Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1116

ตอนที่ 1116 ห้องโถงสงคราม

“ตี้เทียน ยังมีความลับอีก….”

โลกแท้จริงดาราสัจธรรม กลางฟ้ากระจ่างดาวสว่างพร่างพราวทางตะวันตก เฉียงเหนือ ที่นี่มีดาวสีแดงฉานอยู่ดวงหนึ่ง แม้จะเป็นสีแดงฉาน แม้จะดูเหมือนแฝงไว้ด้วยเปลวเพลิง ทว่าความจริงที่นี่หนาวเย็น เต็มไปด้วยไอหนาวที่คนไม่อาจเข้าใกล้

นอกดาวดวงนี้ ซูหมิงนั่งขัดสมาธิบนอากาศ สายตามองดาวประหลาดอย่างเย็นชา ดวงตาขยับประกายบางๆ พลางกล่าวกับตัวเองเบาๆ

“เป็นวิญญาณของผู้ยิ่งใหญ่ยึดครองกายเนื้อตี้เทียน เขาไม่จำเป็นต้องสร้างพันธมิตรเผ่าเซียนเพื่อทำสงครามกับสำนักดาราสัจธรรม ระหว่างเขากับซูเซวียนอี…..เหมือนว่าจะไม่ใช่อย่างที่ข้าคิดก่อนหน้านี้” นัยน์ตาซูหมิงเปล่งแสงหม่น ตกอยู่ในห้วงความคิด

‘ช่างเถอะ ขอเพียงเขาไม่วางแผนต่อข้า เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับข้า สิ่งที่ข้าต้องทำตอนนี้คือเอาร่างจริงกลับมา หาศิษย์พี่ให้พบ จากนั้น…..ไปโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก!’ ซูหมิงมีสีหน้ำเย็นชาแห่งการดับสูญ เขานึกถึงภารกิจในแผ่นหยกนั้นที่ สามผู้เฒ่าตะวันจันทราและดารามอบให้

‘สังหารสตรีศักดิ์สิทธิ์สำนักหงส์ไป๋หลิง!’ ในแผ่นหยก นอกจากบอกเขาให้มารอรวมที่นี่แล้ว ก็มีประโยคนี้

ซูหมิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนหลับตาลงช้าๆ กลิ่นอายพลังทั่วร่างหายไปทั้งหมดราวกับคนตาย บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงข้างกายมองไปรอบๆ จูโหย่วไฉนั่งฌานเงียบๆ มังกรยมโลกกับกระเรียนขนร่วงคุยกันพึมพำๆ ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน แต่ดูจากประกายวาวในดวงตาพวกมันแล้วคงจะตื่นเต้นมาก

เวลาผ่านไปทีละวัน ราวครึ่งเดือนต่อมาหลังซูหมิงออกจากสำนักดาราสัจธรรมมารออยู่ที่นี่ วันนี้ ดาวแดงฉานตรงหน้าพลันเปล่งแสงสว่างจ้าแสบตา

ทันทีที่มันเปล่งแสง ซูหมิงลืมตาขึ้นมองไป เขาเห็นว่าดาวดวงนี้เกิดเสียงดังสนั่นพร้อมกับระเบิดออกกลางอากาศ

แรงปะทะกวาดล้างไปรอบๆ กลายเป็นพายุคลั่งถาโถม ในดวงตาซูหมิง เขาเห็นว่าตอนที่ดาวระเบิดออกและเกิดเสียงดังกึกก้องนั้น แรงระเบิดไม่ได้กระจายออก แต่กลายเป็นน้ำวนหลุมดำยักษ์แห่งหนึ่ง

เสียงครึกโครมดังไม่หยุด ช่วงที่น้ำวนโผล่มา มีผู้ฝึกฌานสวมเสื้อเกราะเดินออกมาจากในหลุมดำทีละกลุ่มด้วยแววตาเย็นชา

ผู้ฝึกฌานทุกคนล้วนแผ่นกลิ่นอายมารไปทั่วร่าง ดวงตาวาววับ พวกเขาไม่ใช่ ผู้ฝึกฌานธรรมดา ในตัวพวกเขา ซูหมิงรู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดจำนวนมาก แทบทุกคนล้วนเป็นนับรบเลือดเย็นที่ไม่รู้ว่าสังหารมามากเท่าไรแล้ว

นี่คือการใช้พลังที่เกิดขึ้นจากการระเบิดดาวมาเปิดวงแหวนอาคมเคลื่อนย้ายใหญ่ที่ขยายเป็นพื้นที่ไม่รู้เท่าไร ก่อนเคลื่อนย้ายผู้ฝึกฌานสำนักดาราสัจธรรมทุกคนที่ต้องมารวมพลกันที่นี่ให้มาถึงในพริบตา

