Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1199

ตอนที่ 1199 สตรีศักดิ์สิทธิ์

เมื่อนางลืมตาขึ้นยังเผยสีฟ้าในลูกตา ใบหน้านางค่อยๆ เปลี่ยนไป ราวกับว่า ฝืนลอกกาลเวลาออกจากตัว ทำให้นางไม่ใช่วัยกลางคนอีก แต่คล้ายๆ เด็กสาว

ตอนนี้นางมีสีหน้าสงบนิ่ง เงยหน้ามองไกลออกไปราวกับไม่เห็นว่าบนแท่นบวงสรวงผนึกน้ำแข็งมีชั้นน้ำแข็งขวางอยู่ ตรงจุดที่นางมองไปคือทางออกโลกที่เก้าของเงามืดรุ่งอรุณ นั่นคือที่อยู่ของมหาโลกสามรกร้างที่อยู่ไกลยิ่งกว่า

นางยกมืองามขึ้นช้าๆ เผยผลึกสีฟ้าก้อนหนึ่งกลางฝ่ามือ ตอนนี้ในผลึกมีแสงสีฟ้าอ่อนขยับวูบวาบ แสงนั้นสวยงามมาก หากมองนานๆ จะเหมือนถูกดูดจิตเข้าไปไม่อาจถอนตัวออกมา

“ผลึกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพี่สาว เป็นครั้งแรกในรอบหลายหมื่นปีที่เกิด แสงสว่างเช่นนี้…” นางพูดเสียงเบาด้วยน้ำเสียงเย็นชามาก

‘แสงนี้ชี้ไปนำกลางโลกสามรกร้าง แต่คนในโลกสามรกร้างที่ทำให้ผลึกวิญญาณของพี่สาวเกิดระลอกคลื่นได้มีเพียงคน

เดียวนั่นคือบุตรของนางในตอนนั้น และก็เป็นทารกคนนั้นที่จนกระทั่งนางสิ้นชีพไปก็ยังไม่ลืม’ นางเงียบ ผ่านไปพักใหญ่ใบหน้ำเย็นชาเกิดการตรึกตรอง ผ่านไปครู่หนึ่งนางยกมือซ้ายโบกไปบนชั้นน้ำแข็งตรงหน้า ฉับพลันนั้นเกิดเสียงดังกึกๆ ชั้นน้ำแข็งเกิดรอยแตกหลายสาย เพียงไม่กี่ลมหายใจ ชั้นน้ำแข็งแตกและออกกระเด็นไปรอบๆ

แทบเป็นทันทีที่ชั้นน้ำแข็งแตกออก ฟ้ากระจ่างดาวมืดมิดแห่งนี้เกิดดาวขยับแสงวาววับเก้าสิบแปดดวง ดาวเก้าสิบแปดดวงนี้เหมือนอยู่ไกลมาก แต่เพราะไกลนี่เองถึงได้เห็นเป็นภาพที่รวมขึ้นจากพวกมัน

นั่นคือภาพหงส์ตัวหนึ่ง หากมีเส้นเชื่อมกลุ่มดาวเหล่านี้จะร่างออกมาเป็นหงส์ที่สมจริงดั่งมีชีวิต

ขณะเดียวกับที่ดาวเก้าสิบแปดดวงรวมเป็นภาพหงส์ ก็มีร่างเงาเดินออกมาจากมวลอากาศรอบตัวสตรีคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ครู่เดียวก็มีล้อมอยู่หลายแสนคน

พวกเขาต่างเห็นใบหน้าไม่ชัด คล้ายกับว่าหลอมรวมกับอากาศ ทว่ากลิ่นอายพลังจากตัวพวกเขากลับเหมือนจะแช่แข็งฟ้าโลกนี้ได้

พอคนเหล่านั้นปรากฏตัวแล้วก็ต่างคุกเข่าคารวะหญิงคนนั้นพร้อมกัน

“ยินดีที่สตรีศักดิ์สิทธิ์ออกฌาน!”

