ตอนที่ 1215 มอดดับในห้าลมหายใจ

แทบเป็นช่วงที่ร่างเงาสตรีขยับวูบวาบในพายุหมุนเพ่งมองซูหมิง ต่อให้เป็นนาง ก็ยังไม่เห็นชายชราวิญญาณสวรรค์ข้างซูหมิง นางไม่เห็นชายชรา แต่กลับมีความรู้สึกว่าข้างกายซูหมิงเหมือนมีพลังบางอย่าง แต่ตอนที่นางมองไปก็หายไปแล้ว

ทว่าตอนนี้ชายชราวิญญาณสวรรค์ข้างซูหมิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เหมือนกวาดสายตามองตรงจุดที่นางอยู่แบบสบายๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

ซูหมิงที่ถูกล้อมด้วยเจ็ดยอดวงแหวนอาคมเงามืดมองอีกฝั่งวางวงแหวนอาคมอย่างสงบนิ่ง มองชายชราขั้นดับสองคนมาอยู่ตรงหน้าตนราวเผชิญหน้ากับศัตรู ตัวฉกาจ ซูหมิงไม่ได้รบกวนวงแหวนอาคม เขาไม่สนใจมันแม้แต่น้อย เขาจะให้พันธมิตรใต้ใช้พลังทั้งหมด มีแต่แบบนี้เท่านั้นตอนที่ทำลายพวกเขาถึงจะทำลายจิตใจลงไปด้วย ให้พวกเขาสิ้นหวัง แบบนี้เขาถึงจะเปลี่ยนผู้ฝึกฌานห้าแสนคนให้กลายเป็นดวงชะตาภายนอกของตนได้ง่ายขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของกฏชะตาเขา

หากไม่ใช่เพราะซูหมิงต้องการพลังกฏชะตาจากการคารวะของผู้ฝึกฌานจำนวนมากมาดำเนินแผนการยึดครองโลกดาราสัจธรรม เช่นนั้นเขาจะไม่ให้โอกาสผู้ฝึกฌานห้าแสนคนนี้เลย ก็คงจะสังหารไปนานแล้ว

แทบเป็นขณะเดียวกับที่วางเจ็ดยอดอาคมเงามืด ชายชราขั้นดับสองคนมองตากัน และกัน จากนั้นเดินหน้าไปหนึ่งก้าวพร้อมกัน ทันทีที่ก้าวเท้าลง พลันมีระลอกคลื่นขยายออกมาจากใต้เท้าพวกเขา ราวกับมีแรงปะทะพุ่งไปหาซูหมิง

ชายชราสองคนอยู่ซ้ายและขวา คนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยสีแดงอยู่ทางซ้าย ชายชราผอมแห้งเย็นชาอยู่ทางขวา สองคนนี้ไม่ได้ทำสัญลักษณ์มือใดๆ แต่ตอนที่แยกกันต่างสะบัดแขนเสื้อ ทันใดนั้นในมือพวกเขาปรากฏของวิเศษต่างกัน

ในมือชายชราหน้าแดงทางซ้ายเป็นแส้เส้นหนึ่ง บนแส้มีอักขระเว้านูนนับไม่ถ้วน เพิ่งเรียกมาก็ส่งผลให้มวลอากาศเหมือนจะแตกกระจาย และยังเห็นรางๆ ว่าภายในแส้มีความรู้สึกของดวงดาว

นี่คือแส้ที่เขาหลอมขึ้นจากดาวหนึ่งร้อยแปดดวง และยังหลอมแก่นสำคัญของเขาให้เป็นตัวแส้ ก่อนใช้วิญญาณบริสุทธิ์ประจำตัวผนึกไว้ข้างใน นำอภินิหารหลายร้อยชนิดที่เขามีในชีวิตนี้เปลี่ยนให้เป็นอักขระจำนวนต่างกัน สุดท้ายก็ประทับลงบนตัวแส้ ให้มันกลายเป็นของวิเศษที่อันตรายถึงชีวิตเพียงอย่างเดียวของเขา

เขาจะไม่ใช้ของวิเศษนี้ง่ายๆ แต่ตอนนี้เผชิญหน้ากับซูหมิง เขาจึงต้องนำแส้ออกมาอย่างไม่ลังเล เขารู้ว่าการวางเจ็ดยอดอาคมเงามืดต้องใช้เวลาหลายสิบลมหายใจ ในช่วงนี้เขาต้องถ่วงเวลาซูหมิง จะให้อีกฝ่ายรบกวนวงแหวนอาคมไม่ได้ ขอเพียง วางวงแหวนอาคมเสร็จ เขามั่นใจว่าต่อให้ซูหมิงแกร่งกว่านี้อีกก็ต้องถูกกำราบแน่

