Skip to content

สู่วิถีอสุรา 222

ตอนที่ 222 ความหมายของการสร้าง

ซูหมิงเหม่อมองแผนที่หนังสัตว์ตรงหน้า สีของมันผ่านกาลเวลามาอย่างโชกโชน ตรงขอบมุมเสียหายไม่น้อย ไม่รู้ว่าอยู่มานานกี่ปีแล้ว

ระหว่างแดนอรุณใต้และพันธมิตรตะวันตกเป็นเส้นสีดำทึบราวกับไม่อาจข้ามผ่าน เส้นแบบนี้มิได้มีแค่ระหว่างอรุณใต้กับพันธมิตรตะวันตกเท่านั้น ระหว่างทั้งห้าดินแดนที่เชื่อมหากันล้วนมีเส้นดำทึบเช่นนี้

“แผนที่ผืนนี้มีคนวาดมันตามความทรงจำหลังจากเทพหมานรุ่นสองถูกฝัง…ก่อนหน้าเทพหมานรุ่นสอง แผ่นดินใหญ่เผ่าหมานเป็นปึกแผ่นเดียวกัน กว้างใหญ่ไพศาล น้อยคนนักที่จะเดินทางครบทุกส่วน” ด้านหลังซูหมิง น้ำเสียงแหบพร่าของเทียนเสียจื่อดังแว่วเข้ามาอย่างเนิบช้า

“หลังจากเทพหมานรุ่นสองสิ้นลง แผ่นดินเผ่าหมานแยกออกกลายเป็นแผ่นดินห้าส่วนโดยมีต้าอวี๋เป็นใจกลาง ตำแหน่งภาพหม้อสำริดสามขาตรงกลางนั้นก็คือราชวงศ์ต้าอวี๋ สาเหตุที่เอาหม้อมาเป็นสัญลักษณ์ก็เพราะหม้อใบนี้คือวัตถุประจำเผ่าของเรา!” เทียนเสียจื่อกล่าวด้วยความหนักแน่นเล็กน้อย

“มหาหม้อฮวง (รกร้าง)…”

ช่วงที่สามคำนี้หลุดจากปากของเทียนเสียจื่อ ซูหมิงตัวสั่นสะท้าน เขาพลันได้สติกลับมาจากแผนที่หนังสัตว์ สิ่งที่กึกก้องข้างหูมีแค่คำว่ามหาหม้อฮวง

‘หม้อฮวง…’ เกิดระลอกคลื่นรุนแรงในจิตใจของเขา เมื่อเทียนเสียจื่อเห็นจึงคิดว่าซูหมิงคงตะลึงกับชื่อราชวงศ์ต้าอวี๋ แต่เขาไม่รู้เลยว่าซูหมิงในเวลานี้นึกถึงแต่ภาพที่อยู่ในมิติของเศษหินสีดำที่แขวนอยู่ตรงคอ

‘การหลอมเม็ดโอสถต้องใช้หม้อฮวง…หม้อฮวงนี้เกี่ยวอะไรกับมหาหม้อฮวงที่เทียนเสียจื่อบอกหรือไม่…’ สีหน้าซูหมิงสับสน

“เส้นสีดำระหว่างห้าแผ่นดินที่เจ้าเห็นคือโลหิตที่เหลืออยู่ เกิดจากพลังความแค้นหลังจากเทพหมานรุ่นสองสิ้นลง พลังความแค้นนี้ได้ยินว่าตอนนั้นเผ่าเซียนนำไปใช้ และร่วมมือกับเผ่าเชมันสร้างเป็นวงแหวนอาคมที่เหี้ยมโหดอย่างยิ่ง อาคมนี้ทำให้แผ่นดินใหญ่ทั้งห้าส่วนของเผ่าหมานไม่มีทางกลับมาสมบูรณ์ได้อีก…การจะข้ามแผ่นดินเป็นเรื่องยากยิ่งนัก…” เสียงของเทียนเสียจื่อกังวานอยู่ภายในห้องลับอยู่นานไม่เลือนหาย

“อาจารย์ไม่รู้ว่าเจ้าต้องการแผนที่เพื่ออะไร และไม่รู้ด้วยว่าในแผ่นดินทั้งห้าเป้าหมายของเจ้าอยู่ที่ใด…ทว่าเจ้าเป็นศิษย์ของข้าเทียนเสียจื่อ ข้าจะแนะนำเจ้าให้…หมั่นฝึกฝนขั้นพลังของตัวเองเสีย ขั้นพลังคือรากฐานของทุกสิ่ง หากเจ้าอยากออกไปจากแดนอรุณใต้ เลิกพูดถึงเรื่องแผ่นดินอื่นไปก่อน เอาแค่โลกนอกกำแพงเมืองหมอกนภาเจ้ายังไม่อาจข้ามไปได้เลย

ให้เจ้าออกจากกำแพงได้เสียก่อน จากนั้นค่อยคิดหาทางไปยังที่ที่เจ้าอยากไปอีกที…แต่ทุกอย่างนี้ต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของขั้นพลังเจ้า!

