Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1161

ตอนที่ 1161

ผู้สูงส่งหวนคืน จักรพรรดิรุ่งอรุณ เทพรกร้าง

‘ไม่รู้ว่าหากกินเทพโบราณในสภาพสมบูรณ์แล้ว ร่างแยกกลืนนภาของข้าจะแกร่งถึงระดับใด!’ ดวงตาซูหมิงแวววาว ผ่านไปครึ่งก้านธูป ระหว่างที่ชายชราแซ่เหมียวสี่คนรู้สึกกลัวจนขนหัวลุก พวกเขาเห็นว่าเทพโบราณยักษ์เหลือเพียงหัว!

เลือดเนื้อของเขาแห้งเหี่ยวหมดแล้ว กระดูกละลายแล้ว ร่างกายเขา…ไม่ใช่ร่างกายอีก!

“เกิดใหม่สู่ตัวอ่อนในครรภ์!” นันย์ตาซูหมิงเป็นประกายแสงหม่น เขายกมือซ้ายขึ้นกดตรงกลางกระหม่อมเทพโบราณแล้วทำการสูบ เทพโบราณอ้าปากเปล่งเสียงคำรามสะเทือนฟ้าดิน จากนั้นหัวเขาพลันหลอมละลาย ครู่ต่อมาเทพโบราณยักษ์กลางพายุหมุนก่อนหน้านี้หายไป

มีเพียงซูหมิงที่นั่งขัดสมาธิพลางโคจรพลังในร่างกายเงียบๆ เพื่อย่อยวิญญาณ เทพโบราณมาบำรุงร่างแยกกลืนนภา แทบเป็นทันทีที่เทพโบราณสลายไป ผู้เฒ่าเหวินในนระลอกคลื่นสีขาวร้องโหยหวนเสียงแหลม ร่างกายพลันสั่นเทา วิญญาณสูญสลายไป ทั่วร่างกลายเป็นเถ้าธุลีหายไป

เวลาผ่านไปช้าๆ จนกระทั่งครึ่งเดือนต่อมา ซูหมิงลืมตาขึ้น ประกายแสงในแววตามีอำนาจคุกคามต่อคนประหนึ่งกระบี่คมกริบ ทว่าตอนที่เขาหลับตาลงและลืมตาอีกครั้ง ประกายแววตาสว่างวาบกลายเป็นสงบนิ่ง

‘ขุมนรก ยมโลก เกิดใหม่ สามวิชาต้องห้ามแห่งมหาโลกสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน เฮอะๆ ในเมื่อเป็นวิชาต้องห้าม แล้วจะสร้างขึ้นเพื่ออะไร จากในความทรงจำของ จ่างจี๋เต้า สามวิชาต้องห้ามนี้สร้างขึ้นเพื่อกำราบเผ่าเทพโบราณโดยเฉพาะ ใช้ล่าสังหารเทพโบราณเพื่อเสริมความแกร่งให้ตัวเอง สามวิชาต้องห้ามจะเปลี่ยน เนื้อ กระดูกและวิญญาณของเทพโบราณให้กลายเป็นพลังแห่งร่างกายบริสุทธิ์

เดิมทีวิชานี้ไม่ใช่วิชาต้องห้าม แต่เมื่อนานปีก่อนเผ่าเทพโบราณมาอยู่ฝั่ง สิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน เลยกลายเป็นวิชาต้องห้าม ในมหาโลกสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน ใครก็ตามที่ใช้วิชานี้กับเผ่าประหลาดเทพโบราณจะต้องถูกฆ่าล้างสายเลือด!

แต่ว่าวิชานี้ก็มีความยากอยู่เล็กน้อย ต้องห้ามให้เทพโบราณดิ้นรน อีกทั้งยังห้ามให้กระแสจิตควบคุมร่างกายด้วย มิเช่นนั้นแล้วก็ยากจะสำเร็จ และยังอาจจะเกิดผลย้อนกลับอีกด้วย

ดีที่แหวนวงนี้กำราบดวงจิตของเทพโบราณเอาไว้ถึงผ่านไปได้อย่างราบรื่น นี่ก็มีส่วนที่เขาบาดเจ็บสาหัสด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นการใช้วิชาต้องห้ามนี้ยังต้องใช้กลอุบายเพิ่มอีกเล็กน้อย’ ซูหมิงยืนขึ้นช้าๆ แล้วลูบแหวนที่กลับมาอยู่บนนิ้วเขานานแล้ว ก่อนเดินเข้าไปในระลอกคลื่นสีขาวที่ลอยอยู่กลางฟ้ากระจ่างดาว