ชายชราซูบผอมทางขวานำหม้อเล็กสีดำออกมาใบหนึ่ง เขาชูมันด้วยสองมือ ส่วนตัวเขาแน่นิ่งอยู่กลางอากาศ ในหม้อเล็กมีความหนาวกระจายออกมาเป็นสาย วนเวียนรอบตัวชายชราในพริบตา เขาหลับตาลง ปากบริกรรมคาถาซับซ้อนกลายเป็นเสียงอื้ออึง ทำให้ลมหนาวจากหม้อเล็กมากขึ้นเรื่อยๆ ซ้ำยังมีเสียงคำรามแหลมดังก้อง ทั้งยังเห็นรางๆ ว่าบนหม้อเล็กมีผู้ฝึกฌานนับไม่ถ้วนรวมถึงใบหน้าสัตว์ร้ายนูนขึ้นเหมือนจะพุ่งออกมา

หม้อเล็กนี้เป็นวัตถุที่แกร่งที่สุดในของวิเศษจำนวนมากของชายชราผอมแห้ง เขาไม่ได้หลอมขึ้นเอง แต่ได้มาจากในซากโบราณแห่งหนึ่งโดยบังเอิญเมื่อหลายปีก่อน จากนั้นเขาก็หล่อหลอมมันตลอดปี และด้วยคุณสมบัติหนาวของมัน เขาจึงรวบรวม ผู้ฝึกฌานกับสัตว์ร้ายคุณสมบัติหนาวเยือกไว้ จากนั้นสังหารพวกเขาแล้วหล่อเข้าไปข้างใน ทำให้ไอหนาวของหม้อเล็กมากพอจะขยายไปได้ไกลกว่าฟ้ากระจ่างดาว หนึ่งแห่ง

แต่นี่ยังไม่ใช่พลังทั้งหมดของมัน ชายชราผอมแห้งรู้แก่ใจดีว่าเขาใช้พลังของมันได้เพียงสามส่วนเท่านั้น แต่หม้อนี้ก็เป็นอาวุธสังหารของเขา เพราะเขามีวิธี…ให้มันระเบิดตัวเอง!

ทว่าตอนระเบิดตัวเอง หม้อจะปะทุพลังทั้งหมด นั่นคือพายุหมุนน่าสะพรึง นี่เลยทำให้เขาค่อนข้างมั่นใจ

ชายชราขั้นดับสองคนนำของวิเศษออกมา ชายชราผอมแห้งแน่นิ่ง ชายชราหน้าแดงยกมือขวาตวัดแส้ใส่อากาศไปทางซูหมิง ท่ามกลางเสียงดังสนั่นฟ้าผ่า แส้พลันพุ่งตรงไปหาซูหมิง แส้นี้ประหนึ่งกับดาวมากกว่าร้อยดวงโจมตี อีกทั้งภายในดาวร้อยดวงนี้ยังแฝงไว้ด้วยอภินิหารหลายร้อยชนิด ดังนั้นการตวัดแส้ครั้งนี้ ซูหมิงจึงเห็น ดาวมากกว่าร้อยดวงพุ่งเข้ามา และยังมีร่างเงาแส้อยู่

รอบตัว วิชาอภินิหารจำนวนมากปะทุออกมา ก่อนตรงมาหาเขามากมายมหาศาล

แส้นี้สามารถสังหารขั้นเกิด!

แม้ผู้ฝึกฌานขั้นเกิดจะมีชีวิตไม่มอดดับ แต่หากถูกแส้นี้เลือดเนื้อจะแหลกสลายไปในฉับพลัน วิญญาณสลายไป พลังหย่อนยาน แม้จะมีชีวิตไม่มอดดับ แม้จะฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่หากพลังทำลายล้างในแส้นี้ไม่ให้เวลาฟื้นฟูแม้แต่น้อย เช่นนั้นผู้ฝึกฌานขั้นเกิดต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

ขณะเดียวกับที่ชายชราหน้าแดงลงมือ ชายชราผอมแห้งคำรามเสียงต่ำ ภายในหม้อเล็กที่เขาชูขึ้นมีเสียงคำรามดังกังวาน มีไอหนาวสีดำพ่นออกมา ไอหนาวเพิ่งลอยมาก็กลายเป็นสัตว์น้ำแข็งสูงสามจั้งกว่า สัตว์ตัวนี้เป็นดั่งพยัคฆ์ มันร้องคำรามพร้อมกับทั้วร่างแผ่ไอหนาวเยือก ซึ่งไอหนำวนี้มอดดับชีวิตได้ พลังที่ปะทุมาจากมันก็คือ ขั้นดับเช่นกัน