ชั่ววูบเดียวผู้ฝึกฌานจากในหลุมดำก็มีมากกว่าห้าหมื่นคน พวกเขาอยู่กันแน่นขนัด ความเย็นเยียบที่กระจายมา เหมือนจะแช่แข็งผืนฟ้าแห่งนี้ได้ พอเดินออกมาแล้ว กองกำลังห้าหมื่นคนนี้ก็ยืนอยู่กลางฟ้าตรงหน้าซูหมิง

ไม่นานมีผู้ฝึกฌานเดินออกมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังมีเรือรบที่แผ่แรงกดดัน ตามออกมาทีละลำ ขั้นตอนนี้กินเวลาไปราวครึ่งวันก็จบลง

ตอนที่การเคลื่อนไหวจบลง ผู้ฝึกฌานตรงหน้าซูหมิงมีมากกว่าห้าล้านคนแล้ว ห้าล้านคนนี้เป็นดั่งทะเลผู้ฝึกฌานที่กว้างไกลไม่เห็นสุดเขต

ด้านบนพวกเขาเป็นเรือรบมากกว่าหลายแสนลำ พวกมันลอยอยู่ช้าๆ หนำซ้ำ ข้างหลังยังมีแท่นหินยักษ์หมื่นจั้งอีกเกือบหมื่นแท่นลอยอยู่ ไกลออกไปเป็นสัตว์ร้ายที่ตัวใหญ่ยิ่งกว่าอีกหลายพันตัวกำลังเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า บนทะเลสัตว์ยักษ์เหล่านี้มีโซ่อยู่สายหนึ่ง โซ่หลายพันสายผูกดาวดวงหนึ่งอยู่ข้างหลังพวกมัน!

นั่นเป็นดาวที่ดึงออกมาจากหลุมดำ เป็นดาวที่เปล่งแสงสว่างเจ็ดสี ในดาวยังมีแรงกดดันและกลิ่นอายพลังน่าสะพรึงแผ่กระจายมา

“ใต้เท้าเต้าคง!” ตอนที่เสียงอ่อนนุ่มและเอื่อยเฉื่อยดังมาจากดาวเจ็ดสี ผู้ฝึกฌานห้าล้านคนรอบๆ ต่างเปล่งเสียงตะโกนพร้อมกัน

เสียงตะโกนดังสนั่นฟ้าดิน ทำให้ดาวดวงนี้สั่นสะเทือน มีรอยแยกอากาศจำนวนมากปรากฏขึ้นกลางเสียงคำราม ก่อขึ้นเป็นแรงกดดันยากจะบรรยายราวกับว่าจะกำราบซูหมิง

“ห้องโถงสงครามแบ่งเป็นฟ้าดินสองขั้ว ผู้ฝึกฌานห้าล้านคนจากขั้วแห่งดินยินดีต้อนรับใต้เท้าเต้าคงมาบัญชาการรบ” สิ้นเสียงอ่อนแอดังแว่วมาอีกครั้ง ผู้ฝึกฌาน ห้าล้านคนรอบๆ ก็ตะโกนเสียงต่ำพร้อมกันอีกครั้ง

ครั้งนี้เสียงตะโกนดังกว่าเดิม กระทั่งตอนที่เสียงตะโกนดังมา ผู้ฝึกฌานห้าล้านคนยังแผ่ขั้นพลังออกมาทุกคน ขณะเดียวกันยังมีกลิ่นอายมารเหลือล้นปะทุมาจาก ห้าล้านคนพร้อมกันด้วย

ความเข้มข้นของกลิ่นอายมารแทบจะเป็นของจริง รวมขึ้นเป็นวิญญาณร้ายนับไม่ถ้วนที่มีเพียงจิตสัมผัสเท่านั้นถึงจะสังเกตเห็น หลังปรากฏกลางฟ้าแล้วก็คำรามไปทางซูหมิง

หากเป็นผู้ฝึกฌานคนอื่น ถึงขั้นพลังจะแกร่งกว่าซูหมิง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับ กลิ่นอายมารของผู้ฝึกฌานห้าล้านคนแห่งห้องโถงสงครามแล้วก็ต้องใจสั่นไหว เกิดความหวาดผวาจนต้องถอยไป ถึงขั้นจิตใจบาดเจ็บ

บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงข้างหลังซูหมิงหน้าเปลี่ยนสี หน้าเขาพลันขาวซีด มังกรยมโลกยังตัวสั่น วิญญาณเกิดความหวาดกลัว ส่วนจูโหย่วไฉเพียงหรี่ตาลง สีหน้าเป็นปกติ

