Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1068

ตอนที่ 1068 ข้อบังคับของบรรพบุรุษ

แสงสว่างสีเงินส่องสว่างไปรอบๆ เด็กสาวหม่าเฟยผอมแห้งห่างไปหลายพันจั้งตอนนี้เบิกตากว้าง นางเติบโตในสำนักดาราสัจธรรม อยู่ข้างอาจารย์จะดูเชื่อฟังพูดน้อย แต่ความจริงมีชื่อเสียงโด่งดังในรุ่นเยาว์ของสำนัก ซ้ำยังรู้ความลับที่คนอื่นไม่รู้แน่ชัดอีกมากผ่านอาจารย์

อย่างเช่นสายเลือดหลอมรวมวิญญาณตอนนี้ ใช้ไข่มุกโลหิตดาราสัจธรรมที่ บรรพบุรุษมอบให้ทดสอบระดับการรวมของสายเลือดและวิญญาณ หากควบคุมมันโดยผู้อาวุโสสำนักสามท่าน จะไม่เกิดข้อผิดพลาดหรือการหลบซ่อนใดๆ

สายเลือดหลอมรวมวิญญาณจะมองออกทั้งหมดว่าใครถูกยึดร่างหรือไม่ ในร่างกายมีอีกวิญญาณหรือไม่ ถึงอย่างไรวิญญาณกับสายเลือดก็เกื้อกูลกัน หากเป็นวิญญาณกับสายเลือดต่างกัน ต่อให้หลอมรวมแล้วก็จะเกิดพิรุธ ไม่มีทางบรรลุถึง จุดสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังวินิจฉัยระดับความข้นของสายเลือดผ่านจำนวนการหลอมรวม ดังนั้นจึงรู้จริงเท็จ

สายเลือดในนั้นจะต้องเป็นสายตรงดาราสัจธรรม จุดนี้คือพื้นฐาน หากไม่ใช่สายเลือดดาราสัจธรรม ไข่มุกดาราสัจธรรมสามเม็ดจะไม่เปล่งแสงโลหิต อันดับต่อมาคือวิญญาณ วิญญาณจะต้องสอดคล้องกับระดับความสูงของสายเลือด หากเป็นอย่างนั้นไข่มุกโลหิตสามเม็ดจะเปล่งแสงสว่างข้นว่าเดิม

ยิ่งสีแดงข้นมากเท่าไร ก็จะยิ่งบ่งบอกว่าสายเลือดหลอมรวมวิญญาณสมบูรณ์มากเท่านั้น หลังความสมบูรณ์นี้บรรลุถึงระดับที่มั่นคงแล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงซึ่งถูกเรียกว่าสายเลือดบรรพบุรุษ สายเลือดหลอมรวมวิญญาณแบบนี้ถึงจะทำให้ไข่มุกโลหิตเกิดแสงเงิน!

ดังนั้นหม่าเฟยจึงสูดลมหายใจด้วยความตกใจ เพราะนางรู้ว่าคนสำนักดาราสัจธรรมที่สายเลือดหลอมรวมเปล่งเป็นแสงสีเงินหายากยิ่ง

แทบเป็นช่วงที่ไข่มุกโลหิตเปล่งแสงเงิน มีสามคนบินออกมาจากในหอคอยสูงสามแห่งของวิหารผู้อาวุโสสำนัก พวกเขาเป็นชายชราสามคน สวมเสื้อคลุมเต๋าโบราณ สีหน้ามีความจริงจัง

เมื่อพวกเขาบินออกมาอย่างรวดเร็วแล้วก็ยืนอยู่กลางอากาศ สายตาจ้องไข่มุกโลหิตที่เปล่งแสงเงินสามเม็ดตรงหัวซูหมิง

ชายชราหนึ่งในนั้นหน้าดำเล็กน้อย ตอนนี้ขมวดคิ้ว

อีกสองคนสงบนิ่งกว่ามาก ซ้ำยังยิ้มมุมปากและพยักหน้าให้ซูหมิง

สายเลือด เป็นสายเลือดของดาราสัจธรรม วิญญาณก็เป็นวิญญาณคนสายตรงสำนักดาราสัจธรรม การหลอมรวมของสายเลือดและวิญญาณมากเกินกว่าความสมบูรณ์แบบ บรรลุถึงระดับสายเลือดบรรพบุรุษ ทุกอย่างนี้เด่นชัดอย่างยิ่งในสายตา ผู้อาวุโสสำนักสามคนนี้

“ข้ายังมีข้อสงสัยอย่างหนึ่ง เหตุใดในบันทึกตอนเจ้าเกิดถึงบอกว่าตอนเจ้าทดสอบสายเลือดหลอมรวมวิญญาณเป็นเพียงมีความเข้มข้นสูงมาก แต่ไม่ถึงขั้นสายเลือดบรรพบุรุษ” ชายชราหน้าดำพลันถามขึ้น