“ยินดีกับนายท่านด้วยที่หลอมรวมพลังแห่งร่างกายสำเร็จ!” พวกชายชราแซ่เหมียวสี่คนตึงเครียดมาตลอดครึ่งเดือน พวกเขาเห็นซูหมิงกินเทพโบราณเป็นฉากๆ ความคิดไม่อาจสงบลง นี่โค่นล้มความรู้เดิมของพวกเขาไปแล้ว พวกเขาต่างรู้ถึงความแกร่งของคนยักษ์ กระทั่งต่อให้ซูหมิงสูบได้พวกเขาก็ยังรับได้ ทว่าอีกฝ่ายกินอย่างน่าสะพรึงด้วยความเร็วขนาดนี้ พอพวกเขาได้เห็นกับตาแล้ว ในใจจึงเกิดความกลัวขึ้น อย่างรุนแรง

เวลานี้เห็นซูหมิงกลับมา สี่คนนี้จึงคารวะด้วยความเคารพอย่างไม่ลังเล

ซูหมิงมองตรงจุดที่ผู้เฒ่าเหวินหายไป นัยน์ตามีการเย้ยเยาะวูบผ่าน

ความจริงซูหมิงสงสัยตั้งแต่ถามอีกฝ่ายว่าเดินทางในพายุหมุนได้อย่างไรแล้ว จนกระทั่งมาอยู่บนตัวเทพโบราณ ความสงสัยของเขาก็ได้รับการยืนยัน ผู้เฒ่าเหวินคนนั้นถูกเทพโบราณกุมชีวิตไว้จริงๆ หรือไม่ก็ได้ผลประโยชน์อะไรบางอย่างเล็กน้อย ดังนั้นจึงเริ่มตามหาคนไปทั่ว ล่อลวงด้วยพลังแห่งร่างกาย ซึ่งความจริงคือจะส่งไปให้เทพโบราณต่างหาก ให้เทพโบราณสูบกินเพื่อฟื้นฟูร่างกาย

ซูหมิงยืนอยู่ในระลอกคลื่นสีขาว ตามองผืนฟ้าที่เดิมทีมีร่างเทพโบราณอยู่ พายุหมุนที่นี่รุนแรงยิ่ง ถาโถมไปมารอบๆ เห็นรางๆ ว่าตรงส่วนลึกพายุหมุนเหมือนมีน้ำวนอยู่ น้ำวนหมุนช้าๆ และจะมีพายุหมุนส่วนน้อยมุดเข้าไป

พอเห็นถึงตรงนี้ นัยน์ตาซูหมิงเป็นสมาธิ

“เดิมทีที่นี่คือที่ใด พวกเจ้ามีใครรู้บ้าง” ซูหมิงถามขึ้นเรียบๆ

“นายท่าน ที่นี่…หากข้าจำไม่ผิด ที่นี่เคยเป็นหนึ่งในจุดเคลื่อนย้ายไปยัง สำนักดาราสัจธรรม” เต้าจงในเสื้อคลุมดาราตรึกตรองอยู่ชั่วครู่แล้วประสานมือคารวะพลางตอบไป

ซูหมิงไม่ตอบกลับ แต่มองจุดเคลื่อนย้ายกลางพายุหมุนพร้อมยกมือขวาขึ้นโบกไปข้างนอก ฉับพลันนั้นระลอกคลื่นสีขาวรอบตัวพวกเขาแผ่ขยายออก วูบเดียวก็ขยายไปหลายพันจั้ง จากนั้นก็ขยายไปอีกรอบพร้อมด้วยเสียงดังอึกทึก จนกระทั่งมีขนาดสามหมื่นกว่าจั้งแล้วถึงหยุดลง

เมื่อระลอกคลื่นสีขาวกระจายออก พายุหมุนที่นี่ก็ม้วนตลบไปพร้อมกัน รวมถึงพลังโลกในนั้นก็ถูกผลักออกเช่นกัน ทำให้พื้นที่สามหมื่นจั้งกลายเป็นพื้นที่กว้างโล่ง

ต่อมาซูหมิงสะบัดแขนเสื้อ หินผุพังยักษ์สิบสามก้อนที่เขาเก็บมาก่อนหน้านี้บินออกมาล้อมไปรอบๆ และยังหมุนโคจรเนิบช้า จากนั้นเขาขยับวูบไหวบินไปยัง จุดเคลื่อนย้ายไกลลิบ จนมานั่งขัดสมาธิอยู่ข้างจุดเคลื่อนย้ายผุพัง ก้มหน้ามองอย่างละเอียดหลายทีแล้วหลับตาลงใคร่ครวญอยู่ชั่วครู่

“ตอนมหันตภัยมาเยือนโลกแท้จริงดาราสัจธรรมก็ไม่มีพันธมิตรเผ่าเซียนแล้ว ไม่มีสำนักดาราสัจธรรม ตอนนี้ข้าจะสร้างสำนักที่นี่ มีนามว่า…ยอดเขาลำดับเก้า

