Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1177

ตอนที่ 1177 หักสามดอก

“ความลับสวรรค์…” ซูหมิงเงียบแล้วพลันเงยหน้าหัวเราะเสียงดัง ในเสียงหัวเราะมีการเย้ยเยาะ ความลับสวรรค์อะไรนี่ เขา…ไม่เชื่อเลย!

ต่อให้ภาพนั้นจะสมจริงกว่านั้นอีก ต่อให้ในชั่วเสี้ยวพริบตานั้นเขาเคยตกอยู่ในบ่วงมัน และยังสัมผัสถึงความเศร้าของตัวเองที่ผ่านโลกมาเนิ่นนานคนนั้นหลังเห็นทุกอย่างรอบตัวถูกทำลายล้าง ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่เขาก็ยัง…ไม่เชื่อความลับสวรรค์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

“กับอีแค่จิตวิญญาณแห่งวงแหวนอาคม กับอีแค่วงแหวนวงแหวนอาคม ธูปสวรรค์เล็กจ้อย ยังกล้ามาพูดคำว่าความลับสวรรค์ ดูก็รู้ว่านี่เกิดจากวิชาของเจ้าเพื่อใช้ปั่นป่วนจิตใจข้า เป็นปาหี่ที่หากเชื่อก็จะเป็นความจริง เจ้าจะปลูกเมล็ดพันธุ์ในวิญญาณข้า เรื่องนี้เหลวไหลอย่างยิ่ง ในเมื่อเจ้าบอกว่าทำนายได้ ไหนเจ้าลองทำนายดูหน่อยว่าวันนี้ข้าจะหักธูปของเจ้ากี่ดอก?”

นัยน์ตาซูหมิงเผยจิตสังหาร ก่อนพูดขึ้นช้าๆ พลางยิ้มเยาะ

“วันนี้คือมหันตภัย มหันตภัยนี้ไม่ใช่เจ้าอีก แต่เป็นข้าที่เผยความลับสวรรค์ มหันตภัยนี้อาศัยมือเจ้าในการลงมือกับข้า ธูปเก้าดอก…วันนี้หักสาม” จิตวิญญาณแห่งวงแหวนอาคมเงียบไปครู่หนึ่งแล้วก็กล่าวอย่างขมขื่น

“หักสามดอก?” ขณะซูหมิงกล่าว ก็ยังไม่ให้โอกาสวงแหวนอาคมธูปสวรรค์ได้กล่าวต่อ เขายกมือขวาขึ้นกดบนธูปสวรรค์ดอกที่สาม ขณะเดียวกันแหวนที่ลอยอยู่เหนือหัวเขายังลดระดับลงตรงไปยังธูปสวรรค์ดอกนั้น ระดับความเร็วก็แทบจะพร้อมกับมือขวาซูหมิง

เสียงครึกโครมดังก้อง บางทีพลังจากซูหมิงอาจจะทำลายธูปสวรรค์ดอกที่สามไม่ได้ ทว่าแหวนสมบัติล้ำค่าของเขา นั่นคือสมบัติของผู้ฝึกฌานขั้นไม่อาจกล่าว ยามนี้ขณะลงมา แหวนก็สวมเข้าที่ธูปสวรรค์ดอกที่สามแล้วลดระดับลงไปอีก จุดที่มันผ่านธูปสวรรค์จะเกิดเสียงดังสนั่น ธูปสวรรค์ดอกที่สามในเก้าดอกที่อยู่ในโลกแท้จริง ดาราสัจธรรมมานานไม่รู้กี่ปีพลันแตกกระจายกลายเป็นเถ้าธุลีหายไป

ไม่มีการต่อต้าน จิตวิญญาณอาคมแห่งวงแหวนอาคมธูปสวรรค์ไม่ต่อต้านแม้แต่น้อย แต่ยอมรับจุดจบถูกทำลายธูปสวรรค์ดอกที่สามอย่างเงียบๆ

“ไม่ต่อต้านรึ?” นัยน์ตาซูหมิงเผยจิตสังหาร เขามองวงแหวนอาคมธูปสวรรค์ แต่ฉับพลันนั้นจิตสังหารหายไปกลายเป็นเย็นชา เขาไม่ได้ลงมือต่อ เขามองออกว่า วงแหวนอาคมธูปสวรรค์พูดว่าวันนี้เขาจะหักสามดอก เช่นนั้นหากเขาลงมือต่อโดยการหักดอกที่สองและดอกที่สามแล้ว อีกฝ่ายจะต้องต่อต้านอย่างสุดกำลังเพื่อขวางไม่ได้ทำลายดอกที่สี่แน่ หากถึงตอนนั้น เขาจะเปลี่ยนเป็นถูกกระทำ ดังนั้นตอนที่ดวงตาฉายแววเย็นชา เขายังสะบัดแขนเสื้อ แหวนสมบัติล้ำค่ากลับมาอย่างรวดเร็วจนกลับมาสวมที่นิ้วชี้มือขวาแล้ว เขาก็เดินหน้าไป เดินออกจากพื้นที่วงแหวนอาคม ธูปสวรรค์มาปรากฏตัวอยู่ข้างกระเรียนขนร่วงและหู่จื่อ