“เมื่อเติบใหญ่ขึ้น เมื่อได้รับโอกาส การหลอมรวมสายเลือดและวิญญาณจะสอดคล้องกันมากขึ้น เรื่องนี้ไม่เห็นมีอะไรน่าสงสัย” ชายชราที่เผยรอยยิ้มอยู่ข้างกายตอบเรียบๆ เป็นคนนี้เองที่มีเสียงนุ่มนวลก่อนหน้านี้

“อ้อ เช่นนั้นคนอื่นๆ เหตุใดถึงไม่ชัดเจน แต่เขากลับชัดเจนขนาดนี้!” ชายชราหน้าดำแค่นเสียงหึเย็นชา ขณะกำลังจะพูดต่อนั้น ซูหมิงดวงตาขยับประกายวาว

“ผู้อาวุโสสำนักท่านนี้ ผู้เยาว์เองก็มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน เหตุใดผู้คัดเลือกองค์ชายสิบคนถึงไม่มีคนเหล่านั้นที่ท่านพูดถึง แต่ดันเลือกแซ่เต้า?

เรื่องนี้เจ้าอธิบายให้ข้าฟังก่อน แล้วข้าจะอธิบายให้เจ้าฟัง” ซูหมิงใช้คำพูดไม่เกรงใจแม้แต่น้อย

“การเลือกองค์ชายสิบคนไม่ใช่พวกเราผู้อาวุโสสำนักเป็นคนตัดสิน แต่เป็นคำสั่งจากบรรพบุรุษเต้าเฉินเลือกฐานะพวกเจ้ามาสิบคน เรื่องนี้ข้าอธิบายให้เจ้าฟังไม่ได้ ทว่าข้าเป็นผู้อาวุโสสำนัก ต่อให้เจ้าเป็นองค์ชาย แต่ก็ยังไม่ถูกแต่งตั้งจริงๆ ข้าให้เจ้าอธิบาย เจ้าก็ต้องให้คำตอบที่พอใจกับข้า เรื่องนี้เจ้าปฏิเสธไม่ได้” ชายชราหน้าดำสะบัดแขนเสื้อตัวใหญ่แล้วโต้ตอบด้วยคำพูดเย็นชา

ซูหมิงมองชายชราหน้าดำตรงหน้าแล้วพลันหัวเราะ เมื่อรอยยิ้มกว้างออกบนใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทีละน้อย ขณะเดียวกันซูหมิงยังมีสีหน้า…โอหังอย่างพบเห็นได้น้อยมาก

ทันทีที่เผยความโอหังออกมาอย่างชัดเจน ซูหมิงไม่ยับยั้งการเหนี่ยวนำระหว่างสายเลือดในร่างกายกับวิญญาณและไข่มุกโลหิตอีก พลันเกิดเสียงดังสนั่นมาจากในร่างกาย แสงโลหิตเข้มข้นเปล่งมาจากตัวเขาอย่างรุนแรง ก่อนถูกไข่มุกโลหิตสามเม็ดสูบเข้าไปทั้งหมดอีกครั้ง จากนั้นแสงเงินที่ส่องสว่างอยู่ก็สว่างจ้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ช่วงที่แสงเงินย้อมโลกนี้ ทันใดนั้นเองไข่มุกสามเม็ดเปลี่ยนสีไปอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นสีทองที่ทำให้ทุกคนที่นี่ต่างตกใจ!

แสงสีทองสว่างปกคลุมแผ่นดิน ปกคลุมฟ้าดินทั้งหมดบนแผ่นดินที่สามทำให้มันกลายเป็นสีทอง ตอนที่คนจากแผ่นดินอื่นมองมาต่างมีสีหน้าเหลือเชื่อ

โดยเฉพาะแผ่นดินใหญ่เก้าสิบเก้าแห่งข้างล่าง เพียงเงยหน้าขึ้นก็จะเห็นอย่างชัดเจน บนแผ่นดินใหญ่เก้าแห่งข้างบนห่างจากพวกเขาไปไกล ณ แผ่นดินที่สาม ตอนนี้มันเปล่งแสงสีทองดุจดั่งดวงตะวันแล้ว

“สีแดงสมบูรณ์แบบ สีเงินสายเลือดบรรพบุรุษ สีทอง…เหนือบรรพบุรุษ! นะ…นี่คือสายเลือดหลอมรวมวิญญาณของใคร ไม่อยากเชื่อว่าจะบรรลุถึงระดับนี้ เป็นไปไม่ได้ นี่มัน…” ถ้ำนับไม่ถ้วนบนยอดเขาจำนวนมากบนแผ่นดินใหญ่อีกแปดแห่ง คนที่อาศัยอยู่ในกำแพงเมืองจำนวนมากตอนนี้ต่างเดินออกมากันทั้งหมด สายตามอง แสงทองจากแผ่นดินที่สามพร้อมกัน