“หลายปีมานี้ที่ข้าปิดด่านนั่งฌาน เงามืดรุ่งอรุณเกิดอะไรขึ้นบ้าง” นางมอง หลายแสนคนรอบๆ อย่างสงบนิ่งพลางถามขึ้นเรียบๆ

ไม่นานก็มีคนอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในหลายปีมานี้กับนางอย่างละเอียด รวมถึงช่องโหว่ของมหาโลกสามรกร้างและมหาสงครามแย่งชิงช่องโหว่นี้กับฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน

ผ่านไปพักหนึ่ง นางหลับตาลง ตอนที่ลืมตาอีกครั้ง นางก้าวเดินหน้าไป

“ห้ามแพร่งพรายเรื่องที่ข้าออกฌานอย่างเด็ดขาด ซู่เอ๋อร์นั่งฌานต่อแทนข้า ข้าจะไป…สามรกร้าง” หญิงคนนี้กล่าวเสียงเบา ในกลุ่มคนข้างหลังมีหญิงคนหนึ่งขานรับ ร่างกายนางค่อยๆ เปลี่ยนไป ไม่นานก็กลาบเป็นใบหน้าหญิงคนนั้น ก่อนเดินไปบนแท่นบวงสรวงและนั่งฌานลง ผนึกน้ำแข็งค่อยๆ ก่อตัวขึ้นผนึกใหม่อีกครั้ง

ณ โลกของวิหารเหล่าเทพ ซูหมิงกำลังอาบอยู่ในแสงทอง ร่างกายเลือนราง ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์ที่อยู่ไกลออกไปมีสีหน้ามืดทะมึน นัยน์ตาฉายแววเสียดาย

ยามนี้ร่างกายซูหมิงเหมือนปกติ แต่วิญญาณกับจิตสำนึกอย่างละสองร้อยห้าสิบหกส่วนในความคิดทำให้เขาไม่มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะหาวิญญาณส่วนแรกของตนพบ

นี่คือการหลงทาง แม้ซูหมิงยังไม่หลงทางไปเสียหมด แต่นานเข้าอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงอีก เช่นนั้นเขาจะต้องหลงทางกับวิญญาณหลักแน่ๆ

ชั่วพริบตาที่ซูหมิงกำหนดวิญญาณหลักอย่างยากลำบาก ทันใดนั้นวิญญาณ สองร้อยห้าสิบหกดวงเกิดการสั่นสะท้านอีกครั้ง พลังที่แฝงอยู่ในแสงทองแกร่งกล้า อัดแน่นอยู่เต็มร่างวิญญาณสองร้อยห้าสิบหกดวง ทุกดวงล้วนแกร่งกว่าวิญญาณเขาก่อนหน้านี้หลายเท่า

ตอนนี้เกิดเสียงโครมดังกึกก้องในความคิดเขา ก่อนเกิดการแยกครั้งที่เก้าขึ้น

วิญญาณสองร้อยห้าสิบหกดวงพลันสั่นไหวและแยกออกอีกครั้งกลายเป็น ห้าร้อยสิบสองดวง จิตสำนึกเขากระจายออกตามไป จากสองร้อยห้าสิบหกกลายเป็นห้าร้อยสิบสอง

เดิมทีซูหมิงเพียงแค่กำหนดวิญญาณหลักอย่างยากลำบาก แต่ในเสี้ยวพริบตาเดียวกลับหาวิญญาณหลักไม่เจอเลย ตกไปอยู่ในห้วงการหลงทาง เขามองวิญญาณทุกดวงเหมือนวิญญาณหลัก แต่ทุกส่วนคลับคล้ายว่าจะไม่เหมือนกัน

ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์ข้างนอกเห็นถึงตรงนี้ก็ถอนหายใจยาว เขาเข้าใจว่าการยกระดับวิญญาณครั้งนี้ล้มเหลวแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่มีใครเคยหลงทางแล้วแต่ กลับสำเร็จ ทว่าส่วนใหญ่

แยกออกสามสี่ครั้งเท่านั้นเลยมีความหวังที่จะหาวิญญาณหลักในขณะหลงทางพบ แต่ซูหมิงแยกออกเก้าครั้ง ระดับความยากคือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

‘ความล้มเหลวของเขาไม่เกี่ยวกับเขา นั่นเป็นเพราะกลิ่นอายพลังเผ่านอกในวิญญาณเขา ช่างเถอะๆ ’ ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์ส่ายศีรษะ แต่กลับมีสีหน้าเสียดายและเสียใจเข้มข้นมาก เขาจินตนาการได้ว่าอีกไม่นานเมื่อวิญญาณห้าร้อย สิบสองดวงถูกพลังจากแสงทองอัดจนแกร่งขึ้นมาแล้ว วิญญาณเหล่านี้ก็จะเริ่ม หลอมรวมและกินกัน

มีเพียงยึดวิญญาณหลักไว้เท่านั้นถึงจะโน้มนำและหล่อหลอมในตอนนั้นได้ จนกระทั่งรวมจนสมบูรณ์แล้ว จะปรากฏวิญญาณของบรรพชนวิญญาณที่รวมจากวิญญาณทั้งหมดขึ้น!

