Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1316

ตอนที่ 1316 นี่คือโลกของใคร

สำหรับเผ่ายมโลกแล้ว เรื่องในอดีต…เป็นเพียงแค่แผ่นหยกที่บันทึกอดีตซึ่ง หลอมรวมอยู่ในกาลเวลา บางทีคนอื่นอาจมองไม่เห็นแผ่นหยกนี้ คลำหาไม่เจอ ดังนั้นจึงยากจะรู้

แต่สำหรับเผ่ายมโลก มีชาวเผ่าที่ฝึกวิชาแห่งเวลาบรรลุถึงระดับแกร่งกล้าจำนวนหนึ่งมองเห็นอดีตยุคโบราณได้

และซูหมิง พูดได้ว่าเขาคือจุดสูงสุดของทั้งเผ่ายมโลก หากไม่มีตัวเหนี่ยวนำ เขาจะอาศัยอากาศย้อนเวลาได้หมื่นปี แต่หากมีตัวเหนี่ยวนำ จะย้อนเวลาใน แบบพิเศษได้ ย้อนไปได้ไกลยิ่งกว่า เห็นทุกอย่างที่อยากเห็น

อย่างเช่นชายหนุ่มชุดคลุมดำคนนั้น อย่างเช่น…มารดาของซูหมิง

นั่นคือสตรีที่มีนิสัยอ่อนโยนคนหนึ่ง เป็นคนที่เฝ้ารอให้บิดาซูหมิงกลับมาเงียบๆ แต่นางรอไม่ไหว ซูจ้านสิ้นชีพลง ซูหมิงก็หายไปพร้อมกัน นี่จึงเกิดเป็นแรงปะทะรุนแรงทำให้นับจากนั้นมา…นางไม่ยิ้มอีก

จนกระทั่งนางสิ้นอายุขัยลง จนกระทั่งถูกฝังอยู่บนแท่นบวงสรวง ซูหมิงเห็นในความทรงจำของกาลเวลานั้นว่านามบนป้ายหินถูกมือแก่ชราข้างหนึ่งลบไป!

เผ่าวิญญาณคือ เผ่าที่มีความประหลาดอย่างมาก ความแกร่งของเผ่านี้ไม่ได้อยู่ที่คนเป็น แต่เป็นบรรพบุรุษทุกคนที่สิ้นชีพไปแล้ว พูดได้ว่าบรรพบุรุษเหล่านี้ตายไปแล้ว แต่ความจริงด้วยความพิเศษของเผ่าวิญญาณ ดังนั้นจึงควรใช้คำว่าหลับใหลกับ พวกเขาส่วนใหญ่จะดีกว่า

ขณะหลับใหล พวกเขาจะสูบความคิดแห่งการคารวะของชาวเผ่าเพื่อรักษาความแกร่งของวิญญาณ เพื่อให้วิญญาณรวมกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนตื่นจากการหลับใหล…

พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาจะต้องตื่นอย่างแน่นอน นี่คือความพิเศษของเผ่าวิญญาณ เหมือนกับขั้นชะตาในกุมชะตาเกิดดับของซูหมิง เขาต้องการชะตาภายนอกเพื่อสำเร็จกฏชะตาของตัวเอง แต่บรรพบุรุษของเผ่าวิญญาณใช้พลังคล้ายๆ กันมารักษาไม่ให้ ดับสูญไป

แต่ความคิดแห่งการคารวะนี้จำเป็นต้องมีนามของบรรพบุรุษ ดังนั้นบรรพบุรุษของเผ่าวิญญาณทุกรุ่น หลังจากสิ้นชีพลงแล้วจะมีนามบนป้ายหลุมศพ

มือข้างนั้นที่ปรากฏตรงหน้าป้ายหลุมศพมารดาซูหมิงลบนามบนป้ายไป ทำให้ป้ายหลุมศพไร้นาม ทำให้ชนรุ่นหลังไม่อาจคารวะสตรีศักดิ์สิทธิ์รุ่นนี้ได้ ทำให้วิญญาณมารดาซูหมิงสลายไป!

