Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1104

ตอนที่ 1104 มือขวาข้า 2

“ศิษย์สำนักดาราสัจธรรมถอยกลับไปนั่งให้เรียบร้อย!” ผู้เฒ่าจันทราหนึ่งใน สามผู้เฒ่าตะวันจันทราและดาราเอ่ยเสียงต่ำ น้ำเสียงดังสนั่นราวฟ้าผ่า ขั้นพลังทั่วร่างปะทุขึ้น ศิษย์สำนักดาราสัจธรรมที่เตรียมไปช่วยซูหมิงจึงพากันถอยกลับไปยังแผ่นดินมังกรดำกันเงียบๆ

และยังมีผู้ฝึกฌานเก้าล้านคนบนเก้าแผ่นดินข้างล่าง ระหว่างที่ขั้นพลังปะทุขึ้นก็ต่างฝืนระงับเอาไว้ สายตาจ้องข้างบนเขม็งพลางกลับไปยังแท่นหินของตน

ตอนนี้เองมังกรยมโลกพันตัวที่ล้อมรอบตัวซูหมิงเป็นวงกลมก็หดเข้ามาอย่างรวดเร็ว ความเร็วในการหด พริบตาเดียวก็เข้าไปใกล้ซูหมิง

ช่วงที่เข้าใกล้ พลันมีหัวมังกรมายายักษ์ถูกรวมออกมาหัวหนึ่ง ขณะร้องคำรามยังรวมพลังของมังกรยมโลกพันตัวกับวิญญาณเผาไหม้ ปล่อยออกไปเป็นพลังชีวิตมหาศาลพุ่งเข้าไปใกล้ซูหมิง

นี่คือการหลอมรวมกันของมังกรยมโลกพันตัว หลังจากขั้นพลังและพละกำลังพวกมันรวมกันแล้วก็ปะทุออกมาเป็นพลังที่แกร่งที่สุด กระทั่งภายใต้คำสั่งของ องค์ชายสามแห่งโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก มังกรยมโลกพันตัวนี้ล้วนมีเปลวเพลิง ไร้รูปจากวิญญาณกระทั่งเผาขั้นพลัง

นี่คือเผาชีวิตตัวเองเพื่อระเบิดพลังที่แกร่งที่สุด หลังการโจมตีครั้งนี้ ไม่ต้องให้คนนอกลงมือพวกมันก็เหลืออายุขัยแค่ไม่กี่วันเท่านั้น พวกมันจะทยอยกันตายไปทีละตัว

แต่ราคาที่แลกมากลับเป็นพลังที่มากพอจะเขย่าฟ้า ถึงขั้นพลังนี้ยังเป็นการโจมตีหนึ่งครั้งที่เหนือกว่าผู้ฝึกฌานเจ้าปกครองโลกตอนปลายพันคนเผาพลังชีวิต!

ถึงอย่างไรมังกรยมโลกก็ไม่ใช่ผู้ฝึกฌาน พวกมันยังมีพละกำลังแก่กล้า

หากเป็นซูหมิงที่ไม่ได้ผ่านการทดสอบของใต้เท้ามา การเผชิญหน้ากับการโจมตีครั้งนี้ นอกจากเขาจะเรียกเตาหลอมลำดับห้าแล้วก็ไม่มีวิธีอื่นอีก เขารู้สึกจากการโจมตีครั้งนี้ว่าอ่อนกว่าหมัดของเทพโบราณในสนามรบเล็กน้อยเท่านั้น

แต่ซูหมิงที่ผ่านการทดสอบมาตอนนี้ดวงตาฉายแววโลหิต ทันทีที่หัวมังกรยักษ์จากพลังน่าตะลึงเข้ามาใกล้ เขาหมุนตัวกลับอย่างไม่ลังเล หันแผ่นหลังเข้าหัวมังกรนั้น ก่อนยกมือขวาขึ้นตบหน้าอกตัวเองอย่างแรงเหมือนกับที่ดวงจิตแห่งทะเลเต๋าในการทดสอบเคยทำไว้ทุกประการ

ตอนที่ตบฝ่ามือลงก็เป็นจังหวะเดียวกับที่หัวมังกรยักษ์ข้างหลังพุ่งเข้ามาโดยมี ซูหมิงเป็นใจกลาง ช่วงที่ปะทะร่าง พลันเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

ซูหมิงตัวสั่นสะท้าน เขากระอักเลือด หัวมังกรยักษ์ข้างหลังสั่นไหวอย่างรุนแรง ท่ามกลางเสียงคำรามดังก้อง หัวมังกรยักษ์พังทลายลงเป็นเสี่ยงๆ ถูกแรงสะท้อนกลับประหนึ่งภูเขาไม่อาจเขยื้อนจากตัวซูหมิงบดทำลายทั้งเป็น จากนั้นมังกรยมโลกพันตัวก็สะเทือนจนแยกกันออก

