Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1217

ตอนที่ 1217 แกนกลางวิญญาณ

ซุงยักษ์เจ็ดวงที่รวมเป็นเจ็ดยอดวงแหวนอาคมเงามืดหมุนโคจรอย่างรวดเร็วตามกฏต่างกันกลายเป็นน้ำวนดารา ปกคลุมซูหมิงที่ถูกแช่แข็งไว้พันจั้ง เมื่อซุงยักษ์ทุกต้นหมุนโคจรพลันมีพลังแห่งผนึกโผล่ตามมา กลายเป็นเส้นสายพันรอบชั้นน้ำแข็งนั้น เหมือนจะเปลี่ยนก้อนน้ำแข็งพันจั้งให้เป็นรังไหม หมายจะผนึกซูหมิงไว้อย่างเต็มที่

ชายชราผอมแห้งมีสีหน้าเฝ้ารอคอย ซ้ำยังมีสีหน้าเหี้ยมโหด ภายใต้การควบคุมวงแหวนอาคมของเขาเลยทำให้พลานุภาพของวงแหวนอาคมปะทุออกมาทั้งหมด เขามีความมั่นใจอยู่เล็กน้อยว่า ต่อให้ซูหมิงเป็นบรรพชนวิญญาณก็ต้องถูกผนึกอยู่ในนั้น

“ข้าเซ่นไหว้อายุขัยอย่างไม่เสียดาย ใช้ของวิเศษประจำตัวที่บำรุงมาหมื่นปี มันแช่แข็งได้แม้กระทั่งฟ้า ข้าไม่เชื่อว่าจะผนึกเจ้าไม่ได้!

ข้าไม่ขอให้ผนึกเจ้าไว้นานนักหรอก แต่แค่ครึ่งเค่อก็พอแล้ว เมื่อเจ็ดยอดวงแหวนอาคมหมุนโคจรอย่างสมบูรณ์ นั่นจะเป็นวันที่เจ้าถูกผนึกไปชั่วนิรันดร์!” ชายชรา ผอมแห้งมีสีหน้าเหี้ยมโหด แม้ร่างกายจะอ่อนแรง พลังหายไปมากกว่าครึ่ง แต่ก็ยังคงขยายพลังทั้งหมดของตนออกไปอย่างไม่ลังเล ส่งเข้าไปในวงแหวนอาคม ควบคุม วงแหวน รวมผู้ฝึกฌานห้าแสนคนกับพลังวงแหวนอาคมตัดสินเป็นตายกับซูหมิง

เวลาผ่านไปช้าๆ ซุงยักษ์เจ็ดวงจากเจ็ดยอดวงแหวนอาคมหมุนโคจรอย่างต่อเนื่อง เส้นสายที่กระจายมามากขึ้นเรื่อยๆ พลังผนึกยังแกร่งขึ้น ชั้นน้ำแข็งพันจั้งที่ถูกปกคลุมในนั้นไม่เพียงเกิดเค้าลางจะหลอมละลาย แต่ไอหนาวในนั้นยังรุนแรงขึ้นด้วย ภาพนี้ทำให้ชายชราผอมแห้งดีใจ เพียงแต่เพราะไอหนาวมากขึ้นเลยเกิดความรู้สึกขุ่นมัวภายใน นั่นคือความขุ่นมัวที่จิตสัมผัสกับสายตามองเข้าไปไม่ได้ ดังนั้นชายชราผอมแห้งเลยมองไม่เห็นข้างใน

‘หรือว่าร่างกายเขาจะมีคุณสมบัติหลอมเหลว เลยถูกควบคุมปิดตายเช่นนี้ มิเช่นนั้นแล้วจะต้องต่อต้านกันบ้าง…’ ชายชราดวงตาวาววับ แม้จะลังเลอยู่เล็กน้อย แต่ไม่นานนักเขาก็ลบหายไปกลายเป็นหัวเราะเสียงดัง

เพียงแต่ว่าภายในชั้นน้ำแข็งพันจั้งที่ชายชรามองไม่เห็น ซูหมิงในยามนี้ลืมตา ภายในดวงตาฉายแววประหลาดใจ ดูเหมือนถูกแช่แข็ง แต่ความจริงในดวงตาเขามีประกายไม่แน่ใจเสี้ยวหนึ่งลอดออกมา