เขายกมือขวาขึ้นโบกไป ฉับพลันนั้นปรากฏนาฬิกาทรายอันหนึ่งข้างกาย จากนั้นก็มองวงแหวนอาคมธูปสวรรค์อย่างเย็นชาพลางกล่าวขึ้นเรียบๆ

“เจ้าบอกว่าวันนี้ข้าจะหักสามดอก แต่วันนี้หักแค่หนึ่งดอก เวลายังเหลืออีกไม่น้อย ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะทำอย่างไรเพื่อให้ข้าทำลายธูปสวรรค์สามดอกตามที่เจ้าว่า” ซูหมิงนั่งขัดสมาธิลงพลางยิ้มเยาะ

“นี่คือความลับสวรรค์ เป็นสิ่งที่ชะตาฟ้าลิขิต ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสุดท้ายแล้วเจ้าจะหักธูปสวรรค์อีกสองดอกอย่างไร แต่ความลับสวรรค์เป็นเช่นนี้ ก็ต้องเป็นไปตามนั้น” เสียงผ่านโลกมาเนิ่นนานดังแว่วมาจากในวงแหวนอาคมธูปสวรรค์เหมือนถอนหายใจ

เวลาผ่านไปทีละลมหายใจ ซูหมิงนั่งขัดสมาธิมองวงแหวนอาคมธูปสวรรค์ อย่างเย็นชา เขาตั้งมั่นไว้แล้วว่าตนจะไม่ลงมืออย่างเด็ดขาด อยากรู้ว่าวงแหวนอาคมธูปสวรรค์จะให้ตนหักสามดอกตามที่พูดอย่างไร

หากเรื่องนี้เป็นแผนการร้ายของจิตวิญญาณวงแหวนอาคมธูปสวรรค์ เช่นนั้นเมื่อวันนี้ผ่านไป เมื่อนาฬิกาทรายสิ้นสุดลงและวันใหม่มาถึง เขาจะไม่ถือสาหักธูปดอกอื่นๆ ของวงแหวนอาคมธูปสวรรค์ แต่วันนี้เขาจะไม่ลงมือ

ปากบอกไม่เชื่อภาพแห่งความลับสวรรค์อะไรนั่น แต่ไม่ว่าใครจะต้องไม่ได้ไม่เชื่ออย่างสนิทใจแน่ จะต้องมีเสี้ยวความเป็นไปได้หนึ่งที่ทำให้ซูหมิงปวดใจ แต่ละฉากในภาพนั้น ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่รอง หู่จื่อไปจนถึงคนที่เขารู้จักทั้งหมดล้วนตายอย่างอนาถ ภาพที่เขาเงยหน้าคำรามเสียงแหลมยังวนเวียนอยู่ในหัว ทำให้เขาใจสั่นไหว ทำให้เขา…กลัว

เขากลัวว่าภาพนั้นจะเป็นความจริง กลัวว่าทุกคนรอบตัวจะต้องตาย กลัวความลับสวรรค์อะไรนั่น

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า นาฬิกาทรายที่ซูหมิงวางไว้เหลือไม่มากแล้ว วันนี้ผ่านไปมากกว่าครึ่ง เหลืออีกไม่ถึงสองชั่วยามก็จะจบลง แต่ซูหมิงไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของวงแหวนอาคมธูปสวรรค์แม้แต่น้อย เหมือนว่าวงแหวนอาคม ธูปสวรรค์เองก็มีความมั่นใจว่าความลับสวรรค์จะต้องเกิดขึ้นแน่

ยามนี้ สิ่งที่ซูหมิงไม่รู้คือในโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกกำลังดำเนินการเซ่นไหว้ที่เริ่มขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน การเซ่นไหว้นี้เกิดขึ้นในพระราชวังมหึมาที่ลอยกลาง ฟ้ากระจ่างดาวโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก

อวี่เซวียนนั่งขัดสมาธิอยู่บนแท่นราบที่เต็มไปด้วยวงแหวนอาคมแห่งหนึ่งกลางพระราชวัง ตรงนั้นมีทั้งหมดสองแท่นราบ บนแท่นราบอีกแห่งตรงหน้าอวี่เซวียนมีชายวัยกลางคนนั่งขัดสมาธิอยู่คนหนึ่ง