ขั้นพลังไม่พอ ไม่ว่าเรื่องใดก็จงอย่าไปคิด ถึงคิดไปก็ไม่มีประโยชน์ นอกจากทำให้กลุ้มใจแล้ว ยังทำให้จิตใจเจ้าไม่สงบ…หากจิตใจไม่สงบ จิตวิญญาณก็จะสับสน ลายหมานกระจายยากจะก้าวหน้า ขั้นพลัง เพิ่มขั้นพลังของเจ้าเสีย!” เทียนเสียจื่อกล่าวเบาๆ ใช้มือขวาตบบ่าซูหมิงที่กำลังนั่งขัดสมาธิ

“คนที่มีเรื่องราวมิได้มีแค่เจ้าคนเดียว…ศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าก็มีเรื่องราวของเขา ศิษย์พี่รองของเจ้าก็เช่นกัน…” เทียนเสียจื่อหยุดชะงักคล้ายปลงอนิจจัง

“ขั้นพลังระดับใดถึงจะออกนอกกำแพงหมอกนภาและออกจากแดนอรุณใต้ได้” ซูหมิงเงียบไปชั่วครู่ มองแผนที่หนังสัตว์ตรงหน้าพลางกล่าวด้วยความหนักแน่น

“หากไม่ถึงขั้นเซ่นไหว้กระดูกก็อย่าคิดออกนอกกำแพงหมอกนภา! ต่อให้เป็นนักรบเซ่นไหว้กระดูกก็ยังต้องระวังตัวอย่างยิ่งนอกกำแพง หากไม่ระวังได้ตายไม่รู้ตัวแน่ ระหว่างเผ่าเชมันกับเผ่าหมานมีความแค้นโลหิตต่อกัน!

หากเจ้าทะลวงถึงขั้นวิญญาณหมานจะออกไปนอกกำแพงได้ตามใจชอบ แต่ก็ต้องระวังตัวเช่นเดียวกัน ขอแค่ไม่เจอพวกยอดเชมัน ไม่ไปที่เสี่ยงอันตรายก็ถือว่าไม่เป็นไร” เทียนเสียจื่อเงียบไปชั่วครู่ กล่าวขึ้นเรียบๆ

“พูดเช่นนี้แสดงว่าเมื่อข้าทะลวงถึงขั้นวิญญาณหมาน ก็จะมีคุณสมบัติพอจะออกจากแดนอรุณใต้” ซูหมิงพึมพำเบาๆ

“มันก็แค่คุณสมบัติเท่านั้น ขั้นวิญญาณหมานเป็นเพียงขั้นพลังใหญ่ลำดับหนึ่งในเส้นทางการฝึกฝนของเผ่าหมาน…หลังจากวิญญาณหมานจะต้องมีขั้นพลังอื่นๆ อีกแน่นอน! น่าเสียดาย ขั้นพลังที่เหนือกว่าคืออะไร ทะลวงถึงได้อย่างไรนั้นแทบไม่มีใครรู้…” เทียนเสียจื่อถอนหายใจเบา

“เพราะเหตุใด?” ซูหมิงเงยหน้ามองเทียนเสียจื่อ

“เพราะเทพหมานรุ่นสี่มิได้ปรากฏตัวมานานมากแล้ว หากเทพหมานรุ่นสี่ปรากฏจะสัมผัสได้ถึงเจตนารมณ์ของเทพหมานรุ่นสามได้รับมรดกของเทพหมานมา เมื่อนั้นจะสัมผัสได้ถึงขั้นพลังที่สูงกว่า และสร้างเทวรูปหมานขั้นพลังเหนือกว่าวิญญาณหมานขึ้น หลังจากนั้นนักรบขั้นวิญญาณหมานทั้งหมดก็จะตอบสนอง”

ซูหมิงมองเทียนเสียจื่ออยู่นานก่อนกล่าวเรียบๆ “ระหว่างทางมานี่ข้าเจอชายแซ่ไป๋คนหนึ่งบนกำแพงหมอกนภา เขาเป็นแม่ทัพเทพเซ่นไหว้กระดูก เขาเคยกล่าวถึงท่าน บอกว่าท่านเคยออกจากแดนอรุณใต้ไปราชวงศ์ต้าอวี๋ เรื่องนี้จริงรึไม่”

