Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1103

ตอนที่ 1103 มือขวาข้า 1

จูบนั้น ดวงตานี้

กาลเวลาเหมือนหลอมรวมเข้าสู่อากาศ กลายเป็นใบประกาศสีเหลืองอ่อน กาลเวลาเหมือนสีสันหลุดลอกกลายเป็นสีหมึกอ่อนๆ ทว่าใบหน้าที่รวมจากเศษความทรงจำในภาพวาดนั้น รอยยิ้มนั้น ยังเป็นเหมือนแต่ก่อน…..

บทเพลงของเผ่าหมาน เพลงจบคนจากไปในอดีต…..เสี้ยวความทรงจำนั้นตก เต็มพื้นด้วยความเศร้าเสียใจ ทำลายหัวใจแห่งความงดงาม ความหนาวเหน็บอยู่ใน ค่ำคืนชั่วนิรันดร์ ยังคงหลับตาอย่างโดดเดี่ยวไม่มีสิ้นสุด หลับใหลไม่ยอมตื่น

นี่คืออวี่เซวียน

แต่มักจะมีเสี้ยวความคิดหนึ่งเหลืออยู่ในกาลเวลา เพียงแต่หาแสงสว่างในอดีตไม่พบ ท่ามกลางความมืดแห่งการหลับใหลจะรู้สึกว่ามันยาวนาน อาภรณ์ผ้าแพรต่วนบาง คนที่พูดเรื่องความรักจะหนาวหรือไม่?

จูบนั้น ดวงตานี้

นางพูดเรื่องความรักไม่ได้อีก ตอนที่หันกลับไปราวกับตกไปอยู่ในอดีต อยู่ตัวคนเดียว อาศัยยามโพล้เพล้ แต่กลับมองไม่เป็นสีของยามโพล้เพล้ มีเพียงเสียงพึมพำในใจ ถอนหายใจพลางถามว่าชีวิตคนเราต้องผ่านฤดูใบไม้ร่วงอีกกี่ครั้ง

นี่ก็คืออวี่เซวียน

ซูหมิงผมแดงยืนอยู่กลางอากาศ เป็นที่จับจ้องของทุกคน เพียงแต่แววตาเขากลับเพ่งมองคนนั้น ประหนึ่งเวลาตอนนี้หยุดยิ่ง เหมือนกับว่าทุกสิ่งมีชีวิตทั้งหมดรอบตัวหายไป มีเพียง…..นาง

จากกันมาพันกว่าปีในทะเลดาราต้นกำเนิดจิต สวี่ฮุ่ยที่อยู่ข้างกาย คำพูดอ่อนโยนในความเย็นชาของไป๋หลิง ทุกอย่างเหล่านี้มักจะทำให้เขาลืมอะไรไปมาก เพียงแต่ก้นบึ้งหัวใจมักจะมีดอกไม้ขาวเล็กๆ กลางสายฝนดอกหนึ่ง นามของมันคือเซวียน

จูบในตอนนั้น ตอนที่สี่ดวงตาประสานกัน ความยึดมั่นและอ่อนโยนจากในแววตาเด็กสาว ความเสียใจและบ้าคลั่งจากในดวงตาซูหมิง คือควันไฟที่ลมพัดไม่หายไป

ยังจำจูบลาในตอนนั้นได้ การแยกจากไม่ได้หมายถึงจากไปไกล แต่มันคือความเป็นตาย คือหลังจากนี้ไปจะไม่มีเด็กสาวที่ยิ้มอย่างปราดเปรียวคนนั้นอีก

หนึ่งจูบผ่านไป นางเหยียบผ่านสายลมเย็น ค่อยๆ หลับตาลง ร่างกายหลอมรวมเข้าสู่อากาศ นั่นเป็นเพราะนางรู้ว่าการจากไปครั้งนี้ บางที…..ชาติหน้าอาจไม่ได้พบกันอีก

“เจ้าคือเต้าคง?” เสียงแก่ชราแฝงไว้ด้วยความเย็นชาพร้อมจิตสังหารประหนึ่งพายุหนาวดังขึ้นจากแผ่นดินใหญ่พยัคฆ์ขาว เสียงดังก้องราวกับดาบคมกริบถึงขีดสุดหมายจะแยกมวลอากาศ ตัดบุญคุณความแค้นทุกอย่าง

เพียงแต่ว่าต่อให้ดาบคมกริบกว่านี้อีก ก็ไม่อาจตัดสายตาของซูหมิงที่มีเพียง…..