มันร้องคำรามพร้อมกับพุ่งไปหาซูหมิง หากเพียงเท่านี้คงไม่เท่าไร เพราะมีเสียงคำรามดังก้องมาจากในหม้อเล็กอีกครั้ง

ก่อนมีสัตว์ร้ายคล้ายพยัคฆ์คำรามพุ่งออกมาอีกตัว มุ่งหน้าไปหาซูหมิง

ดวงตาซูหมิงวาววับ การเผชิญหน้ากับขั้นดับสองคนนี้ทำให้เขามีความมุ่งมั่นใจการต่อสู้เสี้ยวหนึ่ง ตอนนี้ไม่มองเจ็ดยอดวงแหวนอาคมที่กำลังวางอยู่ แต่ยกมือขวา ชี้ขึ้นฟ้า

“เคลื่อนย้ายภูผา!”

เปลี่ยนเทพหมานเคลื่อนย้ายภูผาพลิกทะเลคือรูปแบบแรกในอภินิหารที่แกร่งที่สุดของเขา

สิ้นเสียง พลันเกิดเสียงดังสนั่นฟ้า มวลอากาศสั่นสะเทือน รอบตัวซูหมิงปรากฏเงาภูเขาใหญ่ขึ้น ภูเขานี้เป็นเพียงลูกเดียว แต่เมื่อมันขยับไหวกลับกลายเป็นเงาภูเขาพันลูก ช่วงที่ภูเขาปรากฏก็กดทับไปยังแส้นั้นกับพยัคฆ์น้ำแข็ง

พูดถึงวิชาเคลื่อนย้ายภูผา ตอนนั้นที่ซูหมิงตระหนักรู้ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด ตอนนี้เมื่อพลังเขาแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ภูขาพันลูกในยามนี้ดูเหมือนธรรมดา แต่ทันทีที่ภูเขาพันลูกกดทับลงมา พวกมันก็ขยับไหวอีกครั้งก่อนเปลี่ยนเป็นแสนลูก!

ภูเขาแสนลูกส่งเสียงดังเปรี้ยงปร้างราวฟ้าผ่าประหนึ่งจะบดทำลายอากาศ ทำให้ฟ้าพังลง นี่คือขีดจำกัดวิชาเคลื่อนย้ายภูผาที่เขาใช้ได้ตอนนี้ จำนวนแสนลูกกดลงมาพร้อมกัน เพียงแส้นั้นเพิ่งสัมผัสก็สั่นสะท้าน วิชาอภินิหารทั้งหมดในนั้นแหลกสลายไป ทว่าพลังแห่งดาราไม่ได้ถูกสั่นคลอนง่ายขนาดนั้น ส่งผลให้หลังจากที่แส้ปะทะกับ ภูเขาใหญ่แสนลูกแล้ว ภูเขาใหญ่แสนลูกถูกทำลายไปเกือบครึ่ง จากนั้นแส้ถึงกระเด็นลอยไป

ส่วนพยัคฆ์สองตัวนั้นต้านภูเขาใหญ่ได้ไม่กี่ลมหายใจก็แหลกสลายไปทั้งหมด

“เคลื่อนย้ายภูผารวมเป็นหนึ่ง!” ซูหมิงเอ่ยพร้อมยกสองมือขึ้นประกบตรงหน้าแล้วชี้ไปยังชายชราหน้าแดง เพียงชี้ไปภูเขาที่เหลือซ้อนทับกันกลายเป็นภูเขาหนึ่งลูกพุ่งไปหาชายชราหน้าแดง

ยามนี้ชายชราหน้าแดงหน้าเปลี่ยนสี เขาเห็นจิตสังหารในแววตาซูหมิงชัดเจน

“ข้าจะเด็ดหัวเจ้าในห้าลมหายใจ!” ซูหมิงสะบัดแขนเสื้อ ภูเขาหนึ่งลูกที่รวมขึ้นจากยอดเขาหลายหมื่นนั้นพุ่งไปทางชายชราหน้าแดง ตอนนี้เองเขาพูดขึ้นพลางเดินหน้าไปหนึ่งก้าว

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ตอนที่ยอดเขาหลายหมื่นลูกรวมเป็นภูเขาใหญ่กดทับใส่ตัวชายชราหน้าแดง เขาตวัดแส้ไป เกิดเสียงดังอึกทึก ยอดเขาแตกออก แต่ไม่พังลง กลับกันก่อเป็นแรงกดทับมหาศาลที่ไม่อาจหยุดได้