เทียนเสียจื่อนิ่งเงียบ สีหน้าซับซ้อน เขาเงยหน้ามองไปอีกทางของห้องลับ ตรงนั้นว่างเปล่า ไม่ทราบว่าเขากำลังมองอะไร นัยน์ตาเทียนเสียจื่อค่อยๆ ฉายแววหวนรำลึก

“ข้าไม่รู้ว่าสิ่งที่ข้าเห็นคือต้าอวี๋หรือไม่…เรื่องนี้หลังจากเจ้าทะลวงถึงขั้นวิญญาณหมานแล้วจะจากไปเมื่อไร ข้าจะบอกเจ้าอีกที” เทียนเสียจื่อหลับตาลง น้ำเสียงแหบพร่ามากขึ้น

“ข้ารู้จักคนคนหนึ่ง ขั้นพลังเขาไม่ถึงชำระล้าง ไม่ได้อยู่ในราชวงศ์ต้าอวี๋ เขาอยู่ในแผ่นดินอื่น แต่กลับออกไปนอกแผ่นดินตัวเองหลายต่อหลายครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่ง…เขาน่าจะไปที่ราชวงศ์ต้าอวี๋” ซูหมิงก้มหน้ากล่าว

เทียนเสียจื่อได้ยินดังนั้นพลันลืมตาขึ้น แววตาเป็นประกายก่อนหายไปในชั่วพริบตา ช่วงที่นัยน์ตาเขาเป็นประกาย แรงกดดันมหาศาลพลันถาโถมเข้ามาและหายไปอย่างรวดเร็ว จนอาจทำให้คิดว่ารู้สึกไปเอง

ทว่าซูหมิงกลับจิตใจสั่นไหว เมื่อครู่นี้เขาสัมผัสได้ว่าพลังโลหิตของตนเหมือนจะหยุดนิ่ง กระทั่งยอดเขาลำดับเก้ายังสั่นไหว

“ไม่ถึงชำระล้าง แต่ไปต้าอวี๋จากแผ่นดินอื่น…เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้!” เทียนเสียจื่อกล่าวเรียบๆ

“เป็นไปไม่ได้อย่างนั้นรึ…บางทีอาจจะใช่” ซูหมิงหลับตาปกปิดความสับสนในแววตา

ยิ่งเข้าใจมากเท่าไร เขายิ่งรู้สึกว่าภาพภูเขาทมิฬในความทรงจำเหมือนมีเส้นทางเล็กๆ มากมาย โดยเฉพาะภาพเป่ยหลิงและเหลยเฉินที่เขาไม่ทราบว่าเป็นของจริงรึไม่บนโซ่เขาหาน ยังมีภาพหลังจากท่านปู่ปรากฏตัวคล้ายอยากบอกอะไรบางอย่างกับเขา ภาพเหล่านี้ทำให้เขาลังเลและสับสนกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า

‘มีม่านบังอยู่หนึ่งชั้น ปิดบังภูเขาทมิฬ ปิดบังเรื่องราวภายในมิติ…บางทีเมื่อข้ามีพลังมากพอจะฉีกม่านนั้น ข้าอาจพบ…ความลับที่โอบล้อมอยู่รอบตัวข้า’ ซูหมิงขบคิดอย่างเงียบๆ เขาต้องคิดแบบนี้เท่านั้นถึงจะทำให้ตนเองไม่สับสนจนเสียความเป็นตัวเองไป และไม่เกิดความหวาดกลัวจนเสียสติเพราะความสังสัยในอดีตหรืออนาคต

“ทำอย่างไรถึงจะเพิ่มขั้นพลังได้เร็ว” ซูหมิงลืมตา มองเทียนเสียจื่อด้านข้าง

“คำถามนี้ศิษย์พี่ของเจ้าเคยถามข้าแล้ว คำตอบคือจิตใจสงบ เขาขบคิดอยู่นาน ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจปิดด่านฝึกพลังตลอดทั้งปี” เทียนเสียจื่อมองซูหมิงอย่างมีความหมายลึกซึ้ง กล่าวจบจึงว่าต่อ

“ศิษย์พี่รองของเจ้าก็เคยถามข้าเหมือนกัน คำตอบข้ายังเป็นจิตใจสงบ ดังนั้นเขาจึงเลือกไม่เหมือนกับศิษย์พี่ใหญ่เจ้า แต่เลือกปลูกพืชดอกพวกนั้นแทน