ขณะมองอยู่นี้ องค์ชายสามแห่งโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกที่ถูกซูหมิงมองข้ามหันกลับไปสังเกตเห็นความผิดปกติของอวี่เซวียน เมื่อเห็นนางเหม่อลอยจนเขาตกใจแล้ว สีหน้าก็ทะมึนทึบขึ้นมาทันที นานมากแล้วที่อวี่เซวียนไม่ได้ยิ้ม

น่าเสียดายรอยยิ้มนี้ไม่ใช่เพื่อเขา ขณะองค์ชายสามแห่งโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกหันหน้ามาช้าๆ ก็เห็นสายตาระหว่างซูหมิงกับอวี่เซวียน จากนั้นนัยน์ตาเขาฉายแววเกรี้ยวโกรธในทันใด

เขาแค่นเสียงหึเย็นชาทีหนึ่ง จากนั้นใช้มือบีบคออวี่เซวียนต่อหน้าซูหมิงจนแน่น ตอนที่กระชากนางมาอยู่ข้างกายตนนั้นยังดมระหว่างคิ้วนาง

เขาเงยหน้าขึ้นมองซูหมิงด้วยแววตาเหยียดหยามและยั่วยุ

ซูหมิงผมแดงเขาไม่สนใจเสียงผู้เฒ่าหมิงจากแผ่นดินใหญ่พยัคฆ์ขาว ไม่สนใจความคิดของทุกคนรอบๆ แต่ตอนที่ในดวงตามีการเหยียดหยามและยั่วยุบีบคอ อวี่เซวียน เขาเห็นความเจ็บปวดทางสีหน้านาง แต่ก็ยังยิ้มอยู่ เขา….บ้าคลั่งแล้ว!

เดิมทีซูหมิงผมแดงไม่สนกฏเกณฑ์ ไม่สนผลตามมาทุกอย่าง ประกอบกับเขาอยู่ในแดนนั่งฌานของซูเซวียนอี ในใจระงับความอยากในการระเบิดอย่างแรงกล้าเอาไว้ ความคิดนี้ระเบิดออกได้ทุกเมื่อ ขอเพียงเปลวไฟ ความบ้าคลั่งของซูหมิงผมแดงจะปะทุออกมาทั้งหมด

หากคนในดวงตามีการเหยียดหยามและยั่วยุไม่ทำแบบนี้ หากอวี่เซวียนยังคงยิ้มและมองอย่างนี้ ในใจซูหมิงจะสงบลงช้าๆ จนกลับคืนสภาพเดิม ดังนั้นแล้ววันนี้…..อาจไม่เกิดการสังหารมากนัก

ทว่าการกระทำอันโง่เขลาขององค์ชายสามผู้ไม่รู้เรื่องกลับกลายเป็น…..เสี้ยวเปลวไฟจุดความบ้าคลั่งของซูหมิง!

เขากลายเป็นเปลวไฟ ปลดปล่อย…..ความบ้าคลั่งที่ซ่อนอยู่ในร่างซูหมิงตั้งแต่กลับมาจากแดนรกร้างต้นกำเนิดจิต และก็เป็นร่างนี้เองที่ทำลายล้างขุมอำนาจรักษาการณ์โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่สนเหตุผล!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นนอกตัวซูหมิงพร้อมกับระเบิดทะเลเพลิงมหาศาล ทะเลเพลิง ถาโถมไปรอบๆ ม้วนพวกเต้าหลินกับเต้าฝ่าจนถอยไป สองคนนี้กระอักเลือดพร้อมกัน ดอกบัวอุดมสมบูรณ์บนตัวเปิดใช้งานโดยพลัน จึงไม่ถูกทะเลเพลิงปะทะใส่จนตาย

ตอนที่ทะเลเพลิงปะทุ ทุกคนบนแผ่นดินมังกรดำแห่งโลกแท้จริงดาราสัจธรรมต่างยืนขึ้นมองฟ้าด้วยความหวาดกลัว ในเวลาเดียวกันผู้อาวุโสสำนักทั้งหมดแห่งสำนักดาราสัจธรรมที่ล้อมรอบต่างหน้าเปลี่ยนสี โดยเฉพาะสามผู้เฒ่าตะวันจันทราและดารา พวกเขาหน้าเปลี่ยนสี มองซูหมิงพร้อมกันพลางขมวดคิ้ว

ในใจพวกเขารู้เป้าหมายของโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ดี และก็เตรียมจัดการเอาไว้อย่างดีแล้ว ในเมื่อซูหมิงเป็นใต้เท้า เช่นนั้นก็จะไม่ยอมให้โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์มายุ่งได้ จุดนี้โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ก็รู้ดีเช่นกัน อย่างมากก็เพียงลงโทษเล็กน้อย สำคัญคือต้องได้รับการชดใช้เท่านั้น

