Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 819

บทที่ 819 บนโลกใบนี้ยังคงเป็นข้าที่รักเจ้าที่สุด

ทิวทัศน์ของศาลากลางนํ้าหลังนี้ยอดเยี่ยมมาก เมื่อก่อนเธอก็มานั่งเล่นที่นี่เป็นประจำ นอนที่นี่ในคืนสุดท้ายก็ไม่เลว

เธอนอนทั้งชุดนั้น จิตใจค่อนข้างว้าวุ่น ราวกับผิวทะเลสาบที่สงบราบเรียบมาโดยตลอดถูกคนก่อกวน ขว้างหินก้อนใหญ่ใส่ทะเลสาบที่เงียบสงบของเธอ ก่อให้เกิดระลอกคลื่นมหึมา ทำให้เธอสงบใจไม่ลงชั่วขณะ

เธอนั่งสมาธิครู่หนึ่ง พยายามทำให้ความคิดว่างเปล่า ถึงได้ทำให้จิตใจค่อยๆ สงบลงได้ จากนั้นก็เอนตัวนอน หลับตาสูดหายใจลึกๆ นับแกะ

นึกไม่ถึงว่าจะผล็อยหลับไปจริงๆ

ตี้ฝูอีกลับมาค่อนข้างดึกย่อมหาตัวเธอพบช้าไปหน่อย ยามที่หาเธอเจอเธอก็หลับสนิทอยู่ที่นั่นแล้ว

เครื่องหน้าของนางงดงามนัก ยามที่นอนหลับเช่นนี้ แพขนตายาวหลุบต่ำ ก่อเป็นเส้นโค้งมนสลัวๆ ด้านล่างดวงตา ขับเน้นให้ผิวนางใสกระจ่างปานหยก งามลออดั่งตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ ริมฝีน้อยแดงระเรื่อเม้มอยู่นิดๆ ทำให้คนอยากแนบจุมพิตลงไปสักครา ต้องการตีตราของตนลงไป

เห็นกันอยู่ชัดเจนว่าเขาเพิ่งคืนร่างน้อยๆ นี้ให้นางไปไม่นาน เขาคุ้นชินยิ่งนักชัดๆ แต่ยามนี้พอสลับมาเห็นนางในอีกมุมหนึ่ง เขาก็ยังคงปรารถนาจะดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด ปกป้องคุ้มครองนาง

บางทีนี่อาจเป็นเพราะดวงวิญญาณของนางที่อยู่ด้านในกระมัง?

เขาชอบดวงวิญญาณที่อยู่ในสังขารนี้ เด็กสาวผู้มาจากต่างภพ เขานั่งลงมองนางที่หลับใหลอยู่อย่างค่อนข้างใจลอย

ด้านนอกศาลามีลมพัดเสียงดังหวีดหวิว สายลมโชยเข้ามาในศาลา ดูเหมือนนางจะหนาวอยู่บ้างจึงขดกายเล็กน้อย เขาถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกแล้วห่มลงบนร่างนาง เสื้อคลุมตัวนอกผืนนี้ของเขาความจริงแล้วเป็นอาภรณ์วิเศษผืนหนึ่ง ฤดูหนาวอุ่น ฤดูร้อนเย็น แถมยังเบาดั่งปุยนุ่น ยามที่ห่มลงบนร่างนางก็ไม่ได้ทำให้นางตกใจเลย นางยังคงดำดิ่งอยู่ในห้วงฝันเช่นเดิม ไม่รู้ว่านางฝันเห็นอันใด มุมปากจึงหยักโค้งนิดๆ คล้ายกับฝักถั่ว พวง

แก้มขาวเนียนปรากฏรอยบุ๋มจางๆ

“เด็กน้อย ฝันอะไรอยู่? ฝันถึงข้าหรือเปล่า?” ปลายนิ้วตี้ฝูอีเกลี่ยพวงแก้มนาง มุมปากปรากฏรอยยิ้มเช่นกัน เสมือนว่าเห็นนางมีความสุขเขาก็มีความสุขด้วย

กู้ซีจิ่วย่อมไม่มอบคำตอบอันใดให้เขา แน่นอนว่าไม่ได้ยินคำถามของเขาด้วย

สายตาเขาร่วงลงบนหยกนภาตรงข้อมือนาง หนก่อนตอนที่รักษาอาการบาดเจ็บให้นางเนื่องจากเกรงว่าเจ้านี่จะมองฐานะของเขาออก เขาเลยผนึกจิตสำนึกของมันไว้ ภายหลังก็ไม่ได้คลายผนึกให้มันเลย ด้วยเหตุนี้มันจึงหลับใหลมาจนถึงยามนี้

ดูเหมือนยามนี้สมควรคลายผนึกให้มันได้แล้ว สาวน้อยผู้นี้จะได้ไม่ต้องเป็นกังวลว่าหยกของนางพักเสียหาย…

ลำแสงสีขาวอ่อนจางผุดขึ้นมาปลายนิ้วเขา กำลังจะเปิดใช้งานหยกชิ้นนั้น แต่เมื่อคิดๆ ดูก็หยุดลงอีกครั้ง โน้มกายลงไปเล็กน้อย กลั้นลมหายใจแล้วเข้าไปใกล้ๆ นาง สัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ ของนางที่เป่ารดใบหน้าตน ริมฝีปากอยู่ห่างจากริมฝีปากของนางเพียงเฉียดฉิวแล้วหยุดนิ่ง เขาค่อนข้างโหยหารสจูบของนาง ทำให้เขาอยากจุมพิตนางอีกครายิ่งนัก แต่ตอนนี้เขาไม่กล้าจูบลงไปจริงๆ!

เด็กสาวผู้นี้ตื่นตัวยิ่งนัก หากเป็นคนทั่วไปอยู่ใกล้นางถึงเพียงนี้นางคงตื่นไปนานแล้ว!

แต่เพราะเป็นเขา เขาสะกดความมีตัวตนของตนไว้จนคล้ายไม่มีตัวตนอยู่ เช่นนี้จึงไม่ดึงดูดให้ร่างกา ยนางตื่นตัวตามสัญชาตญาณ นางเลยไม่ตกใจตื่น เพียงแต่เขาก็ไม่อาจจุมพิตลงไปจริงๆ ได้เช่นกัน ถ้าจูบลงไปจริงๆ นางคงจะตื่น

ถ้าจุมพิตแล้วตื่นขึ้นมาจริงๆ สิ่งแรกที่นางจะทำ คงมิใช่เคลิบเคลิ้ม แต่เป็นตบคนชีกออย่างเขาสักฉาด!

แบบนั้นไม่น่าโสภาเท่าไหร่!

ถ้าหากเฝ้าคุ้มครองนางเช่นนี้ตลอดไปได้คงยอดเยี่ยมนัก!

ราวกับฟองสบู่ที่ห่อหุ้มความอบอุ่นในใจเขาได้แตกออก ทำให้ให้รู้สึกอุ่นวาบไปทั้งใจ

“เด็กน้อย แล้วเจ้าจะได้รับรู้ความดีของข้า บนโลกใบนี้ยังคงเป็นข้าที่รักเจ้าที่สุด”

เขาจุมพิตหน้าผากนางอย่างแผ่วเบาราวกับแมงปอแตะผิวนํ้า

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!