Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1136

ตอนที่ 1136 สมบัติล้ำค่ำแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน

แหวนสีขาววงนี้มีความละเอียดมาก ดูแล้วไม่เหมือนของบุรุษ แต่เหมาะสำหรับสตรี ตอนนี้มันลอยเข้าไปในลำแสงเชื่อมสวรรค์ ไปลอยอยู่เหนือกายเนื้อร่างจริงซูหมิงกลางแท่นบวงสรวงในลำแสง

“เชิญสมบัติล้ำค่าแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน!” ซิงจี๋เต้าในชุดคลุมฟ้าดวงตาขยับประกายวาว เขาทำปางมือขวาชี้ไปยังแหวนนั้นผ่านลำแสง ฉับพลันนั้นแหวนเปล่งแสงสว่างจ้าแสบตา อีกทั้งยังใหญ่ขึ้น พริบตาเดียวมีขนาดเกือบสามจั้ง

ขณะเดียวกันเมื่อมันใหญ่ขึ้นแล้วยังมีกลิ่นอายพลังที่ทำให้ลำแสงสั่นไหวแผ่กระจายมาจากแหวนวงนั้น กลิ่นอายพลังอัดแน่นอยู่เต็มลำแสง ซ้ำยังกระจายออกมาเล็กน้อยทำให้ไป๋เฟิ่งหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง ร่างซวนเซถอยไปติดกันหลายก้าว สีหน้าหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งยังมีความฮึกเหิมวูบไหวอยู่ในดวงตา

นางตัวสั่นก่อนคุกเข่าลง

ทางด้านตี้เทียน เขาเคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่มาก่อน เคยเป็นผู้แข็งแกร่งที่เก่งกว่าร่างสร้างใหม่ของคนชุดคลุมดำกับซิงจี๋เต้า แม้จะไม่อาจเทียบกับร่างจริงคนชุดคลุมดำรวมถึงซิงจี๋เต้าในฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน แต่ก็สู้ได้

ถึงตอนนั้นเขากับซูเซวียนอีปะทะกันต่างฝ่ายต่างสาหัส อาการบาดเจ็บเขาหนักกว่า ทำให้ตอนนี้เป็นเพียงวิญญาณ ขั้นพลังลดน้อยลงไปมาก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เคยเป็น ผู้ยิ่งใหญ่ ทว่าภายใต้พลานุภาพของแหวนวงนี้เขาก็ยังหน้าเปลี่ยนสี ถอยหลังไป หลายก้าว นัยน์ตาฉายแววหวาดกลัวเช่นกัน

พลานุภาพนี้มีความรู้สึกที่สูงส่งยิ่ง เหมือนว่าต้องคารวะภายใต้แรงกดดันนี้ จะต้องก้มหัว ไม่ว่าใครที่กล้าดิ้นรนภายใต้พลานุภาพนี้จะต้องถูกทำลาย

‘ขั้นไม่อาจกล่าว! นี่คือกลิ่นอายพลังของขั้นไม่อาจกล่าว ผู้แข็งแกร่งขั้นไม่อาจกล่าวของโลกแท้จริงสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน!’ ตี้เทียนลมหายใจกระชั้น ขณะถอยไปยังหน้าเปลี่ยนสีและเลือกคุกเข่าคารวะ

แหวนสีขาวในลำแสงแผ่กระจายพลานุภาพออกมาไม่หยุด ทั้งยังมีอักขระซับซ้อนจำนวนมากวนเวียนอยู่รอบๆ อักขระเหล่านี้ล้วนมีพลังที่ทำให้ซูหมิงหายใจติดขัด ตอนที่มองไป เหมือนกับว่ามีประตูเปิดออกบานหนึ่งกลางชีวิต!

ประตูบานนี้เปิดโลกของเขา ทำให้เขาได้เห็น….ขั้นไม่อาจกล่าว!

ความแกร่งของกลิ่นอายพลังนี้ ซูหมิงลองรื้อความทรงจำทั้งหมดก็พบว่ามีร่างเงาหนึ่งลอยขึ้นมา…..เป็นร่างเงาแก่ชราบนเรือโบราณที่มองทุกสรรพสิ่งนำของเซ่นไหว้มา

‘ผู้เฒ่าเมี่ยเซิง ความรู้สึกนี้เป็นกลิ่นอายขั้นพลังระดับเดียวกับผู้เฒ่าเมี่ยเซิง แหวนวงนี้มาจากฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน มันคือสมบัติแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน!’

