Skip to content

สะดุดรักยัยกะล่อน 13

ตอนที่ 13

โกรธแค้น(อีกแล้ว)

เมื่อเดินออกมาจากห้องนอนของหลี่เซียวเหยาได้เพียงครู่ เจินเจินจึงรีบแกะกระดาษที่อยู่ตรงข้อเท้าของนกรูปร่างประหลาดที่อยู่ในอ้อมแขนของตนออกอย่างรู้หน้าที่

หญิงสาวมักเป็นเช่นนี้ ด้วยหน้าที่ของสมุนพรรคมารประจำสำนักของผู้มีพระคุณต่อนางแล้ว ไม่ว่านางจะกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน งานที่ได้รับมอบหมายย่อมสำคัญเป็นอันดับแรกเสมอ

สำคัญกว่าบุรุษอีกนะ! นางคิด

คำสั่งให้แอบพาสมุนไปคอยติดตามและอารักขาองค์ชายหลี่หงจินหยางที่กำลังจะเข้าไปจัดการกับแคว้นต้าไห่รึ!

ในขณะที่เจินเจินกำลังก้มหน้าอ่านสารจากนกสีดำทมิฬประจำตัวของนาง เสียงอื้ออึงของบรรดาสตรีก็ดังมาจากลานกว้างด้านหน้าของตำหนักหลี่เซียวเหยา หญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงอื้ออึงเหล่านั้น

หญิงสาวเห็นเป็นเหล่าบรรดาองค์หญิงที่มาจากต่างแคว้นเพื่อถวายตัวกำลังพากันนวยนาดเดินเข้ามาด้วยท่วงท่าแฉล้มแช่มช้อยหน้าตาสวยสดงดงามรูปร่างอรชนอยู่บริเวณลานกว้างแห่งนั้น

ในขณะที่เจินเจินกำลังพิศมองสตรีเหล่านั้นอย่างสงสัย เสียงของบรรดาสตรีเหล่านั้นก็เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อมเพรียงกันเมื่อพวกนางมองเห็นใครบางคนเดินตามหลังของเจินเจินออกมาจากด้านในของตำหนัก

“ถวายบังคมองค์ชายสี่เพคะ”

“พวกเราได้รับคำสั่งให้เข้ามารายงานตัวเพื่อถวายตัวแก่องค์ชายเพคะ”

ถวายตัวรึ! เจินเจินกลอกตาคิด

หลี่เซียวเหยาที่เดินตามเจินเจินออกมาถึงกับทำหน้าไม่ถูก เมื่อหันไปเห็นสายตาบางอย่างของเจินเจินที่หยุดยืนเยื้องห่างจากตัวของเขาออกไปเล็กน้อย

“เจ้า…ใจเย็น” ครานี้เป็นหลี่เซียวเหยาเอ่ยกับเจินเจินบ้าง ด้วยเพราะยามนี้เจ้านกประหลาดตัวนั้นที่อยู่ในการโอบอุ้มของเจินเจินคล้ายกับจะหายใจไม่ออก

นางกำลังจะหักคอมัน!

หลี่เซียวเหยากำลังจะเดินเข้าไปหมายจะอธิบายให้เจินเจินได้เข้าใจ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้า

อึดใจเจินเจินเอานิ้วมือของตนขึ้นกุมไว้ที่ริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะส่งเสียงคล้ายสัญญาณอะไรบางอย่างออกมา

เพียงอึดใจเดียวเช่นกันก็ปรากฎร่างกำยำของบุรุษหลายคนพากันทยอยกระโจนออกมาจากมุมมืด

เหล่าบุรุษพวกนั้นต่างพากันย่อตัวทำความเคารพเจินเจินกันอย่างพร้อมเพรียงด้วยท่าทางขึงขัง จนบรรดาองค์หญิงต่างเหลียวมองด้วยอาการตะลึงตะลานระคนสนใจ

หลี่เซียวเหยาที่มองเห็นเหตุการณ์เช่นกัน เขาถึงกับชะงักงัน ทำสีหน้าไม่ถูกมากยิ่งขึ้น

นั่นบุรุษในอาณัติของนางรึ!

เจินเจินหรี่ตามองสบกับสายตาของหลี่เซียวเหยา

สตรีของท่านกับบุรุษของข้า ของใครแน่กว่ากันเล่า ฮึ!

“พวกเจ้า!” เจินเจินหันไปทางบุรุษที่เป็นลูกน้องของตนพร้อมกับส่งเสียงหวานกร้าวดังกังวาน

“ไปเตรียมตัวให้พร้อม ข้าจะออกเดินทาง…ไป!”

จบคำของเจินเจินบรรดาบุรุษพวกนั้นจึงก้มหัวเล็กน้อยรับคำสั่งอย่างขึงขังแต่ขณะที่กำลังจะทำการแยกย้ายออกไป

“เจ้าจะไปไหน!” เสียงกร้าวกว่าของหลี่เซียวเหยาพลันเอ่ยขึ้น ทำเอาบรรดาบุรุษที่เป็นลูกน้องของเจินเจินต่างจ้องมองกันตาปริบๆ

เหล่าองค์หญิงที่มารายงานตัวเป็นอนุชายาก็เช่นเดียวกัน

เจินเจินเพียงปรายหางตามองหลี่เซียวเหยาเพียงนิดแต่ไม่ยอมกล่าวสิ่งใด ก่อนจะปรายตามองไปยังเหล่าสตรีที่นางเข้าใจได้เป็นอย่างดีว่ากำลังจะมาเป็นอะไรกับหลี่เซียวเหยา

หึ!