ชายคนนี้ทั่วร่างถูกโซ่เหล็กที่รวมขึ้นจากอักขระนับไม่ถ้วนพันรอบ โซ่เหล่านั้นทะลวงผ่านร่างกาย ตรึงเขาไว้บนแท่นราบอย่างหนาแน่นจนขยับไม่ได้เลย เขาเงยหน้าคำรามด้วยความเจ็บปวด ในเสียงแหลมยังมีความแค้นและคลุ้มคลั่ง

เมื่อเขาร้องคำราม ก็มีแสงสีขาวขุ่นถูกดึงออกมาจากในตัวเขา โซ่ที่รวมขึ้นจากอักขระเหล่านั้นประหนึ่งเส้นทาง คอยดึงพลังชีวิตและพลังออกมาจากในร่างเขาอย่างต่อเนื่อง หลอมรวมเข้าสู่…ในร่างอวี่เซวียนบนแท่นราบ

อวี่เซวียนมีสีหน้าเฉยชา นางก้มหน้าลง ภายใต้การหลอมรวมพลังและพลังชีวิตจากในร่างชายวัยกลางคนแปลกหน้าคนนั้น นางรู้สึกว่าร่างกายกำลังถูกเปลี่ยนแปลงอย่างน่าประหลาด

เหนือแท่นราบสองแท่นนี้ ซูเซวียนอีเอามือไพล่หลังอยู่กลางอากาศ สายตา เย็นชามองทุกอย่างข้างล่าง หมิงหวงแห่งโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกรวมถึงซังยืนเงียบๆ อยู่ข้างหลัง

“ไม่เลว ถือว่าราบรื่น น่าหัวร่อตี้เทียนที่คิดจะยึดร่างอยากเป็นเผ่ายมโลก เรื่องนี้เขาคงไม่รู้ ความจริงแล้วแซ่ซูก็มีแผนการแบบเดียวกัน แต่แค่ไม่เผยออกมาก็เท่านั้นเอง ตอนนี้ก็ใกล้จะสำเร็จแล้ว

หมิงหวง ตลอดหลายปีมานี้เจ้าทำได้ดีมาก” ซูเซวียนอีกวาดสายตามองชาย วัยกลางคนบนแท่นราบที่สองแล้วกล่าวขึ้นราบเรียบ

“ศิษย์ปฏิบัติตามคำสั่งของอาจารย์ทุกอย่างเพื่อให้ท่านพอใจที่สุด ร่างแยกของ ผู้อาวุโสเผ่ายมโลกที่มีจิตสำนึกขึ้นเองร่างนี้ซ่อนตัวอยู่ในโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกมาตลอด ตอนนั้นศิษย์ร่วมมือกับผู้แข็งแกร่งโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกกับใช้ วงแหวนอาคมที่อาจารย์มอบให้เพื่อจับเขา จ่ายไปไม่น้อย ดีที่ทุกอย่างราบรื่น และก็หวังว่าการกระตุ้นสายเลือดของนายหญิงน้อยจะราบรื่นเช่นกัน ไม่รู้ว่าร่างแยกนี้เป็นของผู้อาวุโสเผ่ายมโลกท่านใด?” หมิงหวงข้างหลังซูเซวียนอียิ้มพร้อมกล่าวขึ้น

“น้องชายข้า ซูเต้าอีผู้มีสายเลือดจักรพรรดิ เมื่อนานมาแล้ว ก่อนที่โลกแท้จริง ที่ห้าจะถูกทำลาย ร่างแยกของเขาเคยไปวงแหวนอาคมธูปสวรรค์แห่งโลกแท้จริง ดาราสัจธรรม

สืบทอดธูปสวรรค์ดอกที่หก หลังหลอมรวมแล้วก็มีจิตสำนึกขึ้นเอง น่าเสียดาย น้องชายข้าไม่ทันออกจากโลกแท้จริงที่ห้าไปหาร่างแยกเพื่อหลอมรวม มหันตภัยก็มาถึงเสียก่อน” ซูเซวียนอีมองชายวัยกลางคนที่กำลังร้องเสียงแหลมบนแท่นราบที่สองด้วยสีหน้าไร้ปรานี

“ข้ายอมเสียสละทุกอย่างเพื่อให้เผ่ายมโลกผงาดขึ้น!”