ในเวลานี้ มังกรยมโลกพันตัวรอบซูหมิงกระเด็นถอยไป ในระหว่างนั้น มังกรยมโลกพันตัวต่างร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด ร่างพวกมันแตกหักไปพร้อมกัน รอยแผลถูกฉีกออกทีละแห่งบนตัว สุดท้าย…..เลือดเนื้อและกระดูกแยกจากกันเหมือนกันมังกรยมโลกขั้นกุมตัวนั้น ขณะที่มังกรยมโลกพันตัวกระเด็นถอยและ เลือดเนื้อระเบิดพร้อมกันนั้น ก็เหลือเพียงโครงกระดูกตกลงกลางฟ้า

กลิ่นคาวเลือดอบอวลไปรอบๆ ซูหมิงคลุ้มคลั่งสีหน้าบิดเบี้ยว ดวงตาแดงก่ำ ภายใต้สายตาตื่นตะลึงของคนส่วนใหญ่รอบๆ เขาสูดลมหายใจเข้า

ฉับพลันนั้นเลือดเนื้อมากมายรอบๆ พุ่งตรงมาหาซูหมิงด้วยความเร็วสูง พริบตาเดียวก็หายไปในน้ำวนยักษ์ที่ปรากฏขึ้นรอบตัวเขาอย่างกะทันหัน

ตรงส่วนลึกน้ำวนเป็นมังกรยมโลกของอวี่เซวียนที่กลายร่างเป็นสุนัขใหญ่จากในถุงเก็บวัตถุซูหมิง มันในตอนนี้ตัวสั่น นัยน์ตาฉายแววบ้าคลั่งเหมือนซูหมิงพลางสูบเลือดเนื้อมังกรยมที่มีมหาศาลโลกไม่หยุด

เป็นเผ่ามังกรยมโลก พวกมันคือสิ่งมีชีวิตที่กินกันเองเพื่อแกร่งขึ้นได้ เพียงแต่ว่าในโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกห้ามกินกันเอง หากมีมังกรยมโลกฝ่าฝืน จุดจบไม่ใช่ถูกเนรเทศ แต่จะถูกสังหาร

ทว่าตอนนี้มันไม่ใช่สัตว์ของโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกแล้ว มันไม่สนใจแม้แต่น้อย!

อาการบาดเจ็บของมันฟื้นฟูกลับมาโดยพลัน อีกทั้งขั้นพลังยังปะทุขึ้นไม่หยุด จาก เจ้าปกครองโลกในอดีตทะยานถึงภัยพิบัติจันทรา ก่อนทะลวงต่อไปยังภัยพิบัติตะวัน ถึงจะยังไม่ใช่ขั้นสมบูรณ์ ทว่ามันก็เหมือนเกิดใหม่แล้ว

“มังกรยมโลก….ข้าก็มีเหมือนกัน!” ซูหมิงสะบัดแขนเสื้อ พลันมีเสียงคำรามมังกรดังสนั่นมาจากในน้ำวนนั้น ก่อนมังกรยมโลกของอวี่เซวียนและของซูหมิงจะพุ่งออกมาจากในน้ำวน ขณะที่มันเงยหน้าคำราม ข้างหลังปรากฏดวงตะวันภัยพิบัติยักษ์ขึ้น หนึ่งดวง!

อีกทั้งช่วงที่มังกรยมโลกปรากฏตัว ยังมีมังกรยมโลกอีกตัวร้องคำรามพร้อมพุ่งออกมาจากน้ำวนเช่นกัน ร่างมังกรตัวนี้ดูใหญ่กว่าไม่น้อย เพียงแต่ดวงตาไม่มีความน่าเกรงขาม แต่กลับมีความต่ำทราม เห็นได้ชัดว่า….มังกรยมโลกตัวนี้คือกระเรียนขนร่วงที่ไม่อยากเปลี่ยวเหงาจึงแปลงกายออกมา

มังกรยมโลกสองตัวนี้วนเวียนไปรอบๆ ส่งเสียงคำรามสะเทือนฟ้าดิน ซูหมิงขยับวูบไหวตัวกลายเป็นสายรุ้งยาวพุ่งไปยังแผ่นดินใหญ่นกกระจอกแดง ภาพนี้สร้างความตื่นตะลึงกับทุกคนรอบๆ และยังทำให้องค์ชายแห่งสามโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก ใจสั่นไหว ก่อนตะโกนเสียงต่ำไปด้วยใบหน้าเหยเกย

“ผู้ฝึกฌานแห่งโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก พวกเจ้ายังรออะไรอีก ข้าขอสั่งให้พวกเจ้าจ่ายทุกอย่างอัญเชิญบรรพบุรุษมังกรยมโลกหรือเซ่นไหว้เลือดเนื้อพวกเจ้าอัญเชิญผียมโลกมาก็ได้ ฆ่ามัน!”