ซิงจี๋เต้ามีสีหน้าฮึกเหิมก่อนคุกเข่าคารวะแหวนวงนั้นในทันใด คนชุดคลุมดำก็สะบัดแขนเสื้อคุกเข่าลงในพริบตาที่เห็นแหวนวงนี้แสดงพลังเช่นกัน มิหนำซ้ำเมื่อ กลิ่นอายพลังนี้กระจายออก ผู้ฝึกฌานรอบๆ ที่นี้ที่สัมผัสถึงกลิ่นอายพลังล้วนใจ สั่นไหวและคุกเข่าลงพร้อมกัน

ไม่นานภายในพันธมิตรเผ่าเซียน กระทั่งผู้ฝึกฌานสำนักดาราสัจธรรมกับ คนพันธมิตรเผ่าเซียนที่กำลังรบกันยังรู้สึกถึงกลิ่นอายพลังนี้ ก่อนพากันจิตใจสั่นสะท้านและมองไปทางพันธมิตรเผ่าเซียนด้วยความหวาดกลัว ก่อนเลือกคุกเข่าลงใต้กลิ่นอายพลังนี้ตามสัญชาตญาณ

กลิ่นอายพลังนี้แผ่กระจายออกไป ราวสิบกว่าลมหายใจต่อมา มันขยายไปทั่วโลกแท้จริงดาราสัจธรรม ถึงขั้นไปถึงในสำนักดาราสัจธรรม สร้างความหวาดกลัวให้กับ ผู้ฝึกฌานมากมาย พวกเขาตัวสั่นและต้องคุกเข่าลงไปทางพันธมิตรเผ่าเซียนด้วยความอัปยศและสิ้นหวัง

ทั้งสำนักดาราสัจธรรมเงียบสงัด มีแต่ผู้ฝึกฌานคุกเข่าคารวะอยู่นับไม่ถ้วน…..

มีเพียงแดนนั่งฌานของซูเซวียนอีในสำนักดาราสัจธรรมเท่านั้นที่ร่างในท่าสมาธิเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้าในพริบตาที่สัมผัสถึงกลิ่นอายพลังนี้ เขามีสีหน้าเฝ้ารอคอยมานาน ร่างกายยังยืนขึ้นช้าๆ ภายใต้กลิ่นอายพลังนี้ มือขวายกขึ้นกำหมัดช้าๆ แล้วชกใส่อากาศ

ไม่มีเสียงใดๆ ทว่าแดนนั่งฌานของซูเซวียนอีกลับสั่นไหวอย่างรุนแรงเหมือนจะพังลง แต่ทันใดนั้นมีอักขระมากมายปรากฏขึ้นกลางอากาศในพริบตา ขยับวูบวาบอย่างรวดเร็วเหมือนกำลังซ่อมแซม

‘กลิ่นอายพลังนี้ยังไม่พอ….แต่ขั้นตอนแรกก็ใกล้จะสมบูรณ์แล้ว หากมันสมบูรณ์เมื่อใด ข้าซูเซวียนอีจะควบคุมร่างกายนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบและมีโอกาสออกจากที่นี่!’

‘ฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน ฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณ และยังมีเด็กน้อยผู้ยิ่งใหญ่ พวกเจ้าเดากันมานานมากแล้ว แต่คาดเดาแผนการของข้าซูเซวียนอีไม่ออกเสียที พวกเจ้าไม่รู้ถึงความบ้าคลั่งหลังเผ่าพันธุ์แซ่ซูสูญสิ้น!’ ซูเซวียนอีเงยหน้าหัวเราะเสียงดัง ใบหน้าเหี้ยมโหด ในความเหี้ยมโหดยังมีความคลุ้มคลั่งที่จะทำลายล้างจักรวาล

เสียงคำรามของซูเซวียนอีดังก้องแดนนั่งฌาน ส่งไปไม่ถึงพันธมิตรเผ่าเซียน และก็ไม่ถึงหูซูหมิง ตอนนี้ซูหมิงอยู่ในร่างชายชราชุดคลุมดำ เขามองแหวนสีขาวในลำแสง ความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนพลันลอยขึ้นมาในใจ วนเวียนอย่างรุนแรงส่งผลให้หัวใจเขาเหมือนกำลังผลัดเปลี่ยน…..เป็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่ขั้นพลังที่แกร่งขึ้น ไปสู่ผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

