Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 936

บทที่ 936 อันที่จริงไม่จำเป็นต้องยุ่งยากถึงเพียงนั้น

ตามกฎเกณฑ์ของทวีปนี้ โดยทั่วไปแล้ว สงครามระหว่างอาณาจักร แต่ละสำนักไม่มีสิทธิ์ยื่นมือแทรกแซง ดังนั้นสงครามครั้งนี้จึงทวีขึ้นเรื่อยๆ ดำเนินมาจนถึงตอนนี้ จวบจนยามนี้ไม่ทราบว่ามีประชาชนมากน้อยเพียงใดแล้วที่ต้องพลักถิ่นฐานบ้านเกิด ไม่ทราบว่ามีผู้คนมากน้อยเพียงใดที่ตกตายในสนามรบ…

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าประชาชนของทั้งสามอาณาจักรล้วนต้องถูกลากเข้ามาร่วมในสงคราม สถานภาพของทวีปนี้ก็จะพลิกผันไปอีกครั้ง …

กล่าวกันว่าเจ้าสำนักของสามสำนักหลัก สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ รวมถึงสำนักฝึกยุทธ์ใหญ่น้อยทั้งหลายล้วนเสนอให้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มาคลี่คลายปัญหา วิงวอนให้เขาซึ่งเป็นผู้อาวุโสลงสนามยุติสงครามนี้

แต่กู่ฉานโม่สิ้นเปลืองความคิดจิตใจไปไม่น้อยกว่าจะติดต่อทูตส่างซั่นได้ บอกกล่าวความเห็นของทุกคน

ครึ่งเดือนผ่านไปได้รับการตอบกลับจากทูตส่างซั่นประโยคเดียวว่า ‘ปล่อยไปตามกรรม’

กู่ฉานโม่โมโหจนจมูกแทบคดแล้ว!

ทุกคนล้วนทราบกันดี สถานการณ์ใต้หล้านี้รวมกันนานเข้าก็ต้องแยก แยกกันนานแล้วจึงหลอมรวม แต่ไหนแต่ไรมาวงศ์ตระกูลทั้งหลายไม่อาจยืนยง แต่ถึงอย่างไรก็สงบสุขกันมาเนิ่นนานถึงเพียงนี้ ทุกคนเคยชินกับกฎหมายของยุคที่ร่มเย็นเป็นสุขแล้ว ยามนี้จู่ๆ ก็เข้าสู่ยุคสงคราม ต้องมองเห็นประชาชนพลัดถิ่นฐานเพราะเพลิงสงคราม ยากยิ่งนักที่ทุกคนจะรับได้ ล้วนอยากใช้ความสามารถตนมาคลี่คลายสถานการณ์

แต่กฏเกณฑ์ของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เข้มงวดนัก ไม่อนุญาตให้สำนักยุทธ์ทั้งหลายเข้าร่วมสงคราม หากเข้าร่วมจะต้องรับโทษหนัก

ด้วยเหตุนี้ถึงแม้พวกเขาจะร้อนใจแต่ก็ไม่กล้าทำอะไร ทำได้เพียงส่งสายลับไปสืบข่าวคราวทุกหนทุกแห่งอยู่เป็นนิตย์

ด้านสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์หลายวันก่อนสืบพบข่าวที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง ระยะนี้ในสนามรบมีศพสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย และมีคนคลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล…

นี่ก็คือเรื่องร้าย!

ด้วยเหตุนนี้สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์จึงรีบส่งคนจำนวนมากออกไปตรวจสอบเรื่องนี้ทันที แยกกันไปหลายทาง ยอดฝีมือแทบทั้งสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ล้วนต้องออกโรง!

กู่ฉานโม่พูดจายอดเยี่ยมนัก บอกว่าสำหรับพวกเธอแล้ว นี่ถือเป็นการทดสอบในสถานการณ์จริง!

อย่าทำให้อาจารยใหญ่อย่างเขาผิดหวัง หวังว่าทุกคนจะสามารถตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมดให้ถึงที่สุดได้!

ภารกิจที่กู้ซีจิ่วได้รับมอบหมายคือตรวจสอบว่าจักรพรรดิซวนถูกวิญญาณร้ายอันใดสิงร่างหรือไม่…

ดังนั้น เธอจึงพาอิงเหยียนนั่วมา

เรื่องราวที่กู้ซีจิ่วเคยประสบพบเจอรุนแรงยิ่งกว่าการแก่งแย่งชิงดีในวังหลวง ดังนั้นเธอขบคิดเพียงเล็กน้อยก็สัมผัสได้ว่ากุ้ยเฟยที่ถูก

จักรพรรดิซวนประหารนางนั้นถูกปรักปรำ เป็นแผนที่จักรพรรดิซวนจงใจคิดขึ้นปลุกปั่นให้เกิดสงคราม จิ้งกุ้ยเฟยผู้นั้นและองครักษ์หวาล้วนเป็นแพะรับบาป ด้านผลประโยชน์ทางการเมืองแล้ว ชื่อเสียงด่างพร้อยของสตรีนางหนึ่งไม่ควรค่าให้กล่าวถึง ในสายตาจักรพรรดิซวนที่ถูกความทะเยอทะยานด้านการเมืองเข้าครอบงำ ล้วนสละได้ทุกสิ่ง

กู้ซีจิ่วค่อยๆ ตรวจสอบแล้วนำมาวิเคราะห์ก็สามารถคาดเดาได้แปดเก้าส่วนแล้ว เธอรู้จักจิ้งกุ้ยเฟยผู้นั้้น ดังนั้นเธอจึงแปลงโฉมเป็นจิ้งกุ้ยเฟยไปหลอกจักรพรรดิซวนให้ตกใจกลัวได้ ถือโอกาสตรวจสอบว่าที่แท้เกิดอะไรขึ้นกับเขา ถูกวิญญาณร้ายอันใดสิงร่างหรือไม่…

จากบทสนทนา กู้ซีจิ่วทราบว่าจักรพรรดิซวนคนนี้ยังเป็นจักรพรรดิซวนคนนั้น อย่างน้อยดวงวิญญาณก็ยังเป็นดวงเดิม จากนั้นเธอจึงสงสัยว่าเขาอาจเสพยา

ความจริงได้รับการพิสูจน์แล้วว่าในร่างของจักรพรรดิซวนมีสารเคมีของยุคปัจจุบันอยู่จริงๆ เนื่องจากเหตุผลทางเทคนิค เธอเลยตรวจสอบยังไม่ได้ว่าเป็นสารชนิดไหน จึงไม่สามารถผลิตยาถอนได้

กู้ซีจิ่วกำหมัด “ถ้าหลงซือเย่อยู่ที่นี่ก็คงดี”

หลงซีเป็นหมอ และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาด้วย ด้วยความสามารถของเขา น่าจะผลิตยาถอนได้รวดเร็วยิ่ง

อิงเหยียนนั่วเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง เม้มริมฝีปาก ประกายแสงวาบผ่านดวงตาเขาแวบหนึ่ง เอ่ยเนิบๆ ว่า “อันที่จริงไม่จำเป็นต้องยุ่งยากถึงเพียงนั้น”

กู้ซีจิ่วสะกิดใจทันที “ความหมายของเจ้าคืออะไร? สังหารจักรพรรดิซวนทิ้งหรือ?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!