Skip to content

สู่วิถีอสุรา 187

ตอนที่ 187 เป็นเขา

“บุคคลนี้ตั้งใจว่าร้าย เป็นไส้ศึกนอกเผ่า คิดจะสร้างความบาดหมางระหว่างเขาหานกับผู่เชียง ความผิดของเขาต้องถูกประหาร! ข้าจะจัดการเขาด้วยตัวเอง การบุกโซ่เขาหานข้าเองก็เห็นด้วย!” เสียงแก่ชราของจ้าวหมานผู่เชียงดังกังวาน เงาคนที่ถูกหมอกดำโอบล้อมลอยอยู่กลางอากาศเมืองเขาหานส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างของเขาพลันระเบิดกระจุยกลายเป็นเศษเนื้อ ยังไม่ทันร่วงลงพื้นก็กลายเป็นหมอกดำหายไปกับอากาศ

สายลมพัดผ่านพากลิ่นคาวเลือดจากไป ทำให้ชาวเมืองเขาหานที่กำลังโกรธแค้นค่อยๆ สงบลง

ซูหมิงยืนอยู่บนโซ่ส่วนที่เจ็ด หมุนตัวกลับมองเมืองเขาหานก่อนประสานมือคารวะ การคารวะของเขาทำให้ชาวเมืองเขาหานที่เพิ่งสงบลงส่งเสียงด้วยความฮึกเหิม

“ท่านต้องบุกโซ่เขาหานให้ได้ จะต้องผ่านโซ่ส่วนที่เก้าเพื่อระบายโทสะให้กับพวกเราคนนอกเขาหาน!”

“ไปต่อเถอะ พวกเรากำลังดูท่านอยู่ เชิญ!”

“ไปให้ถึงยอดเขาผู่เชียงแล้วพิชิตโซ่เขาหาน เข้าร่วมสำนักเหมันต์สวรรค์ เพื่อความหวังในภายภาคหน้าของพวกเราคนนอก!”

น้ำเสียงต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ยามนี้ทุกคำพูดแฝงไว้ด้วยการให้กำลังใจและความหวัง ซูหมิงผู้บุกโซ่เขาหานคนนี้ ในความคิดของพวกเขามิใช่คนอื่นไกล แต่เป็นตัวแทนความหวังของพวกเขา เป็นตัวแทนคนนอกภูเขาหานทั้งหมด

“สหายจะต้องพิชิตได้อย่างแน่นอน ตอนที่ท่านกลับมาแซ่หนานจะขอเลี้ยงท่าน พวกเรามาดื่มสุรากัน!” น้ำเสียงหนานเทียนเด่นชัดดังกังวาน ความเคารพในแววตาหลอมรวมกับคำกล่าวเชิญ

“นับแซ่เหลิ่งไปอีกคน!” สีหน้าเหลิ่งอิ้นเย็นชาตลอดเวลา ทว่ายามนี้กลับยิ้มมุมปาก

“เรื่องแบบนี้จะขาดแซ่เคอไปได้อย่างไร สหายหนาน ครั้งนี้เจ้าต้องนำไหสุราดอกไม้ออกมาแล้ว” เคอจิ่วซือส่งเสียงหัวเราะ ทำให้เสียงในเมืองเขาหานดังก้องมากขึ้น

“พูดดี จะนำมาแน่นอน!” หนานเทียนหัวเราะเสียงดัง รู้สึกยินดียิ่งนัก

เสวียนหลุนมีสีหน้าทะมึนมากขึ้น เงียบนิ่งอยู่ไกลๆ

ซูหมิงได้ยินคำพูดของทุกคน เงยหน้ามองเขาหานอยู่นาน ก่อนหมุนตัวกลับมาทางปลายโซ่ส่วนที่เจ็ด แล้วเดินต่อไปทางเสาหินต้นที่เจ็ด

เขาไม่พบเงาของท่านปู่ปรากฏอีกบนโซ่ส่วนนี้ กระทั่งเด็กสาวที่ซ่อนอยู่ในใจเขายังไม่ปรากฏ นี่หมายความว่าอย่างไรเขาไม่อยากจะคิด เขาไม่อาจทำให้ตัวเองสงบลงได้อีก ทุกอย่างบนโซ่เส้นนี้คือของปลอม เขาเองก็ไม่มั่นใจ

