ตอนที่ 1120 วิชาอสูร
โครม! แรงปะทะรุนแรงส่งมาจากม่านแสงสีเทา มันกวาดล้างไปรอบๆ พุ่งเข้าไปยังผู้ฝึกฌานห้าล้านคนราวคลื่นยักษ์ กระทั่งส่งไปถึงดาวที่ซูหมิงอยู่
ในขณะเดียวกัน ช่วงที่ระลอกคลื่นม้วนตลบมา ม่านแสงสีเทายังบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง เหมือนมีพลังพายุคลั่งจะฉีกมันออก ส่วนมันก็กำลังดิ้นรนอยู่ภายใต้พลังนี้ไม่หยุด
ผู้ฝึกฌานพันธมิตรเผ่าเซียนเกือบล้านคนหลังม่านแสงต่างหน้าขาวซีด ทว่าตอนที่เห็นม่านแสงฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็วและไม่บิดเบี้ยวแล้ว พวกเขาก็ต่างมีสีหน้าตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“เชิญนักรบแห่งเก้าดารา!” มีเสียงน่าเกรงขามดังมาจากบนดาวเก้าดวงข้างหลัง ผู้ฝึกฌานล้านคนในม่านแสง นั่นคือเสียงของจ้าวเผ่าน้ำค้างธุลีในยุคนี้
เมื่อเสียงดังก้อง ดาวเก้าดวงพลันขยับแสงวูบวาบ ก่อนมีลำแสงเก้าสายยิงแยกกันออกมา ทะลวงผ่านม่านแสงพุ่งไปยังสนามรบแล้วกลายเป็นเงาแสงขนาดราวสิบจั้งเก้าตัว เงาแสงเก้าร่างคำรามพร้อมกันกับที่พลังเทียบเท่าขั้นกุมปะทุออกมา จากนั้นเงาแสงเก้าร่างนี้ก็พุ่งตามกันไปยังห้องโถงสงครามห้าล้านคน
ตอนนี้เอง มีเสียงหึเย็นชาดังแว่วมาจากในเรือรบลำหนึ่งข้างหลังผู้ฝึกฌานห้องโถงสงครามห้าล้านคน สงครามขนาดนี้ไม่ต้องให้สุนัขป่าบัญชาการด้วยซ้ำ ในผู้ ใต้บัญชาการเขามีคนรับหน้าที่แทนแล้ว
“ขั้วแห่งดิน นักรบที่สาม ที่หก ที่เจ็ด ตัดขวางสวรรค์!” สิ้นเสียง ในผู้ฝึกฌาน ห้าล้านคนมีคนราวหนึ่งล้านห้าแสนคนเดินออกมาพร้อมกัน พวกเขาเคลื่อนไหวเหมือนกัน กลิ่นอายพลังคล้ายกัน วงโคจรขั้นพลังในร่างกายก็เหมือนกันทุกประการ ซ้ำยังใช้อภินิหารเหมือนกัน
บนตัวทุกคนตอนนี้รวมออกมาเป็นกระบี่ใหญ่เล่มหนึ่งตรงศีรษะ กระบี่ใหญ่เปล่งแสงมันวาว หลังจากส่องสว่างจ้าปกคลุมฟ้าแล้ว เมื่อสิ้นเสียงตะโกนดังสนั่นของผู้ฝึกฌานหนึ่งล้านห้าแสนคน ทันใดนั้นกระบี่มันวาวแบบเดียวกันล้านห้าแสนเล่มก็พุ่งออกไปพร้อมกันก่อนหลอมรวมกันอย่างรวดเร็วกลางอากาศ กลายเป็นกระบี่ยักษ์ ยาวหมื่นจั้ง
แสงกระบี่เกิดเสียงดังวิ้ง เหมือนกับว่ากลางอากาศมีคนยักษ์ไร้รูปกำกระบี่แล้วฟันลงไปยังม่านแสงสีเทา!
เกิดเสียงดังสนั่นท่ามกลางความหวาดกลัวของผู้ฝึกฌานพันธมิตรเผ่าเซียนในม่านแสง เสียงดังสั่นสะเทือนแก้วหูกระจายออก กระบี่แสงปะทะกับม่านแสงสีเทา ทันใดนั้นม่านแสงระเบิดออก ถูกกระบี่แสงฟันจนพังพินาศลง!
“ห้องโถงสงครามเดินหน้า!” เสียงที่เอ่ยให้ใช้วิชาตัดขวางสวรรค์ก่อนหน้านี้ดังกังวานอีกครั้ง สิ่งที่ตอบเขาคือเสียงคำรามพร้อมกันอีกครั้งของผู้ฝึกฌานห้าล้านคน
“ฆ่าไม่ให้เหลือ!”
โครม!