เขารู้สึกชัดว่าความรุนแรงของไอหนาวในชั้นน้ำแข็งเหนือเกินกว่าไอหนาวทั้งหมดที่เขาเคยพบ นี่ต่างกับแสงแก่นยมโลก นั่นคือไอหนาวรูปธรรม มีพลังแช่แข็งฟ้า แต่ตอนนี้ไอหนาวในชั้นน้ำแข็งเข้ามาใกล้ตนพร้อมกัน วนเวียนอยู่ข้างกาย เหมือนอยากจะมุดเข้าไปในร่างราวกับมีสติปัญญา

หากเพียงเท่านี้คงไม่เท่าไร เขาคงไม่ใคร่ครวญมากนัก แต่จะคิดว่านี่เกิดจากวิชาของอีกฝ่ายที่ต้องให้ไอหนาวเข้าไปในร่างกาย หากเป็นอย่างนั้นเขาจะถูกแช่แข็งอย่างแท้จริง

แต่ว่า…ตอนนั้นที่วิญญาณเขาแยกออกขณะยกระดับวิญญาณ ความคุ้นเคย กลางวิญญาณที่เขาสัมผัสขณะที่เกือบหลงทางตอนนั้นจู่ๆ ก็เดือดพล่านขึ้นมาภายในวิญญาณ พุ่งไปมาไม่หยุดเหมือนอยากออกจากร่างเขาเข้าไปปะทะกับไอหนาวเหล่านั้น นี่คือความกระหายโดยสัญชาตญาณ หากไม่ใช่เพราะเขายับยั้งมันเอาไว้ เกรงว่าคงเข้าไปหลอมรวมกับไอหนาวข้างนอกแล้ว

‘สัญชาตญาณ…’ ซูหมิงมีสีหน้าลังเล แต่ไม่นานนักดวงตาพลันขยับประกายเด็ดขาด

‘ในเมื่อเป็นสัญชาตญาณกลางวิญญาณข้า เช่นนั้นก็ดูไปเลยว่าจะเป็นอย่างไร ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์คงไม่มองข้าทุกข์ยากหรอก เขาจะท้ารบกับภัยพิบัติรกร้าง อย่างไรเขาก็ต้องปกป้องข้า’ ซูหมิงกัดฟันล้มเลิกการป้องกันไม่ให้ไอหนาวเข้าไปในร่างกาย เมื่อผ่อนคลายลง ไอหนาวที่วนเวียนอยู่รอบตัวอย่างเร็วไวต่างพรั่งพรูเข้าไปในร่างกายราวกับหาที่ระบายพบ ชั่วพริบตาที่ไอหนาวเหล่านี้เข้ามา ซูหมิงรู้สึกหนาวเยือกไปทั่วร่าง ความรู้สึกเลือดเนื้อถูกแช่แข็งพลันลามไปทั่วตัว ไอหนาวนี้เหมือนว่าแม้แต่จิตสัมผัสมันยังแช่แข็งได้ แต่กลับไม่อาจผนึกวิญญาณเขาไว้ได้ เพราะวิญญาณเขาคือความคิดแห่งบรรพชนวิญญาณ เว้นแต่จะเจอกับบรรพชนวิญญาณด้วยกัน มิเช่นนั้นก็ยากจะถูกผนึก

แต่ซูหมิงรู้สึกชัดว่าไอหนาวที่หลอมรวมเข้าไปในร่างกายเหล่านั้นเพียงแค่ ผ่านเลือดเนื้อเท่านั้น ทิศทางพวกมันคือวิญญาณตน เพียงพริบตาเดียวเกิดเสียงอึกทึกขึ้นกับไอหนาว มันพุ่งตรงเข้าไปใกล้วิญญาณเขา ชั่วพริบตาที่สัมผัสกันมันก็มุดเข้าไปกลางวิญญาณ คล้ายว่าจะหล่อหลอมกับวิญญาณเขา

ไอหนาวมหาศาลเข้ามาใกล้อย่างต่อเนื่องจากในชั้นน้ำแข็งพันจั้ง มุดเข้าไปในร่างซูหมิง หลอมรวมเข้ากลางวิญญาณ ภาพนี้ทำให้ซูหมิงใจสั่นสะท้าน แต่กลับไม่ต่อต้านใดๆ เพียงปล่อยให้ไอหนาวหลอมรวม ส่วนเขาเพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่วิญญาณตัวเอง

เขาเห็นชัดว่าหลังวิญญาณตนสูบไอหนาวมหาศาลแล้วก็เหมือนกับว่ามีส่วนหนึ่งตื่นขึ้นกลางวิญญาณ ความเข้าใจต่อไอหนาวทำให้เขารู้สึกถึงความหนาวของเลือดเนื้อ แต่กลับมีความรู้สึกว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของไอหนาว

“นี่มัน…” ขณะซูหมิงพึมพำพลันสังเกตเห็นชัดว่าไอหนาวกลางวิญญาณกำลังรวมกันและค่อยๆ ก่อรูปเป็นแกนกลางหนึ่ง แกนกลางนี้อยู่ระหว่างมายากับความจริง ประหนึ่งว่ามีสิ่งมีชีวิตประหลาดบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้น

เดิมทีเขาก็ตกใจกับเหตุการณ์นี้อยู่แล้ว แต่สิ่งมีชีวิตที่กำลังก่อตัวในแกนนั้นทำให้เขามีความรู้สึกประหลาด ประหนึ่งว่าในนั้นจะมีวัตถุหนึ่งกำเนิดขึ้น ซึ่งมันสำคัญกับเขาอย่างยิ่ง เป็นการเปลี่ยนแปลงแก่นแท้ของวิญญาณ

ขณะเงียบ ดวงตาซูหมิงขยับประกายแสงเย็นชา เขาก็ยังไม่สนใจ แต่สังเกตต่อไป พร้อมกันนั้นก็ให้ไอหนาวรอบๆ พรั่งพรูเข้ามาไม่หยุด เพียงไม่กี่ลมหายใจ ในสายตาคนนอก ชั้นน้ำแข็งพันจั้งของเขาหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ลดไปเกือบ สามส่วน

ภาพนี้ทำให้ชายชราผอมแห้งหรี่ตาลง ก่อนตะโกนไปด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด

“เจ็ดยอดวงแหวนอาคมเงามืด ยอดผนึกที่หนึ่ง!” เสียงตะโกนชายชราดังกึกก้อง ทันใดนั้นซุงยักษ์ในชั้นในสุดกลางวงแหวนซุงเจ็ดวงที่ล้อมรอบซูหมิงสั่นไหวพร้อมกัน ช่วงที่พวกมันหยุดหมุนโคจร น้ำวนไร้รูปที่ก่อขึ้นตรงไปหาชั้นน้ำแข็งซูหมิงราวกับทะลวงผ่านอากาศ พริบตาเดียวก็ปกคลุมข้างบนกลายเป็นเสียงดังสนั่น ทั้งยังมี ไอหนาวแผ่กระจาย

ขณะเดียวกันชายชราผอมแห้งเหมือนยังไม่วางใจ เขากัดปลายลิ้นพ่นโลหิตไปอีกคำ สองมือประสานมุทราชี้ไปยังชั้นน้ำแข็ง โลหิตเหล่านั้นจึงตรงเข้าไปอย่างรวดเร็ว ขณะอยู่กลางอากาศยังกลายเป็นผลึกโลหิตปะทะกับชั้นน้ำแข็งแล้วแตกออกพร้อมกัน ทว่ากลับแผ่ไอหนาวมากกว่าเดิม

นี่คือไอหนาวแห่งชีวิตที่เปลี่ยนจากแก่นสำคัญโลหิตของชายชรา จะเห็นได้ว่า เขาต้องการผนึกซูหมิงให้ได้

หลังจากใช้ผนึกแรกจากเจ็ดยอดวงแหวนอาคมเงามืดกับไอหนาวแห่งชีวิต ชายชราแล้ว ทำให้ชั้นน้ำแข็งผนึกซูหมิงที่ลดไปสามชั้นเพิ่มขึ้นมาในฉับพลัน จากเจ็ดร้อยจั้งก่อนหน้านี้กลายเป็นหนึ่งพันหนึ่งร้อยจั้ง ชั้นน้ำแข็งหนาขึ้น ไอหนาวมากขึ้น

ชายชราผอมแห้งยิ้มเยาะอย่างลำพองใจกับภาพเหตุการณ์นี้ ทว่าสตรีที่ซ่อนตัวอยู่ในพายุหมุนข้างหลังไกลๆ กลับถอนหายใจเบา

