Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 757

LamNamBubPaPit
BC

บทที่ 757 ข้าควรถอดให้เจ้ามาใส่ให้ข้าอีกรอบ

กู้ซีจิ่วไม่แยแสคำพูดคนอื่น ไม่แยแสสายตาคนอื่น แต่เธอใส่ใจเพื่อนฝูง แถมเรื่องนี้ยังอธิบายไม่ได้อีก…

C

“ล้วนเป็นเพราะท่าน!” กู้ซีจิ่วรู้สึกอึดอัดนัก

“อืม ล้วนเป็นเพราะข้า” นํ้าเสียงตี้ฝูอีอ่อนโยน จับมือข้างหนึ่งของเธอไว้ “ไม่หงุดหงิดแล้วใช่ไหมหือ?”

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก

ตี้ฝูอีลุกขึ้นพลางจูบหน้าผากเธอ “ไปกันเถอะ”

กู้ซีจิ่วลูบหน้าผากที่ถูกจูบ แล้วมองตี้ฝูอีที่ลุกไปเดินพลิ้วอยู่ข้างหน้า ทันใดนั้นก็รู้สึกตัว “เอ๊ะ ท่านใส่เสื้อผ้าตั้งแต่ตอนไหนกัน?!”

เจ้าคนผู้นี้สวมเสื้อผ้ารวดเร็วกว่าสายลมอีก!

เพียงชั่วระยะที่เธอหงุดหงิดยุ่งเหยิง เขาก็สวมอาภรณ์ทั้งชุดเรียบร้อยแล้ว!

หากรู้เช่นนี้แต่แรก เมื่อกี้เธอจะให้เขาใส่เอง และไม่ไปใส่ให้เขา จนเป็นเหตุให้จิ้งจอกน้อยเข้าใจผิด…

เธอถามไถ่ด้วยนํ้าเสียงติเตียน เป็นคำถามเพื่อติเตียนว่าในเมื่อเขาใส่ได้รวดเร็วถึงเพียงนี้แล้วจะให้เธอใส่ให้ทำไม

ถามอย่างร้อนรนเกินไป ตี้ฝูอีคล้ายว่าจะเข้าใจผิด เขายืนนิ่ง หันกลับมามองเธอ ถามอย่างลังเล “หรือว่าข้าควรถอดให้เจ้ามาใส่ให้ข้าอีกรอบ?”

กู้ซีจิ่วเงียบงัน…

….

สำหรับเด็กสาวแล้ว พิธีปักปิ่นคือวันสำคัญ หากว่าศิษย์ของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์เข้าเกณฑ์วัยปักปิ่นขณะที่อยู่ในสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ เช่นนั้นสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ก็จะจัดเตรียมงานเลี้ยงฉลองอย่างยิ่งใหญ่ให้นางโดยเฉพาะ

วันปักปิ่นของกู้ซีจิ่วอันที่จริงพวกกู่ฉานโม่ล้วนทราบกันล่วงหน้าแล้ว อีกทั้งระยะนี้เธอก็สร้างชื่อไว้ในสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ ทำให้คนทั้งหลายมองในมุมใหม่ เมื่อกู่ฉานโม่ปลาบปลื้มยินดี งานเลี้ยงที่จัดเตรียมไว้ให้เธอจึงยิ่งใหญ่เป็นพิเศษ งานเลี้ยงจัดขึ้นที่โถงจันทร์ล่องซึ่งเป็นห้องโถงที่ใหญ่ที่สุดในสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์

ยามที่กู้ซีจิ่วไปถึง ที่นั่นก็เปลี่ยนโฉมใหม่แล้ว เธอไม่ได้มาพร้อมกับตี้ฝูอี ด้วยเกรงว่าจะถูกผู้อื่นซุบซิบนินทา เธอเลยให้ตี้ฝูอีล่วงหน้ามาก่อน ส่วนเธอกลับไปที่คฤหาสน์หลังนั้น เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่แล้วค่อยมา

ตอนนี้เธออยู่ในร่างของตี้ฝูอี คนทั้งหลายล้วนรู้จักเธอในฐานะของตี้ฝูอี เมื่อเธอมาถึง ตั้งแต่ด้านในประตูจนถึงนอกประตูล้วนพากันคุกเข่าเสียงดังครืนๆ

เดิมทีกู้ซีจิ่วรู้สึกว่าพิธีปักปิ่นอายุครบสิบห้าปีของตนเป็นวันสำคัญ เมื่อไม่อาจรับคำอวบพรเหล่านั้นด้วยตัวเองได้จึงหม่นหมองอยู่บ้าง แต่ยามนี้เมื่อได้เห็นฉากนี้ ความหม่นหมองนั้นก็สลายไปไม่น้อยแล้ว

ตนอนนี้เธอคือทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ย่อมได้นั่งในต่ำแหน่งที่ดีที่สุด กู่ฉานโม่คอยอยู่เป็นเพื่อนด้านข้างด้วยตัวเอง

กู้ซีจิ่วเชี่ยวชาญด้านการเล่นละครมาโดยตลอด ปลอมเป็นมังกรก็เหมือนมังกร แสร้งเป็นพยัคฆ์ก็เหมือนพยัคฆ์ อีกทั้งเธอคุ้นเคยกับตี้ฝูอี ย่อมเลียนแบบเขาได้เต็มสิบส่วน ฝูงคนในที่นี่ไม่มีสักคนที่จะมองออกว่าเธอเป็นตัวปลอม พอมาถึงเธอก็พบว่าตี้ฝูอียังไม่มา…

เธอกระวนกระวายใจอยู่บ้าง ตี้ฝูอีอยู่ในร่างเธอ ยามนี้เขาคือตัวละครหลัก เขาคงไม่เล่นแผลงๆ อันใดกระมัง?

เมื่อกวาดตามองรอบๆ ก็พบว่าคนส่วนใหญ่ล้วนมากันแล้ว

เดิมทีเมื่อศิษย์ต้องผ่านพิธีปักปิ่นซึ่งเป็นวันสำคัญ เหล่าอาจารย์จำเป็นต้องเข้าร่วม แต่บรรดาศิษย์นั้นไม่มีการกะเกณฑ์ มาก็ได้ไม่มาก็ได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับมิตรภาพในยามปกติ

ในสถานการณ์ตามปกติ ยามที่ศิษย์คนหนึ่งเข้าพิธีปักปิ่น ก็จะเป็นสหายร่วมชั้นของนางที่มาครอบครองพื้นที่ในงาน ศิษย์คนอื่นๆ มากันน้อยยิ่ง หากว่าอัธยาศัยไม่ดีหรือว่าความสามารถธรรมดาแม้กระทั่งสหายร่วมชั้นก็ยังไม่แน่ว่าจะมา นอกเสียจากลูกแมวน้อยสองสามตัว

แต่หนนี้คือพิธีปักปิ่นที่เป็นวันสำคัญของกู้ซีจิ่ว ศิษย์แทบทั้งสำนักศึกษาชุมนุมล้วนมากันถ้วนหน้า!

แม้แต่ศิษย์ของชั้นเรียนระดับสูงก็ไม่เว้น

กู้ซีจิ่วกวาดสายตามองฝูงชนเงียบๆ ในใจมีความตื้นตันเอ่อล้นขึ้นมา ไม่ง่ายเลยจริงๆ กว่าเธอจะพึ่งพาความสามารถของตน จนได้รับความเคารพเลื่อมใสเหล่านี้มา…

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!