Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1370

ตอนที่ 1370 ภัยพิบัติสามรกร้าง 2

“ภัยพิบัติมาถึงแล้ว…” โลกปีกที่สี่ ดาวที่เด็กเลี้ยงสัตว์อยู่ เด็กเลี้ยงสัตว์ลืมตาขึ้นกลางภูเขา ราวกับหลับไปหนึ่งตื่น ตอนนี้มองฟ้าพลางพึมพำด้วยความขมขื่น

ข้างกายเขาปรากฏชายฝึกกระบี่ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ สองคนมองฟ้าด้วยกัน สิ่งที่ต่างกันคือในแววตาเขารวดเร็วและดุดัน ซ้ำยังมีความมุ่งมั่นในการต่อสู้อย่างแรงกล้า

ฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณ เหยียนเผยเหม่อมองฟ้า ตัวสั่น เขาคุมการสั่นไม่ได้ ภยันตรายเป็นตายยากจะบรรยายและเหนือกว่าทุกอย่างในชีวิตทำให้เขาพลันนึกถึง… ภัยทำลายล้างในตำนาน!

เขาฝืนยิ้มด้วยความปวดร้าว ขณะยิ้มเฝื่อนยังเงยหน้าขึ้นฟ้าประหนึ่งคลุ้มคลั่ง แต่ต่อให้คลุ้มคลั่งอย่างไรก็หยุดน้ำตาแห่งความสิ้นหวังไม่ให้ไหลลงมาไม่ได้

ณ โลกเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ จื่อรั่วนั่งขัดสมาธิอยู่บนยอดเขาอย่างสงบนิ่ง มองฟ้าอย่างสงบ นางในชุดคลุมชมพูทั้งตัวไม่ได้นึกถึงภัยทำลายล้าง แต่เป็นร่างเงาหนึ่งที่ปรากฏในความคิดบ่อยครั้งในหลายร้อยปีนี้

ฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน ข้างทะเลสาบกลางโลกที่กระเรียนขนร่วงเคยมองอยู่ร้อยปี ใต้บ้านไม้ เฟยฮวาที่หน้าตากลับมาดังเดิมปานเด็กสาวนั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ไม่ได้ เงยหน้าขึ้น แต่หลับตาลงปกปิดความห่อเหี่ยวในดวงตา

“นี่คือความเป็นตายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงของทุกชีวิต” เฟยฮวาถอนหายใจเบา สองมือยังคงกำม้วนภาพวาด ต่อให้ตายนางก็ต้องเดินบนเส้นทางสู่อากาศธาตุพร้อมกับม้วนภาพนี้

โครม!

ภายในโลกซางเซียงเกิดเสียงระเบิดดังก้องเป็นครั้งที่สาม พริบตาที่เสียงนี้ดังขึ้น ภายในมหาโลกสามรกร้างเกิดพายุขึ้น พายุพัดขึ้นจากทะเลดาราต้นกำเนิดจิต กว้างไกลไร้ขอบเขต พริบตาเดียวก็กลายเป็นใบหน้ายักษ์ที่แฝงไว้ด้วยความแก่ชรา มีความไร้ปราณี พริบตาที่ปรากฏ ทั้งผืนฟ้า…แตกออก!

ที่แตกออกเป็นอันดับแรกคือทะเลดาราต้นกำเนิดจิต ผืนฟ้าในนั้นแตกออกอย่างต่อเนื่อง มิได้พังลง แต่เหมือนมีแรงกดดันยากจะบรรยายลงมาจากข้างบน หมายจะบดทุกอย่างในโลก

เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นแต่ทะเลดาราต้นกำเนิดจิต สี่โลกของสามรกร้าง ฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนล้วนเกิดเช่นกัน ผู้ฝึกฌานที่ยังไม่ตายเหล่านั้น หลังจากพวกเขารู้สึกถึงแรงกดดันบดทำลายโลกนี้แล้ว ตอนที่เงยหน้าขึ้นโดย จิตใต้สำนึกพลันเห็นภาพที่แม้พวกเขาจะตาย ก็ไม่ลืมภาพนี้!

ภัยพิบัติไม่ได้มาจากข้างล่างที่เหมือนกับกระจกหรือฟ้าโปร่งใส และก็ไม่ได้มาจากอีกโลกใต้ฟ้าโปร่งใสนี้ แต่มาจาก…ข้างบน!

