Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1074

ตอนที่ 1074 ตอนนี้เข้าใจแล้ว

ในกลุ่มคน เด็กสาวหม่าเฟยหดคอ เกิดความรู้สึกว่าแผ่นหลังเย็นเยือกโหวงเหวง นางยอมรับว่าตนตั้งใจไม่บอกความลับของแดนเลื่องลือกับซูหมิง เพราะอยากดูซูหมิง อย่างครึกครื้น ถึงอย่างไรอาจารย์ก็ให้นางไปอยู่ข้างซูหมิง จึงอดไปเที่ยวเล่นโลกข้างล่างกับเหล่าสหายคนอื่นๆ ต่อ เรื่องนี้ทำให้นางไม่พอใจมาก

อีกทั้งคำพูดของสวี่ฮุ่ยยังทำให้นางแอบโกรธแค้น ดังนั้นจึงปิดบังเรื่องเหล่านี้เอาไว้ เพียงแต่นางไม่นึกเลยว่าซูหมิงจะมีสายเลือดทอง กระทั่งผู้อาวุโสสำนักสามคนนั้นยังต้องคารวะเขา

ตอนนั้นนางตามซูหมิงกลับแผ่นดินใหญ่ไปด้วยความตึงเครียด จึงลืมเตือนทุกอย่างเกี่ยวกับแดนเลื่องลือ

เสียงหัวเราะเสียดหูจากคนรอบๆ ดังก้อง ไม่บ่อยนักที่คนเหล่านี้จะมีโอกาสหัวเราะเยาะองค์ชายอย่างเปิดเผย ย่อมไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปแน่ ยามนี้เสียงหัวเราะดังขึ้นเรื่อยๆ อาศัยเสียงหัวเราะปลดปล่อยความริษยาและอิจฉาในใจออกมาอย่างเต็มที่

กลับกันทางด้านซูหมิงมีสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย พอได้ฟังคำอธิบายจากชายชราขั้นเกิดเป้ยปังกับองค์ชายคนอื่นแล้ว ซูหมิงก็พยักหน้าอย่างเฉยชา

แต่หากคนที่เข้าใจซูหมิงเห็นภาพนี้ จะต้องเกิดความหนาวเยือกในใจอย่างแน่นอน เพราะซูหมิงไม่ใช่คนใจกว้างเช่นนี้ตลอด แต่เจ้าคิดเจ้าแค้น อารมณ์คุ้มดีคุ้มร้ายคือนิสัยที่ชัดเจนที่สุด

อย่างเช่นการเหน็บแนมทางอ้อมจากองค์ชายหลายคน การมองข้ามจากชายชราขั้นเกิด สิ่งเหล่านี้อยู่ในสายตาเขาแล้ว จดจำอยู่ในใจแล้ว ในเวลาเดียวกันเขาก็จำคนที่หัวเราะอย่างมีความสุขที่สุดในกลุ่มคนเอาไว้เรียบร้อย

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ก็ดี พักหนึ่งชั่วยามใช่หรือไม่ ข้าขอตัวก่อน” ซูหมิงพยักหน้าแล้วเดินจากไปทันที พริบตาเดียวก็เดินไกลออกไปท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนรอบๆ

“หรือว่าจะไม่มีหน้าอยู่ที่นี่แล้ว รีบจากไปเชียว?”

“จะต้องเป็นอย่างนั้นแน่ ไม่นึกเลยว่าองค์ชายเต้าคงที่ดูหลักแหลมมากกลับถามคำถามโง่เขลาแบบนี้ นี่เรียกว่ารนหาการเยาะเย้ยหรือไม่”

“บางทีอาจโกรธจนไปแดนเลื่องลือด่านแรกแล้ว อยากจะไปทวงตำแหน่งก่อนหน้านี้ใหม่ เขาสังหารผู้ท้าประลองไปพันคน แน่นอนว่าต้องมีศักยภาพอยู่แล้ว บางทีอาจจะทำสำเร็จก็ได้”

“สำเร็จ? เวลาเพียงหนึ่งชั่วยามเท่านั้นเอง เว้นแต่เขาจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับภัยพิบัติตะวัน มิเช่นนั้นแล้วอย่างมากสุดก็ได้เพียงห้าหกขั้น ไม่ถึงขั้นเจ็ดในตอนแรกหรอก”

ทันทีที่เสียงอื้ออึงและเสียงหัวเราะจากสิบล้านคนรอบๆ ยังคงดังก้อง ฉับพลันนั้นก็เกิดเสียงร้องด้วยความตกใจ

