Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 852

บทที่ 852 เจ้าหลอกลวงข้าหรือ

“มู่อวิ๋น ไสหัวออกมาหาข้าซะ!” เมื่อตี้ฝูอีกลับถึงเรือนตนก็ตวาดออกมาประโยคหนึ่ง

มู่อวิ๋นปรากฏตัวออกมาทันที ค้อมกายเอ่ย “นายท่าน มีเรื่องใดจะสั่งการหรือขอรับ?”

ตี้ฝูอีมองพิศเขาหัวจรดเท้าแวบหนึ่ง “เจ้าหลอกลวงข้าหรือ?”

มู่อวิ๋นสะดุ้งโหยง รีบกล่าว “ข้าน้อยไหนเลยจะกล้า?! นายท่านผิดปกติที่ใดขอรับ?”

ตี้ฝูอีขมวดคิ้ว “เจ้ามอบความคิดเน่าๆ ให้ข้า บอกว่ากับสตรีต้องใช้กลยุทธ์ปล่อยเพื่อจับอันใดนั่น เหตุใดข้ารู้สึกว่านางยิ่งออกห่างจากข้าไปเรื่อยๆ กัน?!”

ในบรรดาสี่ทูต มู่อวิ๋นคือผู้เชี่ยวชาญด้านความรัก เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง กล่าวว่า “นายท่าน ข้าน้อยคิดว่าต่อให้ใช้กลยุทธ์ปล่อยเพื่อจับ ก็ต้องใช้ยาแรงด้วยนะขอรับ นายท่านอาจยังปล่อยไม่พอ…”

ตี้ฝูอีเลิกคิ้วขึ้น “ยังไม่พอหรือ? จะต้องปล่อยสักแค่ไหน?”

สาวน้อยผู้นั้นเริ่มโดดเรียนคาบของเขาแล้ว!

ถึงแม้จะโดดแค่คาบเดียวแต่ก็ทำให้จิตใจเขาค่อนข้างระสํ่าระส่าย คาบนั้นเขาไม่มีอารมณ์จะสอนเลย

อย่างไรก็ตามมู่อวิ๋นมีอุบายในการตามตื้อหญิงสาวเสมอมา กล่าวกันว่ากระทั่งสตรีเย็นชาปานภูเขานํ้าแข็งที่ยากจะเกี้ยวพาก็ยังหวั่นไหวต่อเขา ดังนั้นตี้ฝูอีจึงเชื่อถือกลยุทธ์ของมู่อวิ๋นยิ่งนัก

มู่อวิ๋นย่อมทุ่มเทกายใจให้ปัญหานี้ของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ ด้วยเหตุนี้เขาจึงคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้นว่า “นายท่านขอรับ ท่านสามารถ…”

เขาเอ่ยความคิดของตนออกมา ตี้ฝูอีขมวดคิ้ว “แบบนี้จะใช้ได้หรือ?”

มู่อวิ๋นรับประกัน “ใช้ได้แน่นอนขอรับ!”

….

ความจริงแล้ว ในแง่ของความรัก กู้ซีจิ่วค่อนข้างหวั่นไหวอยู่บ้างเสมอ แถมเธอยังเป็นคนที่ค่อนข้างรักมั่นยืนยาวด้วย ชาติก่อนเธอวางแผนไล่ตามหลงซีอยู่หกปี ชาตินี้ไม่ง่ายเลยกว่าจะสะสางความเข้าใจผิดได้ ดังนั้นทั้งสองจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่แยกจากกัน

