย หลังจากกระบี่ลํ้าค่าถูกทำลาย เธอก็รีบหยิบดาบใหญ่สันทองเล่มหนึ่งออกมาจากถุงเก็บของ…
ความจริงแล้วเจ้าสิ่งนี้เคลื่อนไม่เร็วนัก หากกู้ซีจิ่วใช้วิชาเคลื่อนย้ายก็จะหลีกหนีไปได้อย่างรวดเร็วยิ่ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนเธอกำลังโกรธเกรี้ยวอยู่ จึงสู้กับเจ้าหอยยักษ์ซึ่งๆ หน้า!
บางทีซือเฉินอาจจะโดนเจ้าหอยยักษ์ตัวนี้เขมือบเข้าไปแล้ว!
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร เธอจะต้องหาวิธีสังหารเจ้าหอยยักษ์ตัวนี้ให้ได้ แล้วค่อยงัดฝาหอยมันออกดูว่าคนอยู่ข้างในหรือไม่
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เธอก็จะไม่ทอดทิ้งซือเฉิน!
หอยยักษ์ตัวนี้ฝึกฝนวิชาธาตุน้ำ วิชาธาราเยือกแข็งเอย วิชาธาราเดือดเอย ล้วนเชี่ยวชาญเป็นอย่างยิ่ง หากมิใช่ว่ากู้ซีจิ่วมีวิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาหลบหลีกได้ว่องไว เกรงว่าคงถูกมันแช่แข็งจนกลายเป็นก้อนนํ้าแข็งหรือไม่ก็ถูกลวกจนผิวหนังลอกไปแล้ว
สู้รบเช่นนี้อยู่หนึ่งชั่วยามเต็มๆ มิใช่แค่กู้ซีจิ่วที่เหน็ดเหนื่อย เจ้าหอยยักษ์ตัวนั้นก็เหน็ดเหนื่อยไม่น้อยเช่นกัน!
ความเร็วในการงับฝาหอยเชื่องช้าลงมาก ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็จับทางการต่อสู้กัมมันได้นิดๆ แล้ว ศาสตราวุธในมือโจมตีฝาหอยทั้งสองอย่างต่อเนื่อง…
ไม่รู้ว่าคมดาบสุดท้ายฟันถูกตรงจุดสำคัญอันใด เจ้าหอยตัวนั้นจึงเปิดฝาออกกะทันหัน ขณะที่กู้ซีจิ่วคิดฉวยโอกาสฟันเนื้อนุ่มนิ่มที่อยู่ในฝาของมัน นึกไม่ถึงว่าด้านในฝาหอยกลับพ่นหมอกสีดำออกมา กู้ซีจิ่วหลบไม่ทัน จึงถูกควันสีดำนั้นปกคลุม…
เบื้องหน้ากู้ซีจิ่วมืดมิดทันที เธอเกรงว่าหมอกสีดำนี้จะมีพิษจึงรีบกลั้นหายใจ ขณะเดียวกันก็กระโจนถอยหลังไปหลายจั้ง ยามที่เธอพอจะมองเห็นสภาพแวดล้อมรอบข้างบ้าง ก็พบว่าเจ้าหอยยักษ์ตัวนั้นหายไปแล้ว ฟ้าดินรอบข้างที่เดิมทีมืดมัวค่อยๆ มีแสงสว่างเลือนรางบางส่วนลอดเข้ามา
เธอพบว่าตัวเองยืนอยู่บนแท่นมีรูปร่างคล้ายดอกเห็ดอันหนึ่งที่พร้อมจะพลิกควํ่าได้ตลอดเวลา เมฆหมอกลอยวนอยู่รอบด้าน จุดที่อยู่ห่างออกไปสิบกว่าจั้งมีแท่นทรงดอกเห็ดอันอื่นๆ อยู่ แท่นเหล่านั้นกระจายอยู่รอบตัวเธอดุจธารดาราบนท้องนภา
ในช่วงว่างระหว่างแท่นมีหมอกสีเทาวนเวียนอยู่ มีเสียงคำรามแผ่วๆ ของสัตว์ร้ายแว่วมาจากในหมอก
ถึงแม้เสียงคำรามนั้นจะแผ่วเบาทว่าน่าสะพรึงยิ่งนัก ประหนึ่งสัตว์ร้ายขนาดมหึมาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในความมืด…
ที่นี่คือสถานที่ใดกัน?
ตกอยู่ในสถานที่พิลึกเช่นนี้ ความจริงแล้วกู้ซีจิ่วกลัวมาก แต่เธอกลับไม่มีเวลามาหวาดกลัว เธอทราบว่าในสถานที่เช่นนี้ไม่มีใครมาช่วยตัวเองได้ ถึงเธอจะกลัวก็ทำได้เพียงพึ่งพาตัวเอง
เธอพิจารณาสภาพแวดล้อมรอบข้างเล็กน้อยแล้วเริ่มค้นหาที่อยู่ของเจ้าหอยยักษ์ เธอยังจำได้ว่าต้องผ่ากระเพาะเจ้าหอยยักษ์เพื่อหาคนด้วย…
เธอกุมดาบในมือแน่นเตรียมจะเคลื่อนย้ายไปยังแท่นอื่นๆ ก็พลันมีเสียงลมดังขึ้นเหนือศีรษะ คนผู้หนึ่งร่อนลงมาจากฟ้า หยุดอยู่เบื้องหน้ากู้ซีจิ่ว “ซีจิ่ว!”
กู้ซีจิ่วก้าวถอยหลัง ตัวแข็งทื่อในฉับพลัน!
คนผู้นั้นสวมชุดสีขาวดุจหิมะ รูปลักษณ์หล่อเหลาคมคาย ยามมองเธอดวงตาคู่นั้นสงบอ่อนโยน เป็นหลงซือเย่!
เขายื่นมือมาหาเธอ “ซีจิ่ว ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว! สถานที่นี้ไม่ควรรั้งอยู่นาน ไปกับข้าเถอะ!”