ผู้ฝึกฌานห้าล้านคนกลายเป็นสายรุ้งยาวห้าล้านสายพุ่งเข้าไปยังผู้ฝึกฌานพันธมิตรเผ่าเซียนล้านคนที่โผล่ออกมาหลังม่านแสงพังลง
นี่ไม่ใช่สงครามที่สูสีกันเลย ไม่ว่าจะเป็นจำนวนหรือขั้นพลังของแต่ละคนล้วนต่างกันอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งในการสังหาร ผู้ฝึกฌานพันธมิตรเผ่าเซียนเหล่านี้ยังไม่สามัคคีกัน พวกเขาจึงไม่อาจเทียบกับผู้ฝึกฌานห้องโถงสงครามที่เกรียงไกรที่สุดในสำนักดาราสัจธรรมได้
ส่วนเงาแสงที่แผ่ขั้นพลังกุมออกมาเก้าร่างนั้น พวกเขากำลังจะลงมือเช่นกัน ทว่าบนเรือรบกลางฟ้ากลับมีชายชราบินออกมาเก้าคน เก้าคนนี้หัวเราะเสียงดังพลาง แผ่ขั้นพลังออกมา ทุกคนล้วนเป็นขั้นกุม มีสีหน้ากระหายเลือด กลิ่นอายมารเหลือล้นพุ่งเข้าไป
นี่คือการต่อสู้อย่างสุดกำลังของสำนักดาราสัจธรรม ในสงคราม สำนักดาราสัจธรรมส่งผู้แข็งแกร่งทั้งหมดออกมา หมายจะ…..รีบสู้รีบจบสงครามกับพันธมิตรเผ่าเซียน!
พวกเขาคิดจะทำลายล้างทั้งพันธมิตรเผ่าเซียนในครั้งเดียว เหมือนกับสัตว์ร้ายที่หลับใหลตัวหนึ่ง ตอนนี้มันตื่นขึ้นแล้วก็ส่งเสียงคำรามสะเทือนฟ้าใส่มหาป่าที่เผย คมเขี้ยวอยู่รอบตัว
ผู้ฝึกฌานห้องโถงสงครามห้าล้านคนพุ่งเข้าไปในม่านแสงผุพังราวกับหมาป่าพุ่งเข้าหาแกะ เมื่อเกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง เสียงร้องโหยหวนก็ดังตามมาไม่หยุด กองทัพผู้ฝึกฌานห้าล้านคนเดินไปทุกก้าวล้วนมีโลหิตสาดกระจายรวมถึงวิญญาณสูญสิ้นไป
ตอนนี้เองมีสายรุ้งยาวสายหนึ่งพุ่งออกมาจากดาวดวงนั้นของห้องโถงสงคราม ในสายรุ้งยาวเป็นสีดำแห่งการดับสูญ ภายในนั้นเป็นร่างผอมแห้งราวกระดูก นั่นก็คือ…..ซูหมิง!
ซูหมิงตาแดงก่ำ หลุมดำไร้บ่อประตูยมโลกในร่างกำลังกินทุกอย่างของซูหมิง ไม่หยุด ในหนึ่งเดือนนี้ หากไม่ใช่เพราะเขายับยั้งเอาไว้อย่างสุดกำลัง เกรงว่าวิญญาณเขาคงสูญสลายไปแล้ว
ถึงอย่างไรเรื่องการเปิดประตูยมโลกตอนอยู่ในโลกแท้จริงที่ห้านั้น ชาวเผ่ายมโลกจะต้องเตรียมตัวนานมากถึงจะเลือกเปิดประตูโดยมีการคุ้มกันจากชาวเผ่า หากสำเร็จก็จะได้รับการเติมเลือดเนื้อจำนวนมากเพื่อทำให้ประตูยมโลกมั่นคง
ทว่าประตูยมโลกของซูหมิงเกิดขึ้นโดยบังเอิญ นี่จึงทำให้เขาไม่มีการเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ แต่ด้วยสงครามของสำนักดาราสัจธรรมกับพันธมิตรเผ่าเซียนกลับเป็นโชควาสนาเลือดเนื้อที่กระทั่งชาวเผ่ายมโลกตอนอยู่ในโลกแท้จริงที่ห้าก็ยังไม่ได้รับ
ตอนที่พุ่งออกไป ทั่วร่างซูหมิงแผ่กระจายกลิ่นอายมารเหลือล้นในการดับสูญ ด้วยความเร็วของเขาพริบตาเดียวก็ทะลวงผ่านเรือรบไปทีละลำ ข้ามผ่านผู้ฝึกฌานห้องโถงสงคราม จุดที่ผ่าน ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกฌานบนเรือรบหรือผู้ฝึกฌานห้องโถงสงคราม ตอนที่เห็นซูหมิงพวกเขาล้วนใจสั่นสะท้าน เกิดความรู้สึกราวกับว่าวิญญาณและพลังชีวิตไปจนถึงเลือดเนื้อถูกสูบไปอย่างรุนแรง
ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา เมื่อซูหมิงบินไปไกลมันก็หายไปทีละน้อย แต่สิ่งที่เหลืออยู่คือความหวาดกลัวในใจที่ยังคงอยู่
ซูหมิงห้อทะยานตลอดทาง เพียงไม่กี่ลมหายใจก็พุ่งเข้าไปในม่านแสงผุพัง พุ่งเข้าไปอยู่กลางกองทัพพันธมิตรเผ่าเซียน เพิ่งเข้าไป รอบตัวเขาก็เต็มไปด้วยผู้ฝึกฌาน ตาแดงก่ำจำนวนมาก พวกเขาต่างใช้อภินิหารใส่ซูหมิง
ทว่าพวกเขาเพิ่งเข้ามาใกล้ก็หน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง แม้แต่คนที่อยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่งยังตัวสั่นในทันที ความรู้สึกวิญญาณเลือดเนื้อและพลังชีวิตถูกสูบทำให้พวกเขาเกิดความหวาดกลัวจนไม่อาจบรรยายขึ้นในใจ
ซูหมิงก้มหน้าลง สองแขนยกขึ้นกดไปทางสองข้าง ฉับพลันนั้นเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น นอกตัวเขาเกิดน้ำวนยักษ์ขึ้นแห่งหนึ่ง มันหมุนโคจรเสียงดัง อีกทั้งยังปกคลุมในระยะร้อยจั้ง เพียงหมุนโคจรหนึ่งรอบจะมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นรอบตัวเขา
ภายในร้อยจั้ง ผู้ฝึกฌานเกือบร้อยร่างแห้งเหี่ยวโดยพลัน พลังชีวิตจำนวนมากกลายเป็นหมอกขาวถูกบีบออกมาจากทวารทั้งเจ็ดแล้วไหลเข้าสู่ร่างซูหมิงพร้อมกัน ตอนนี้เองเลือดเนื้อผู้ฝึกฌานเกือบร้อยคนแห้งกรัง วูบเดียวก็เหมือนโครงกระดูก ในดวงตาพวกเขายังมีความหวาดกลัวและสิ้นหวัง วิญญาณพวกเขา…..ก็ถูกสูบออกมาจากทวารทั้งเจ็ดไม่หยุดเช่นกัน ก่อนหลอมรวมเข้าไปในร่างซูหมิงในพริบตา คนนอกที่มองเขาจะเห็นว่าซูหมิงถูกหมอกขาวจำนวนมากโอบล้อม จนกระทั่งหายไปจนหมด ซูหมิงยืนอยู่ตรงนั้น ผู้ฝึกฌานเกือบร้อยคนรอบๆ ล้มลงพร้อมกัน ก่อนเป็นเถ้าธุลีหายไป
ร่างซูหมิงยังคงแห้งเหี่ยว แต่กลับมีเลือดเพิ่มมาเสี้ยวหนึ่ง
“วิชาอสูร นี่มันวิชาอสูร!” เสียงกรีดร้องด้วยความตื่นกลัวดังแว่วมาไกลๆ พื้นที่ว่างรอบตัวซูหมิงทำให้เขาเป็นที่สังเกตของทุกคนในทันใด โดยเฉพาะผู้ฝึกฌาน ห้องโถงสงคราม พวกเขาต่างมีสีหน้าหวาดกลัว หากไม่ใช่เพราะซูหมิงสวมเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดารา หากไม่ใช่เพราะถึงแม้ซูหมิงจะเป็นร่างหนังหุ้มกระดูก แต่หน้าตาก็ยังมองออกรางๆ ว่าเป็นเต้าคง เกรงว่าแม้แต่พวกเขาแห่งห้องโถงสงครามก็ลงจะลงมือในทันทีเช่นกัน
กลางกลุ่มพันธมิตรเผ่าเซียน การสังหารคนร้อยคนของซูหมิงเล็กจ้อยจนไม่มีค่าพอให้เอ่ยถึง ทว่ากลอุบายกลับสร้างความตื่นตะลึงกับคนรอบๆ ที่มองมา
แต่บนสนามรบไม่มีเวลามาตรึกตรองมากนัก หลังหยุดชั่วคราวแล้ว ตอนที่เริ่มการสังหารอีกครั้ง ซูหมิงขยับวูบไหวพุ่งไป ทุกคนที่เขาผ่านจะกรีดร้องและสิ้นชีพไป ถูกเขาสูบกินไปทั้งหมด เส้นเลือดฝอยในดวงตาซูหมิงค่อยๆ น้อยลง ร่างกายก็กลับมาเป็นปกติทีละน้อย ประตูยมโลกในตัวเขาตอนนี้เปล่งแสงหม่น กลิ่นอายยมโลกจำนวนมากอัดแน่นอยู่ในตัว ทำให้ขั้นพลังเกิดการปะทุขึ้นเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด
สังหาร!
