บทที่ 55
ไม่ว่าผู้ก่อความวุ่นวายจะเป็นใครก็จงไล่ออกไปให้หมด
กู้ซีจิ่วเอ่ยเรียบๆ “ตัวข้านั้นรักสงบ ไม่ชอบให้มีผู้ใดมารบกวน เรื่องนี้ข้าก็เคยกำชับไปนานแล้ว หากบุกรุกที่นี่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากข้าก็ไม่ต่างอะไรกับโจร ครั้งนี้พวกเจ้าไม่ได้พยายามขัดขวางอย่างสุดความสามารถ ถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่ เห็นแก่ที่พวกเจ้าเพิ่งกระทำผิ เป็นครั้งแรก ข้าจะลงโทษสถานเบา โบยคนละสิบไม้และหักเบี้ยหวัดอีกครึ่งปี พวกเจ้ายินยอมหรือไม่?”
เรื่องเหล่านี้กู้ซีจิ่วเคยกำชับไว้แล้วจริงๆ เพียงแต่พวกนางไม่คิดว่าคุณหนูหกผู้นี้จะถือเป็นจริงเป็นจังขนาดนี้ หากยามนั้นพวกนางพยายามขัดขวางไว้อย่างสุดความสามารถ คงจะยื้อไว้ได้สักพัก
ยามนี้กู้ซีจิ่วสั่งลงโทษแล้ว พวกนางจึงต้องยินยอมอย่างช่วยไม่ได้ ได้แต่ก้มหัวรับโทษ
กู้ซีจิ่วยังสั่งหัวหน้าสาวใช้ให้เรียกสาวใช้คนหนึ่งที่เมื่อครู่พยายามสกัดกั้นไว้อย่างสุดกำลังเข้ามา ชมเชยว่านางทำได้ดี ตกรางวัลให้นางต่อหน้าคนอื่นๆ ทั้งยังเลื่อนขั้นให้นางจากสาวใช้เก็บกวาดกลายเป็นสาวใช้คนสนิท
การลงโทษและตกรางวัลของเธอครั้งนี้ เป็นการตบหน้ากู้เทียนฉิงสองพี่น้องอย่างจัง!
เธอยังจัดการไม่ทันเสร็จ กู้เทียนฉิงสองพี่น้องก็อยู่ไม่สุขแล้ว
กู้เทียนอีหวีดร้องเสียงแหลมอย่างเกรี้ยวกราด “เจ้า…เจ้า มันไร้เหตุผลสิ้นดี! พวกเราเป็นพี่สาวของเจ้านะ จะนับว่าบุกรุกเรือนเจ้าได้อย่างไร?! พวกเรามาเรือนนี้ไม่ได้งั้นหรือ?! รู้เอาไว้ซะว่าที่นี่คือจวนตระกูลกู้ ครอบครัวเดียวกันยังจะมาพูดเรื่องบุกรุกไม่บุกรุกอะไรกันอีก…”
“ห้องหนังสือของท่านพ่อ ท่านกล้าย่างกรายเข้าไปไหม? แล้วห้องนอนของแม่ท่านล่ะกล้าเหยียบย่างเข้าไปหรือไม่?” กู้ซีจิ่วกล่าวด้วยนํ้าเสียงเย็นชา
กู้เทียนอีอึกอัก “นี่…พวกเขาเป็นผู้อาวุโสนะ ห้องของผู้อาวุโสย่อมไม่อาจบุกเข้าไปได้ตามอำเภอใจ…”
“เช่นนั้น…ห้องของพี่สาวทั้งสามคนของท่านล่ะ? ท่านกล้าเข้าไปโดยไม่ขออนุญาตจากพวกนางหรือไม่?” นัยน์ตาของกู้ซีจิ่วจ้องเขม็งไปที่นาง
“หรือจะบอกว่าห้องนอนของท่านพี่น้องคนอื่นๆ สามารถเข้าไปตามอำเภอใจได้? อยากจะเข้าก็เข้าได้เลย?”
กู้เทียนอีเจอคำถามนี้เข้าไป ได้แต่อ้าปากค้างทว่าพูดโต้แย้งไม่ออกสักคำ
ห้องของพวกนางก็ไม่อาจบุกเข้าไปได้ตามอำเภอใจ เพียงแต่พวกนางไม่เคยเห็นกู้ซีจิ่วอยู่ในสายตาเลย ที่อยู่ของกู้ซีจิ่วพวกนางก็เข้านอกออกในตามอำเภอใจจนเคย ชินไปแล้ว นอกจากจะเข้าออกตามใจแล้วยังเคยลงมือตบตีด้วย…
“น้องหก พวกเราเองก็ไม่อยากบุกรุกห้องนอนของเจ้า แต่เป็นเพราะไม่วางใจ…เอาเถอะ ในเมื่อเจ้ายังอยู่ดี เช่นนั้นก็ยุติเท่านี้แล้วกัน เทียนอี พวกเราไปกันเถอะ ควรกลับไปพักผ่อนกันได้แล้ว” กู้เทียนฉิงออกมาไกล่เกลี่ยให้จบลงด้วยดี พลางลากกู้เทียนอีที่ยังไม่ยินยอมออกไปด้วย
“พวกเจ้าจงฟัง ที่แห่งนี้อยู่ในการปกครองของข้ากู้ซีจิ่ว ไม่ว่าผู้ก่อความวุ่นวายจะเป็นใครก็จงไล่ออกไปให้หมด! หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นข้าจะรับผิดชอบเอง” นํ้าเสียงของกู้ซีจิ่วเยือกเย็นโดยธรรมชาติ เสียงก็ไม่ได้ดัง ทว่าทรงพลังยิ่งนัก!
“เจ้าค่ะ คุณหนูหก!” เสียงตอบรับของสาวใช้เหล่านั้นดังกังวานเป็นพิเศษ เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ แถมคุณหนูยังออกปากแล้ว ต่อไปพวกนางย่อมกล้าลงมืออย่างเต็มที่
กู้เทียนฉิงสองพี่น้องก็ได้ยินเช่นกัน เงาร่างชะงักเล็กน้อย แต่ท้ายที่สุดก็จากไป
ผู้ที่แต่ก่อนเคยเป็นดั่งโคลนเลนที่โดนเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้า จู่ๆ ยามนี้กลับแข็งแกร่งขึ้นมาถึงเพียงนี้ แถมยังสร้างความลำบากใจให้พวกนางหลายต่อหลายครั้ง นี่ทำให้กู้เทียนอีไม่คุ้นชินอย่างยิ่ง และขุ่นเคืองเป็นที่สุด พอกลับไปอยู่บนทางเดินก็บ่นออกมาอย่างเหลืออด “นังเด็กชั้นตํ่าคนนั้นชักจะกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว! คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าทำเช่นนี้กับพวกเรา! พี่สาม หรือว่าพวกเราต้องเลิกราเพียงเท่านี้หรือ?”
กู้เทียนฉิงเม้มริมฝีปากน้อยๆ แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
“พี่สาม ท่านว่านางโดนผีสิงหรือไม่? ถึงเปลี่ยนไปอย่างกับเป็นคนละคน…”
กู้เทียนฉิงสูดลมหายใจเข้าเบาๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย “ถ้าหากว่าโดนผีสิงจะเคลื่อนไหวเชื่องช้ามาก แววตาก็จะเลื่อนลอย แต่นางไม่คล้าย…”