Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 645

บทที่ 645 รุกไล่อย่างห้าวหาญ

“เช่นนั้นท่านทำเพราะเหตุใด? ข้าทราบว่าวิชาหลอมโอสถของแม่นางกู้ผู้นี้ร้ายกาจมาก เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดี เรื่องนี้ทุกคนล้วนยอมรับ และข้าก็ทราบว่านางเคยสร้างปาฏิหาริย์อยู่หลายหน สติปัญญาก็เฉียบแหลมนัก ถึงขั้นรู้ทั้งวิชาแพทย์และวิชากู่ ช่วยสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์พวกเราหาตัวคนชั่ว สร้างความชอบใหญ่หลวง เรื่องนี้ทุกคนทราบกันดี รู้สึกว่านางเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งจริงๆ แต่อย่างไรก็ตามพลังวิญญาณของนางขั้นห้ามิใช่หรือ? พอถึงยามที่สู้กันเข้าจริงๆ ข้าเกรงว่านางจะไม่ไหว พ่ายแพ้เป็นเรื่องเล็ก หากว่าพลาดพลั้ง นางบาดเจ็บขึ้นมาจริงๆ จะทำอย่างไร? เกรงว่าจะให้

คำอธิบายแก่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้นะขอรับ”

“วางใจเถอะ! ทุกอย่างยังมีข้าอยู่! เจ้าให้ศิษย์ของเจ้าทุ่มเทสุดความสามารถก็พอ”

ดวงตาอาจารย์เมิ่งทอแสงแวบหนึ่ง เขารอประโยคนี้อยู่เลย!

ในสนามรบไม่ยึดถือสายสัมพันธ์ เขาเคยสั่งสอนศิษย์ว่าต้องเอาจริงทุกครั้งที่ลงสนามต่อสู้ ในการต่อสู้ต้องใช้พลังทั้งหมด ตอนนี้อาจารย์ใหญ่กู่กล่าวเช่นนี้แล้ว เขายังต้องกลัวอะไรอีกเล่า?

เขารีบส่งกระแสเสียงให้ศิษย์สามคนนั้นของตน ที่เพิ่งขึ้นมาบนเวที ‘แสดงฝีมือได้เต็มที่! พยายามเล่นงานพวกเขาให้หมอบในชั่วลมหายใจเดียว จบเรื่องตลกฉากนี้เสียเนิ่นๆ!’

ดวงตาของศิษย์สามคนนั้นเปล่งประกาย รีบถูไม้ถูมือทันที!

ถ้าลงมืออย่างไว้หน้า พวกเขาก็ต้องระมัดระวัง ค่อนข้างลำบากนัก นี่สามารถแสดงฝีมือได้เต็มที่แล้วยังต้องกลัวอะไรอยู่อีก?!

ลุยกันเลย!

จิตวิญญาณการต่อสู้ลุ้กโชนอยู่ในดวงตาพวกเขา…

การประลองเริ่มขึ้นแล้ว …

การประลองครั้งนี้รวดเร็วยิ่ง ไปๆ มาๆ ไม่ถึงครึ่งชั่วยามด้วยซํ้า บนเวทีศิษย์ชั้นเมฆาม่วงทั้งสามคนนอนหมอบอยู่บนพื้นสองราย อีกรายหนึ่งถึงแม้ยังยืนไหว แต่เสื้อผ้าที่สวมถูกกรีด จนขาดวิ่น แม้แต่เส้นผมก็ขาดแหว่งไปไม่น้อย จนตรอกอย่างยิ่ง

แต่พวกกู้ซีจิ่วทั้งสามยังยืนอยู่ตรงนั้นอย่างปกติดี เชียนหลิงอวี่กำลังเท้าเอวหัวเราะเยาะอยู่ตรงนั้น “ดูเหมือนชั้นเมฆาม่วงก็ไม่เท่าไหร่นี่ ฮ่าๆๆๆ”

กู่ฉานโม่ถามอาจารย์ เมิ่งที่มองด้วยสายตาโง่งม “ศิษย์ของเจ้าทุ่มเทสุดความสามารถแล้วใช่หรือไม่? ถูกศิษย์ชั้นเมฆาคล้อยเอาชนะได้คงเสีย หน้ามากเอาการ”

อาจารย์เมิ่งหน้าแดงเถือก เขาสูดลมหายใจเฮือกหนึ่ง เอ่ยถามกู่ฉานโม่ “ข้าส่งไปอีกกลุ่มได้ไหมขอรับ?”

มารดามันเถอะ หากรู้ล่วงหน้าว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้ เขาคงไม่จับสะเปะสะปะจนได้ที่โหล่ แล้วส่งศิษย์กลุ่มที่ด้อยที่สุดมาประลอง!

กู่ฉานโม่หน้าตึง “เจ้าคิดจะเวียนกลุ่มสู้กับเด็กสามคนนี้หรือไง?”

อาจารย์เมิ่งพูดไม่ออก…

กู่ฉานโม่ตบไหล่เขาเบาๆ “เหล่าเมิ่ง เห็นแก่ที่เจ้าน่าเวทนาถึงเพียงนี้ ข้าจะให้เจ้าประลองอีกตาก็ได้ เพียงแต่ต้องเป็นอีกสามวันให้หลัง หวังว่าเจ้า จะคัดคนมาดีๆ หากอีกสามวันให้หลัง คนของเจ้ายังแพ้อีก ผู้เฒ่าคงรู้สึกขายหน้าแทนเจ้าแล้ว…”

ถึงแม้การประลองครั้งนี้จะมีผู้ชมหร็อมแหร็ม แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกลับมหาศาลยิ่ง เพียงวันเดียวก็แพร่ทั่วทุกมุมของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ แม้แต่ข้ารับใช้ที่รับหน้าที่ทำความสะอาดโดยเฉพาะก็ทราบกันทั่ว

ศิษย์ชั้นเมฆาคล้อยเชิดหน้าภาคภูมิ ศิษย์ชั้นเมฆาม่วงห้องสามกลายเป็นที่น่าขบขันของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ สามวันนั้น ศิษย์ของห้องสามเดินไปไหนล้วนไม่กล้าเงยหน้าขึ้น เห็นคนก็หลบทันที…

แน่นอนว่าพวกเขาแต่ละคนก็หายใจไม่ทั่วท้องเช่นกัน รอคอยที่จะได้ต่อสู้แก้ตัว ประกาศศักดาในอีกสามวันให้หลัง

….

สามวัน ต่อมา ณ สนามกีฬา

ที่นั่งผู้ชมแน่นขนัด ไม่เพียงแต่ศิษย์และอาจารย์ทั้งมาที่มาดู แม้แต่พ่อครัวใหญ่ของโรงอาหารก็วิ่งมาดูด้วย

เพื่อสู้แก้ตัว คราวนี้อาจารย์เมิ่งได้ส่งกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดในชั้นเรียนมา สามคนนั้นพอขึ้นเวทีมากลิ่นอายก็แตกต่างกันแล้ว เอาชนะไปก่อนด้วยเสียงปรบมือที่ดังกึกก้อง

เป็นครั้งแรกที่หลานไว่หูได้เข้าการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ นางมองดูศีรษะคนที่ดำพรืดอยู่ด้านล่างแล่วค่อนข้างลายตา เมื่อมองเห็นคู่ต่อสู้ทั้งสามคนชัดเจนแล้ว ฝ่ามือนางก็มีหยาดเหงื่อซึมออกมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!