ตอนที่นามบนป้ายหลุมศพถูกลบ สตรีศักดิ์สิทธิ์ของรุ่นนี้หรือน้าสาวของซูหมิงอยู่ข้างๆ นางเห็นภาพนั้นกับตา คิดจะขวางด้วยอาการตัวสั่น แต่ว่า…เจ้าของมือนั้น มองนางเรียบๆ แวบหนึ่งก็ทำให้นางหวาดกลัวจนใจสั่น ลืมการขวางไป แต่ปล่อยให้มือนั้นลบรอยทุกอย่างบนป้ายหิน

นี่คืออดีต ซูหมิงเห็นชัดเจนในกาลเวลา

เขายังเห็นอีกว่ามือที่ลบอักษรบนป้ายเป็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง ชายคนนี้ไม่มีกลิ่นอายพลังของเลือดเนื้อแล้ว แต่เป็นวิญญาณอย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากลบนามบนป้ายหินแล้วก็กลับไปยังหลุมศพของเขา จุดที่เขาหายไปคือจุดที่ซูหมิงกำลังมองอยู่ตอนนี้

ตรงนั้น…คือหลุมศพบนแท่นบวงสรวงของผู้นำสูงสุดเผ่าวิญญาณรุ่นก่อน!

ทันทีที่ซูหมิงมองไป หลุมศพบนแท่นบวงสรวงนั้นส่งเสียงดังแสบแก้วหู ท่ามกลางเสียงครึกโครม ป้ายหินเกิดรอยแยกยักษ์สายหนึ่งขึ้นเหมือนรับเพลิงโทสะในแววตา ซูหมิงตอนนี้ไม่ไหว ราวกับว่าทุกอย่างที่ซูหมิงมองจะต้องถูกทำลาย

แม้จะเป็นคนตายก็ต้องตายอีกครั้ง! เพราะคนที่จะสังหารเขาคือ ซูหมิง!

เกิดเสียงดังสนั่น ป้ายหินนั้นพังลงเป็นเสี่ยงๆ จากนั้นซูหมิงเดินหน้าหนึ่งก้าวแล้วยกมือขวากดบนแท่นบวงสรวง

เพียงกดไปฟ้าดินเกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง แท่นบวงสรวงนี้เหมือนกับถูกมือใหญ่ไร้รูปข้างหนึ่งกดลงมาจากข้างบน แท่นบวงสรวงเริ่มแตกทีละชั้นจากฐาน เพียงพริบตาเดียวก็แตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนเกิดเป็นรอยฝ่ามือยักษ์ข้างหนึ่งบนแผ่นดินท่ามกลางเสียงดังก้อง!

ตรงกลางรอยฝ่ามือนั้นมีโลงไม้แตกโลงหนึ่ง!

โลงไม้นั้นเป็นสีแดงดั่งโลหิต ยามนี้ช่วงที่แตกออก ตรงส่วนลึกในนั้นมีมือข้างหนึ่ง มือนั้นแห้งปานกระดูก เล็บสีดำยาวสามชุ่น เมื่อมือโผล่มาก็มีกลิ่นอายมรณะเข้มข้นพุ่งขึ้นฟ้า

มือนี้ผลักไปข้างหน้า ทันใดนั้นโลงศพแตกออกทั้งหมด เผยเป็นชายวัยกลางคนผอมแห้งสวมจีวรเต๋าอยู่ภายใน เส้นผมสีดอกเลา ดวงตาปานหงส์ แต่กลับมีลูกตา สีแดง กลิ่นอายมารเหลือล้นแผ่มาจากตัวเขาแล้วปั่นป่วนโลกวิญญาณในฉับพลัน ทำให้ทั้งโลกวิญญาณเกิดระลอกคลื่นไม่มีที่สิ้นสุด

“เจ้า…” ร่างเงาที่มาพร้อมกลิ่นอายมารที่มากพอจะสร้างความตื่นกลัวเผยกลางฟ้าดินด้วยวิธีการเช่นนี้ แฝงไว้ด้วยความน่าเกรงขามและประหลาดที่สร้างความหวาดหวั่นแก่ทุกสิ่งมีชีวิตได้ เขาพูดกับซูหมิงช้าๆ กลิ่นอายพลังนั้นเหมือนกับว่ามีเพียงเขาที่ เป็นใหญ่ ความประหลาดนั้นคล้ายกับรวมพลังสูงสุดของฟ้าดินเอาไว้ แม้แต่ความ มืดครึ้มยังแผ่เข้ามาจากในทั้งโลกเผ่าวิญญาณ

แต่เขาเอ่ยเพียงคำเดียว ยังไม่ทันเอ่ยคำที่สอง ร่างเงาซูหมิงไปปรากฏอยู่ตรงหน้าชายวัยกลางคนประหลาดนั้นแล้ว ซ้ำยังยกมือขวาขึ้นบีบคอเขาเอาไว้โดยที่ยังไม่ทัน ตั้งตัว พลันออกแรงบีบไป เกิดเสียงกรุบกรอบดังก้องก่อนทุ่มลงพื้นอย่างแรง

