Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 848

บทที่ 848 ดูคล้ายตำหนักเจ้าสมุทรเก๊อยู่บ้าง

ฮวาอู๋เหยียนฉลาดพอ นำกูซีจิ่วที่อยู่ในความทรงจำมาเทียบกับเด็กสาวสองนางที่พบก่อนหน้านี้ ตัดสินอยู่ในใจว่าคนไหนใช่ ในใจค่อนข้างรู้สึกวิกฤตแล้ว!

เมื่อก่อนตอนที่นางพบกู้ซีจิ่ว กู้ซีจิ่วยังเป็นเด็กน้อยที่สูงไม่ถึงหนึ่งร้อยห้าสิบเซนติเมตรด้วยซํ้า อีกทั้งมีปานบนหน้าผาก ในสายตาโฉมงามอย่างฮวาอู๋เหยียน กู้ซีจิ่วนับว่าอัปลักษณ์อย่างไร้ข้อกังขา แต่กู้ซีจิ่วที่นางได้พบเมื่อครู่กลับเป็นยอดพธูที่งามพิสุทธิ์ยิ่งนัก!

หากมิใช่ตี้ฝูอีพูดออกมาชัดเจนในยามนี้ เกรงว่าต่อให้กู้ซีจิ่วอยู่ตรงหน้าฮวาอู๋เหยียนก็จำไม่ได้ว่าเป็นเธอ…

นางมองตี้ฝูอีอย่างอดไม่ได้ “แม่นางกู้ซีจิ่วผู้นั้นก็อยู่ชั้นเมฆาม่วงห้องหนึ่งหรือ?”

เท่าที่นางทราบ ตี้ฝูอียอมสอนอยู่ที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ครึ่งปี ชั้นเรียนที่สอนก็คือชั้นเมฆาม่วงห้องหนึ่ง

ตี้ฝูอีเอ่ยเรียบๆ ว่า “สามคนเมื่อครู่ล้วนเป็นศิษย์ชั้นเรียนเมฆาม่วงห้องหนึ่ง”

เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ ก็ได้ยินเสียงเชียนหลงอวี่ที่อยู่ห้องตรงข้ามเอะอะขึ้นมาว่า “เอ๊ นั้นใช่เยี่ยนเฉินหรือไม่? เยี่ยนเฉิน เยี่ยนเฉิน! มองทางนี้สิ! มองมาทางนี้!”

จากนั้นก็ได้ยินเสียงหลานไว่หูร้องเรียกอย่างลิงโลด “พี่เยี่ยนเฉิน!”

ผ่านไปสักครู่ก็ได้ยินเสียงเยี่ยนเฉินดังขึ้นจากห้องตรงข้ามแล้ว “ที่แท้พวกเจ้าสามคนอยู่ที่นี่! ปล่อยให้ข้าหาอยู่ตั้งนาน!”

ชัดเจนยิ่งนักว่าเยี่ยนเฉินได้ยินเสียงตะโกนของเชียนหลิงอวี่ จากนั้นก็กระโจนจากถนนเข้าสู่ห้องรับรองห้องนั้นผ่านบานหน้าต่างทันที

“โอ้ เจ้าตามหาพวกเรามีอะไรหรือ? มาสิ นั่งลงก่อน ดื่มกันสักหน่อย!” เชียนหลิงอวี่ต้อนรับขับสูอย่างดี ดึงเยี่ยนเฉินให้นั่งลงทันที

เยี่ยนเฉินก็ไม่เกรงใจ นั่งลงจริงๆ มือเขาถือแบบแปลนแผ่นหนึ่งไว้ ยามนี้ได้หยิบออกมาให้ทั้งสามชม “ซีจิ่ว เจ้าบอกว่าอยากอาศัยในเรือนที่คล้ายตำหนักเจ้าสมุทรอันใดนั่นใช่ไหม? ข้าออกแบบให้แล้วเป็นแบบนี้ เจ้าดูสิว่าเข้าท่าไหม?”

กู้ซีจิ่วตะลึง ตอนนั้นเธอแค่พูดแบบนั้นเพื่อหยอกเขา นึกไม่ถึงว่าเขาจะถือเป็นจริงเป็นจัง!

เยี่ยนเฉินยังอธิบายแก่เธออีกว่า “ต้นปะการังแดงหายากมาก แต่วางไว้ในห้องต้นเดียวก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องวางไว้ทั่วเรือนแบบนั้น ต้นสนแดงหน้าตาไม่ต่างจากต้นปะการังนัก ดังนั้นเจ้าสามารถปลูกต้นนี้ไว้ในเรือนได้ ส่วนกระเบื้องหยก เตียงกระดองเต่ากระ มุกราตรีเป็นโคมไฟอะไรพวกนั้นฟุ่มเฟือยเกินไป แถมยังใช้ประโยชน์จริงไม่ได้ด้วย ในเมืองนี้มีโรงกระเบื้องเขียวที่ยอดเยี่ยมมากอยู่แห่งหนึ่ง มองเผินๆ พื้นผิวก็ดูคล้ายคลึงกับหยกมรกต ใช่แล้ว ยังมีเตียงหยกขาวประเภทหนึ่งด้วย ลักษณะไม่ต่างจากกระดองเต่ากระเท่าไหร่ แต่ถูกกว่ากระดองเต่ากระหลายร้อยเท่าเลย ไข่มุกราตรี ข้ามีอยู่เม็ดหนึ่ง มอบให้เจ้าได้ แต่ว่าสว่างไม่พอ สามารถวางไว้ในห้องใช้ต่างเทียนเล่มหนึ่งได้…”

กู้ซีจิ่วนิ่งไปครู่หนึ่ง เอ่ยถามเขา “เจ้าตามหาข้าเพื่อบอกเรื่องแบบแปลนนี้โดยเฉพาะหรือ?”

เยี่ยนเฉินตอบว่า “ต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าก่อนถึงจะลงมือทำได้ ข้าคำนวณมาแล้ว สิ่งเหล่านี้น่าจะมีค่าใช้จ่ายหนึ่งพันแปดร้อยหินวิญญาณประกอบกับเงินอีกห้าพันตำลึง น่าจะไม่เกินจากราคาที่เจ้าบอกไว้ หินวิญญาณสองพันก้อนก็นับว่าเพียงพอแล้ว”

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย เยี่ยนเฉินผู้นี้ดูเหมือนเย็นชา อันที่จริงกลับเป็นบุรุษอ่อนโยนผู้หนึ่ง จิ้งจอกน้อยช่างมีวาสนา!

ถึงแม้ตอนนั้นเธอจะแค่พูดหยอกเยี่ยนเฉินเล่น แต่เมื่อเขาออกแบบมาอย่างเอาจริงเอาจังเช่นนี้ เธอก็ปฏิเสธเขาไม่ลง เดิมทีเธอไม่คิดจะจัดแจงที่พำนักของตนเลย แต่ในเมื่อผู้อื่นใส่ใจถึงเพียงนี้ เธอจะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่จัดแจง ดังนั้นเธอจึงรับแบบแปลนแผ่นนั้นมา มองอย่างจริงจัง จากนั้นก็ขีดวาดลงไปบนแบบแปลน ทำการเพิ่มและตัดบางอย่างทิ้ง

เธอมีพรสวรรค์ด้านการออกแบบยิ่งนัก ที่พักแบบเดิมที่เยี่ยนเฉินออกแบบให้เธอดูคล้ายตำหนักเจ้าสมุทรเก๊อยู่บ้าง แต่เมื่อผ่านการปรับปรุงจากเธอ กลับดูวิจิตรงดงาม!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!