และก็มีแค่ตอนนั้นเท่านั้นที่ร่างกาย พลังและวิญญาณสามสิ่งจะเปลี่ยนไปพร้อมกัน วิญญาณของเทพชรรพชนคือเมล็ด กายหมานขั้นดับคือราก และพลังคือใบ นี่จะทำให้ซูหมิงก้าวออกจากวิญญาณชนรุ่นหลังขึ้นเป็นบรรพชนวิญญาณ

‘น่าเสียดาย…ทว่าจะบอกว่าเขาล้มเหลวก็ไม่ได้ เพียงแต่จิตสำนึกเขาจะถูกลบไป แล้วมีจิตสำนึกที่เกิดใหม่มาแทนที่ ดังนั้นแล้ว ในด้านๆ หนึ่ง เขาก็ยังเป็นเขา ยังมีโอกาสที่จะตกลงกันได้อยู่’ ชายชราดวงตาวาววับก่อนลอบถอนหายใจ เรื่องนี้คนนอกช่วยไม่ได้ ต่อให้เป็นเขาก็ยังทำไม่ได้ ทำได้เพียงมองใบหน้าซูหมิงในแสงทองที่ตอนนี้มีความสับสนอยู่ลึกๆ

ซูหมิงหลงทางแล้ว หลงอยู่กลางจิตสำนึกและวิญญาณห้าร้อยสิบสองดวง หาวิญญาณหลักตนไม่พบ จนกระทั่งวิญญาณห้าร้อยสิบสองดวงอัดแน่นด้วยแสงทองจนสมบูรณ์แล้ว ซูหมิงมองพวกมัน…เริ่มหลอมรวมและกินกันด้วยความสับสน

ความรู้สึกถึงอันตรายเป็นตายลอยขึ้นมาในใจเขา เขามีความรู้สึกเด่นชัดว่าหากตนหาวิญญาณหลักไม่พบ เช่นนั้นขณะหลอมรวมนี้ หากวิญญาณหลักถูกวิญญาณอื่นกินไป นั่นหมายความว่าเขาได้ตายไปในความหมายบางอย่าง

บางทีวิญญาณนั้นที่ปรากฏมาสุดท้ายก็คิดว่าตนเป็นซูหมิงเช่นกัน ทว่านี่เหมือนกับร่างแยกกลืนนภาที่มีจิตสำนึกขึ้นเอง นั่นไม่ใช่เขาจริงๆ อีก

ตอนนี้เริ่มการหลอมรวมและกินกันของวิญญาณแล้ว วิญญาณห้าร้อยสิบสองดวงต่างชนเข้าใส่กัน เกิดเสียงโครมดังก้องในความคิดเขาไม่หยุด ในขณะที่วิญญาณกินกัน ความรู้สึกถึงอันตรายเป็นตายลอยขึ้นในใจเขา ทำให้เขายากจะตัดสินได้

‘ทำอย่างไรดี!’ จิตสำนึกกลางวิญญาณห้าร้อยสิบสองดวงล้วนเกิดความร้อนรนเช่นนี้ เหมือนว่าทุกส่วนคือของจริง มิใช่ของปลอมเลย

ขณะที่มีวิญญาณถูกกินภายใต้การหลอมรวมกันนี้ ทันใดนั้นซูหมิงเห็นว่าวิญญาณดวงหนึ่งที่จะกำลังจะถูกวิญญาณอีกสามดวงกินพลันเปล่งแสงสีฟ้า

แสงสีฟ้านั้นอ่อนมาก แต่ในความคิดเขายามนี้ แสงฟ้าอ่อนเหมือนกับหอโคมไฟในคืนมืด ชั่วขณะที่มันขยับแสง เขาไม่ทันตัดสินใดๆ ก็พุ่งเข้าไปยังวิญญาณที่เปล่ง แสงสีฟ้าและกำลังจะถูกกิน