“ไม่รู้กี่ปีมาแล้ว สำนักดาราสัจธรรมไม่เคยปรากฏสายเลือดหลอมรวมวิญญาณ สีทองมาก่อน สีทองเหนือบรรพบุรุษเป็นเพียงตำนาน แต่ว่าวันนี้มะ…มัน…”

“แสงสีทองเหนือบรรพบุรุษปรากฏ ทั่วทุกแห่งหนล้วนต้องคารวะ นี่คือข้อบังคับของบรรพบุรุษ!”

เสียงเกรียวกราวดังขึ้นลงบนแผ่นดินใหญ่แปดแห่ง เทียบกับแผ่นดินใหญ่ แปดแห่งนี้แล้ว แผ่นดินเก้าสิบเก้าแห่งข้างล่างเกิดเสียงดังยิ่งกว่า โดยเฉพาะอีกเก้าคนที่เป็นองค์ชายต่างเดินออกมาจากตำหนักของตัวเอง สายตาจ้องฟ้าเขม็ง พวกเขารู้สึกถึงการคุกคามอย่างรุนแรงยิ่ง

“ใคร…คนนี้เป็นใคร!”

“เป็นเต้าคงหรือ มีแค่เขาที่ตอนนี้อยู่ในวิหารผู้อาวุโสสำนัก!”

“ไม่มีทางเป็นเขาไปได้ ไม่มีทาง หากเป็นเขาจริงๆ ที่มีแสงทองสายเลือดหลอมรวมวิญญาณ แล้วพวกเรา…..จะสู้กับเขาอย่างไร!”

บนแผ่นดินที่ห้าสิบหก นอกตำหนักหรูหราอย่างยิ่งแห่งหนึ่ง ชายที่ก่อนหน้านี้ส่งเต้าเฟยเซียนไปหยั่งเชิงซูหมิงตอนนี้มีสีหน้ามืดทะมึน สายตาจ้องแสงทองจากแผ่นดินที่สามข้างบนตาเขม็ง ใบหน้าเหยเกย มือขวากำหมัดแน่นจนเส้นเลือดเขียวขึ้น

‘มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นเต้าคง ตอนนี้วิหารผู้อาวุโสสำนักใช้วิชาสายเลือดหลอมรวมวิญญาณอย่างกะทันหัน และนี่ก็ใช้เพื่อเขาเท่านั้น จะต้องเป็นท่านบรรพบุรุษที่อยากให้เต้าคงกลัวเลยทำแบบนี้แน่

แต่สมควรตาย เขาเปล่งแสงสีทองได้อย่างไร เขาเปล่งแสงแห่งสายเลือดทองได้อย่างไรกัน!’ ชายคนนี้คลายหมัดขวาออก เกิดเสียงดังโครมขึ้น ตำหนักหรูหรารอบๆ พังพินาศลงพร้อมกัน แตกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นเศษม้วนไปรอบๆ ผู้รับใช้ที่มีขั้นพลังอ่อนแอของเขาจำนวนหนึ่งนอกตำหนักต่างแหลกเป็นเศษเนื้อกลางเสียงครึกโครม

“จัดการมอบหินห้าสีไป เชิญผู้อาวุโสหลินลั่วลงมือ!” ตอนที่ชายวัยกลางคนเอ่ยคำว่าหินห้าสี ในใจเขาเกิดความเจ็บปวด ดวงตาสองข้างขยับประกายพร้อมยกมือขวาขึ้น แผ่นหยกหนึ่งปรากฏขึ้นในมือก่อนจะบีบมัน ในแผ่นหยกมีจิตสื่อสารของเขาประทับลงไปทันที จากนั้นสะบัดมือไป แผ่นหยกกลายเป็นแปดส่วนกระจายออก พุ่งไปยัง จุดที่องค์ชายคนอื่นอีกแปดคนที่มีฐานะเท่ากับเขาบนแผ่นดินเก้าสิบเก้าแห่งนอกจากซูหมิง

ในเวลาเดียวกัน ณ บ้านเกิดของเต้าคง บนแผ่นดินที่มีทะเลอยู่เต็มไปหมดท่ามกลางแผ่นดินใหญ่เก้าสิบเก้าแห่ง เมื่อแสงสีทองราวดวงตะวันส่องมาจากแผ่นดินใหญ่ที่สามข้างบน สวี่ฮุ่ยมีสีหน้าตื่นเต้นขึ้นมา สายตามองตรงจุดที่ส่องแสง นางมั่นใจว่าต้องเป็นเพราะซูหมิงแน่นอน