กระจกผืนฟ้าสะท้อนทุกอย่างข้างบน ดูเหมือนโปร่งใส เหมือนว่าข้างใต้มันยังมีภาพลวงตาของโลกแห่งหนึ่ง ความจริงแล้วนั่นคือเงาสะท้อน

หากเงยหน้าขึ้นมองมวลอากาศข้างบน จะเห็น…โลกอีกแห่ง!

นั่นคืออีกโลกที่สมบูรณ์แบบ กระทั่งเห็นฟ้ากระจ่างดาวของโลกนั้น ดวงดาวรวมถึงแผ่นดิน และก็ทุกชีวิต…ไม่เพียงแค่โลกสามรกร้างที่เห็น ฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนก็เห็นอีกโลกที่กำลังตรงเข้ามาจากข้างบนเช่นกัน

เพียงแต่สิ่งที่พวกเขาเห็นคือโลกปีกที่สี่ แต่สิ่งที่มหาโลกสามรกร้างเห็นคือ มหาโลกซางเซียง!

แยกไม่ออกว่าสามรกร้างจะชนซางเซียง หรือซางเซียงจะชนสามรกร้างกันแน่!

ซูหมิงยืนอยู่บนไม้เทพ เงยหน้ามองข้างบนด้วยสีหน้าสงบนิ่ง แต่ดวงตากลับหรี่ลงเล็กน้อย

‘ภัยพิบัติไม่ได้มาจากการซ้อนทับข้างล่างจริงๆ แต่มาจาก…การกดทับจากข้างบน เพราะการกดทับนี้เองถึงเกิดการซ้อนทับ!’

มหาโลกซางเซียง ในปีกนี้ เมื่อภัยพิบัติมาเยือน ตอนที่สี่ปีกซ้อนทับกัน สิ่งแรกสุดที่เกิดขึ้นคือการชนกันของฟ้ากับดิน ดวงดาวและมวลอากาศ นี่คือการกดทับเหมือนกับประสานสองมือ หลังทำลายทุกอย่างในฝ่ามือแล้วถึงเกิดการซ้อนทับกันได้

ส่วนซูหมิง ภายใต้การชี้นำแบบผิดๆ จากซางเซียง จากดวงจิตสามรกร้าง กระทั่งจากผู้เฒ่าเมี่ยเซิง เขาจึงคิดว่านั่นเป็นเพียงการซ้อนทับจากข้างล่าง ใช้การซ้อนทับทำลายทุกอย่าง

ซูหมิงยิ้มเยาะมุมปาก เรื่องนี้ทำให้เขาเข้าใจผิดเล็กน้อยจริงๆ แต่ตอนที่ส่งคนจากยอดเขาลำดับเก้าไปยังอีกฝาก เขาได้เข้าใจเรื่องนี้แล้ว

โดยเฉพาะตอนที่เขาลืมตาขึ้นเป็นครั้งที่สองเมื่อสี่สิบปีก่อน ระหว่างที่ภัยกำลัง มาเยือน เขามั่นใจในจุดนี้มากกว่าเดิม ภัยทำลายล้าง…ไม่ได้มาจากฟ้าข้างล่าง แต่มาจากมวลอากาศข้างบน!

ทันทีที่เกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั้งโลกซางเซียง หากเงยหน้าขึ้นจะเห็นฟ้าไม่มีสิ้นสุดอีกแห่งกำลังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เหมือนว่าอีกไม่นานก็จะกดทับลงมา หลังทำลายทุกอย่างแล้วจะทำให้สี่ปีกซางเซียงซ้อนทับกัน ทำให้โลกของสี่ปีกหลอมรวมเป็นหนึ่งอย่างสมบูรณ์แบบ

สำหรับผู้ฝึกฌานและสิ่งมีชีวิตแล้ว นี่เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง การชนกันครั้งหนึ่งของบนกับล่าง จะหนีก็มีแต่หนีออกไปรอบๆ เท่านั้น แต่โดยรอบไม่มีสิ้นสุด หนีไปที่ใดก็ต้องเจอกับการกดทับครั้งนี้