“วงแหวนอาคมธูปสวรรค์…ความสัมพันธ์ระหว่างวงแหวนอาคมนี้กับเผ่ายมโลกคือ…” คนที่ถามไม่ใช่หมิงหวง แต่เป็นซัง

“วงแหวนอาคมธูปสวรรค์อยู่มาก่อนเผ่ายมโลก เล่าลือว่านั่นคือวัตถุในสมัยเดียวกับ ผู้เฒ่าเมี่ยเซิง แต่ข้าไม่เชื่อ เผ่ายมโลกไม่ได้สนใจผลอื่นๆ ของวงแหวนอาคมนี้เลย ทว่าวิธีการให้ร่างแยกมีจิตสำนึกขึ้นเองของมัน หากใช้ประโยชน์ดีๆ จะทำให้ชาวเผ่าที่ฝึกฝนถึงคอขวดข้ามผ่านไปได้

การมอดดับของธูปทุกดอกนั้น จะต้องมีร่างแยกเผ่ายมโลกไปหนึ่งคนแล้วสอดคล้องกับเงื่อนไขพิเศษบางอย่าง ต่อให้เป็นข้าในตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าคืออะไร หากธูปมอดดับ ร่างแยกนั้นจะหลุดออกจากร่างจริงและเกิดจิตสำนึกขึ้นเอง

เขาฝึกฝนได้ เป็นอิสระ แต่นี่ก็หมายความว่าเขาถูกยึดร่างครั้งที่สองได้เหมือนกัน!” นัยน์ตาซูเซวียนอีฉายประกายแปลกประหลาด

“หลังจากยึดร่างสองครั้งในร่างเดิมแล้ว จะปะทุพลังที่แกร่งยิ่งกว่าเดิมออกมา หากยึดร่างสำเร็จ จะข้ามผ่านคอขวดได้ นี่คือประโยชน์สูงสุดของวงแหวนอาคม ธูปสวรรค์ต่อเผ่ายมโลก!” ซูเซวียนอีหมุนตัวกลับไปมองซังแล้วตอบกลับช้าๆ

“วงแหวนอาคมธูปสวรรค์มีหกดอกมอดดับไปแล้ว นอกจากร่างแยกนี้ ยังมี ร่างแยกเผ่ายมโลกอีกห้าคน…น่าเสียดายพวกเขาซ่อนตัวได้เก่งมาก นอกจากหนึ่งในนั้นแล้ว คนที่เหลือกระทั่งข้ายังยากจะหาพบ” ซูเซวียนอีพูดขึ้นเรียบๆ

“นอกจากหนึ่งในนั้นที่ว่า…เกรงว่าคงจะเป็นร่างแยกของอาจารย์ใช่หรือไม่” ซังถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

ซูเซวียนอีตาเปล่งประกาย เขายิ้มเล็กน้อยและไม่ได้ปฏิเสธ

ยามนี้เอง ชายวัยกลางคนที่ถูกโซ่เหล็กซึ่งรวมจากอักขระทะลวงผ่านร่างบนแท่นราบที่สองข้างล่างหรือก็คือร่างแยกของน้องชายซูเซวียนอีแห่งเผ่ายมโลกในอดีต เขาเงยหน้าคำรามเสียงดังสนั่นฟ้า ทั่วร่างพลันแห้งเหี่ยวลง พริบตาเดียวก็กลายเป็นโครงกระดูก ซ้ำยังเป็นเถ้าธุลีหายไป แสงสีขาวจำนวนมากไหลผ่านโซ่เหล็กตรงไปยังอวี่เซวียน หลอมรวมในร่างนางอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกับที่ปรับเปลี่ยนคุณสมบัติร่างกายนางนั้น ยังหลอมรวมกับวิญญาณนางอย่างเร็วไว ดูเหมือนสมบูรณ์แบบ แต่ยังต้องใช้การบำรุงอีกช่วงเวลาหนึ่งถึงจะให้เมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตเติบโตอย่างแท้จริง

เมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตนี้ครึ่งหนึ่งเป็นส่วนของซูหมิง อีกครึ่งเป็นเศษ พวกมันเชื่อมเข้าด้วยกัน ตอนนี้กำลังสูบพลังชีวิตและพลังของร่างแยกนั้นอย่างรวดเร็ว

คนที่ก่อให้เกิดผลแบบนี้มากที่สุด กระทั่งพูดได้ว่าทำลายจิตสำนึกของร่างแยกทางอ้อมให้กลายเป็นเถ้าธุลีหายไป ไม่ใช่ซูเซวียนอี และไม่ใช่อวี่เซวียน แต่เป็น เมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตครึ่งหนึ่งของซูหมิงในอดีตในร่างอวี่เซวียน!

เป็นมันที่ทำทุกอย่างนี้อย่างสมบูรณ์แบบ…สังหารร่างแยกเผ่ายมโลกคนนี้จน สูญสิ้นไป! ในเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิต…ยังมีเสี้ยวกลิ่นอายพลังของซูหมิงอยู่!

เพราะถึงอย่างไรมันก็เติบโตจากการสูบเลือดและวิญญาณซูหมิงมาพันกว่าปี ดังนั้นถึงมันจะแยกออกจากเขาแล้ว ก็ยังมีกลิ่นอายพลังเขาอยู่!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!