Skip to content

สู่วิถีอสุรา 425

SVTASR
BC

ตอนที่ 425 เมืองเชมัน

“ขั้นพลังสหายโม่หยั่งลึก การสังเกตเฉียบคม แซ่หนานกงขอนับถือ! จากนี้ไปเพียงแค่สหายโม่เอ่ย หนานกงจะปฏิบัติตามแน่นอน!” หลังจากตามมาถึง สีหน้าหนานกงเกินเก้อเขินเล็กน้อย ประสานมือคารวะซูหมิง

C

เด็กหนุ่มแขนขวาแห้งเหี่ยวด้านหลังเขาไม่มองซูหมิงด้วยความเย็นชาอีก แต่เป็นอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย

“แซ่โม่เพียงแค่โชคดีเท่านั้น หากสหายหนานกงสังเกตดีๆ จะเห็นเงื่อนงำ” ซูหมิงส่ายศีรษะพลางกล่าวสงบนิ่ง

“สหายโม่ไม่ต้องถ่อมตัว บอกตรงๆ ว่าข้ามองอันตรายตรงนั้นไม่ออกเลย….” หนานกงเหินยิ้มแห้งแล้วประสานมือคารวะซูหมิงอีกครั้ง

ซูหมิงยิ้มและไม่กล่าวอีก ก่อนใช้ความเร็วคู่กับหนานกงเหิน พาเด็กหนุ่มเด็กสาวสามคนมุ่งหน้าต่อไป

มีจิตสัมผัสของซูหมิง บวกกับมีวิญญาณผู้สื่อวิญญาณของหนานกงเหินวนเวียนอยู่รอบๆ ระหว่างทางแม้บอกว่าเจออันตรายหลายครั้ง ทว่าก็หลีกมาได้ ต่อให้ต้องอ้อมไกลหน่อยกลับไม่เจอภยันตรายถึงชีวิต

เวลาผ่านไปก็เข้าใกล้เมืองเชมันมากขึ้นเรื่อยๆ หนานกงเหินเคารพซูหมิงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรู้สึกว่าการที่ตนชวนซูหมิงร่วมเดินทางด้วยเป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างยิ่ง

เพราะว่าระหว่างทางมีอยู่หลายครั้งที่ซูหมิงบอกให้อ้อมเส้นทาง แม้เขาจะปฏิบัติตามก็จริง แต่ในใจนึกอยากรู้อยากเห็นตลอดว่าซูหมิงรู้ได้อย่างไร จนกระทั่งมีอยู่ครั้งหนึ่งตอนที่ซูหมิงบอกให้อ้อม เขาหันหน้ากลับไปเห็นสายรุ้งหลายเส้นห้อเหยียดเข้าไปบริเวณนั้นด้วยตาตัวเอง คนที่ไม่รู้เหล่านั้นพลันกรีดร้อง ร่างระเบิดกลายเป็นเศษเนื้อ ตอนนั้นในใจเขาตื่นกลัวจนถึงขีดสุด ทั้งใจและปากยอมรับการตัดสินใจของซูหมิง ปฏิบัติตามอย่างไม่ลังเล

อาหู่ยำเกรงซูหมิงปานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความฮึกเหิมในแววตาไม่ว่าใครก็มองออก ส่วนเด็กสาวหลันหลัน พบเรื่องราวตลอดทางนี้ ต่อให้นางใจกล้ากว่านี้อีกก็ยังรู้สึกหวาดกลัว นางรู้สึกมีลมเย็นๆ ตรงแผ่นหลัง สายตาที่มองซูหมิงต่างออกไป

ส่วนเด็กหนุ่มด้านหลังหนานกงเหินก็เช่นเดียวกัน เขาเย็นชากับทุกคน ต่อให้เป็นหนานกงเหิน เขายังปฏิบัติด้วยความเย็นชา ทว่าตอนมองซูหมิงสายตาเย็นชาจะหายไป มิได้มองด้วยความอยากรู้อยากเห็นอีก แต่กลายเป็นเคารพแทน