เธอไม่คิดจะสิ้นเปลืองความคิดกับความรักมากนัก และเธอก็ไม่คิดว่าเธอต้องการความรักเร่าร้อนเป็นตายไม่แปรผันเหมือนนิยายของคุณยายฉยงเหยาด้วย เธอรู้สึกว่าความรักเช่นนี้ของเธอกับหลงซือเย่ดีมากแล้ว ความรู้สึกที่ค่อยๆ เพิ่มพูนขึ้นทีละน้อยถึงจะยืนยาวไปตลอดชีวิต ดังนั้นเธอจึงเตรียมที่จะรับรักหลงซือเย่ จากนั้นทั้งสองก็จะท่องโลกนี้ไปด้วยกัน ตัวคนเดียวบนโลกนั้นเหน็บหนาวเกินไป เธอจึงคิดจะหาคู่ชีวิตสักคน…

แต่ตอนนี้พออยู่กับหลงซือเย่เข้าจริงๆ บางครั้งทั้งสองคนจะพบหน้าเพื่อทานข้าวด้วยกันบ้างเป็นครั้งคราว แต่เธอรู้สึกราวกับว่ามีอะไรบางอย่างขาดหายไป เธอถึงขั้นหาความรู้สึกตอนที่อยู่กับหลงซือเย่เมื่อก่อนไม่เจอแล้ว…

ถึงแม้หลงซีกับหลงซือเย่จะยืนยันได้ว่าเป็นคนเดียวกันแต่ต่างกันที่บุคลิก แต่เธอก็รู้สึกอยู่ตลอดว่าไม่ค่อยถูกต้อง หรือเป็นเพราะรูปลักษณ์ของหลงซีกับหลงซือเย่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง?

ถึงแม้เหตุผลนึกคิดจะทราบว่าพวกเขาคือคนเดียวกัน แต่ด้านความรู้สึกเธอกลับรู้สึกเหมือนคบหาอยู่กับพี่น้องฝาแฝดของหลงซี…

ดังนั้น ระยะนี้เธอจึงถึงขั้นหลบเลี่ยงหลงซือเย่ตามสัญชาตญาณ ทุกครั้งที่เขามาหาเธอจะรู้สึกเหนื่อยใจอยู่บ้าง ต้องรวบรวมกะจิตกะใจเพื่อรับมือ อยู่เสมอ เธอเข้าใจความรู้สึกของตัวเองผิดไปหรือเปล่านะ?

เรื่องความรู้สึกมิใช่สิ่งที่คิดว่าเป็นเช่นนั้นก็จะเป็นเช่นนั้น และไม่ใช่เรื่องที่ควรจะทำอย่างไรก็สามารถทำอย่างนั้นได้

‘ซีจิ่ว เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้ารักหลงซือเย่จริงๆ? ความรู้สึกที่เจ้ามีให้เขาคล้ายความชอบที่มีต่อพี่ชายที่โตมาด้วยกันมากกว่า…’

ถ้อยคำที่ตี้ฝูอีเคยกล่าวแว่วอยู่ข้างหูเธออีกครั้ง

เธอยกผ้าห่มขึ้นคลุมหัวอย่างว้าวุ่นใจ

มิน่าเล่าคนโบราณถึงมีสุภาษิตยอดนิยมที่กล่าวไว้ว่า ‘ตัดไม่ขาด จิตใจย่อมว้าวุ่น’ ความรู้สึกเช่นนี้คล้ายจะสับสนว้าวุ่นจริงๆ

ความรู้สึกกับความมีเหตุผลไปกันคนละทิศละทางอยู่เสมอ…

เธอรู้สึกว่าช่วงนี้ตนคล้ายจะเป็นโรคประสาทแล้ว เธอรู้ว่าไม่ควรกล่าวโทษที่หลงซือเย่กระทำโดยพลการ แต่ว่า…

ขณะที่เธอกำลังนอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงข่มตาหลับไม่ลง นอกหน้าต่างก็มีเสียงเคาะดังขึ้นสามครั้ง เบาสองครั้งหนักหนึ่งครั้ง เป็นวิธีเคาะที่หลงซือเย่ใช้เวลามาหาเธอ

เธอนวดคลึงหว่างคิ้ว เปิดประตูออกมา ผู้ที่ยืนอยู่นอกประตูคือหลงซือเย่จริงๆ ด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version