ตอนที่ 1111 มหันตภัยของโยวหมิง

แทบเป็นช่วงที่ซูหมิงเงยหน้าขึ้น เขาพลันเดินหน้าหนึ่งก้าวพุ่งไปยังสองผู้เฒ่าโยวหมิงแห่งโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ด้วยความเร็วในพริบตา

ซูหมิงต้องการระบาย หากความแค้นเหลือล้นกับความโกรธในร่างกายไม่ถูกระบายออก เขาจะมีความรู้สึกเหมือนร่างถูกฉีกทำลาย

เขาต้องระบาย ไม่ว่าจะเป็นจิตใจหรือวิญญาณต้องรับการระบายอย่างหนัก และยังต้องสังหารด้วย

ระหว่างที่ซูหมิงพุ่งไป สามผู้เฒ่าตะวันจันทราและดาราหน้าเปลี่ยนสี ขณะกำลังจะไล่ตามไปนั้นกลับมีเสียงหัวเราะลากยาวมาจากทางโลกแท้จริงที่สี่ เป็นชายชรา ชุดคลุมฟ้าเดินหน้าวูบไหวมายืนอยู่ตรงหน้าสามผู้เฒ่าตะวันจันราและดาราในพริบตา แล้วประสานมือคารวะสามคนนี้เล็กน้อยด้วยสีหน้ายิ้มทีเล่นทีจริง

“สามท่าน พวกเรามาประลองฝีมือกันหน่อยดีหรือไม่?”

“หลิงไห่ เจ้าหมายความว่าอย่างไร!” ผู้เฒ่าจันทราขมวดคิ้วพร้อมตะโกนเสียงต่ำ

“ไม่มีอะไร แค่คิดถึงสามท่านมาก อยากประลองฝีมือด้วยเท่านั้น” ชายชรา ชุดคลุมฟ้ายิ้มเล็กน้อยพลางสะบัดแขนเสื้อ ทันใดนั้นปรากฏทะลกว้างใหญ่ขึ้นพร้อมกับถาโถมไปยังสามผู้เฒ่าตะวันจันทราและดารา

“ทะเลโลหิตคุมขัง!” ชายชราชุดคลุมฟ้าใช้สองมือประสานมุทรา กัดปลายลิ้น พ่นโลหิตคำใหญ่ โลหิตเขาหลอมรวมเข้าไปในทะเลที่โผล่มา ทันใดนั้นทะเลถูกย้อมเป็นสีเลือด จนเมื่อกลายเป็นทะเลโลหิตวนเวียนไปรอบๆ แล้วก็รวมออกมาเป็นเหมือนผนึก ทำให้สามผู้เฒ่าตะวันจันทราและดารายากจะพุ่งออกมาได้ในเวลานี้

“เจ้าหนูน้อย ข้าช่วยเจ้าแล้ว แต่ก็ต้องลงทุนไปมากด้วย โลหิตจากผนึกทะเลโลหิตนี้ใช้พลังข้าไปเกือบห้าพันปีถึงจะใช้พลังของคนคนหนึ่งคุมขังสามคนนี้ไว้ได้ ครึ่งชั่วยาม

เจ้าต้องพยายามเข้า…..ทำผิดร้ายแรงให้มากกว่านี้ สังหารองค์ชายสามจักรพรรดิยมโลกไม่เลว ทำลายขุมอำนาจรักษาการณ์โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่เลว แต่ก็ยังไม่พอ เจ้าต้องสังหารสองผู้เฒ่าโยวหมิง และยังต้องไปสังหารที่โลกจักรพรรดิยมโลกกับโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ด้วย

อย่างดีที่สุดก็ล่อผู้ยิ่งใหญ่ของหนึ่งโลกแท้จริงออกมา แบบนี้…..ถึงจะพอ” ชายชราชุดคลุมฟ้าหน้าขาวซีดเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าการผนึกสามผู้เฒ่าตะวันจันทราและดาราสำหรับเขายากยิ่ง แต่ดวงตาเขากลับเป็นประกายเด่นชัด ในประกายแววตาเต็มไปด้วย…..การเฝ้ารอคอย

ช่วงที่ชายชราชุดคลุมฟ้าผนึกสามผู้เฒ่าตะวันจันทราและดาราแห่งสำนักดาราสัจธรรมและผู้คนโดยรอบหน้าเปลี่ยนสี ทั่วร่างซูหมิงแผ่กระจายหมอกดำพร้อมกับกลายเป็นสายรุ้งยาวพุ่งไปหาสองผู้เฒ่าโยวหมิง

“รนหาที่ตาย!” สองผู้เฒ่าโยวหมิงดวงตาวาววับ ผู้เฒ่าโยวในนั้นยิ้มเยาะพลางขยับวูบไหวไปข้างหน้า ร่างแก่ชราจนเหมือนเพิ่งออกมาจากโลงศพยกมือขวาขึ้นทำปางมือชี้ไปข้างหน้า