ตลอดทางซูหมิงกลายเป็นผู้นำกลุ่ม ทุกครั้งที่เขาเสนอให้เปลี่ยนเส้นทาง คนอื่นๆ ล้วนปฏิบัติตาม จนสุดท้ายไม่ต้องพูด ขอแค่เขาไปทางไหน พวกหนานกงเหินจะตามไปทันที

‘เผ่าโคขาวโชคดีจริงๆ หาคนอย่างสหายโม่มาคุ้มกันชาวเผ่าที่มารับการฝึกฝนของพวกเขาได้…’ ระหว่างทาง หนานกงเหินมองหลันหลันกับอาหู่เป็นบางครั้งพลางกล่าวในใจ

เขารู้ว่าบางทีคนอื่นๆ อาจมีวิธีมาเมืองเชมัน แต่ด้วยขั้นพลังของเขา หากไม่มีซูหมิงนำทางมา เกรงว่าคงยากจะปกป้องเด็กหนุ่มข้างหลังตนให้มีชีวิตรอด กระทั่งชีวิตของตัวเองยังจะเอาไม่รอดเช่นกัน

ทว่าเด็กหนุ่มเด็กสาวของเผ่าโคขาวกลับไม่เป็นอะไรเลย ทุกอย่างเป็นเพราะโม่ซู

หนึ่งเดือนให้หลัง กลุ่มซูหมิงก็เดินทางมาถึงใจกลางเขตเชมันอันเป็นที่ตั้งของเมืองเชมันได้อย่างปลอดภัย พื้นที่หนึ่งร้อยลี้ใกล้กับเมืองเชมันจะเป็นน่านฟ้าต้องห้าม ซูหมิงกับหนานกงเหินจึงต้องบินลงผืนดิน

เมืองเชมันไม่ใหญ่มาก ทว่าสิ่งก่อสร้างกลับยิ่งใหญ่ มันเป็นลักษณะสี่เหลี่ยม โดยรอบมีกำแพงเมืองยักษ์สูงสิบจั้ง ทุกส่วนเป็นสีแดงฉานปานย้อมด้วยโลหิต กำแพงสีแดงฉานนี้เปล่งแสงสีแดงเป็นบางครั้ง ก่อขึ้นเป็นความน่าเกรงขาม ทำให้ผู้มองต้องตกตะลึง

เมืองเชมันมีประตูใหญ่เดียวสำหรับการเข้าออก หากมองจากระยะหนึ่งร้อยลี้ ภายในเมืองจะมีสิ่งก่อสร้างบางแห่งเหมือนถูกดึงขึ้น เปิดโล่งสูงตระหง่าน

โดยเฉพาะตรงใจกลางเมือง มีเสาหินสูงเสียดเมฆต้นหนึ่งให้ความรู้สึกโบราณ ขณะเดียวกันบริเวณยอดเสาหินวางศีรษะยักษ์เอาไว้หนึ่งหัว ศีรษะนี้มีขนาดหนึ่งร้อยจั้ง ไม่รู้ว่าเก็บรักษาอย่างไรถึงเน่าเปื่อยไปเพียงเกือบครึ่ง แต่ยังคงเห็นใบหน้าชัดเจน มันถูกวางอยู่ตรงนั้นให้กลายเป็นสัญลักษณ์และสิ่งก่อสร้างเด่นตาที่สุดในเมืองเชมัน!