“เต้าคง เจ้าจะทำอะไร!” ผู้เฒ่าจันทราหนึ่งในสามผู้เฒ่าตะวันจันทราและดาราแห่งสำนักดาราสัจธรรมตะโกนไปทางซูหมิง ช่วงที่เขาจะเดินเข้าไปขวางนั้น สองผู้เฒ่าโยวหมิงบนแผ่นดินพยัคฆ์ขาวส่งเสียงหัวเราะลากยาว

“คนบ้าแบบนี้ ไม่คู่ควรจะเป็นใต้เท้าสำนักดาราสัจธรรมของพวกเจ้า ในเมื่อพวกเจ้าไม่จัดการ เช่นนั้นก็ให้พวกข้าสองคนจัดการแทนแล้วกัน” สองผู้เฒ่าโยวหมิงหรือชายชราที่แก่ชราจนเหมือนลืมตาไม่ขึ้น ตอนนี้หัวเราะพลางกระโดดขึ้น พลังจาก ขั้นพลังน่าสะพรึงปะทุมาจากตัวพวกเขา

“สหายจากโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก พวกเราจะช่วยพวกเจ้าสังหารมันเอง!” สองผู้เฒ่าพุ่งทะยานไปหาซูหมิง

ผู้เฒ่าจันทราสีหน้ามืดทะมึน จังหวะก้าวหยุดชะงักเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เดินต่อ

“ฮ่าๆ ขอบคุณผู้อาวุโสโยวหมิงสองท่านมาก เรื่องนี้ข้าจะบอกกับบิดาอย่างแน่นอน ภายภาคหน้าย่อมตอบแทน” องค์ชายสามใจสั่นไหว เขาระงับความกลัวในใจลงไป ก่อนมองซูหมิงที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“หุ่นเชิดเพลิง!” ขณะห้อเหยียดเข้ามา ซูหมิงผมแดงมาพร้อมกับความบ้าคลั่ง ตอนนี้ในสายตาเขามีเพียงอวี่เซวียนคนเดียว เมื่อสิ้นเสียงเขา พลันเกิดระลอกคลื่นเป็นวงกว้างกลางอากาศ จากนั้นบรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงก้าวเดินออกมาแล้วยกมือขวาขึ้น ฉับพลันนั้นเปลวเพลิงของเขาแผ่กระจายออก ถาโถมไปรอบๆ รวมขึ้นเป็นลูกกลมไฟแสนลูกพุ่งเข้าไปยังผู้ฝึกฌานโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกที่กำลังพุ่งเข้ามา

“จูโหย่วไฉ!” ซูหมิงยกมือคว้าอากาศ ทวนมุ่งสู่ชีวิตปรากฏขึ้นในมือโดยพลัน จากนั้นเขาคลายมือออก ช่วงที่ทวนมุ่งสู่ชีวิตร่วงลงไปข้างล่าง กลับมีมือข้างหนึ่งยื่นมาจากอากาศคว้าทวนเอาไว้ แล้วตามด้วยร่างอ้วนใหญ่ของจูโหย่วไฉเดินออกมา

เขาลอบถอนหายใจเงียบๆ ร่างใหญ่พลันหดตัวลงอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็กลายเป็นชายวัยกลางที่มีสีหน้าเคร่งขรึม เขากำทวนมุ่งสู่ชีวิตในมือเอาไว้แน่นก่อนเดินหน้าไปหาสองผู้เฒ่าโยวหมิง

“ทวนมุ่งสู่ชีวิต…..เจ้า…..”

“ฉางเหอ เจ้าคือเซียนนักรบฉางเหอ!” สองผู้เฒ่าโยวหมิงพลันหน้าเปลี่ยนสี ที่พวกเขามาสำนักดาราสัจธรรม นอกจากตามหาเต้าคงแล้วยังมีอีกภารกิจหนึ่งคือ…..ตามหาคนที่ชายชราขั้นเกิดที่รักษาการณ์ในแดนรกร้างต้นกำเนิดจิตเอ่ยถึง…..นั่นคือเซียนนักรบฉางเหอ ลูกศิษย์ของผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์!