ชายชราผอมแห้งที่อยู่ไม่ไกลหน้าเปลี่ยนสี เขาลืมตาขึ้นในฉับพลัน ไอสีดำจากหม้อเล็กในมือเข้มข้นขึ้น ขณะกำลังจะใช้อภินิหาร ซูหมิงโบกมือขวาไป พลันเกิดเสียงดังอื้ออึง มีตั๊กแตนจำนวนมากพุ่งตรงไปหาชายชรา ขณะเดียวกันในมือซูหมิงยังปรากฏน้ำเต้าขนาดเท่าฝ่ามืออีกอันหนึ่ง เมื่อเขาลูบไปแล้ว น้ำเต้าเหมือนลืมตาขึ้น จิตสังหารขยับประกายวาววับ ก่อนมีคนเล็กสองคนพุ่งออกมาจากข้างในแล้วตรงไปหาชายชราพร้อมกลิ่นอายมารเหลือล้น

ยามนี้เอง มีเสียงคำรามดุร้ายดังมาจากรอบตัวชายชรา มีผีร้ายตัวหนึ่งโผล่มา จากในมวลอากาศ ในมือผีร้ายถือตาชั่งอันหนึ่ง ลูกตุ้มตาชั่งเป็นลักษณะช้าง นี่คือ ผีร้ายชั่งช้างของซูหมิง!

ตอนนั้นสมบัติชิ้นนี้เสียหายเกือบสูญเสียไป จากนั้นซูหมิงก็ตามกลับมาเพื่อฟื้นฟู แม้ตอนนี้จะยังไม่ฟื้นกลับมาอย่างสมบูรณ์ พลานุภาพยังไม่เหมือนดังเก่า แต่ด้วยการวางแผนของเขาเลยยังใช้ได้

โครม!

ชายชราหน้าแดงมีสีหน้าเหี้ยมเกรียม ภยันตรายผุดขึ้นมาในใจ แต่ก็ไม่ลึกมากนัก ยังไม่นับว่าถึงเป็นตาย แต่ชั่วขณะที่แส้ปะทะกับภูเขาใหญ่ที่กดทับลงมาอีกครั้งนั้น พลันมีแสงสีดำสว่างจ้าส่องแสงมาจากในตัวซูหมิงออกไปไกลไม่มีสิ้นสุด

“พลิกทะเล!”

วิชาพลิกทะเลจากแสงแก่นยมโลกคือวิชาที่ทรงพลังอีกชนิดของเขา เขาเข้าใจวิชานี้อย่างสมบูรณ์แบบ ตัวเขาเองก็กลายเป็นต้นกำเนิดแสงแก่นยมโลกเหมือนกัน แสงแก่นยมโลกนี้พลันปกคลุมไปรอบๆ ในชั่วพริบตาชายชราผอมแห้งเห็นเส้นสีดำตรงหน้า ขณะเดียวกันทั่วร่างพลันหนาวเยือก ความหนาวเยือกนี้เหนือกว่า วิชาคุณสมบัติหนาวที่ตนฝึกฝน ถึงแม้ในใจเขาจะสั่นสะท้านก็ตาม ประกอบกับของวิเศษซูหมิงตรงเข้ามาแล้ว เขาเลยไม่สนใจชายชราหน้าแดง แต่รีบปกป้องตัวเองทันที

แทบเป็นตอนที่แสงแก่นยมโลกแผ่กระจายมา ชายชราหน้าแดงหน้าเปลี่ยนสีในทันใด ภยันตรายก่อนหน้านี้เพิ่มขึ้นในพริบตาเป็นความรู้สึกถึงเป็นตาย เขารีบถอยร่นอย่างไม่ลังเล ซ้ำยังมองเห็นรอบๆ ไม่ชัด ความมืดปกคลุมจิตใจ ความรู้สึกหนาวเยือกทำให้ภยันตรายเป็นตายของเขารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

เขาตวัดแส้ในมือไปข้างหน้า ทั่วร่างปะทุพลังออกมาทั้งหมด แม้จะถูกภูเขาใหญ่ชน ก็สนใจอะไรมากไม่ได้ ตอนนี้ถอยหนีมาอย่างเร็วไว แต่ทันทีที่ทั่วร่างรู้สึกหนาวเยือกรวมถึงจิตใจถูกแช่แข็ง ซูหมิงมาอยู่ตรงหน้าชายชราหน้าแดงแล้ว ก่อนยกมือขวาขึ้นคว้าแส้ที่ตวัดมาเอาไว้ ส่วนมือซ้ายกดตรงหน้าอกชายชราอย่างไม่ลังเล

เวลาครบห้าลมหายใจพอดี!