“ไปแดนเลื่องลือด่านแรกจริงๆ เขา…เร็วมาก ความเร็วระดับนี้…” เมื่อเสียงร้องดังกังวาน ช่วงที่คนอื่นๆ ต่างพากันมองไป พวกเขาเห็นสายรุ้งยาวที่แกร่งพอจะทะลวงอากาศใช้ความเร็วที่มองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ พร้อมกับเสียงดังสนั่นฟ้าดิน พุ่งเข้าไปในแดนเลื่องลือบนแผ่นดินแรกในเก้าแผ่นดินของโลกข้างบน

“ความเร็วนี้…เขามีขั้นพลังระดับใด?”

“บางทีอาจเป็นเพียงแค่ความเร็ว เขาจะผ่านไปได้กี่ขั้นเชียวในหนึ่งชั่วยาม” องค์ชายบนแท่นดอกบัวที่พูดจาดูถูกหลายคนก่อนหน้านี้ต่างมองหน้ากันและกัน

ทว่าแทบเป็นช่วงที่พวกเขาเพิ่งใช้จิตสื่อสารกัน สายตาของผู้ฝึกฌานสิบล้านคนโดยรอบก็เพิ่งมองไป ในสายพวกเขา ทันทีที่สายรุ้งยาวจากซูหมิงพุ่งเข้าไปในแดนเลื่องลือด่านแรก ก็เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นจนมวลอากาศสั่นสะเทือน แล้วพลันระเบิดออกอย่างรุนแรง

โครม!

ความดังของเสียงทำให้คนสิบล้านคนใจสั่นสะท้าน สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง เพราะพวกเขารู้ว่าหากโลกข้างบนเกิดเสียงแบบนี้ อีกทั้งยังดังมาจากแดนเลื่องลือ ด่านแรก จะมีเพียงคำตอบเดียว!

นั่นคือ…เสียงหินของขั้นแรกร่วงลงมากระทบ มิหนำซ้ำต้องผ่านขั้นแรกแล้วถึงจะเกิดเสียงดังขึ้น

“ต่อให้แดนเลื่องลือต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นทุกครั้ง ตะ…แต่ว่า…ความเร็วที่สุดของขั้นแรกคือเท่าไร ข้าจำได้ว่าเจ็ดลมหายใจ! แต่เขาใช้ไปเท่าไร…”

“เหตุใดถึงได้เร็วขนาดนี้ ขะ…เขาผ่านไปได้อย่างไร!” ขณะที่คนสิบล้านคนหน้าเปลี่ยนสี องค์ชายหลายคนต่างยิ้มเยาะ ถึงจะตกใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้มากมายนัก ถึงอย่างไรนี่เป็นเพียงขั้นแรก พวกเขาทุกคนผ่านไปได้แบบสบายๆ เหมือนกัน

แต่ว่าช่วงที่พวกเขายิ้มหยัน….

โครม!

โครม!

เสียงโครมสองครั้งกึกก้องไปทั่วฟ้ามาจากในแดนเลื่องลือด่านแรก ก่อขึ้นเป็นระลอกคลื่นเสียงกระจายไปรอบๆ ราวกับพายุคลั่ง

ตอนนี้เอง คนสิบล้านคนรอบๆ หน้าเปลี่ยนสีหนักกว่าเดิม แม้แต่องค์ชายหลายคนที่ดูถูกซูหมิงยังมีสีหน้าจริงจัง

ทว่ายังไม่ทันได้ขบคิด ไม่ทันส่งเสียงดังเกรียวกราว ทันใดนั้นก็เกิดเสียงเลื่อนลั่นติดกันสามครั้ง เสียงดังสามครั้งนี้เหมือนเชื่อมกับอีกสองเสียงก่อนหน้า ระหว่างที่สั่นสะเทือนฟ้าดิน ในที่สุดองค์ชายหลายคนที่ดูถูกซูหมิงก่อนหน้านี้ก็หน้าเปลี่ยนสี

“นะ…นี่มันความเร็วระดับใดกัน!”

“เป็นไปไม่ได้ นี่คือขั้นสาม คนเร็วที่สุดในขั้นนี้ใช้เวลาไปเกือบยี่สิบลมหายใจ!”