กระเรียนขนร่วงหาววอด มีท่าทีดูถูกมาก ซ้ำยังบ่นพึมพำ

ส่วนซูหมิงหน้าไม่เปลี่ยนสีไปแม้แต่น้อย กระทั่งดวงตายังไม่หรี่ลงเหมือนจูโหย่วไฉ เขามองแวบเดียวก็รู้แล้ว นี่คือห้องโถงสงครามจงใจแสดงพลานุภาพ เห็นได้ชัดว่าเป็นเหมือนกับการเตือน เตือนว่าแม้ซูหมิงจะเป็นใต้เท้า แม้จะมาบัญชาการสงคราม แต่ก็อย่าอวดดีให้มากนัก

ขณะเดียวกับที่เตือนซูหมิงยังเผยคมเคี้ยวออกมาด้วย เพื่อให้ซูหมิงเข้าใจว่า….อย่าล่วงเกิน!

ซ้ำซูหมิงยังเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นกองทัพใหญ่ผู้ฝึกฌานตรงหน้าหรือเรือรบเหล่านั้นกลางอากาศ หรือจะเป็นผู้ฝึกฌานที่แกร่งยิ่งกว่าบนแท่นหินที่ลอยอยู่เหล่านั้น พวกเขาส่วนใหญ่ ตอนที่แผ่กระจายขั้นพลังและกลิ่นอายมาร สายตาที่มองซูหมิงมีความเย็นชาซ่อนด้วยการเหยียดหยาม

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาดูถูกซูหมิง พวกเขารู้จักแต่คำว่าศักยภาพ ถึงส่วนใหญ่จะเคยได้ยินเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพิธีแต่งตั้งแล้ว ทว่าเรื่องเหล่านี้หากไม่ได้เห็นกับตาตัวเองแล้วจะไปเชื่อได้อย่างไร จุดนี้ยิ่งตัวเองมีศักยภาพมากเท่าไรก็ยิ่งเป็นแบบนี้มากเท่านั้น

ในผู้ฝึกฌานห้าล้านคนส่วนใหญ่คิดว่าตอนพิธีแต่งตั้งเป็นเรื่องลวงหลอก

“ขออภัย หวังว่าใต้เท้าเต้าคงจะไม่ถือสา ผู้ฝึกฌานเหล่านี้ของข้า พวกเขารู้จักแต่ผู้แข็งแกร่ง หากเสียมารยาทต่อใต้เท้า ก็ขอให้เห็นแก่ที่พวกเขาสังหารพันธมิตร เผ่าเซียนมานับไม่ถ้วนตลอดพันกว่าปีนี้ด้วย ใต้เท้าอย่าได้เกลียดชังพวกเขาเลย

ความจริงแล้วข้าก็ไม่อยากบอกท่านนักหรอกว่าต่อให้ท่านเกลียดชังก็ไม่มีประโยชน์” น้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยและอ่อนนุ่มดังก้องดังก่อนหน้านี้ ทำให้ผู้ฝึกฌาน ห้าล้านคนที่นี่ส่วนใหญ่ส่งเสียงหัวเราะ

“เอาล่ะ อย่างไรก็ยินดีต้อนรับใต้เท้าเต้าคงของเรา ใต้เท้าผู้บัญชาการสงครามของขั้วแห่งดินของเรามาบัญชาการสงคราม” สิ้นเสียง เสียงหัวเราะพลันเงียบลง ขณะที่ความหนาวเยือกรุนแรงวนเวียนไปรอบๆ ผู้ฝึกฌานตรงหน้าซูหมิงพลันเคลื่อนไหว กองทัพห้าล้านคนเคลื่อนไหวพร้อมกัน เกิดเสียงครึกโครมดังสนั่นฟ้า ตอนนี้เองกองทัพกลุ่มคนตรงหน้าซูหมิงเปิดเป็นเส้นทางที่เชื่อมไปยังดาวที่ไกลๆ ดวงนั้น

เพียงแต่ว่าสองข้างทางรวมเป็นกลิ่นอายมารของผู้ฝึกฌานทั้งหมด

ซูหมิงมองผู้ฝึกฌานกลุ่มนี้อย่างเย็นชาแวบหนึ่ง ก่อนเดินหน้าไป ทันทีที่ก้าวแรกเหยียบลง ขั้นพลังขั้นกุมปะทุมาจากใน

ตัวเขา ทำให้ฟ้ากระจ่างดาวสั่นสะเทือน แรงกดดันที่รวมโดยผู้ฝึกฌานห้าล้านคนพลันสั่นไหว