ซูหมิงเคลื่อนตัวไปด้วยความเร็วสูง เขาไม่ใช้อภินิหารอื่นๆ เลย เพียงใช้ประตูยมโลกสูบกินเท่านั้น สำหรับเขาแล้ว การเปิดประตูยมโลกต้องใช้เลือดเนื้อและวิญญาณ หากเขาไม่สูบกิน เขาจะถูกสูบจนเป็นศพแห้ง อีกทั้งสำหรับพันธมิตร เผ่าเซียน กระทั่งสำนักดาราสัจธรรมแล้ว ซูหมิงไม่ได้มีความรู้สึกอะไรด้วยเลย ต่อให้ต้องตายกันหมดเขาก็ไม่สงสารแม้แต่น้อย
เขาสนใจเพียงสหายของเขา แม้ฟ้าดินจะถล่มทลาย แม้ทุกสิ่งมีชีวิตจะสูญสิ้น ขอเพียงครอบครัวเขายังอยู่ ขอเพียงสหายเขายังอยู่ จะไม่มีอะไรเกี่ยวกับเขา
หากต้องใช้เลือดเนื้อของทุกสิ่งมีชีวิต ใช้ชีวิตทั้งจักรวาลแลกมาเป็นครอบครัวที่เขาสร้างขึ้น ในครอบครัวมีทุกคนข้างกายเขา เช่นนั้น…..เขาจะทำอย่างไม่ลังเล
ถึงจะถูกเรียกว่ากระหายเลือด ถึงจะถูกคนแค้นเข้ากระดูก เขาก็จะไม่สนใจ
โครม!
พันคนรอบตัวซูหมิงสิ้นชีพลงพร้อมกัน หลังพลังชีวิตและวิญญาณทั้งหมดถูกเขาสูบไปอย่างรวดเร็วแล้ว เขาพลันหมุนตัวกลับ ยกมือขวาขึ้นกดไปตรงระหว่างคิ้ว ผู้ฝึกฌานที่อยู่ใกลๆ อย่างเงียบเชียบคนหนึ่งข้างหลัง หนึ่งนิ้วทะลวงกะโหลกลึกเข้าไป ก่อนสูบพลังชีวิตและวิญญาณทั้งหมดของยอดฝีมือขั้นกุมฝั่งพันธมิตรเผ่าเซียนคนนี้ซึ่งแววตายังเหลือเชื่อที่ซูหมิงปลิดชีพได้ในการโจมตีครั้งเดียว
“สังหารเขา เขาคือคนสายเลือดตรงสำนักดาราสัจธรรม สังหารเขา ถึงเผ่าเราต้อง สูญสิ้นไปก็ต้องให้สำนักดาราสัจธรรมต้องชดใช้!” จ้าวเผ่าน้ำค้างธุลีบนดาวเก้าดวงไกลๆ จ้องเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดาราบนตัวซูหมิงตาเขม็งพลางตะโกนเสียงแหลมดังลั่น
ในเวลาเดียวกัน มีร่างเงาหลายสิบคนข้างกายเขาพุ่งออกไปยังซูหมิงในพริบตา คนเหล่านี้ล้วนเป็นชายชราหรือก็คือผู้อาวุโสของเผ่าน้ำค้างธุลี พวกเขาเคยรับหน้าที่จ้าวเผ่ามาก่อน แต่ตอนนี้ปลดระวางแล้ว และจะปรากฏตัวในช่วงที่เผ่าเป็นอันตรายถึงขั้นถูกทำลายล้าง
“สังหารข้า?” ทันทีที่ซูหมิงหันไปมอง เขายกเท้าขวาขึ้นเดินหน้าหนึ่งก้าวพุ่งทะยานไปยังหลายสิบคนนั้น ชั่วพริบตที่พวกเขาเข้าใกล้กัน ซูหมิงยกมือขวาชี้ขึ้นฟ้า
“เคลื่อนย้ายภูผา!” สิ้นเสียงซูหมิง ท้องฟ้าเกิดเสียงดังสนั่น ปรากฏยอดเขานับไม่ถ้วนขึ้นรอบตัวเขาในเสี้ยวพริบตา ก่อนพุ่งชนไปยังหลายสิบคนที่เข้ามาเหล่านั้น!
ลงเยอะๆเลยครับผมติดมากเรื่องนี้
ก็อยากจะลงเยอะๆ เด้ แต่ไม่มีเวลาอ่ะ จะทยอยลงให้เรื่อยๆ เท่าที่เวลาจะมีนะ
มีตอนต่อไปไหมครับ