ซูหมิงออกแรงบีบอย่างสุดกำลังจนคอชายวัยกลางคนแตกออกทั้งหมด แม้แต่ศีรษะยังแหลกละเอียด ตอนทุ่มลงพื้นยังทำให้เกาะนี้สั่นสะเทือน หากมิใช่เพราะ ซูหมิงไม่อยากทำลายดาวดวงนี้ เกรงว่าการทุ่มครั้งนี้คงทำให้ดาวถล่มลง

ชายวัยกลางคนผู้นั้นตกตะลึงไปถึงจิตวิญญาณจากการกระทำอย่างกะทันหัน ของซูหมิง เขาร้องโหยหวนเสียงแหลมพร้อมกับร่างเกิดเสียงดังปังแล้วหายไป หลังกลายเป็นหมอกแล้วก็ไปรวมอยู่ไกลออกไปโดยพลัน มองซูหมิงด้วยแววตาหวาดกลัว เขาในตอนนี้ไม่มีความพิลึกและประหลาดอย่างตอนที่เพิ่งปรากฏตัวอีก แต่เบิกตากว้างดูตกใจและเหลือเชื่อ

“เจ้าเป็นใคร!” ชายวันกลางคนเป็นผู้นำสูงสุดในรุ่นก่อน ในอดีตเคยพบจักรพรรดิ รุ่งอรุณขั้นไม่อาจกล่าวหลายครั้ง ความแกร่งของเขาเป็นรองเพียงขั้นไม่อาจกล่าวเท่านั้น แต่แม้จะตาย ไม่มีกายเนื้อ ต้องกลายเป็นร่างวิญญาณก็ตาม

แต่ว่าภายใต้การบำรุงกายวิญญาณในหลายปีมานี้กลับทำให้เขาแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนรวมเป็นเปลือกที่มีกายเนื้อเล็กน้อยได้อีกครั้งแล้ว แต่ว่าจากการคว้าและทุ่มของ ซูหมิงเมื่อครู่ทำให้พลังแห่งการคารวะทั้งหมดที่เขาสูบกินมาตลอดหลายปีหายไป จนหมดสิ้น ระดับความแกร่งรวมถึงความรู้สึกน่ากลัวนั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยพบมาก่อนในชีวิต

โดยเฉพาะสีหน้าโกรธแค้นของซูหมิงยังทำให้เขารู้สึกหนาวเยือกจากก้นบึ้งหัวใจ

ซูหมิงไม่ตอบ แต่เดินหน้าไป ชั่ววูบเดียวก็มาโผล่อยู่ตรงหน้าชายวัยกลางคน อีกครั้ง ก่อนยกมือขวาขึ้นคว้าไป แม้จะตายไปแล้วหนึ่งครั้ง ทว่าในจิตวิญญาณเขากลับรู้สึกถึงอันตรายเป็นตายร้ายแรงอีกครั้ง ถึงกระนั้นเขาก็ไม่หลบ แต่นัยน์ตา ฉายแววบ้าคลั่ง

หากจิตสังหารซูหมิงไม่รุนแรง เขาจะต้องหาวิธีแก้ไขอื่นๆ ได้แน่ ทว่าจิตสังหารของซูหมิงรุนแรง นั่นคือหมายจะเอาถึงตาย ซึ่งไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่อาจแก้ไขหรือให้อยู่ตรงกลางได้แล้ว!

และเพราะแบบนี้เอง ชายวัยกลางคนถึงบ้าคลั่งขึ้นมา เพราะเขาต้องบ้าคลั่ง เพราะเขาไม่กล้าผ่อนคลายลงแม้แต่น้อย เพราะว่า…แรงกดดันที่ซูหมิงมอบให้เขามันมากเกินไปจริงๆ!

“ที่นี่คือโลกวิญญาณ บรรพบุรุษปกปักรักษาด้วย!” ชายวัยกลางคนตะโกน ชั่วพริบตาที่ซูหมิงใช้มือขวาคว้าเข้ามา เขาประสานมุทราด้วยสองมือตรงหน้าทันที

ช่วงที่ประสานมุทรา ฉับพลันนั้นป้ายหลุมศพบนแท่นบวงสรวงกลางเกาะทั้งหมดบนทะเลใหญ่ของทั้งดาวสั่นสะเทือนพร้อมกัน วิญญาณที่หลับใหลนับไม่ถ้วน ไม่ได้ลืมตาขึ้น แต่บินออกมาในทันใด วูบเดียวก็วนเวียนอยู่รอบตัวชายวัยกลางคน

นี่คือบรรพบุรุษที่หลับใหลทั้งหมดตลอดไม่รู้กี่ปีมานี้ของทั้งเผ่าวิญญาณ พวกเขาบางคนตื่นแล้ว บ้างยังหลับใหล แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ตอนนี้ต่างบินออกมาภายใต้การอัญเชิญของชายวัยกลางคน รวมกันมาที่นี่เพื่อต่อต้านกับเคราะห์ภัยครั้งใหญ่ของเผ่าวิญญาณ!