ส่วนศิษย์พี่สามของเจ้า เขาเป็นคนซื่อ เขาไม่ถามคำถามนี้แต่กลับดื่มสุราทั้งวัน ใช้ชีวิตผ่านไปอย่างเลอะเลือนเพื่อตามหาเจตนารมณ์ของตัวเอง ส่วนเจ้า ตอนนี้คำตอบของข้าคือแบบเดียวกัน นั่นคือจิตใจสงบ” เทียนเสียจื่อยิ้ม ชี้มือขวาไปด้านหน้า

“ศาสตราวุธหมานในชั้นหนึ่งคงทำให้เจ้าผิดหวัง เจ้ามองพวกมันเป็นของทรุดโทรมไร้ประโยชน์ เหมือนกับสุราที่เจ้าดื่มจากน้ำเต้า เจ้ารู้สึกว่ามันคือน้ำ ทว่าข้ารู้สึกว่ามันคือสุรา

เหตุผลแบบเดียวกัน ในความคิดข้า ของในห้องลับชั้นหนึ่งเป็นของที่ข้ารวบรวมมาทั้งชีวิต พวกมันคือสมบัติล้ำค่าที่สุดในใจข้า”

“ทั้งยังมียอดวิชาทั้งหมดของสำนักเหมันต์สวรรค์ในชั้นสอง ดูท่าก็คงทำให้เจ้าผิดหวังมาก แต่เจ้ามองไม่เห็นความจริงข้างใน” เทียนเสียจื่อทำทีเล่นทีจริงมองซูหมิง

ซูหมิงเงียบไม่กล่าว

“เจ้ายังไม่เข้าใจอย่างแท้จริง สิ่งที่เผ่าหมานของเราฝึกฝนคืออะไร คำว่าสร้างมิใช่สิ่งที่ถูกผูกมัด ทุกอย่างต้องพึ่งตัวเองเพื่อสร้างออกมา วิชาพวกนั้นเป็นแค่ของที่คนรุ่นก่อนสร้างขึ้นมาเท่านั้น ผู้ฝึกตนนับแสนของสำนักเหมันต์สวรรค์ ผู้แข็งแกร่งมีราวกับเมฆ ทว่าสิ่งที่คนพวกนั้นฝึกฝนคือการสร้างใช่รึไม่?

พวกเขาเข้าใจความหมายแฝงของการสร้างรึไม่? ศิษย์ของข้าเทียนเสียจื่อไม่จำเป็นต้องมีวิชา ไม่จำเป็นต้องมีอภินิหาร ขอแค่เจ้าหาวิธีทำให้จิตใจของตัวเองสงบ พบและเข้าใจการสร้างก็พอแล้ว!” สีหน้าเทียนเสียจื่อราวฉายแววประหลาดใจ ภายใต้ประกายวาววับ ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความยึดมั่นแน่วแน่

เพียงแต่ความยึดมั่นนี้ ในสายตาของซูหมิงใกล้เคียงกับคำว่าบ้าบิ่น

“การสร้าง การสร้างคำนี้ทุกคนล้วนเฝ้าปรารถนาและออกตามหา หากแต่การสร้างที่แท้จริงคืออะไร? นี่เป็นคำถามของข้า ไปคิดและทำความเข้าใจซะ เมื่อได้คำตอบแล้วให้มาบอกข้า” เทียนเสียจื่อมีท่าทางหยั่งลึกยากจะคาดเดา ลูบเครากล่าวเหมือนกับนักปราชญ์อาวุโส

“ข้าขอแผนที่ได้รึไม่” ซูหมิงยืนขึ้นอย่างเงียบๆ ม้วนหนังสัตว์ตรงหน้าด้วยความทะนุถนอม

“เป็นศิษย์ของข้า ทุกชั้นเจ้านำไปได้หนึ่งชิ้น” เทียนเสียจื่อยิ้ม

ซูหมิงเก็บหนังสัตว์เข้าไปในอกเสื้อ มองเทียนเสียจื่อ สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วประสานมือคารวะ

“ศิษย์ซูหมิง คารวะอาจารย์”

เทียนเสียจื่อหัวเราะเสียงดังก่อนสะบัดแขนเสื้อ พลันเกิดลมพายุพัดเข้ามาม้วนตัวซูหมิง พาเขาออกไปนอกถ้ำ

“นิสัยแปลกๆ ของศิษย์พี่เจ้า เจ้าจะได้สัมผัสอีกเยอะ ไปตามหาวิธีทำให้จิตใจสงบซะ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะหามันพบ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!