‘นี่คือขั้นพลังของฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนอย่างนั้นหรือ…..ไม่รู้ว่าชาตินี้ข้าซูหมิงจะมีขั้นพลังแบบนี้หรือไม่!’ ซูหมิงจ้องแหวนสีขาวตาเขม็ง จิตสัมผัสเขากำลังเกิดระลอกคลื่น ภายในระลอกคลื่น เขาไม่สังเกตเห็นเลยว่าพอกระเรียนขนร่วงที่ซ่อนอยู่ในร่างคนชุดคลุมดำด้วยกันเห็นแหวนสีขาวแล้วก็ตัวสั่นไม่หยุด นัยน์ตามันดูครุ่นคิด เผยความรู้สึกบอกไม่ถูก ราวกับกำลังนึกย้อนความทรงจำและเหมือนกำลังตรึกตรองบางอย่าง

“เฟยฮวา…..กี่ปีแล้ว ข้าออกจากที่นั่นมากี่ปีแล้ว….ที่แท้เจ้า…..เดินไปถึงก้าวนั้นแล้ว กลายเป็นผู้สูงส่งหวนคืน…..ผู้สูงส่งหวนคืน….เจ้าใช้วิธีนั้นที่ข้าบอกกับเจ้าหรือ นั่นคือเส้นทางที่ข้าใช้ชีวิตทั้งหมดในตอนนั้นสร้างขึ้นมา

นั่นคือเส้นทางที่ผิดพลาด แต่กลับกลายเป็นผู้สูงส่งหวนคืนได้…..” กระเรียนขนร่วงพึมพำ ทันใดนั้นมันกุมหัวตัวเองอย่างแรง

“สมควรตาย ข้าเหมือนนึกอะไรออกอีกแล้ว….”

ตอนนี้เอง แท่นบวงสรวงที่ร่างจริงซูหมิงอยู่ในลำแสงนั้นเกิดรอยร้าวขึ้นจำนวนมาก มีเสียงกึกๆ ดังแว่วมา รอยร้าวเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพียงไม่กี่ลมหายใจทั้งแท่นบวงสรวง…..หลอมละลาย!

ไม่ใช่พังลง แต่หลอมละลายกลายเป็นของเหลวหนืดขุ่นจำนวนมาก ช่วงที่มันส่งกลิ่นหอมสดชื่นคละคลุ้งไปรอบๆ ก็กลายเป็นหมอกห่อหุ้มร่างจริงซูหมิงเอาไว้ รวมถึงห่อหุ้มแหวนวงนั้น

ในเวลาเดียวกัน แหวนวงนั้นเหมือนมีจิตสำนึกของตัวเอง แสงที่เปล่งมาทะลวงผ่านหมอกนี้ ผ่านร่างจริงซูหมิง ทันใดนั้นซูหมิงเห็นว่ากายเนื้อเขาภายในหมอกกลายเป็นโปร่งใส

จะเห็นเส้นเลือดต่างๆ ในกายเนื้อ และยังมีจุดน้ำวนระหว่างเส้นเลือดอยู่กันแน่นขนัดไปทั่วร่าง ราวกับว่าเส้นเลือดเหล่านี้รวมขึ้นเป็นอักขระซับซ้อนยักษ์ตัวหนึ่ง และยังเป็นเหมือนกับผนึกซับซ้อน

ในสายตาคนนอกอักขระนั้นซับซ้อนลึกล้ำ แต่ในสายตาซูหมิงกลับมีความรู้สึกเหมือนเห็นชีวิต อักขระที่รวมจากเส้นเลือดเหล่านั้นคือตราประทับชีวิตของเผ่ายมโลก ส่วนผนึกนั้นก็คือผนึกแห่งสายเลือดของเผ่ายมโลก

“จ่างจี๋เต้า!” ซิงจี๋เต้าในชุดคลุมฟ้าพูดขึ้นทันที ขณะเดียวกันนั้นชายชราชุดคลุมดำ ยกสองมือขึ้นประสานมุทราพลางขยับไหววูบไหวตัวพุ่งไปยังลำแสงพร้อมกับซิงจี๋เต้า เมื่อข้ามผ่านไปแล้ว ก็นั่งขัดสมาธิลอยอยู่สองข้างของแหวนสีขาว

สองคนนี้สูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมกันก่อนแผ่ขั้นพลังออกมาทั้งหมด ส่งมันหลอมรวมเข้าไปในแหวนสีขาว เห็นได้ชัดว่าแหวนวงนี้จะนำพวกเขา ในพวกเขาสองคนนี้หากคนเดียวจะมีคุณสมบัติไม่พอ ต้องสองคนลงมือพร้อมกันถึงจะพอทำได้