แม้ไม่รู้ว่าซูหมิงทำได้อย่างไร แต่การปรากฏของแสงทองขับไล่อุปสรรคทุกอย่างออกไป จากนี้ไปจะไม่มีใครสงสัยสายเลือดเขาอีก

ทางด้านเก้าผู้เฒ่ายมโลกรวมถึงคนสายตรงเช่นเดียวกับเต้าคงและผู้ฝึกฌานกลุ่มอื่น ตั้งแต่ตอนนั้นที่เต้าคงเป็นองค์ชาย พวกเขาก็ได้เชื่อมดวงชะตากับซูหมิงแล้ว ตอนนี้จึงตื่นเต้นอย่างยิ่งด้วยเช่นกัน

โลกข้างนอกยังเป็นเช่นนี้ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงแผ่นดินที่สามตอนนี้เลย เด็กสาว หม่าเฟยร่างผอมแห้งเบิกตากว้างอ้าปากค้าง ในความคิดขาวโพลน ตัวนางเปลี่ยนเป็นสีทองเช่นกัน ซึ่งนี่เกิดจากการถูกย้อม

และยังมีผู้อาวุโสสำนักสามคนรวมชายชราหน้าดำ ถึงพวกเขาจะมีขั้นพลังไม่ธรรมดา ทว่ายามนี้กลับตะลึงค้างกับไข่มุกสามเม็ดที่เปล่งแสงทองสว่างจ้าเหนือซูหมิง

โดยเฉพาะชายชราหน้าดำ เขามีสีหน้าเหลือเชื่อ ขณะหน้าเปลี่ยนสียังรู้สึกยอมรับความจริงไม่ได้ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเต้าคงตรงหน้าจะมีสายเลือดสมบูรณ์แบบ ซ้ำแล้วยัง…บรรลุถึงระดับที่ไม่อาจจินตนาการได้ กระทั่งแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“ตอนนี้ยังต้องให้ข้าอธิบายอีกหรือไม่” ซูหมิงมีสีหน้าเรียบนิ่ง รู้สึกว่าโลหิตทั่วร่างเดือดพล่าน สายตามองชายชราหน้าดำ

ชายชราหน้าดำหน้าเปลี่ยนสี เขาสูดลมหายใจเข้าลึก สีหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน

ข้อสงสัยทุกอย่าง การคาดเดาทุกอย่าง มลายหายไปทั้งหมดในตอนที่แสงทองส่องสว่าง ไม่ว่าใครหากสงสัยว่าเต้าคงถูกยึดร่างอีก เช่นนั้นก็เท่ากับว่าสงสัย โลกแท้จริงดาราสัจธรรมของพวกเขา สงสัยว่าบรรพบุรุษเต้าเฉินแห่งสำนักดารา สัจธรรมถูกยึดร่าง มิหนำซ้ำข้อสงสัยนี้ยังพ่วงไปอีกข้อหนึ่งคือ คนที่ยึดร่างบรรพบุรุษ เต้าเฉินมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเต้าคงตรงหน้า มิเช่นนั้นแล้วจะไม่มีทางเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ดังนั้น….จึงไม่มีใครกล้าซักถามอีก และก็ไม่มีใครกล้าสงสัย ถึงกระทั่งห้ามใครสงสัยด้วย!

“ข้าจำได้ว่าสำนักดาราสัจธรรมเรามีข้อบังคับของบรรพบุรุษอยู่” ซูหมิงเอ่ยเรียบๆ สายตามองชายชราหน้าดำ

“คารวะองค์ชายเต้าคง!” ชายชราอีกสองคนข้างชายชราหน้าดำ ตอนนี้มีสีหน้าตื่นเต้น พวกเขามั่นใจแล้วว่าซูหมิงคือสายเลือดของสำนักดาราสัจธรรม อีกทั้งยังเป็นความหวังในภายภาคหน้าของสำนัก เวลานี้แม้จะมีขั้นพลังสูงส่งก็ยังต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของบรรพบุรุษ จึงประสานมือคารวะซูหมิง

“คารวะ…องค์ชายเต้าคง!” ชายชราหน้าดำลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนก้มหน้าลงคารวะซูหมิง

ซูหมิงหลับตาลงเล็กน้อย หลายลมหายใจต่อมา ตอนที่ลืมตาขึ้น พลันเกิดเสียงครึกโครมอยู่นอกตัวเขา วงแหวนอาคมสามเหลี่ยมพังทลายลงทั้งหมด แล้วตามด้วย ซูหมิงก้าวเดินออกมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!