ไม่ว่าจะหนีหรือหลบอย่างไร บางทีอาจมีเพียงผู้แข็งแกร่งยุคก่อนเหล่านั้นที่ปล่อยให้โลกข้างบนลงมาได้ เพราะพวกเขาหลอมรวมกับตัวเองอีกคนแล้ว เลยไม่สนใจ การกดทับครั้งนี้

เมื่อบนกับล่างเข้ามาใกล้กัน เมื่อโลกซางเซียงเกิดเสียงดังสนั่นปานระฆังครั้งที่สี่ สายลมระหว่างสองโลกเริ่มถาโถมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในยุคนี้ ใบหน้าที่ปรากฏกลางสายลมนั้นพุ่งไปรอบๆ ด้วยความเย็นชา จุดที่ผ่านชีวิตจะแห้งเหี่ยว ทุกชีวิตจะถูกทำลายล้าง เสียงคำรามแหลมดังขึ้นด้วยความไม่ยอมก่อนตาย ตอนนี้กลายเป็นท่วงทำนองหลักเพียงหนึ่งเดียวในโลก

ดวงจิตสามรกร้างเริ่มตื่นขึ้นแล้ว!

เมื่อสายลมรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทะเลดาราต้นกำเนิดจิตกลายเป็นซากปรักหักพัง ดาวทมิฬก็ดี ทะเลลำดับห้าก็ดี หลังจากทุกชีวิตในนั้นกับทุกเผ่าพันธุ์กลายเป็นอากาศธาตุไปแล้ว สายลมที่เกิดขึ้นจากแดนต้นกำเนิดจิตกลายเป็นใบหน้าดวงจิตสามรกร้าง มันสมจริงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งสายลมพัดจากแดนต้นกำเนิดจิตมาที่สี่โลกแท้จริง ใบหน้านั้นชัดเจนอย่างยิ่ง เพียงแต่ว่ายังคงหลับตา ไม่ได้ลืมตาขึ้น

จนกระทั่งพายุผ่านโลกแท้จริงที่สี่ ตอนที่ผ่านโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ ทั้งผืนฟ้ามีโลกกดทับ ข้างล่างมีมวลอากาศไม่มีสิ้นสุด ตรงกลางเป็นพายุของดวงจิตสามรกร้างหมุนวนผ่านมา เหมือนตามหาร่องรอยชีวิตบางอย่าง ชิงชีวิตของทุกคนไป ทำให้ใบหน้านั้นหายไปกลายเป็นร่างเงาชายหนุ่มคนหนึ่ง

ชายหนุ่มคนนี้สวมอาภรณ์ยาวสีดำทั้งตัว ไม่มีเส้นผม หลับตา เดินอยู่กลางสายลม จนกระทั่งเดินมาถึงโลกแท้จริงดาราสัจธรรม…

ซูหมิงที่ยืนอยู่บนไม้เทพหันหน้ามามองชายหนุ่มที่หลับตาเดินเข้ามาอยู่กลาง สายลมโลกแท้จริงดาราสัจธรรม

“สามรกร้าง…” ซูหมิงกล่าวขึ้นเบาๆ พร้อมเดินหน้าหนึ่งก้าว เขารู้ว่าดวงจิต สามรกร้างตามหาตน การต่อสู้ของสองฝ่ายคือการยึดร่างแห่งความเป็นตายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง!

หากเขารอด ดวงจิตสามรกร้างจะไร้ความนึกคิดนับจากนี้ หากเขาตาย ดวงจิตสามรกร้าง…อาจไม่ใช่สามรกร้างอีก!

ซูหมิงเดินหน้า ตัวเขาหายไปจากบนไม้เทพแล้ว มาปรากฏอีกทีอยู่ตรงหน้าพายุแห่งดวงจิตสามรกร้าง ข้างหลังเขาเป็นโลกแท้จริงดาราสัจธรรม ข้างบนเป็นมหาโลกซางเซียงที่กำลังกดเข้ามา ใต้เท้าไม่ใช่ไม่มีสิ้นสุดอีก แต่เป็นมวลอากาศที่มีสุดขอบเขต

ตอนนี้เองดวงจิตสามรกร้างกลางสายลม เขา…ลืมตาขึ้นเป็นครั้งแรกในยุคนี้!

เขาตื่นขึ้นแล้ว!