ทันทีที่จิตสำนึกเขาหลอมรวมเข้าไปในวิญญาณนี้ ในใจเขาสั่นสะท้าน เกิดความรู้สึกเด่นชัดว่าวิญญาณนี้คือวิญญาณหลัก เป็นวิญญาณตอนแรกสุดของเขา

เขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดตนถึงรู้สึกแบบนี้ ความคับขันในตอนนี้ยังทำให้เขาไม่ทันตรึกตรองใดๆ อีก หลังจากเชื่อมั่นว่านี่คือวิญญาณหลักแล้วก็ให้มันหลอมรวมกับวิญญาณอื่นโดยรอบทันที

เวลาผ่านไปช้าๆ ความรู้สึกเจ็บปวดชาไปนานแล้ว วิญญาณห้าร้อยกว่าดวง เพียงแค่มีดวงหนึ่งถูกกิน เช่นนั้นความแกร่งจะไม่ได้แบ่งกันเป็นดวงๆ อีก แต่รวมเป็นวิญญาณของทั้งหมด

ไม่นานวิญญาณในความคิดซูหมิงน้อยลงเรื่อยๆ ตอนที่เหลือสองร้อยกว่าดวง ทุกวิญญาณในความคิดเขาแกร่งกว่าวิญญาณเดิมของเขามากๆ

เมื่อหลอมรวมและกินต่อไปเรื่อยๆ ซูหมิงเกือบจะถูกลบหายไปหลายครั้ง แต่จิตสำนึกเขาอยู่ที่วิญญาณดวงนี้ ก็เหมือนกับตนสู้กับตัวเองหลายร้อยคนไม่หยุด ความรู้สึกนี้ยากจะบรรยาย แต่เขารู้สึกว่าอันตรายกว่าการต่อสู้ข้างนอกหลายเท่า

วิญญาณเหลือน้อยลงเรื่อยๆ หนึ่งร้อยยี่สิบแปดดวง เก้าสิบหกดวง หกสิบสี่ดวง…

ซูหมิงไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร เขาไม่มีสมาธิไปสนใจเรื่องอื่น ได้แต่ตกอยู่ในห้วงการหลอมรวมและกินของวิญญาณ จนกระทั่งวิญญาณในความคิดเหลือสิบดวงรวมเขาด้วย เขารู้สึกชัดว่าวิญญาณในตอนนี้มีความแกร่งกว่าตัวเองในอดีตมากๆ ไม่อาจนำมาเปรียบกันได้เลย นั่นคือความต่างของระดับชีวิต

เสียงโครมดังก้องในความคิด วิญญาณสิบดวงที่เหลือเริ่มกินกันอย่างบ้าคลั่ง สุดท้ายมีเพียงดวงเดียวที่เหลืออยู่ ดวงนี้จะโน้มนำร่างกายให้กลายเป็นซูหมิงคนใหม่

หากวิญญาณนี้ที่เขาเลือกเป็นวิญญาณหลักแรกสุดจริงๆ เช่นนั้นเขาก็ยังเป็นเขา แต่หากเกิดข้อผิดพลาดในระหว่างขั้นตอน ถึงวิญญาณที่เขาเลือกดวงนี้จะสำเร็จก็ตาม แต่จิตสำนึกเขาจะถูกลบหายไป แล้วแทนด้วยจิตสำนึกที่เกิดใหม่

เวลาผ่านไปช้าๆ วิญญาณในความคิดจากสิบเหลือแปด และเหลือห้า จนกระทั่งเหลือสองดวงในตอนสุดท้ายรวมซูหมิงในนั้นด้วย ก็เกิดการต่อสู้กันขึ้น

วิญญาณสองดวงที่รวมซูหมิงต่างใกล้เคียงกับบรรพชนวิญญาณอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ความแกร่งของพลัง ระลอกคลื่นของวิญญาณมากพอจะทำให้ใจคนสั่นไหว แต่เวลานี้วิญญาณสองดวงจะต้องรวมเป็นหนึ่ง มีแต่แบบนี้เท่านั้นถึงจะผลัดเปลี่ยนจากวิญญาณชนรุ่นหลังเป็นบรรพชนวิญญาณได้อย่างแท้จริง!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!