“ชายชราคนนี้โง่เขลาจริง…วงแหวนอาคมนี้ก็เป็นวงแหวนอาคมฟ้าดินที่ หนาวเยือกถึงขีดสุด เดิมทีก็ช่วยเขาได้มากอยู่แล้ว ชายชราคนนี้ยังใช้ไอหนาวแห่งชีวิตอย่างไม่ลังเล…โชควาสนาแบบนี้ เจ้าเด็กคนนี้…หึ!” ระหว่างที่นางพึมพำ ในน้ำเสียงเกิดความริษยาเสี้ยวหนึ่งอย่างพบเห็นได้ยาก นี่ไม่ใช่เพราะไอหนาวแห่งชีวิตของชายชรา แต่เป็นพลังจากวงแหวนอาคมนี้ เพราะมันเกิดจากผู้ฝึกฌานห้าแสนคนและยังมีซุงยักษ์เหล่านั้น ทุกต้นล้วนเป็นไม้คุณสมบัติหนาว นี่เลยทำให้ผู้ฝึกฌานพันธมิตรใต้ใช้โอกาสนี้ข้ามพายุหมุนมาจากไอหนาวเยือกมหาศาล ซูหมิงพลันรู้สึกว่าไอหนาวรอบตัวเพิ่มมากขึ้นและมุดเข้าไปในร่างกายเร็วยิ่งกว่าเดิม เข้าไปหลอมรวมกลางวิญญาณ ทำให้แกนในวิญญาณขยายใหญ่ขึ้น สิ่งมีชีวิตที่ก่อตัวในนั้นยังมี กลิ่นอายพลังเพิ่มมากขึ้นไม่น้อย

ทำให้ความรู้สึกที่ว่ามีบางอย่างอยู่ในร่างกายชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันความเข้าใจต่อไอหนาวยังเพิ่มขึ้นไม่น้อย ถึงขนาดที่เขาในตอนนี้รู้สึกว่าไอหนาวนี้ไม่ใช่ ศัตรูอีก แต่เป็นส่วนหนึ่งในร่างกายเขา

ไม่มีความเจ็บปวดแม้แต่น้อย แต่กลับมีความสบายอย่างไม่อาจบรรยาย ทำให้เขาอดหวังไม่ได้ว่าจะให้ไอหนาวมากกว่านี้ รุนแรงกว่านี้…

เมื่อไอหนาวเพิ่มมากขึ้น เมื่อสูบเร็วขึ้น ความรู้สึกสบายก็เด่นชัดขึ้น ชั้นน้ำแข็งพันหนึ่งร้อยจั้งหดตัวลงในไม่กี่ลมหายใจ ครั้งนี้หดลงมาเกือบสี่ส่วน

ภาพนี้ทำเอาชายชราผอมแห้งข้างนอกตาค้างอ้าปากกว้าง มีสีหน้าคลุ้มคลั่ง และยังคำรามด้วยความไม่ยอม เขาปะทุพลังพร้อมกับตะโกนเสียงดังกึกก้อง

“เจ็ดยอดวงแหวนอาคม ยอดผนึกที่สอง!” ชายชราตะโกนออกด้วยอย่างบ้าคลั่งพลางยกมือขวาขึ้นตบหน้าอกตัวเองทีหนึ่ง ก่อนพ่นโลหิตจำนวนมากออกมาอีกครั้งในฉับพลัน แล้วสะบัดส่งไปยังก้อนน้ำแข็ง

เสียงอึกทึกดังก้อง เมื่อซุงไม้วงที่สองหยุดลง น้ำวนจากวงที่สองก็เข้าไปใกล้ ก้อนน้ำแข็งอย่างรวดเร็วก่อนพันเป็นเส้นนับไม่ถ้วน ประกอบกับไอหนาวแห่งผลึกโลหิตแล้วเลยทำให้ก้อนน้ำแข็งของซูหมิงเพิ่มมากขึ้นกลายเป็นขนาดสองพันจั้ง

แต่แทบเป็นช่วงที่เพิ่งกลายเป็นสองพันจั้ง ก้อนน้ำแข็งกลับหดเล็กลงอีกครั้ง ครั้งนี้ลดลงห้าส่วน แต่ห้าส่วนก็ยังเหลืออยู่ราวๆ พันจั้ง บางทีเหตุการณ์นี้อาจสร้างความชื่นใจและความหวังให้ชายชรา ทำให้ทุกอย่างที่ทำไปไม่สูญเปล่า ให้เขารู้สึกว่าขอเพียงตนทำต่อไปก็ยังมีหวังผนึกซูหมิงไว้ได้

“หึ ต่อให้เจ้าละลายน้ำแข็งข้าได้ แต่ความเร็วในการละลายของเจ้าไม่มีทางสู้กับวงแหวนอาคมข้าได้!” ชายชราตื่นเต้น เขายกมือขวาขึ้นตบถุงเก็บวัตถุทีหนึ่งแล้ว นำเม็ดยาจำนวนมากมากิน มีท่าทีเหมือนว่าวันนี้จะต้องทำศึกตัดสินเป็นตาย

เสียงถอนหายใจเบาดังแว่วมาจากในพายุหมุนไกลๆ ภายในน้ำเสียงมีความจำใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!