ทันใดนั้นรอบปลายนิ้วของผู้เฒ่าโยวมีไอหนาวลอยขึ้นมา ทั้งยังมีพลังมหาศาลที่หนาวเยือกจนคล้ายจะแช่แข็งมวลอากาศได้ สิ้นเสียงดังกึกๆ มวลอากาศตรงหน้า ผู้เฒ่าโยวเกิดเกล็ดน้ำแข็งขึ้นนับไม่ถ้วน เกล็ดน้ำแข็งเหล่านี้เชื่อมเข้าด้วยกันและแผ่ขยายออกทันที รวมขึ้นเป็นใบหน้าผียักษ์ตรงหน้าซูหมิง

ใบหน้าผีนี้พุ่งเข้าไปหาซูหมิงด้วยความดุร้าย

พลังจากขั้นพลังที่เทียบเท่าขั้นดับแต่ยังขาดอีกเล็กน้อยระเบิดมาจากใบหน้าผี ซ้ำยังแผ่กระจายมาจากตัวผู้เฒ่าโยวอย่างน่าสะพรึง

ขณะใบหน้าผีกำลังจะเข้ามาปะทะ ดวงตาซูหมิงขยับประกายจิตใจสังหารเด่นชัด ตอนที่ยกมือขวาขึ้น มือขวาเขาให้ความรู้สึกแกร่งจนน่าตะลึงเหมือนกัน ทันทีที่ปะทะกับใบหน้าผีร้าย ซูหมิงกำห้านิ้วมือและชกเข้าไป

ฟ้าดินส่งเสียงดังสนั่น ฟ้าสั่นสะเทือน ซูหมิงเซถอยไปสามก้าว ทว่าใบหน้าผีน้ำแข็งตรงหน้ากลับพังทลายลง

ซูหมิงฝืนหยุดลงก่อนพุ่งไปอีกครั้ง พร้อมกันนั้นข้างหลังปรากฏกลิ่นอายพลังชั่วร้ายเหลือล้น นั่นคือการรวมของร่างเอ้อชาง ผู้เฒ่าโยวหรี่ตาลง ทำเสียงขึ้นจมูกพร้อมประสานมุทราสองมือตรงหน้า เมื่อประกบมืออย่างรวดเร็วแล้วก็ชี้ไปทางซูหมิง

“มหาชนเงามืด!” ผู้เฒ่าโยวคำรามเสียงต่ำ พอชี้ไปแล้ว เขาพลันตัวสั่นอยู่ครู่หนึ่ง ร่างกายเกิดร่างเงาซ้อนทับขึ้น เงาซ้อนทับนั้นพุ่งออกไปกลายเป็นชายชราคนหนึ่ง ร่างกายเขาเป็นมายา แต่ช่วงที่เดินไปหาซูหมิง เขายกมือขวาทำปางมือกดตรงระหว่างคิ้ว ร่างกายพลันเกิดเสียงดังโครม จากนั้นร่างเขาจึงกลายเป็นใบหน้าผีพุ่งไปหาซูหมิง

ขณะเดียวกันผู้เฒ่าโยวเกิดร่างเงาซ้อนทับอีกครั้ง ครั้งนี้มีเงามายาบินออกมาสิบคน พวกเขาล้วนเป็นชายวัยกลางคน หน้าตาเหมือนกันทุกประการ ซึ่งมีความคล้ายกับ ผู้เฒ่าโยวเล็กน้อย เหมือนเป็นผู้เฒ่าโยวที่หนุ่มกว่าหลายสิบปี

ตอนที่ซูหมิงปะทะกับใบหน้าผีจากร่างเงาชายชรา เงามายาชายวัยกลางคนสิบคนก็ขยับวูบไหวตัวกลายเป็นใบหน้าผีสิบใบหน้าพร้อมกันและพุ่งไปหาซูหมิง

หากเพียงเท่านี้คงไม่เท่าไร ทว่าผู้เฒ่าโยวที่ยืนนิ่งที่เดิมกลับปรากฏร่างซ้อนทับเป็นครั้งที่สาม จากนั้นมีร่างเงาหนึ่งร้อยคนพุ่งออกไป ทุกร่างเงาเป็นชายหนุ่ม ขณะพุ่งออกไปก็กลายเป็นใบหน้าผียักษ์ร้อยใบหน้าพุ่งไปหาซูหมิงพร้อมกัน

ราวกับว่าไม่มีที่สิ้นสุด ตอนที่ปรากฏเงาซ้อนทับบนตัวผู้เฒ่าโยวครั้งที่สี่ สิ่งที่ปรากฏคือร่างเงาเด็กหนุ่มห้าร้อยคน พวกเขากระจายออกไปรอบๆ ขณะวนเวียนยังกลายเป็นใบหน้าผีร้ายพร้อมกัน ทำให้มองไปผืนฟ้าอัดแน่นไปด้วยใบหน้าผีนับไม่ถ้วน