“ฉางเหอตายไปในเตาหลอมลำดับห้าแล้ว ข้าคือ….จูโหย่วไฉ!” จูโหย่วไฉหลับตาลงแล้วพลันลืมตาขึ้น พลังเกือบบรรลุถึงขั้นดับสูญปะทุออกมาพร้อมกับพุ่งตรงไปหาสองผู้เฒ่าโยวหมิง

เขาในร่างจูโหย่วไฉขั้นพลังจะเดี๋ยวแกร่งเดี๋ยวอ่อน แต่เมื่อกลายเป็นร่างนี้ เขาจะไม่ใช่คนที่มีเพียงดวงจิตตามที่ชายชราแห่งโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์เคยบอกไว้ แต่เป็น…..เซียนนักรบผู้บรรลุถึงขั้นเกิดสมบูรณ์อย่างแท้จริง อีกครึ่งก้าวจะไปสู่ขั้นดับสูญ!

เพียงแต่ว่าเซียนนักรบในตอนนี้ไม่ใช่คนของโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์อีก แต่มาอยู่ข้างกายซูหมิงเพราะคำสัญญาหนึ่ง

โครม!

การต่อสู้สะเทือนฟ้า!

มีจูโหย่วไฉตรึงสองผู้เฒ่าโยวหมิงเอาไว้ มีบรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงสังหาร ผู้ฝึกฌานโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก ทางด้านซูหมิง เขามาพร้อมกับความบ้าคลั่งและจิตสังหาร ช่วงที่กระเรียนขนร่วงและมังกรยมโลกเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า เสียงดังก้องนภานั้น ซูหมิงกลายเป็นสายรุ้งยาวแทบจะทำลายล้างอากาศพุ่งไปยังแผ่นดินนกกระจอกแดง พุ่งไปยัง….องค์ชายสามแห่งโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกที่ทำร้าย อวี่เซวียนก่อนหน้านี้!

อวี่เซวียนมองซูหมิงพุ่งเข้ามาด้วยรอยยิ้ม ในรอยยิ้มมีน้ำตารินไหลจากดวงตา นางรู้ นางรู้มาตลอดว่าซูหมิงยังไม่ตาย

นางยังรู้อีกว่าสักวันหนึ่งนางจะได้พบอีกฝ่าย ได้เจอกัน ภาพเหตุการณ์ในวันนี้เคยมีอยู่ในความคิดนาง วันนี้….เป็นจริงแล้ว

“เป็นเจ้า เจ้าไม่ใช่เต้าคง เจ้าคือซูหมิงจากแผ่นดินเผ่าหมานในแดนมรณะหยินโลกแท้จริงดาราสัจธรรม เจ้ารู้จักกับนางสารเลวอวี่เซวียนที่เผ่าหมาน เจ้าไม่ใช่ เต้าคง!” หากตอนนี้องค์ชายสามแห่งโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกยังไม่เข้าใจอีก เช่นนั้นเขาก็คงใช้ชีวิตอย่างสูญเปล่าแล้ว

ทันทีที่เสียงเขาดังขึ้น ซูหมิงผมแดงเข้ามาใกล้แล้ว ก่อนชกหนึ่งหมัด ฟ้าดินส่งเสียงดังสนั่น!

ม่านแสงหนึ่งพลันแผ่ขยายออกจากตัวองค์ชายสามแห่งโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกราวกับชามใหญ่พลิกคว่ำ สีของม่านแสงเป็นสีดำ เป็นลักษณะกึ่งโปร่งใส ขณะเดียวกับที่มันแผ่กระจายพลังยมโลก ยังมีแรงกดดันที่คนต้องหายใจติดขัดแผ่ออกมาด้วย

แรงกดดันนี้เหนือกว่าขั้นดับสูญ!

นี่คือ…..แสงคุ้มกันของจักรพรรดิของโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก เป็นบิดาขององค์ชายสามที่สร้างมันให้เขา

โครม!

หมัดซูหมิงปะทะกับม่านแสง แรงสะท้อนกลับรุนแรงผลักซูหมิงกระเด็นออกไป ทำให้เขากระอักเลือด ในเวลาเดียวกันมวลอากาศรอบม่านแสงยังเกิดการบิดเบี้ยว ก่อนปรากฏร่างเงาที่ซ่อนอยู่ที่นี่มาตลอดสี่คน พวกเขาต่างกลายเป็นสายรุ้งยาวสี่สายพร้อมด้วยจิตสังหารรุนแรงพุ่งไปหาซูหมิงที่กำลังกระเด็นถอย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!