เมื่อดวงจิตสามรกร้างลืมตาขึ้น ซูหมิงหลับตาลงช้าๆ ทันทีที่เขาหลับตา โลกของเขามืดลง ข้างหลังเกิดพายุเช่นกัน พายุนั้นก็เป็นพายุสีดำ คือพายุที่เกิดขึ้นจากดวงจิตสองโลกแท้จริงใหญ่ในมหาโลกสามรกร้าง!

พายุนั้นยังเป็นพายุที่ส่งมาจากโลกแท้จริงพรรคเซียนกับดาราโบราณในมหาโลกซางเซียงที่กำลังเข้ามาใกล้จากข้างบน!

การรวมกันของดวงจิตสี่โลกแท้จริงกลายเป็นพายุม้วนซูหมิงที่กำลังหลับตาอยู่ ช่วงที่สามรกร้างลืมตาขึ้น สองคน…เข้ามาใกล้กัน

เสียงครึกโครมกลายเป็นเสียงดังสนั่นดุจระฆังครั้งที่ห้าในภัยทำลายล้างโลก พริบตาที่เสียงดังขึ้น สายลมสามรกร้างปกคลุมซูหมิง สายลมของซูหมิงก็กลบ สามรกร้างเช่นกัน สองคนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ถูกพายุหมุนโอบล้อม คนนอกต่อให้เป็นผู้เฒ่าเมี่ยเซิง ตี้เทียนหรือซูเซวียนอี ตอนนี้ก็เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นข้างในไม่ชัด

มีเพียง…ซางเซียง! ผีเสื้อที่เดิมทีแกร่งที่สุดในโลกนี้ ยามนี้ หลังจากที่รอมาไม่รู้กี่ยุค มันก็ได้ปรากฏตัวขึ้นกลางจักรวาลเป็นครั้งแรก เป็นร่างผีเสื้อเกือบโปร่งใส ร่างเงาหลากสี ราวกับว่าตอนนี้มันช่วงชิงสีสันทุกอย่างในโลกนี้ไป

มันลงมาเยือนในมหาโลกซางเซียงจากข้างบน พริบตาที่ปรากฏตัวก็กลายเป็นสายลมห้าสีพุ่งตรงไปยังจุดที่สามรกร้างกับซูหมิงหลอมรวมกัน…ทำการหลอมรวมเข้าไปด้วย!

ขณะเดียวกันภายในน้ำวนมรณะหยินที่สั่นไหวพังทลายลง ตี้เทียนนั่งขัดสมาธิอยู่บนยอดเขา เขาตัวสั่น ใบหน้าเปลี่ยนแปลงไม่หยุด ผ่านไปพักหนึ่งก็พ่นโลหิตหนึ่งคำ สองมือประสานมุทรากดลงบนตัว

“ซูหมิง ข้าตี้เทียนจะใช้เจ้าเป็นการตระหนักรู้ หลอมรวมรูปแบบชะตากับเจ้า เจ้าแค้นข้าก็ดี จะเฉยเมยก็ดี ไม่ว่าอย่างไรครั้งนี้…ข้าก็จะช่วยเจ้า เพราะมีแต่ เจ้าสำเร็จเท่านั้น ข้า…ถึงจะสำเร็จ เจ้า…จะล้มเหลวไม่ได้!” ตี้เทียนเงยหน้าคำรามเสียงต่ำ ระหว่างที่สองมือประสานมุทราขั้นพลังทั่วร่างรวมถึงวิญญาณเขาที่หลอมรวมกับวิญญาณอีกเจ็ดคนแล้วปะทุขึ้นอย่างรุนแรงในตัวร่างกาย

“รูปแบบชะตาไม่แตก เจ้ากับข้าก็จะไม่ตาย!” ศีรษะตี้เทียนปรากฏภาพวงกลมหนึ่ง ภาพนั้นตัดสลับขึ้นจากเส้นสีดำแดงสองสาย สว่างพร่างพราวไม่มีสิ้นสุด เปล่งแสงพิลึก แสงนี้ส่วนใหญ่เป็นสีดำ หากมองดีๆ จะเห็นชีวิตของซูหมิงในภาพนั้น และก็เห็นชีวิตของตี้เทียน!

พวกมันตัดสลับเข้าด้วยกันยากจะแยกออก!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!