ใบหน้าผีเหล่านี้อ้าปากคำรามเสียงดังพร้อมพุ่งเข้าไปหาซูหมิง เกิดเสียงครึกโครมดังขึ้นไม่หยุด เห็นว่ามีใบหน้าผีไม่มีสิ้นสุดพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาซูหมิงขยับประกายวาว ในตอนที่ใบหน้าผีเหล่านี้พุ่งเข้ามา เขาหมุนตัวกลับ ยกมือขวาขึ้นตบหน้าอกตัวเอง

แรงสะท้อนกลับที่เรียนมาจากบรรพชนแห่งทะเลเต๋า เวลานี้ใช้ขั้นพลังของซูหมิงในตอนนี้แสดงออกมา แทบเป็นทันทีที่มือขวาเขาตบบนหน้าอก ก็เกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องแก้วหู

แรงปะทะกระจายออกจากรอบตัวเขา ม้วนตลบออกไปรอบๆ ภายใต้การกวาดล้าง ใบหน้าผีที่พุ่งเข้ามาเหล่านั้นล้วนเปล่งเสียงคำรามแหลม ก่อนหายไปพร้อมกันภายใต้แรงปะทะจากพายุคลั่งดุจดั่งหมอก

มุมปากซูหมิงมีโลหิตไหล แต่เขากลับไม่เช็ด ปล่อยให้โลหิตย้อมอยู่อย่างนั้น ก่อนเงยหน้าตะโกนเสียงดังเพื่อจะระบายความโกรธแค้นในตัวออก ขณะร้องตะโกน ผู้เฒ่าหมิงที่อยู่กับผู้เฒ่าโยวแค่นเสียงหึ ก่อนขยับวูบไหวตัวหายไปในพริบตา แล้วมาโผล่อีกทีข้างหลังซูหมิง ตามด้วยยกมือขวาขึ้นกดตรงหัวใจข้างหลังเขาแบบง่ายๆ

ช่วงที่กดนิ้วไป ตรงปลายนิ้วเกิดแสงมืดหม่นดูประหลาด เห็นรางๆ ว่ากลางแสงหม่น มีวิญญาณสลัวๆ อยู่มากมาย พวกมันร้องคำรามไร้เสียง ใบหน้าบิดเบี้ยว พอชายชรากดนิ้วไปพวกมันก็พุ่งไปยังหัวใจข้างหลังซูหมิง

เหมือนอยากจะฉีกร่างเขา ทะลวงเข้าไปในร่างกายเพื่อกินเลือดเนื้อและวิญญาณ

ซูหมิงไม่หลบการโจมตีครั้งนี้ อีกทั้งเขาไม่เคยคิดหลบด้วย แต่ระหว่างหมุนตัวกลับเขายกมือขวาขึ้นทำปางมือ ห้านิ้วมือกางออก ทันใดนั้นปรากฏฝ่ามือยักษ์ขึ้น ใต้เท้าเขา จนพอเขากำหมัดขวาอย่างรวดเร็วแล้ว ฝ่ามือมายายักษ์ก็กำด้วยเช่นกัน เป็นการห่อหุ้มเขาเอาไว้กลางฝ่ามือพร้อมปะทะกับนิ้วของผู้เฒ่าหมิง

ท่ามกลางเสียงดังครึกโครม ฝ่ามือยักษ์ที่หุ้มซูหมิงแตกออกเป็นชั้นๆ กระทั่งยังเผยซูหมิงที่กระอักเลือดอยู่ภายใน ทว่าในขณะเดียวกัน ผู้เฒ่าหมิงร่างสั่นไหวและถอยไปติดต่อกันหลายก้าว มุมปากมีโลหิตไหล

แต่แทบเป็นช่วงที่เขาถอยไป ผู้เฒ่าโยวดวงตาเป็นประกายเย็นเยียบ สองมือประสานมุทราอีกครั้ง ทันใดนั้นบนตัวเขามีเงามายาซ้อนทับบินออกมาพร้อมกันอีกเกือบพันร่าง กลายเป็นใบหน้าคนพันใบหน้าร้องคำรามพลางพุ่งไปหาซูหมิง ส่วนผู้เฒ่าหมิงก็เดินหน้าหนึ่งก้าวเช่นกัน ครั้งนี้เขายกมือขวาขึ้น ในมือปรากฏ ตะเกียงน้ำมันอันหนึ่ง ภายในมีเพลิงสีเขียวหม่นกำลังลุกไหม้