ที่พวกเขามาที่นี่ไม่ใช่เพราะชายวัยกลางคนมีพลังแกร่งกล้า แต่เป็นเพราะพลังพรสวรรค์อย่างหนึ่งของผู้นำสูงสุดทุกรุ่นที่อัญเชิญบรรพบุรุษออกมา!

ผู้นำสูงสุดทุกรุ่นทำแบบนี้ได้!

แทบเป็นช่วงที่วิญญาณบรรพบุรุษเผ่าวิญญาณทั้งหมดรวมกันเข้ามาล้อมรอบตัวชายวัยกลางคนเป็นน้ำวนต้านมือซูหมิงที่คว้ามานั้น ฟ้าดินมืดครึ้ม ทั้งโลกเผ่าวิญญาณเกิดระลอกคลื่นไม่มีที่สิ้นสุด อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายพลังของเผ่าวิญญาณ ราวกับว่าที่นี่เปลี่ยนเป็นโลกของเผ่าวิญญาณอย่างสมบูรณ์แบบ กระทั่ง…ในโลกนี้ยังมีดวงจิตปรากฏ ดวงจิตนั้นคือดวงจิตของเผ่าวิญญาณ!

“ไม่ว่าเจ้าจะแกร่งเพียงใด ที่นี่คือเผ่าวิญญาณข้า เจ้ามันคนบ้าประหลาดที่หมายปองจะสังหารข้า เจ้าต้องตาย!” ขณะที่ชายวัยกลางคนตะโกน มือขวาซูหมิงปะทะกับน้ำวนแล้ว ท่ามกลางเสียงครึกโครม น้ำวนพังลงไปมากกว่าครึ่ง ม้วนชายวัยกลางคนถอยไปพันจั้ง วิญญาณเขาสลายไปเกือบครึ่ง ใบหน้าซีดขาวและยังตกใจกลัวยิ่งกว่าเดิม แต่ขณะเดียวกันก็มีความเย่อหยิ่งอยู่รอบตัว

“โลกนี้คือโลกของเผ่าวิญญาณ ที่นี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าวิญญาณ วิญญาณ ทุกดวงที่นี่ อดีตปัจจุบันและอนาคต กลิ่นอายพลังทั้งหมดล้วนเป็นของเผ่าวิญญาณ รวมขึ้นเป็นดวงจิตของโลกนี้ เจ้ามันแค่ตัวคนเดียว จะต่อต้านดวงจิตของโลกนี้ได้รึ!”

ชายวัยกลางคนมีสีหน้าเหี้ยมเกรียม จ้องซูหมิงตาเขม็ง น้ำเสียงยังมีความบ้าคลั่งที่รุนแรงกว่าเดิม ในมุมมองเขา ในเมื่อเจ้ามาสังหารข้า เช่นนั้นข้าจะทำลายเจ้าให้ สิ้นไป เพราะเขารู้สึกว่าการโจมตีของอีกฝ่ายทำอะไรเขาไม่ได้!

“ก็ดี ความผิดของเจ้าคนเดียว เดิมทีแซ่ซูจะให้เจ้าชดใช้แค่คนเดียว แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว…ข้าจะนำวิญญาณคนตายทั้งหมดของเผ่าวิญญาณเจ้ามาเขียนอักษรบนป้ายหลุมศพมารดาข้าอีกครั้ง!” ซูหมิงมองชายวัยกลางคนอย่างเย็นชา แวบหนึ่ง ขณะกล่าวคำพูดประหนึ่งพายุหนาวเหน็บแผ่ไปรอบๆ

“เจ้าว่าโลกนี้เป็นโลกของเผ่าวิญญาณเจ้ารึ?” ซูหมิงเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชาพร้อมยกมือขวากลัดมวลอากาศบนฟ้าเอาไว้ จากนั้นกระชากลงเปลี่ยนผืนฟ้าอีกครั้ง!

เทียบกับซูหมิงแล้ว ดวงจิตของโลกเผ่าวิญญาณเป็นดั่งแสงหิ่งห้อยที่เปรียบกับแสงตะวัน เมื่อถูกซูหมิงคว้าไปก็พังลงทันที พอกระชากลงมาแล้ว ทั้งโลกนี้พลันเต็มไปด้วยดวงจิตของซูหมิง!

ชายวัยกลางคนอึ้งไป เขาตะลึงค้างอยู่อย่างนั้น เหม่อมองฟ้า เหม่อมองทุกอย่าง เกิดเสียงอื้ออึงดังขึ้นในความคิด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!