Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 700

บทที่ 700 ให้ฉันดูแผลเธอก่อน…

แววตาของนางจริงใจ ท่าทางของนางก็จริงใจ ร่างกายของตี้ฝูอีแข็งทื่อเล็กน้อย หลุบตามองนาง “เจ้าอยากให้ข้าไปดูนางหรือ?”

นํ้าเสียงคล้ายสะกดกลั้นบางอย่างไว้ แฝงความหม่นหมองไว้รางๆ

ตอนนี้กู้ซีจิ่วเพียงอยากให้เขาจากไป จึงไม่สังเกตเห็นอารมณ์ที่ผันผวนของเขาเลย พยักหน้าทันที “ใช่ ถึงแม้นาง…นางจะลงมืออย่างชั่วร้ายก่อน แต่ด้วยฐานะของท่าน ยามนี้สมควรไปอยู่…ไปอยู่ข้างกายนางจริงๆ…”

ตอนนี้เขาคงจะเป็นคนรักของอวิ๋นชิงหลัวแล้ว เช่นนั้นมิใช่ว่าเขาสมควรไปอยู่ข้างกายอวิ๋นชิงหลัวหรอกหรือ?

ตี้ฝูอีมองนางครู่หนึ่ง “หากว่า…ข้าอยากเฝ้าอยู่ข้างกายเจ้าเล่า?”

กู้ซีจิ่วตะลึง แววตาเธอเยียบเย็นลง ยิ้มเยาะ “ข้าไม่อยากให้ท่านอยู่ข้างกายข้า!”

คนผู้นี้เมื่อคืนยังอยู่กับอวิ๋นชิงหลัวในเทศกาลความรักอยู่เลย จู๋จี๋กันต่อหน้าเธอ วันนี้ตอนอยู่บนเวทีก็พูดคุยกับอวิ๋นชิงหลัวอยู่ตลอด จู่ๆ เหตุใดยามนี้ถึงได้มาเล่นละครมามีเยื่อใยต่อเธออยู่ที่นี่อีกเล่า?

จะเหยียบเรือสองแคมหรือ?

หรือว่าเขาจะคิดแบบเดียวกับผู้ชายส่วนใหญ่ในยุคนี้ ขอเพียงเป็นสตรีที่ชมชอบก็จะรั้งไว้ข้างกายทั้งสิ้น คิดจะเปิดฮาเร็มสาวงามหรือ?

หากกล่าวว่าการกระทำทั้งหมดของเขาก่อนหน้านี้เป็นการตบหัวเธอ เช่นนั้นยามนี้คคิจะมาลูบหลังสินะ?

เธอไม่ต้องการ!

อย่าว่าแต่เขาจะลูบหลังเธอเลย ต่อให้เขามอบถุงนํ้าผึ้งที่หอมหวานให้เธอก็ไม่ยอมรับ!

ความโกรธเกรี้ยวปะทุขึ้นมาในทรวง เธออดไม่ได้ที่จะสูดหายใจถี่ๆ แต่แบบนี้ยิ่งทำให้บาดแผลที่ทรวงอกถูกกระเทือนกว่าเดิม รู้สึกเพียงว่าพลัง วิญญาณในร่างเธอไหลออกไปเร็วกว่าเก่า แน่นอนว่าความเจ็บปวดนั้นก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวด้วย ทำให้คนเข้มแข็งแบบเธอแทบจะกรีดร้องออกมา!

“เจ้าปล่อยนางซะ!” เห็นชัดว่าหลงซือเย่มองออกว่าอารมณ์ของกู้ซีจิ่วแปรปรวน วาดแขนออกไป ผลักตี้ฝูอีอกไปทันที

ตี้ฝูอีใจลอยอยู่บ้าง เมื่อถูกเขาผลักก็ซวนเซ ถอยหลังไปหลายก้าว

หลงซือเย่ก็คิดไม่ถึงว่าจะสำเร็จง่ายดายเช่นนี้ ตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็โอบกู้ซีจิ่วเข้ามาไว้ในอ้อมอกทันที

เดิมทีกู้ซีจิ่วก็เจ็บจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่แล้ว ยามนี้พอเปลี่ยนเป็นหลงซือเย่โอบประคองเธอไว้ เธอย่อมรู้สึกโล่งอก ร่างกายพลันอ่อนยวบ พิงอยู่ในอ้อมอกเขา บ่นพึมพำประโยคหนึ่ง “ครูฝึกหลง ระงับความเจ็บปวดได้หรือเปล่า? ระ…ระงับความเจ็บให้ฉันก่อน…บาดแผลนี้…เจ็บเกินไป เหมือนมีตัวต่อนับไม่ถ้วนต่อยอยู่ข้างในเลย…”

หลงซือเย่กอดเธอแน่น มองดวงหน้าที่แทบชุ่มไปด้วยเหงื่อของเธอ ตอบไปตามสัญชาตญาณ “ได้! ให้ฉันดูแผลเธอก่อน…”

สายตาหันเหไปยังกระบี่ที่เสียบอยู่บนอกเธอ ชะงักไปเล็กน้อย สังเกตดูรูปร่างกระบี่เล่มนั้นอย่างละเอียดอีกครั้ง สีหน้าค่อยๆ แปรเปลี่ยนไป “ซีจิ่วตอนนี้นอกจากเจ็บแล้ว เธอยังรู้สึกอะไรอีกไหม?”

ถึงแม้เขาจะพยายามสงบเยือกเย็นสุดความสามารถแล้ว แต่นํ้าเสียงก็ยังสั่นเครืออยู่เล็กน้อย

“เจ็บแทบตาย แล้วก็…แล้วก็ไม่มีแรง เรี่ยวแรงทั้งหมดล้วนถูกกระบี่เล่มนี้สูบออกไป รู้สึกคันนิดๆ ด้วย”

ตอนนี้กู้ซีจิ่วเจ็บจนเบื้องหน้ามืดมัวแล้ว ทว่ายังฝืนตอบ

ในอดีตเธอได้รับบาดแผลน้อยใหญ่มาไม่รู้กี่หนต่อกี่หนแล้ว อย่าว่าแต่บาดแผลแทงทะลุเลย ต่อให้กระดูกหักก็เคยมาหลายครั้งแล้ว แต่เธอกลับไม่เคยเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อน!

ในอดีตต่อให้บาดเจ็บสาหัสเธอก็สามารถแย้มยิ้มดั่ง สตรีผู้ห้าวหาญได้ ถูกหลงซีขนานนามว่ากวนอูหญิง แต่ตอนนี้ความเจ็บปวดนี้ทำให้เธออยากเป็นเหน็บชา อยากหลั่งนํ้าตา อยากพุ่งชนกำแพง อยากฆ่าตัวตายซะ…

นิ้วหลงซือเย่แตะด้านกระบี่เบาๆ เห็นได้ชัดว่าใช้แรงน้อยนิดยิ่ง แต่กู้ซีจิ่วกลับเจ็บจนกายสั่นสะท้าน กัดฟันเอ่ยออกมาว่า “อย่าแตะ…”

หลงซือเย่เงยหน้ามองตี้ฝูอีที่ยืนอยู่ด้านข้างในทันใด สายตาคุกรุ่นดั่งเปลวเพลิง “เป็นกระบี่แฝงคำสาปหรือ?!”

ตี้ฝูอีพยักหน้า “ใช่!”

หลงซือเย่กำมือแน่น “อวิ๋นชิงหลัวผู้นี้ชั่วช้านัก! นางใช่สานุศิษย์สวรรค์จริงหรือ?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!