ท่ามกลางเสียงสนทนา ซูหมิงเดินต่อไปทีละก้าวจนกระทั่งเหยียบอยู่บนเสาหินต้นที่เจ็ด ท้องฟ้าในยามนี้เริ่มสว่างเล็กน้อย พบว่าเมฆดำยังคงอยู่ปกคลุมแสงสว่างบนท้องฟ้าหลายส่วน ทำให้เกิดความรู้สึกขมุกขมัว

“ส่วนที่แปด…” ซูหมิงไม่พักหายใจบนเสาหินต้นที่เจ็ด แต่ก้าวเดินต่อบนโซ่ส่วนที่แปด ในช่วงที่เหยียบเท้าลง เขายังคงมองไม่เห็นเงาเด็กสาวที่คาดหวัง เบื้องหน้าขมุกขมัว ห่างจากยอดเขาผู่เชียงอีกไม่ไกล

กระทั่งตอนนี้เขาเห็นหลายคนบนยอดเขาผู่เชียงกำลังมองเขาด้วยความเย็นชา ขณะเดินอยู่บนโซ่ส่วนที่แปด เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากกาลเวลา ทุกฝีก้าวพลังชีวิตจะถูกสูบไปจำนวนมาก แม้โคจรพลังโลหิตก็ยากจะยืนหยัดเดินต่อไป

ซูหมิงรู้สึกเหนื่อยล้าไปทั้งตัว หลังจากเดินมาได้สิบกว่าจั้ง เขาหอบหายใจกระชั้นถี่ กระทั่งในความเหนื่อยล้ายังสัมผัสได้ถึงความไร้ปรานีของกาลเวลา แย่งชิงพลังชีวิตและพละกำลังของเขา ค่อยๆ สูบชีวิตของเขา เหมือนกับชายหนุ่มค่อยๆ แก่ชราภายใต้กาลเวลา จนกระทั่งกลายเป็นเถ้าธุลีโปรยปราย

‘นี่คือความแปลกของโซ่ส่วนที่แปด การไหลเวียนของเวลาเร็วขึ้นจนรับไม่ทัน เลยต้องปล่อยผ่านไป’ ซูหมิงเดินต่อ ไม่ทราบว่าผ่านไปนานเท่าไร จนกระทั่งรอบตัวค่อยๆ มีแสงสว่าง เขาเห็นผิวหนังตรงมือของตัวเองเกิดรอยย่น ไม่เหมือนชายหนุ่มแต่เป็นชายชรา

ยามนี้เขาเดินบนโซ่ส่วนที่แปดมาได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ยังเหลืออีกครึ่งหนึ่ง การแกว่งของโซ่เหล็กเหมือนการหมุนเวียนของเวลา ต่อให้สังเกตเห็นก็ไม่อาจหยุดมันได้

ท้องฟ้าเปล่งแสงสว่าง ยามรุ่งอรุณมาเยือน พวกจ้าวหมานบนยอดเขาผู่เชียงมองซูหมิงกำลังใกล้เข้ามาด้วยความเย็นชา

ซูหมิงเงยหน้ามองยอดเขาผู่เชียงที่ยามนี้มีแสงสว่าง เมื่อเห็นสายตาเย็นชาเหล่านั้น เขาเงียบไปครู่หนึ่ง

‘ไปต่อไม่ได้แล้ว…หากไม่สามารถลบล้างพลังแห่งกาลเวลาได้ ต่อให้เดินถึงปลายโซ่ส่วนที่แปดก็คงเสียพลังชีวิตไปจนหมดและตายลง เช่นนั้น…ก็ไม่ต้องปิดบังกันแล้ว!’ นัยน์ตาซูหมิงเป็นประกาย เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าปกคลุมด้วยเมฆดำ เส้นเลือดพลันปะทุขึ้นบนตัวเขาจำนวนนับไม่ถ้วน เริ่มต้นที่ใบหน้าซ่อนอยู่ในเสื้อคลุมปะทุเส้นเลือดขึ้นมาจำนวนมากในชั่วพริบตา เสื้นเลือดเหล่านั้นรวมขึ้นเป็นภาพสัญลักษณ์ประหลาด

ขณะเดียวกันกลิ่นอายพลังน่าสะพรึงพลันระเบิดจากตัวเขา เมฆดำบนท้องฟ้าราวกับเปลี่ยนแปลง และเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้า

ยามนี้พวกจ้าวหมานบนยอดเขาผู่เชียงสังเกตเห็นในจุดนี้ จ้าวหมานหรี่ตาลง ชายเหมือนภูเขาเนื้อสีหน้าเปลี่ยน ชาวเผ่าผู่เชียงทั้งหมดล้วนเกิดอาการเส้นเลือดในร่างกายกระสับกระส่ายเหมือนเสียการควบคุม!