เขาชูตะเกียงน้ำมันขึ้น อ้าปากเป่าลมหายใจไปทางเพลิงหม่นสีเขียวนั้น ทันใดนั้นเปลวเพลิงเกิดการระเบิดกลายเป็นหงส์เพลิงร้องคำรามพุ่งไปหาซูหมิง

สองผู้เฒ่าโยวหมิงลงมือพร้อมกัน มีความคิดสังหารอย่างแน่วแน่มาก อีกทั้งยังใช้อภินิหารครั้งใหญ่ ไม่ได้มีความยั้งมือแม้แต่น้อย ตอนนี้หลังจากผนึกหน้าหลังซูหมิงเอาไว้แล้ว สองผู้เฒ่าโยวหมิงต่างเงยหน้าตะโกนขึ้นฟ้าพร้อมกัน

พลังมหาศาลพลันระเบิดมาจากตัวพวกเขา ในเวลาเดียวกันยังมีไข่มุกสีเขียวอีกสองเม็ดบินออกมาจากกลางกระหม่อมพวกเขา มาลอยอยู่กลางอากาศแล้วหมุนวนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ไปโผล่อยู่สองด้านซ้ายขวาของซูหมิง ก่อนขยับแสงวิบวับแล้วกลายเป็นร่างกายสูงใหญ่สองร่าง

ผิวหนังสีดำ หัวโล้น แต่กลับมีระลอกคลื่นเทียบเท่าขั้นเกิดกระจายมา หากไม่ใช่เพราะดวงตาพวกเขาไม่มีความปราดเปรียวซึ่งดูออกว่าเป็นหุ่นเชิด จะต้องคิดว่าเป็น ผู้ฝึกฌานแน่ๆ

นี่คือหุ่นเชิดขั้นเกิดสองตัวที่ไม่ว่าอยู่โลกแท้จริงใดล้วนหายากยิ่งและค่อนข้างล้ำค่า!

“ทาสศักดิ์สิทธิ์” ชายชราเสื้อคลุมฟ้าหรี่ตาลง วิชาหุ่นเชิดชนิดนี้ของโลกแท้จริง หยินศักดิ์สิทธิ์มีชื่อเสียงที่สุดในสี่โลกแท้จริง อีกทั้งวิชาส่วนใหญ่ของสำนัก หยินศักดิ์สิทธิ์แห่งโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ล้วนเกี่ยวข้องกับหุ่นเชิด

หลอมหุ่นเชิด อาศัยหุ่นเชิดฝึกฝน นี่แทบจะเป็นวิชาหลักของสำนักหยินศักดิ์สิทธิ์ หุ่นเชิดสองตัวนี้ก็คือร่างตัวแทนประจำตัวที่สองผู้เฒ่าโยวหมิงใช้ขั้นพลังในชีวิตนี้รวมออกมา

หน้าหลังซ้ายขวาซูหมิงมีศัตรูอยู่ โดยเฉพาะหุ่นเชิดสองตัวนี้ ถึงจะแผ่กระจายพลังขั้นเกิด ทว่าในมือพวกเขากำดาบใหญ่สีดำสองเล่มเอาไว้ ดาบสองเล่มนี้ทุกส่วนเป็นสีดำ วิญญาณร้ายนับไม่ถ้วนวนเวียนอยู่ในตัวมัน แผ่กระจายออกมาเป็น….. กลิ่นอายพลังที่ต่อให้เป็นซูหมิงก็ยังรู้สึกถึงอันตรายเด่นชัด

นี่คือ….ดาบสองเล่มที่ไม่ธรรมดา!

เกิดเสียงดังสนั่น อภินิหารบีบเข้ามาใกล้ ระหว่างที่ซูหมิงถูกล้อมด้วยการโจมตีสังหารจากรอบตัว เขาหลับตาลง ยกมือขวาขึ้นเอาฝ่ามือยันขึ้นฟ้า!

“เตาหลอมลำดับห้า!”

เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทั้งสำนักดาราสัจธรรมสั่นสะเทือน ในเวลาเดียวกัน บนฟ้าปรากฏรอยแยกยักษ์สายหนึ่ง ตอนที่รอยแยกถูกฉีกออก เตาหลอมลำดับห้าที่ถูกซ่อนใหม่อีกครั้งในทะเลดาราต้นกำเนิดจิตเกิดการสั่นสะเทือน เปลวเพลิงทะลักออกมา สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนในเตาหลอมพากันเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า ตอนนี้เอง เตาหลอมขยับวูบไหวหายไปในทะเลดาราต้นกำเนิดจิต ตอนที่โผล่มาอีกครั้ง….คือสำนักดาราสัจธรรม เวลานี้ผู้ฝึกฌานสิบล้านคนรอบๆ ใจสั่นสะท้าน สายตามองไปข้างในเงาสะท้อนดวงตาตรงรอยแยกบนฟ้า!