จิตสัมผัสซูหมิงเคลื่อนไหว เขาในร่างชายชราชุดคลุมดำรู้สึกว่าทันทีขั้นพลังของชายชราชุดคลุมดำกำลังพุ่งตรงไปยังแหวนสีขาว ดวงตาซูหมิงวาววับ เกิดอารมณ์ ชั่ววูบว่าจะแบ่งเสี้ยวจิตสัมผัสตามไป อารมณ์ชั่ววูบนี้รุนแรงอย่างยิ่ง ต่อให้เขาอยากจะระงับก็ยังรู้สึกว่าไม่ยอม

‘นี่คือสมบัติแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน สมบัติล้ำค่าชนิดนี้…..’ จิตสัมผัสซูหมิงเกิดระลอกคลื่นก่อนแผ่จิตสัมผัสออกไปยังแหวนสีขาวตามขั้นพลังชายชราชุดคลุมดำ

ในระหว่างขั้นตอนนั้น กระเรียนขนร่วงรู้ถึงความสำคัญของเรื่องนี้ ประกอบกับ ซูหมิงรับปากจะให้หินผลึก มันจึงไม่ใคร่ครวญถึงความทรงจำวุ่นวายเหล่านั้นในความคิดอีก แต่ใช้พลังทั้งหมดเปลี่ยนจิตสัมผัสของซูหมิงให้เหมือนกับขั้นพลังของ ชายชราชุดคลุมดำ

จิตสัมผัสเสี้ยวหนึ่งจากซูหมิงตามขั้นพลังชายชราชุดคลุมดำเข้าไปในแหวนสีขาว ทันทีที่เข้าไป พลันเกิดเสียงดังสนั่นในความคิดซูหมิง เขาเห็นโลกกว้างใหญ่ โลกนั้นมีภูเขามีสายน้ำ และยังมีสิ่งมีชีวิตมากมาย แต่หากมองดีๆ จะพบว่าสิ่งเหล่านี้ในโลกนี้ กระทั่งตัวโลกเองเกิดขึ้นจากอักขระ อักขระเหล่านี้มีจำนวนมาก แม้แต่เขายังนับไม่ไหว จึงได้แต่ใช้คำว่านับไม่ถ้วนมาบรรยาย

ขณะเดียวกับที่ซูหมิงเห็นโลกนี้ เขาก็สังเกตเห็นว่าแหวนสีขาวไม่ได้ถูกใช้งานโดยซิงจี๋เต้ากับคนชุดคลุมดำ สำหรับสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้แล้ว ขั้นพลังพวกเขาสองคนเป็นเพียงเม็ดข้าวในมหาสมุทร

แต่การส่งขั้นพลังพวกเขากลับเหมือนเปิดผนึกบางอย่างในแหวน จนเมื่อผนึกเปิดออกแล้ว ทุกอย่างที่รวมขึ้นจากอักขระทั้งหมดในโลกนี้ต่างระเบิดแยกออกพร้อมกันกลายเป็นอักขระนับไม่ถ้วนปลิวว่อน ซูหมิงเห็นภาพนี้แล้วในใจพลันสั่น

สะท้าน เขาเกิดความรู้สึกเด่นชัดคล้ายกับว่า…..ในอักขระเหล่านี้ซ่อนเส้นทางที่เขาไม่เข้าใจอยู่ แต่หากเข้าใจขั้นพลังจะสูงขึ้น

ความรู้สึกนี้เด่นชัดมาก ซูหมิงจึงใช้สมาธิทั้งหมดไปกับการสังเกต ต่อมาเมื่อโลกทั้งใบกลายเป็นอักขระเหลือคณานับแล้ว ทางซิงจี๋เต้าส่งเสียงตะโกนต่ำ

“ตี้เทียน เอาของที่เจ้าเตรียมมาตลอดหลายปี….เซ่นไหว้ออกไปให้หมด ใช้มันพลิกกลับจักรวาล ทำให้ดินเป็นฟ้า ให้กาลเวลาย้อนกลับค่อยๆ หมดไป!”

ดวงตาตี้เทียนขยับประกายวาววับ เขาระงับความตื่นเต้นอย่างรุนแรงในใจเอาไว้ ก่อนโยนถุงเก็บวัตถุของเขาเข้าไปในลำแสง จากนั้นจึงยกมือขวาทำปางมือชี้ไป ถุงเก็บวัตถุพลันเปิดออก ของที่เขาเตรียมมาไม่รู้กี่ปีจำนวนมากลอยออกมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!