เมื่อซูหมิงเดินเข้าไปใกล้ พลังจากขั้นพลังเขาแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ใช้พลังของเขา คนเดียวต้านกับแรงกดดันของผู้ฝึกฌานห้าล้านคน ทุกก้าวที่เดินจะเกิดเสียงอึกทึกตามมา นั่นคือเสียงการถอยไปพร้อมกันของผู้ฝึกฌานห้าล้านคน

ตอนนี้เอง ผู้ฝึกฌานกลางเรือรบข้างบน บนแท่นหินและบนหลังสัตว์ร้ายต่างพากันดวงตาแวววาว สายตามองซูหมิงด้วยความตกใจ

“ใต้เท้าเต้าคงน่าเกรงขามมาก เหล่านักรบแห่งห้องโถงสงคราม ให้ใต้เท้าเต้าคงได้เห็นการสังหารของพวกเจ้า!” เสียงอ่อนนุ่มดังแว่วมาจากดาวนั้นอีกครั้ง ทันใดนั้น ผู้ฝึกฌานห้าล้านคนก็ร้องตะโกนพร้อมกันอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันกลิ่นอายมารของพวกเขาก็ปลดปล่อยออกมาทั้งหมด

นี่คือกลิ่นอายมารที่แกร่งกว่าเดิมหลายเท่า มันทำให้กฏถอยไป ทำให้จักรวาลหลับตาลง และยังทำให้โดยรอบเข้าสู่ความหนาวเยือกในพริบตา!

ความแกร่งของกลิ่นอายมารนี้ทำให้บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง ขนาดจูโหย่วไฉยังมีสีหน้าจริงจัง เขาเคยได้ยินห้องโถงสงครามของสำนักดาราสัจธรรมมาก่อน นั่นคือดาบกล้าที่รวมขึ้นจากกลุ่มคนบ้า นั่นคือพลังที่แกร่งที่สุดต่อคนนอกของทั้งสำนักดาราสัจธรรม พวกเขาเฝ้ารักษาการณ์อยู่ตรงชายแดนตลอดปี ยามมี ศัตรูบุก พวกเขาจะใช้สงครามในการฝึกฝน ยามไม่มีศัตรู พวกเขาก็ต่างฝึกฝนกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

พวกเขาคือห้องโถงสงครามของสำนักดาราสัจธรรมที่มีชื่อเสียงเลื่องลือสี่โลกแท้จริง!

ห้องโถงสงครามแบ่งเป็นขั้วแห่งฟ้าและขั้วแห่งดิน แต่ละขั้วมีผู้ฝึกฌานห้าล้านคน และผู้นำของพวกเขาก็คือผู้ฝึกฌานแข็งแกร่งสองคนที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับโดยสี่โลกแท้จริง พวกเขาเปรียบได้กับเขี้ยวพิษกับหมาป่าผู้น่าสะพรึง

เขี้ยวพิษบัญชาการขั้วแห่งฟ้า เป็นคนอำมหิตยิ่งเหมือนกับคนที่อื่นขนานนามเขา

ส่วนหมาป่าบัญชาการขั้วแห่งดิน เขาเลวทรามอย่างไร้ใครเปรียบ จุดที่เขาผ่านจะไม่มีพืชเติบโต ผ่านการสังหารมากมาย

ซูหมิงมองกลิ่นอายมารที่แผ่มาจากผู้ฝึกฌานห้าล้านคนนั้น ดวงตาขยับประกายแสงหม่น ชั่วพริบตานี้มีกลิ่นอายมารน่าตะลึงปะทุมาจากในตัวซูหมิง นั่นคือกลิ่นอายมารที่เขาเพิ่มพูนมาทีละน้อยจากการสังหารทุกสิ่งมีชีวิตมาชั่วชีวิต เมื่อมันแผ่ออกมาแล้วถึงกับทำให้ผู้ฝึกฌานห้าล้านคนหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง!

เทียบกับการสังหารของสิ่งมีชีวิตแล้ว สิ่งมีชีวิตที่ตายในมือซูหมิงมีมากมาย นับไม่ถ้วน ไม่นับรวมการสูญสิ้นไปของขุมอำนาจรักษาการณ์โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์กับผู้ฝึกฌานพันธมิตรเผ่าเซียนหลายหมื่นคน ลำพังแค่กลุ่มสัตว์คลื่นเสียงใน ทะเลดาราต้นกำเนิดจิตตอนนั้นก็มากพอจะรวมขึ้นเป็นกลิ่นอายมารสะเทือนฟ้าดินจากในตัวเขาแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!