บทที่ 422
สยบ 1
“ซีจิ่ว นี่คือวิชากำแพงวายุหรือ? ไม่เลวเลย!” ซือเฉินเอ่ยชมพลาง เดินเข้ามา
เมื่อเห็นเขาเดินมาเข้ามาใกล้ๆ กู้ซีจิ่วพลันยกมือขึ้น ปลายดาบจ่อไปทางเขา “เจ้าเป็นคนเป็นผีหรือว่าเป็นเงามายา? เจ้าตายไปแล้วไม่ใช่หรือ? ถ้าเข้ามาอีกก้าวข้าจะเชือดเจ้าแน่!”
ซือเฉินไร้ซึ่งวาจาจะเอ่ย
เขาเดินเข้าหาคมดาบนาง ปัดใบดาบนางออก แล้วคว้าข้อมือนางมาสัมผัสใบหน้าตน “เจ้าสัมผัสดูซะ คนตายอุ่นเช่นนี้หรือไม่?”
………………………
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวทั้งหมดอย่างกระจ่าง
ที่แท้เจ้าหอยด้ตันี้ก็คือหอยกาบที่บำเพ็ญอยู่ในหุบเขามาหลายพันปี สถานที่แห่งนี้ก็คือรังที่อยู่ลึกลงไปใต้ดินของเจ้าหอยกาบ
สิ่งที่เจ้าหอยกาบเชื่ยวชาญที่สุดก็คือการสร้างภาพลวงตา ทำให้คนที่ตกลงมาที่นี่เข้าสู่ภาพลวงตาทันที
ยามที่พวกกู้ซีจิ่วหล่นลงมาก็เข้าสู่ภาพลวงตาด่านแรกที่เจ้าหอยกาบสร้างขึ้นแล้ว เพียงแต่ภาพลวงตานี้ทำอันตรายคนไม่ได้ อย่างมากสุดก็ทำให้หลงทางเท่านั้น
เมื่อกู้ซีจิ่วใช้วิชาเคลื่อนย้ายอีกครั้งถึงได้หลงเข้าไปในภาพลวงตาอย่างแท้จริง ภาพลวงตานั้นร้ายแรงถึงชีวิต หากแก้ไม่ตก เธอจะถูกขังไปตลอดกาล ถูกเจ้าหอยกาบเขมือบร่าง แม้แต่วิญญาณก็หนีออกมาไม่ได้
เจ้าหอยกาบรับรู้ความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดของผู้ที่ถูกขังได้ สามารถตรวจจับผู้คนบางส่วนที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจผู้ที่ถูกขัง แล้วมันก็จะสร้างภาพหลอนเป็นคนผู้นั้นไปปรากฎตัวในภาพลวงตาแล้วล่อลวง…
เมื่อผู้ที่ถูกขังเชื่อใจมัน ยื่นมือให้มันด้วยความเต็มใจ ก็เหมือนเป็นการทำพันธสัญญารูปแบบหนึ่ง จะถูกมันจับกิน และกลายเป็นอาหารอันโอชะของมัน
เนื่องจากซือเฉินอยู่ในภาพลวงตาด่านแรก กู้ซีจิ่วอยู่ในด่านที่สอง ดังนั้นถึงเธอจะรู้สึกชัดเจนว่าอยู่ที่เดิม แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะหาซือเฉินไม่พบ…
เรื่องเหล่านี้ย่อมมิใช่ซือเฉินอธิบายแก่กู้ซีจิ่ว แต่เป็นกู้ซีจิ่วสอบถามจากหอยยักษ์ตัวนั้นโดยตรง
เริ่มแรกหอยยักษ์ตัวนั้นไม่คิดจะพูด ถึงขั้นยังแข็งข้ออยู่หลายส่วน ท่าทางยอมหักไม่ยอมงอ แต่กู้ซีจิ่วใช้วิธีบีบคั้นทรมานจิตใจเพื่อให้สารภาพแบบยุคปัจจุบัน…
ด้วยเหตุนี้ เจ้าหอยยักษ์ตัวนั้นจึงยอมสารภาพจนหมดเปลือก พูดทุกอย่างที่ร็โดยไม่หมกเม็ด
เมื่อกู้ซีจิ่วได้รับข่าวสารที่ตนต้องการแล้ว ก็มองหอยตัวนั้นอีกครั้ง
บางทีอาจเป็นเพราะสัมผัสถึงรังสีสังหารในดวงตากู้ซีจิ่วได้ หอยยักษ์ตัวนั้นจึงตัวสั่นเทา “นี่ เมื่อกี้เจ้าบอกว่าขอเพียงข้าพูดออกมา ก็จะไว้ชีวิตข้า! เจ้าจะกลับคำพูดไม่ได้นะ”
กู้ซีจิ่วปรายตามองมัน “เมื่อกี้ข้าแค่บอกว่าขอเพียงเจ้าบอกทุกอย่างจะพิจารณาเรื่องไว้ชีวิต ตอนนี้ข้าพิจารณาดูแล้ว เจ้าก่อกรรมมหันต์…”
“เจ้านาย!” จู่ๆ เจ้าหอยยักษ์ก็ตะโกนขึ้นมา “ถ้าเจ้าปล่อยข้า ข้าจะยอมรับเจ้าเป็นเจ้านาย!”
กู้ซีจิ่วตะลึงงัน เจ้าหอยยักษ์ตัวนี้ปัญญาเป็นเลิศเหลือเกิน!
เพียงแต่สัตว์วิญญาณที่ผู้อื่นสยบได้ล้วนเป็นสัตว์วิญญาณที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ อย่างเช่นอาชาเวหา สิงโตเวหา…
แม้กระทั่งองค์ชายหรงเหยียนก็เคยสยบเสือดาวตัวหนึ่งมาเป็นสัตว์พาหนะได้
กว่าเธอจะสยบสัตว์วิญญาณสักตัวได้ไม่ง่ายเลย ไฉนถึงได้เป็นหอยตัวหนึ่งเล่า?
กู้ซีจิ่วมองฝาหอยสีเหลืองอ่อนของมันที่วนซ้อนเป็นวงกันดั่งวงปี ขมับเต้นตุบๆ เล็กน้อย
หากเธอให้มันเป็นสัตว์พาหนะ มันจะวิ่งทันหอยหากหรือเปล่า?
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ต่อไปเธอต้องนั่งตรงไหนบนตัวมัน? คงมิใช่ต้องนั่งบนฝามันกระมัง?
“ข้าไม่ใช่สัตว์พาหนะ!” เจ้าหอยยักษ์รีบออกตัว “ข้าเป็นวิชาห้วงฝันวายชนม์ สามารถช่วยเจ้าสังหารศัตรูได้ ขอเพียงพวกเขาเข้าใกล้ข้าในระยะหนึ่งลี้ ข้าก็สามารถฆ่าพวกเขาได้โดยไร้ร่องรอย”
“ข้าว่าถ้าเจ้าต้องการใช้วิชานี้สังหารผู้เป็นนาย ก็คงประสบความสำเร็จอย่างง่ายดายสินะ” กู้ซีจิ่วยิ้มมิเชิงยิ้ม ปลายดาบชี้ไปที่มัน!