นางรึอุตส่าห์ชมชอบเขาแต่เพียงผู้เดียว แต่เขากลับรับสตรีมากหน้าหลายตาเข้ามาในอาณัติ

เขาปฏิเสธนาง ทำเหมือนกับว่ายังรักปักใจกับอดีตชายาที่ตายไปแล้ว แต่ที่ไหนได้ เขามันก็ไม่ต่างอะไรกับบุรุษทั่วไป

เชอะ!

เจินเจินคิดในใจได้ดังนั้นจึงสะบัดหน้าพรืดอย่างช้ำใจ

นางทำใจไม่ได้อีกแล้ว ฮือ….

“ข้าถามว่าเจ้าจะไปไหน” หลี่เซียวเหยายังคงย้ำถามเจินเจินอย่างดุดัน นี่นางกำลังเข้าใจเขาผิดจนจะไปจากเขาเชียวรึ!

เจินเจินไม่ได้ตอบคาเพราะกำลังงอนอยู่

หญิงสาวเพียงกัดเม้มริมฝีปากทำแก้มป่องพองกลอกตาขึ้นมองบน

หลี่เซียวเหยาเห็นเจินเจินทำหน้าตาแปลกๆออกจะน่าเกลียดนั่น จึงรีบเอ่ยอย่างฉุนเฉียว

“ข้าไม่ให้เจ้าไป”

“ข้าจะไป” นางตอบอย่างกระเง้ากระงอดไร้คำอธิบายเพิ่มเติมใดๆ

“ข้าไม่ให้ไป”

“ข้าจะไป”

“ไม่ให้”

“จะไป”

เจินเจินเริ่มฉุนอย่างฉงน นางจะไปทำงานนะ จะมาห้ามทำไม คิดได้ดังนั้นจึงเตรียมจะเดินจากไป

หลี่เซียวเหยาเห็นดังนั้นจึงรีบเดินตามไปกระตุกข้อมือของเจินเจินให้หยุดเดิน

“คิดว่าทำอย่างนี้แล้ว ข้าจะตามตื้อหรืออย่างไร” หลี่เซียวเหยาตีหน้าดุใส่เจินเจินพร้อมด้วยประโยควางอำนาจ

นางเป็นฝ่ายเข้าหาเขา หาใช่เขาเป็นฝ่ายเข้าหาไม่!

ชายหนุ่มคิดอย่างเอาแต่ใจ

“ปล่อยข้าเลย ท่านจะมาตื้อข้าทำไม” เจินเจินยิ่งงงหนัก เขาจะไม่ให้นางไปทำงานทำการเลยหรืออย่างไร

“ข้าก็ไม่คิดจะตามตื้อเจ้า แต่เจ้าห้ามไปไหนทั้งนั้น” ชายหนุ่มยังไม่ยอม

“ท่านจะมาห้ามข้าได้อย่างไร” เจินเจินกล่าวอย่างงุนงง

เขาจะไม่ให้นางได้ไปทำงานจริงรึ มันจะมากเกินไปแล้ว…

“มานี่!” หลี่เซียวเหยาเอ่ยเสียงรอดไรฟันพลางฉุดกระชากร่างของนางให้เดินกลับเข้าไปด้านในตำหนัก

“ปล่อยข้านะ!” เจินเจินพยามสะบัดมือของตนออกจากการเกาะกุมจากฝ่ามือของเขา แต่เหมือนจะไม่เป็นผล

หลี่เซียวเหยายังคงฉุดดึงเจินเจินให้เดินไปตามทาง พลางเอ่ยเสียงสะบัด “ไม่ปล่อย”

“ปล่อย!”

“ไม่!”

“หัวหน้า…” เสียงของบุรุษที่เป็นสมุนของเจินเจินเอ่ยขึ้นอย่างนึกห่วงใยในสวัสดิภาพของนายสาวของตน

“องค์ชาย องค์ชายเพคะ…” เสียงของเหล่าสตรีที่มาคอยหลี่เซียวเหยาเพื่อทำการถวายตัวเริ่มแตกกลุ่ม

ทั้งฝ่ายสมุนของเจินเจินและเหล่าอนุชายาของหลี่เซียวเหยาต่างพากันลุกฮือตามสองชายหญิงที่พยายามยื้อยุดฉุดกระชากกันเข้าไปด้านในตำหนักกันอย่างวุ่นวาย แต่ก็หาได้มีผลใดๆกับหลี่เซียวเหยาและเจินเจินไม่

หลี่เซียวเหยายังคงฉุดดึงร่างของเจินเจินให้เดินตามเขาเข้าไปด้านในห้องอย่างโกรธเกรี้ยว

เจินเจินทำได้เพียงเดินตามเข้าไปอย่างสับสน

นี่เขาโกรธแค้นอะไรนางหนักหนาเนี่ย??

ฮือ…..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!