Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 831

บทที่ 831 หรือมาเพื่อเกี้ยวพานาง

กู้ซีจิ่วกวาดตามองคนชุดม่วงผู้นั้นแวบหนึ่ง “ที่แท้คนที่อยู่ข้างกายเจ้าวันนั้นก็คือตุ๊กตายางตัวนี้…”

อวิ๋นชิงหลัวเงียบไปเพราะไม่เข้าใจคำว่า ‘ตุ๊กตายาง’

หลงซือเย่ถูกสี่คำสุดท้ายของเธอทำให้ตกตะลึง แทบจะสำลักนํ้าลายตัวเองแล้ว “ซีจิ่ว!”

กู้ซีจิ่วคงจะถูกทอดทิ้งจนเกิดโทสะในใจ เธอกำลังหาที่ระบายอารมณ์ มองตรงไปที่คนชุดม่วงผู้นั้้น “ที่แท้เจ้าคือใคร? อาศัยร่างหุ่นเชิดก่อเรื่องมาตลอด หรือว่าร่างจริงของเจ้าสู้หน้าผู้อื่นไม่ได้? ”

สายตาของคนชุดม่วงหันเหมาทางเธอ มุมปากยกขึ้นนิดๆ “เสี่ยวซีจิ่ว เจ้าจะได้พบร่างจริงของข้าในอีกไม่ช้าก็เร็ว…”

นํ้าเสียงคล้ายจะอ่อนโยนอยู่บ้าง

“เจ้ารู้จักข้า?!” เห็นได้ชัดว่ากู้ซีจิ่วจับประเด็นสำคัญจากคำพูดของเขาได้

คนชุดม่วงมองเธอครู่หนึ่ง แย้มยิ้ม “แน่นอน ซีจิ่ว คนที่รู้จักเจ้ายามนี้มีอยู่มากมายนัก”

กู้ซีจิ่วขมวดคิ้ว รู้จักที่เธอพูดถึงย่อมมิใช่การรู้จักเช่นนี้…

หรือว่าคนผู้นี้เคยคบค้าสมาคมกับตัวเธอในอดีต?

เป็นใครกัน?

เธอก้าวไปข้างหน้า ขณะที่กำลังจะเอ่ยถามเขาอีกประโยค ในหูกลับมีกระแสเสียงของตี้ฝูอีดังขึ้น “อย่าเข้าใกล้เขา!”

ก็ได้!

กู้ซีจิ่วก็ไม่คิดจะทำให้แผนการพัง ความสนใของเธอคล้ายจะละจากร่างคนชุดม่วงแล้ว มองไปทางศาลาหลังน้อย นิ้วมือภายใต้แขนเสื้อกำแน่น ดูราวกับทั้งโกรธทั้งเกลียด

คนชุดม่วงสังเกตสีหน้าของนางอยู่ตลอด เมื่อเห็นนางเป็นเช่นนี้ มุมปากพลันหยักเป็นรอยยิ้ม “เสี่ยวซีจิ่ว คนผู้นี้ใจจืดใจดำถึงเพียงนี้ ต้องการให้ข้าล้างแค้นแทนเจ้าหรือไม่?”

กู้ซีจิ่วกัดปากแน่น สะบัดหน้าหนีไม่ตอบ เห็นได้ชัดยิ่งว่านางผิดหวังในตัวตี้ฝูอีมาก แต่ก็ทนเห็นเขาตายไม่ได้

ปฏิกิริยาเช่นนี้ของนางปกติยิ่ง คนชุดม่วงถึงแม้จะขี้ระแวงมาก แต่พอถึงยามนี้เขาก็ไม่แคลงใจอีกแล้ว เขามองกู้ซีจิ่วอีกคราหนึ่ง ยิ้มบางๆ พลางเอ่ยว่า “เสี่ยวซีจิ่ว อันที่จริงคนผู้นี้ไม่คู่ควรได้รับความชอบพอจากเจ้าเลยสักนิด เจ้ามิสู้มาชอบข้า…”

บทนี้ของเขาเห็นได้ชัดว่าอยู่เหนือความคาดหมายของกู้ซีจิ่ว เธอเลิกคิ้วกล่าวอย่างขุ่นเคือง “ข้าไม่นิยมชมชอบหุ่นเชิด!”

“ข้าบอกแล้วไง ร่างจริงของข้าไม่ใชหุ่นเชิด…”

“เช่นนั้นก็ใช้ร่างจริงของเจ้ามาหาสิ! ร่างจริงของเจ้ารูปงามกว่าเขาหรือไม่?” กู้ซีจิ่วตัดบทเขา จู่ๆ เธอก็นึกอะไรขึ้นได้ “คงมิใช่ว่าร่างจริงของเจ้าอัปลักษณ์น่าเกลียด ดังนั้นเจ้าถึงคิดสังหารตี้ฝูอีแล้วเข้าแทนที่ใช่ไหม?!”

คนชุดม่วงนิ่งงัน ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะออกมา “เสี่ยวซีจิ่ว เจ้ากำลัง หลอกล่อข้าด้วยวาจาหรือ? วางใจเถิด! ข้าจะทำให้เจ้าได้เห็นร่างจริงของข้าในไม่ข้าก็เร็ว! เจ้าจะพบว่ามูลเหตุที่เจ้าพูดมานี้ไม่เข้าท่ายิ่งนัก!”

หลงซือเย่ดึงกู้ซีจิ่วมาอยู่ข้างกายตน ทำให้เธออยู่ห่างจากคนชุดม่วงผู้นั้นอีกหน่อย จากนั้นก็กล่าวกับคนชุดม่วงอย่างเย็นชาประโยคหนึ่ง “เจ้ามาสังหารคนมิใช่รึ? หรือมาเพื่อเกี้ยวพานางกันแน่?!”

คนชุดม่วงผูนั้้นไม่ยี่หระ ยิ้มมุมปากแวบหนึ่ง “หยอกล้อนางเท่านั้น เจ้าสำนักหลงไม่จำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจ”

หลงซือเย่ร้องเหอะคราหนึ่ง ไม่พูดเป็นอื่นอีก

คนชุดม่วงผูนั้้นคร้านจะพูดจาหยุมหยิมต่อไป พลันโบกมือ

คนชุดเขียวเหล่านั้นพากันเหยียบย่างลงบนสะพานเหล็ก พุ่งทะยานเข้าหาศาลาหลังน้อย

ตี้ฝูอียกมือทันที รอบศาลาหลังน้อยพลันปรากฏกำแพงเหล็กสีทองขึ้นมา โอบล้อมศาลาทั้งหลังไว้ตรงกลาง

คนชุดเขียวที่พุ่งเข้าจู่โจมเหล่านั้นชนเข้ากับกำแพงเหล็กสีทอง พากันลื่นไถลลงมา

คนชุดม่วงร้องเหอะเสียงเย็น ขลุ่ยกระดูกสีโลหิตเลาหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ เริ่มบรรเลงขลุ่ย เสียงขลุ่ยหวีดหวิว เห็นได้ชัดว่าเป็นสัญญาณกระตุ้นอย่างหนึ่ง คนชุดเขียวเหล่านั้นคล้ายได้รับคำสั่งบางอย่าง ฝ่ามือกระตุ้นเปลวไฟออกมา เผาผลาญกำแพงเหล็ก

ชัดเจนว่าไฟนี้มิใช่ไฟธรรมดา เปลวไฟสีนํ้าเงินอ่อนสามารถเผาเหล็กสุดแข็งแกร่งให้หลอมละลายได้ กำแพงเหล็กสีทองนั้นในที่สุดก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!