ขอเพียงให้เกียรติโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ทอย่างสมควร ให้ซูหมิงโค้งคารวะอีกเล็กน้อย เรื่องใหญ่ก็จะเป็นเรื่องเล็ก ส่วนเรื่องเล็กจะจัดการอย่างไรก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง

ทว่าตอนนี้ทะเลเพลิงที่ซูหมิงระเบิดออกมากลับทำลายแผนที่พวกเขาวางเอาไว้ ช่วงที่ผู้เฒ่าสามคนขมวดคิ้วและกำลังจะตะโกนด่าทอนั้น ซูหมิงเงยหน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ทะเลเพลิงรอบตัวเขาไม่ใช่เพลิงของบรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิง แต่เป็น เพลิงความแค้นที่ยับยั้งอยู่ในร่างซูหมิงสภาวะคลุ้มคลั่ง เพลิงนี้มีระดับบางอย่างคล้ายกับย่วนเว่ย

แทบเป็นช่วงที่ทะเลเพลิงหลั่งทะลัก ซูหมิงเดินหน้าหนึ่งก้าวเป็นสายรุ้งยาวพุ่งไปยัง…..แผ่นดินนกกระจอกแดงที่คนจักรพรรดิยมโลกอยู่

องค์ชายสามแห่งโลกจักรพรรดิยมโลกหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง เขาสะบัดแขนเสื้อไปด้วยความทะมึนทึบ มังกรยมโลกพันตัวที่ลอยอยู่บนแผ่นดินนกกระจอกแดงต่างร้องคำรามพร้อมกัน ก่อนพุ่งไปทางซูหมิง

ภาพนี้ทำให้ผู้คนโดยรอบพากันงุนงง โดยเฉพาะผู้อาวุโสสำนักเหล่านั้น เดิมทีพวกเขาคิดว่าซูหมิงจะพุ่งเป้าไปที่โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ กระทั่งโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ยังเตรียมตัวอย่างดีพร้อมในช่วงที่ซูหมิงระเบิดทะเลเพลิงแล้วด้วย ทว่า….. ซูหมิงกลับไม่มองแผ่นดินพยัคฆ์ขาวที่โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์แม้แต่หางตา เพียงพุ่งตรงไปยังแผ่นดินนกกระจอกแดงของโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก

ทุกอย่างพูดเหมือนนาน แต่ความจริงเกิดขึ้นเพียงพริบตา ซูหมิงก็เข้าปะทะกับมังกรยมโลกที่พุ่งเข้ามาเหล่านั้นกลางทะเลเพลิงเหลือล้น

มังกรตัวที่อยู่หน้าสุดคือพาหนะขององค์ชายสาม มันมีขนาดใหญ่ที่สุด แรงกดดันจากตัวมันเทียบเท่ากับขั้นกุม

นี่คือมังกรยมโลก ไม่ว่าจะมีขั้นพลังสูงเพียงใดล้วนต้องถูกควบคุมวิญญาณโดยโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกไปทุกยุคสมัย!

และมีเพียงขั้นพลังแบบนี้เท่านั้นถึงเป็นพาหนะขององค์ชายสามโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกได้ มังกรตัวนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายโบราณ ยามนี้ขณะพุ่งไปหาซูหมิงยังอ้าปากน่าสยดสยองคำรามเสียงดังสนั่นฟ้าดิน

โครม!

ซูหมิงผมแดงไม่หยุดแม้แต่น้อย ทันทีที่ปะทะกับมังกรยมโลกตัวนั้น เขาใช้มือขวาชกใส่มันหนึ่งหมัด

ท่ามกลางเสียงครึกโครม ช่วงที่หมัดซูหมิงปะทะกับมังกรยมโลกตัวนี้ มันพลันตัวสั่นสะท้านไปทั่วร่าง ก่อนกระเด็นถอยไปด้วยหนึ่งหมัด เลือดเนื้อสั่นไหว อีกทั้งยัง ฉีกเป็นบาดแผลหลายหมื่นแห่ง ต่อมาเลือดเนื้อจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากบาดแผลไม่หยุดในขณะที่มันกระเด็นถอยไป เพียงไม่กี่ลมหายใจ เลือดเนื้อทั้งหมดของมันแยกออกจากกระดูก ในระหว่างที่มันยังกระเด็นถอยไปนี้ ทั่วร่างมันพ่นหมอกโลหิตออกมา เลือดเนื้อทั้งหมดถูกทำลาย เหลือเพียง…..โครงกระดูกโล่งๆ แม้แต่พลังชีวิตกับวิญญาณยังถูกแรงสะท้อนกลับจากหมัดซูหมิงทำลายไปพร้อมกัน

เกิดเสียงดังสนั่น โครงกระดูกตกลงพื้น ตกลงตรงหน้าองค์ชายสามแห่งโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก ทำให้เขาตัวสั่นงันงก รีบกระชากอวี่เซวียนมาไว้ตรงหน้า ส่วนตัวเขายืนขึ้น ลมหายใจกระชั้นด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

“อาคมมังกรยมโลก ปลุกพลังชีวิตอายุขัยของพวกเจ้าสังหารมันให้ข้า!”

