Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 641

LamNamBubPaPit
BC

บทที่ 641 ซีจิ่ว ข้าทำขายหน้าเสียแล้ว…

กู้ซีจิ่วปรากฎตัวขึ้นมาจากความว่างเปล่า เธอปรากฏตัวเบื้องหน้าศิษย์คนนั้นโดยตรง ห่างกันไม่ถึงครึ่งเมตร ศิษย์คนนั้นสะดุ้งโหยง ถอยหลังไปตามสัญชาตญาณ พอเห็นคนที่มาชัดเจนก็หน้าเปลี่ยนสี “เป็นเจ้า!”

C

กู้ซีจิ่วคร้านจะสนใจเขา ยื่นมือให้หลานไว่หู “จิ้งจอกน้อย ลุกขึ้นมา!”

ดวงตาหลานไว่หูเปล่งประกาย แต่ยังอับอายอยู่บ้าง ”ซีจิ่ว ข้าทำขายหน้าเสียแล้ว…”

“เจ้าเป็นผู้ช่วยของนางหรือ? เหอะๆ พวกเจ้าคิดจะรุมข้าหรือไง?” ศิษย์คนนั้นโวยวายอยู่ด้านข้าง

กู้ซีจิ่วยังคงไม่สนใจเขาเช่น เดิมจับชีพจรให้หลานไว่หู พบว่านางได้รับบาดเจ็บภายในเล็กน้อย อาการภายนอกไม่ร้ายแรง ถึงได้วางใจ มอบยารักษาเม็ดหนึ่งให้นาง ปลอบนางพลางซักถาม “เกิดอะไรขึ้น?”

ความจริงต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ง่ายดายนัก อย่างที่ทุกคนทราบกันดี ในชั้นเรียนที่ยอดเยี่ยมล้วนมีศิษย์ที่รั้งท้ายอยู่สักคน

ผู้ที่อยู่เบื้อหน้านี้ก็เช่นกัน เขามีนามอันโดดเด่นว่าหวงเทียนสิง เขาเป็นอดีตสหายร่วมชั้นของหลานไว่หู ผลการเรียนเขารั้งท้ายอยู่ตลอด เพื่อปลอบประโลมจิตใจ เขาจึงมากลั่นแกล้งหลานไว่หูที่ไม่ได้เรื่องยิ่งกว่าเขา มักจะทุบตีหลานไว่หูจนน่วมเสมอ

ฝีมือเจ้าเด็กนี่ไม่ได้ดีเด่อะไรมากมาย แต่ก็เฉลียวฉลาดอยู่บ้าง ยามที่รังแกหลานไว่หูไม่เคยเหลือบาดแผลภายนอกที่เด่นชัดไว้บนร่างนางเลย ต่อให้มีแผลก็เป็นจุดที่ไม่อาจเปิดเผยได้ อย่างเช่น ท้องน้อย ต้นขา…ตำแหน่งใต้ร่มผ้าเหล่านี้เป็นเป้าหมายโจมตีของเขา

เนื่องจากตำแหน่งที่บาดเจ็บเหล่านี้ไม่เคยถูกผู้ใดพบเห็น แถมหลานไว่หูยังเป็นสาวน้อยที่ค่อนข้างหัวรั้นด้วย เหตุการณ์ที่ถูกรังแกส่วนมากจะไม่บอกแก่เยี่ยนเฉิน ด้วยเหตุนี้เจ้าเด็กคนนี้จึงรังแกนางหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ทุกสามวันห้าวันจะมาหาเรื่องนางสักครั้ง

จวบจนกู้ซีจิ่วมาถึง จิ้งจอกน้อยชอบป้วนเปี้ยนวอแวเธอ แทบจะไม่ออกห่างเธอเลย ทำให้สิบวันมานี้เจ้าเด็กนี่หาโอกาสไม่ได้

หนนี้ จิ้งจอกน้อยอยู่ลำพัง จึงถูกเขาสกัดไว้

เจ้าเด็กนี่คงจะได้ยินเรื่องที่กลุ่มของหลานไว่หูสยบชั้นเรียนเมฆาคล้อยทั้งหมดได้ และไม่เชื่ออย่างยิ่งว่าจิ้งจอกปวกเปียกที่ปล่อยให้เขารังแกตัวนั้นจะเก่งกาจได้ถึงเพียงนี้ ดังนั้นจึงสกัดหลานไว่หูไว้แล้วบังคับให้นางประมือกับตน…

หลานไว่หูทั้งเกลียดทั้งกลัวเขา ไม่อยากประมือกับเขา แต่เจ้าเด็กนี่ขวางทางไว้ไม่ให้นางจากไป สุดท้ายจึงจำใจต้องประมือด้วย

ต่อมาหลานไว่หูพ่ายแพ้ เลยถูกเขาทุบตีจนน่วมอีกครั้ง กลายเป็นเหตุการณ์เมื่อครู่นี้

ชั่วระยะที่พูดกันอยู่ เชียนหลิงอวี่ก็มาถึง เมื่อเขาเห็นสหายตัวน้อยที่ปกติน่ารัก น่าเอ็นดู ถูกทุบตีจนน่าเวทนาเช่นนี้ โทสะก็พวยพุ่งสูงสามจั้ง เงื้อแขนถกแขนเสื้อหมายจะเข้าไปชกตีคน

หวงเทียนสิง ค่อนข้างหวาดกลัว พยัคฆ์ร้ายยังหวั่นเกรงฝูงหมาป่า นับประสาอะไรกับเขาที่ไม่ใช่พยัคฆ์ร้าย…

ในใจเขาหวาดหวั่น แต่สีหน้ายังคงหยามหมิ่นยิ่งนักอยู่ “นี่พวกเจ้า คิดจะรุมหรือ? เหอะๆ ข้ากับนางประลองกันอย่างถูกต้อง นางแพ้ก็สมควรยอมรับผลของการพ่ายแพ้…”

เชียนหลิงอวี่เดือดดาลยิ่ง “ตัวอย่างเจ้า มีค่าพอให้พวกข้ารุมหรือไง? คุณชายน้อยอย่างข้าคนเดียวก็สามารถจัดการเจ้าได้อยู่หมัดแล้ว!”

หวงเทียนสิงถอยไปด้านหลัง “ข้าประลองไปแล้วรอบหนึ่ง นี่เจ้าจะสู้แบบผลัดไม้หรือ? เหอะ เช่นนั้นถึงเจ้าชนะก็ไม่นับว่ามีฝีมืออะไร!”

กู้ซีจิ่วตบไหล่หลานไว่หูเบาๆ “จิ้งจอกน้อย เจ้าเชื่อใจข้าไหม?”

หลานไว่หูตะลึงไปครู่หนึ่ง พยักหน้าอย่างหนักแน่น “เชื่อ!”

“ดี เช่นนั้นก็สู้กับเขาอีกครั้ง! วางใจเถอะ ด้วยวรยุทธ์ของเจ้าเอาชนะเขาได้แน่ ขอเพียงทุ่มเทให้เต็มที่ก็พอ” จากนั้นก็มองหวงเทียนสิงแวบหนึ่ง “กล้าประลองกับนางอีกตาหรือไม่?”

หวงเทียนสิงเชิดหน้าตอบ “มีอะไรให้ไม่กล้ากัน? พวกเจ้าอย่ากลัวที่ข้าทุบตีนางจนหมอบอีกครั้งก็พอ!”

——————————————————————

[1] คัดนายทัพจากหมู่คนเป๋ อุปมาถึง การคัดเลือกคนที่พอจะใช้การได้บ้างจากเหล่าคนที่ใช้การไม่ได้เลย

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!