พวกเจ้าทุกคนจะได้รับระลอกคลื่นคุ้มกันสายหนึ่งจากแซ่โม่ ระลอกคลื่นนี้ไม่เพียงแต่ให้พวกเจ้าเดินทางในพายุหมุนได้ แต่ยังมีผลคุ้มกันอีกด้วย พวกเจ้าจงไป ตามหาผู้ฝึกฌานที่เหลืออยู่ในโลกนี้ ไปเชิญเข้าสำนัก ผู้ยินยอมจะได้รับการคุ้มกัน ผู้ไม่ยินยอม…ให้จำที่อยู่เขาเอาไว้ ข้าจะไปเยี่ยมเยือนทุกคน

นอกจากนี้แล้ว พวกเจ้าสี่คนจำภาพเหมือนในแผ่นหยกนี้เอาไว้ หากเจอคนใดใน สามคนนี้ ให้ส่งข่าวผ่านแผ่นหยกมา แล้วข้าจะรีบไปทันที” ซูหมิงเงยหน้าขึ้น ตอนที่ยกมือขวาในมือปรากฏแผ่นหยกสี่แผ่น หลังประทับตราอย่างมีสมาธิแล้วก็ส่งไปให้ สี่คน

ครั้นพวกชายชราแซ่เหมียวสี่คนรับไปแล้วก็เพ่งสมาธิมอง จำภาพเหมือนของ ชายสามคนในแผ่นหยกเอาไว้

ชายสามคนนี้มีจุดเด่นของตัวเอง คนแรกเป็นคนไม่มีหัว แต่ทั่วร่างเต็มไปด้วยกลิ่นอายมารเหลือล้น ถึงจะเห็นแต่ภาพเหมือนก็ยังรู้สึกถึงจิตสังหารโชยเข้ามา

คนที่สองเป็นชายที่ยิ้มอย่างอบอุ่นยิ่งราวกับดอกไม้ รอยยิ้มเบาดุจดั่งสายลมในฤดูใบไม้ผลิ คนมองเพียงครั้งเดียวก็ยากจะลืมเลือน

ส่วนคนที่สามเป็นชายร่างกำยำเหมือนเป็นคนมุทะลุ ร่างกายสูงใหญ่ สีหน้าทึ่มทื่อ พอเห็นแล้วเป็นต้องมองอีกหลายครั้งเหมือนกัน

สี่คนนี้เก็บกระแสจิตแล้วคารวะซูหมิง ส่วนซูหมิงสะบัดแขนเสื้อ ใต้เท้าสี่คนพลันปรากฏระลอกคลื่นสีขาว จากนั้นสี่คนนี้ก็ถอยไป วูบเดียวกลายเป็นสายรุ้งยาวสี่สายแยกกันไปสามทางต่างกัน

หลังพวกเขาบินจากไป ที่นี่เข้าสู่ความเงียบ ซูหมิงมองอาคมเคลื่อนย้ายพลางส่ายศีรษะเงียบๆ

‘อาคมที่นี่ถูกปิดผนึกตายไปแล้ว ซ้ำยังเสียหายยิ่ง หากจะเปิดเข้าสำนักดาราสัจธรรมคงยากมาก แต่หากหู่จื่ออยู่ที่นี่อาจจะมีวิธี’ ซูหมิงเงยหน้าขึ้นมองผืนฟ้า แล้วหลับตาลงเงียบๆ

การสร้างสำนักยอดเขาลำดับเก้าและควบคุมโลกแท้จริงดาราสัจธรรมคือเรื่องที่ ซูหมิงต้องทำให้เสร็จก่อนที่ฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับเงามืดรุ่งอรุณจะมาถึง มีแต่แบบนี้เท่านั้นเขาถึงจะรวมพลังทั้งหมดเพื่อมีเสี้ยวชีวิตรอดในภัยพิบัติทำลายล้างโลกที่แท้จริงซึ่งรุนแรงกว่าพายุหมุนในตอนนี้ไม่รู้กี่เท่าได้

‘ในความทรงจำของจ่างจี๋เต้า ที่มหาโลกสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนสนใจสามรกร้าง ก็เพราะว่า…สามรกร้างเป็นมหาโลกหนึ่งที่ให้กำเนิดสิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพรกร้างที่มีชื่อเสียงพอๆ กับผู้สูงส่งหวนคืนสามท่านกับจักรพรรดิรุ่งอรุณสามท่าน กระทั่งเหนือกว่าได้!

มหาโลกสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนมีผู้สูงส่งหวนคืน มหาโลกเงามืดรุ่งอรุณมีจักรพรรดิรุ่งอรุณ และมหาโลกสามรกร้างมีเทพรกร้าง!

หนึ่งมหาโลก มีตำแหน่งเทพสามคนที่ได้กลายเป็นเทพรกร้าง โดยเฉพาะ เทพรกร้างรุ่นแรกจะได้มองสามโลกอย่างโอหัง!’

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!