ขณะกลิ่นอายพลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร่างท่อนบนที่ถูกปิดด้วยเสื้อคลุมรวมถึงแขนทั้งสองข้างของซูหมิงพลันถูกเส้นเลือดมหาศาลครอบครองพื้นที่ กลิ่นอายพลังแข็งแกร่งพลันปะทุออกมา!

การโคจรเส้นเลือดในร่างกายกับการโคจรเส้นเลือดนอกร่างกายต่างกัน การโคจรในร่างกายเป็นเพียงพลังโลหิตของตัวเอง ทว่าหากนอกร่างกายจะสามารถเชื่อมต่อกับฟ้าดินและระเบิดพลังที่แข็งแกร่งที่สุด

ซูหมิงปกปิดเส้นเลือดในร่างกายมาโดยตลอด เวลานี้เขาต้องเผยออกมาทั้งหมด!

จากการเพิ่มขึ้นของกลิ่นอายพลังน่าสะพรึง มีเสียงดังเกรียวกราวมาจากยอดเขาผู่เชียง นอกจากจ้าวหมานและชายร่างเหมือนภูเขาเนื้อแล้ว ทุกคนล้วนมีสีหน้าตื่นกลัว ในความคิดพวกเขาผุดภาพเมื่อหลายเดือนก่อน เป็นเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในภูเขาหาน!

จ้าวหมานผู่เชียงเหมือนเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับเกิดระลอกคลื่นยักษ์ มีความเดือดดาลไม่น้อยไปกว่าทุกคนที่เผชิญหน้าก่อนหน้านี้

“เขา…เขาคือ…” นัยน์ตาจ้าวหมานดูเหลือเชื่อ กระทั่งเกิดความตื่นกลัวในใจ เขาพลันพบว่าเดิมทีเขาประเมินอีกฝ่ายไว้สูง จนถึงตอนนี้กลับกลายเป็นดูแคลน

ความรู้สึกตื่นตะลึงเกิดขึ้นในจิตใจของจ้าวหมานผู่เชียง เขารู้แล้วว่าผู่เชียงทำพลาดครั้งใหญ่ มิใช่เพราะความโกรธแค้นของชาวเมืองเขาหาน ไม่ใช่เพราะเหยียนฉือหรือบูรพาสงบ แต่เป็นการที่พวกเขามองบุคคลนี้พลาดไป!

“รวมโลหิตสมบูรณ์…” จ้าวหมานผู่เชียงซวนเซถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าขาวซีด

ในช่วงที่เขากล่าวพึมพำ ขาทั้งสองข้างของซูหมิงแน่นขนัดไปด้วยเส้นเลือด แม้เส้นเลือดถูกซ่อนอยู่ในเสื้อคลุม ทว่าพลังโลหิตน่าสะพรึงจากในตัวเขากลับทำให้ท้องฟ้าเปลี่ยนสี เมฆดำเคลื่อนตัว สายลมรอบทิศหยุดชะงัก!

ซูหมิงเงยหน้า เมฆดำบนท้องฟ้ายามนี้ไหลเชี่ยวกรากราวกับท้องฟ้าเมื่อหลายเดือนก่อน เหตุการณ์เทวรูปชำระล้างปรากฏกำลังเกิดขึ้น ณ ภูเขาหานอีกครั้ง!

ขณะเดียวกันเหนือศีรษะซูหมิงมีเส้นสีแดงหลายเส้นปรากฏกลางอากาศ เส้นเหล่านี้เป็นภาพมายา ทว่าเมื่อปรากฏกลับรวมตัวอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วครู่ก็กลายเป็นเงาคนยักษ์สูงราวสิบกว่าจั้ง

เงาคนไม่มีใบหน้าเป็นเพียงเค้าโครงที่ก่อขึ้นจากเส้นเลือดเก้าร้อยเจ็ดสิบเก้าเส้น กลิ่นอายพลังรวมโลหิตสมบูรณ์ทะยานถึงขีดสุด!