เกิดเสียงดังอึกทึก ในสิบล้านคนรอบๆ เริ่มมีคนยืนขึ้นไม่น้อย สายตามองแดนเลื่องลือด่านแรกด้วยความตกใจ ขณะหน้าเปลี่ยนสียังเหมือนอยากจะเข้าไปดูด้วยตาตัวเอง

ตอนนี้เอง เกิดเสียงดังสะเทือนจิตใจทุกคนอีกครั้ง ครั้งนี้ในมุมมองคนอื่นน่าจะเป็นสี่เสียง แต่ความจริง….ไม่ใช่สี่เสียง แต่เป็นสิบห้าเสียง!

เสียงสิบห้าครั้งดังลั่นฟ้าดิน เขย่าฟ้ากระจ่างดาวราวกับฟ้าดินจะหยุดนิ่ง ประหนึ่งเวลาจะหยุดลง การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในใจแข็งค้างตาม เสียงทุกอย่างข้างหูถูกเสียงครึกโครมนั้นดังกลบไป

“สิบห้าเสียง เหตุใดถึงเกิดสิบห้าเสียง!”

“นี่คือผ่านขั้นที่สี่ ขั้นที่ห้า ขั้นที่หกพร้อมกัน เป็นไปได้อย่างไร!”

“เว้นแต่…เว้นแต่เขาจะต่อต้านไม่ทำตามกฎ!”

ท่ามกลางเสียงดังเกรียวกราวเด่นชัด ไม่ใช่แค่องค์ชายหลายคนที่ดูถูกซูหมิง ก่อนหน้านี้จะหน้าเปลี่ยนสี องค์ชายที่เหลือนอกจากชายหนุ่มเคร่งที่ขรึมกับ ชายวัยกลางคนท่าทางอบอุ่นต่างก็มีสีหน้าจริงจัง

คนสิบล้านคนรอบๆ มีไม่น้อยที่บินมุ่งหน้าไปยังแดนเลื่องลือด่านแรก พวกเขาอยากไปดูใกล้ๆ ว่าซูหมิงทำได้อย่างไร!

แต่เพิ่งจะบินขึ้นก็เกิดเสียงดังสนั่นอีกสิบห้าเสียง ครั้งนี้แม้แต่ชายหนุ่มเคร่งขรึมกับชายวัยกลางคนอบอุ่นยังยืนขึ้นจากท่านั่งสมาธิ สายตามองแดนเลื่องลือด่านแรก กระทั่งชายชราขั้นเกิดยังหรี่ตาแคบลง ผู้อาวุโสสำนักสามท่านข้างหลังเขาต่างมี สีหน้าต่างกัน

เสียงดังสนั่นสิบห้าครั้งในครั้งที่สองนี้เห็นได้ชัดว่าซูหมิงผ่านขั้นเจ็ดและขั้นแปดพร้อมกันในพริบตา เรื่องนี้…ขอไม่พูดว่าไม่เคยเกิดมาก่อนในสำนักดาราสัจธรรม แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาหมื่นปีแล้วเช่นกัน

กลุ่มคนรอบๆ ต่างบินขึ้นไปอีกหลายล้านคน กระจายกันไปยังแดนเลื่องลือด่านแรกด้วยความเร็วสูงสุด พวกเขาต่างมีสีหน้าตกตะลึง และยังมีความฮึกเหิมกับความตื่นเต้นเล็กน้อย

เหตุที่พวกเขาตกตะลึงเป็นเพราะความเร็วในการผ่านขั้นของซูหมิง และที่ฮึกเหิมกับตื่นเต้นเป็นเพราะพวกเขาเฝ้ารอคอยว่าเต้าคงผู้กำเริบเสิบสานคนนี้จะผ่านไปถึง ขั้นใดกันแน่!

“หรือว่าวันนี้จะมีผู้ผ่านแดนเลื่องลือด่านแรกเพิ่มมาอีกคน!”

“ฮ่าๆ ฟ้าเข้าข้างสำนักดาราสัจธรรมของเรา พันกว่าปีก่อนคนที่ผ่านแดนเลื่องลือด่านแรกมีไม่ถึงพันคน ทว่าแค่พันปีกลับมีคนผ่านมากขึ้นหลายเท่า”