มังกรยมโลกพันตัวที่เหลืออยู่บนฟ้ามีขั้นพลังเพียงเจ้าปกครองโลกตอนปลาย องค์ชายสามเลือกพวกมันอย่างถี่ถ้วน ดังนั้นจึงมีขั้นพลังเหมือนกันหมด ยามนี้มังกรยมโลกพันตัวล้วนเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า ช่วงที่พุ่งไปหาซูหมิงพร้อมกันนั้น พวกมันต่างเชื่อมเข้าด้วยกันอย่างน่าประหลาด ทุกตัวกัดหางมังกรยมโลกอีกตัวจนเชื่อมกันเป็นวงกลมหนึ่งวง แวบเดียวก็ล้อมซูหมิงที่กำลังพุ่งมายังแผ่นดินนกกระจอกแดงอย่าง บ้าคลั่งเอาไว้

ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันยิ่ง จนถึงตอนนี้ทุกคนโดยรอบเพิ่งจะได้สติกลับมา โดยเฉพาะศิษย์สำนักดาราสัจธรรมบนแผ่นดินมังกรดำ พวกเขาต่างบินขึ้นและระเบิดขั้นพลังของตัวเองออกมาทั้งหมด

ที่นี่คือโลกแท้จริงดาราสัจธรรม และคนที่มังกรยมโลกพันตัวล้อมอยู่ก็คือใต้เท้าเต้าคงที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งของพวกเขา!

ตอนท้าประลอง พวกเขาต่างเข่นฆ่ากันเอง แต่ยามศัตรูบุก พวกเขาจะเป็นสหายร่วมสำนักก้าวไปพร้อมกัน! นี่คือการโน้มนำที่เกิดจากการซึมซับโดยไม่รู้ตัวมาไม่รู้กี่ปีในสำนักดาราสัจธรรม การโน้มนำนี้คือข้อบังคับแรกที่สลักลึกอยู่ในใจศิษย์สำนัก ดาราสัจธรรม และประทับอยู่กลางวิญญาณ!

บนแผ่นดินเต่าทมิฬ คนเหล่านั้นจากโลกแท้จริงที่สี่ต่างมีสีหน้าปกติ ชายชรา เสื้อคลุมฟ้าดวงตาวาววับ แต่ไม่ได้พูดอะไร เซียนจื่อหลงข้างๆ ขมวดคิ้ว ถึงแม้ว่า พวกเขาสองคนจะเคยประมือกันมาก่อน แต่สุดท้ายก็ยังเป็นสหายกันอย่าง น่าประหลาด

สหายแบบนี้ไม่ต้องกล่าวถึงแต่กลับมีอยู่ หากพูดถึงที่มาจริงๆ บางทีอาจเป็นเพราะเซียนจื่อหลงรู้สึกผิดและมีความเคารพยำเกรง ที่รู้สึกผิดก็เพราะตนหนีไปตอนอยู่ทะเลลำดับห้า และที่ยำเกรงก็เพราะซูหมิงสร้างเรื่องใหญ่โตน่าตะลึงหลายครั้งหลายครา

“ดีจริงๆ สำนักดาราสัจธรรม ไม่ทราบว่านี่คือพิธีแต่งตั้งใหญ่ของพวกเจ้าหรือว่าหลุมพรางสังหารที่จะฝังคนที่มาร่วมพิธีอีกสามโลกพร้อมกัน? คนที่พวกเจ้าแต่งตั้งคือใต้เท้าหรือว่าคนบ้ากันแน่?

เขาทำลายขุมอำนาจรักษาการณ์โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ของข้า มองไม่ถูกใจแวบเดียวก็สังหารมังกรยมโลกอย่างเสียสติ ดูแล้วเหมือนคิดจะสังหารสหายโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก นี่ คือใต้เท้าที่พวกเจ้าแต่งตั้งรึ?” ผู้เฒ่าหมิงแห่งโลกแท้จริง หยินศักดิ์สิทธิ์บนแผ่นดินพยัคฆ์ขาวพูดเสียดสีขึ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!