“เป็น…เขา! รวมโลหิตสมบูรณ์…เส้นเลือดเก้าร้อยเจ็ดสิบเก้าเส้น ขาดอีกเส้นเดียวก็จะทะลวงสู่รวมโลหิตมหาสมบูรณ์ในตำนาน…คนแบบนี้มาบุกโซ่เขาหานผู่เชียงของเรา ก่อนหน้านี้พวกเรายังคิดวางแผนจัดการเขาอยู่เลย…” ชายร่างเหมือนภูเขาเนื้อบนยอดเขาผู่เชียง หลังจากเห็นคนยักษ์เส้นเลือดเหนือศีรษะซูหมิงพลันกระอักโลหิต สีหน้าหวาดกลัว หลายคนด้านหลังเขาราวกับเหม่อลอย สีหน้าดูเหลือเชื่อ

บนยอดเขาเหยียนฉือ เหยียนหลวนหอบหายใจ สภาพจิตใจสั่นสะท้านสีหน้าตื่นตะลึง นางไม่เคยคิดเลยว่าผู้บุกโซ่เขาหานคนนี้จะเป็นคนเดียวกับเมื่อหลายเดือนก่อน!

“ไม่อยากเชื่อ…ว่าจะเป็นเขา!”

สีหน้าเหนื่อยล้าของหญิงชราข้างกายมีเลือดฝาดเข้ามาแทนที่ นางมองซูหมิง มองเงายักษ์เหนือศีรษะของซูหมิง นัยน์ตาเปล่งประกายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

บนยอดเขาบูรพาสงบมีเสียงดังอึกทึก จ้าวหมานบูรพาสงบถอยหลังไปหลายก้าวขณะเปลี่ยนสีหน้า ท้ายที่สุดกลายเป็นตื่นตะลึง ขนาดเขายังเป็นเช่นนี้ ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงฟางเซินข้างกาย ฟางเซินตะลึงค้างอยู่อย่างนั้น มีเพียงหานชางจื่อ ยามนี้ตัวสั่นเทาสีหน้าตื่นเต้น

ภายในเมืองเขาหาน หลังจากเงียบมาสักพักก็ระเบิดเสียงดังสนั่นด้วยความตื่นตะลึงและฮึกเหิม จำนวนเส้นเลือดของซูหมิงเพียงพอจะทำให้พวกเขารู้สึกทึ่งกับการเปลี่ยนแปลง

หานเฟยจื่อตัวสั่นเทา ลมหายใจกระชั้นถี่ หนานเทียน เคอจิ่วซือ และเหลิ่งอิ้นล้วนเหม่อลอยอยู่นานกว่าจะกลับมาเป็นปกติ สายตาที่มองซูหมิงไม่ใช่เคารพ แต่เป็นยำเกรง!

“เส้นเลือดเก้าร้อยเจ็ดสิบเก้าเส้น ขาดอีกเส้นเดียวก็จะ…ก็จะ…เป็นรวมโลหิตมหาสมบูรณ์! หากรวมโลหิตมหาสมบูรณ์ทะลวงไปขั้นชำระล้าง จะมีพลังมากพอเทียบกับขั้นชำระล้างตอนกลาง อีกทั้งต่อให้เป็นชำระล้างตอนปลายธรรมดาก็ยังพอประมือไหว!”

“บุคคลนี้…หากเขาไปถึงชำระล้างในขั้นรวมโลหิตมหาสมบูรณ์ ก็จะเป็นผู้แข็งแกร่งหมายเลขหนึ่งในเมืองเขาหานรวมถึงสามชนเผ่า เขาเพียงคนเดียวสามารถทำลายล้างได้ทั้งชนเผ่า!”

“ข้ารู้แล้ว เหตุที่เขาไม่ทะลวงขั้นชำระล้างเมื่อหลายเดือนก่อนก็เพราะอยากเพิ่มเส้นเลือดอีกเส้น! กระทั่งข้าคิดว่าที่เขาบุกโซ่เขาหานก็เพื่อเป็นการกระตุ้นเส้นเลือดตัวเอง!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!