ขณะที่สายรุ้งยาวหลายล้านสายลากยาวตรงเข้าไปยังแดนเลื่องลือด่านแรก ทางด้านซูหมิงกำลังเงยหน้ามองฟ้า จุดที่เขาอยู่คือแท่นลักษณะวงกลมยักษ์ขนาดหลายแสนจั้ง บนแท่นราบเป็นรูปแกะสลักวงๆ เหมือนวงปีต้นไม้ ตอนนี้กำลังเปล่งแสงสว่างชัดเจน ส่วนใจกลางแท่นวงกลมตรงหน้าเขาก็คือลำแสงยักษ์ที่พุ่งขึ้นฟ้า บนลำแสงมีนามของคนพันคนพันเรียงขึ้นเป็นแนวตั้ง นั่นหมายถึงผู้ทำสำเร็จทั้งหมด

อีกทั้งรอบๆ ลำแสงยังมีสัตว์ลักษณะมังกรล้อมอยู่จำนวนมาก กำลังคำรามมาทางเขา

ซูหมิงมีสีหน้าเฉยชา ช่วงที่มองไปอย่างเย็นชา แสงจากลำแสงบนแท่นราบพลันสว่างขึ้น สัตว์มังกรรอบๆ ต่างเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า ร่างกายเปลี่ยนเป็นหินผุพังยักษ์ในพริบตา ก่อนจะตกลงมาทางซูหมิงบนพื้นดิน

ขั้นแรกเป็นหินหนึ่งก้อน ตอนนี้ขั้นเก้า จำนวนหินเปลี่ยนเป็นเก้าสิบเก้าก้อน ขณะตกลงมา ในหินทุกก้อนแฝงไว้ด้วยการโจมตีอย่างสุดกำลังของผู้ฝึกฌานเทียบเท่าระดับภัยพิบัติตะวัน จึงเท่ากับว่าผู้แข็งแกร่งภัยพิบัติตะวันเก้าสิบเก้าคนโจมตีใส่ พร้อมกัน หากเป็นคนทั่วไปไม่มีทางรับไหวแน่

ความจริงแล้ว สิ่งที่ทดสอบในแดนเลื่องลือด่านแรกไม่ใช่การเข้าปะทะ แต่เป็นการหลบหลีกและความเร็ว ขอเพียงมีความเร็วและการหลบที่มากพอ ก็จะผสานรวมเป็นศักยภาพในการคาดเดาล่วงหน้า ศักยภาพนี้ต่างหากคือจุดสำคัญของแดนเลื่องลือด่านแรก

เมื่อผ่านการทดสอบแบบนี้มาจะทำให้ผู้ฝึกฌานรวดเร็วกว่าเดิม ความมั่นใจในการหลบการโจมตีถึงชีวิตมากขึ้น เพราะบางครั้งหากไม่มีขั้นพลังมากพอจะเข้าปะทะ แต่หากมีความเร็วที่มากพอก็จะรับมือได้

ซูหมิงยิ้มมุมปาก แทบเป็นช่วงที่หินจากสัตว์มังกรเก้าสิบเก้าตัวตกลงมา เขายกเท้าขวากระทืบลงบนแท่นราบวงกลม เสียงโครมดังขึ้น แรงปะทะรุนแรงกระจายออกจากองค์ชาย จากนั้นเขาก็พุ่งขึ้นไปพลางยกมือขวาชกไปบนฟ้า

หนึ่งหมัดชกไป ฟ้าดินเกิดเสียงโครมคราม ปรากฏเงาหมัดยักษ์ขึ้นบนตัวซูหมิง มันลากยาวขึ้นฟ้า ก้อนหินทั้งหมดที่ปะทะกับหมัดแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกันทันที

ในเวลาเดียวกัน ทันทีที่หินร่วงแตกออก ยังเกิดเสียงดังเก้าครั้งซึ่งหมายความว่าซูหมิงผ่านด่านดังก้องฟ้าดินอย่างรุนแรง

เป็นอย่างที่คนในกลุ่มผู้ฝึกฌานสิบล้านคนคาดเดาไว้ ซูหมิงไม่สนใจกฎของที่นี่ เขาใช้ขั้นพลังแก่กล้าบุกทะลวงผ่านไป!

ท่ามกลางเสียงดังสนั่น ขณะผู้ฝึกฌานรอบๆ ยังอยู่ระหว่างทาง ซูหมิงก็กระโดดลอยขึ้นแล้ว เขาพุ่งไปยังแดนเลื่องลือด่านสอง เขาจะไม่เคลื่อนไหวก็ได้ แต่หากเคลื่อนไหวเมื่อใด…จะสร้างความตกตะลึงไปทั่วหล้า!

บนลำแสงตรงแท่นราบด้านหลังเขาปรากฏนามที่ขยับแสงวิบวับขึ้นมานามหนึ่ง เต้าคง!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!