ศีรษะนั้นเต็มไปด้วยกิ่งไม้ห้อยลงมา ลักษณะเหมือนคน ทว่าพอมองไปจะคล้ายศีรษะยักษ์อยู่นอกต้นไม้แห้ง ศีรษะนี้เป็นสีน้ำตาลทุกส่วน เครื่องหน้าชัดเจน มองแวบแรกเป็นคน ทว่าหากมองดีๆ มันคือไม้ยักษ์

กิ่งไม้จำนวนมากเหล่านั้นคือมือที่ห้อยลงมาจากศีรษะยักษ์ กิ่งที่ยาวที่สุดก็เกือบหนึ่งร้อยจั้ง พวกมันมีขนาดและความยาวต่างกัน ถูกเสาหินค้ำยันเอาไว้ หากมองไกลๆ เสาหินจะเหมือนกับหอกยาวยักษ์ยกศีรษะลอยขึ้นสูง

“ในที่สุดก็มาถึงเมืองเชมันแล้ว…สหายโม่ ตลอดทางนี้ข้าไม่รู้ว่าจะใช้คำพูดใดมาแสดงความซาบซึ้งใจเลย…..” หนานกงเหินมองเมืองเชมันแล้วพ่นลมหายใจยาว ก่อนประสานมือคารวะซูหมิงด้วยความซาบซึ้งใจ

“สหายหนานกงไม่ต้องทำเช่นนี้ แซ่โม่ก็ต้องมาเมืองเชมันเหมือนกัน เจ้ากับข้ารวมกลุ่มกันก็ต้องดูแลกันและกันเป็นธรรมดา อีกอย่างสหายหนานกงก็จะเข้าร่วมงานพนันสมบัติครั้งใหญ่ด้วย ก่อนหน้านี้ข้าเคยได้ยินเขาลือกันมาเยอะ ทว่าตอนนั้นเพราะมีธุระจึงไม่ได้เข้าร่วม วันนี้มาถึงแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไปลองดูสักครั้ง ต้องรบกวนให้สหายหนานกงช่วยอธิบายให้ฟังด้วย” ซูหมิงยิ้มพลางกล่าว

“เรื่องนี้พูดไม่ยาก ข้าเข้าร่วมงานพนันสมบัติครั้งใหญ่มาหลายครั้งแล้ว สหายโม่มาในครั้งนี้จะต้องไปลองให้ได้จริงๆ หากโชคดีอาจเปิดได้สมบัติล้ำค่า แต่สหายโม่ ก่อนจะไปที่นั่นไปเช่าวิญญาณเก้าหยินมาก่อนจะดีกว่า…” เรื่องราวตลอดทางนี้ทำให้หนานกงเหินเป็นมิตรกับซูหมิงลึกซึ้งในอีกระดับหนึ่ง ได้ยินดังนั้นจึงกล่าวทันที

“เช่นนั้น หากสหายโม่ไม่รังเกียจ พักในโรงเตี๊ยมเดียวกับข้าได้หรือไม่? แบบนี้เราจะได้ติดต่อกันสะดวกมากยิ่งขึ้น” หนานกงเหินขบคิดแล้วเชิญชวนซูหมิง

ซูหมิงขบคิดชั่วครู่ ก่อนอมยิ้มพยักหน้า

หนานกงเหินหัวเราะเสียงดัง แล้วเดินต่อพร้อมกับซูหมิง พาเด็กหนุ่มเด็กสาวสามคนมุ่งหน้าไปยังเมืองเชมันอย่างรวดเร็ว ไม่นานทุกคนก็มาอยู่นอกเมืองเชมัน ยามนี้ที่นี่มีคนรอเข้าเมืองอยู่ไม่น้อย ตั้งเป็นแถวยาวหนึ่งแถว

ภายในแถวส่วนใหญ่เป็นเด็กหนุ่มสาว ระหว่างเด็กหนุ่มสาวสองสามคนแทบจะมีเชมันระดับกลางคอยคุ้มกันอยู่ ไม่ว่าจะเด็กหนุ่มสาวหรือเชมันระดับกลางเหล่านั้น ส่วนใหญ่มีบาดแผล มีหลายคนยามนี้หน้าซีดขาว ดูท่าจะอาการหนัก

แถวรอเข้าเมืองนี้ยาวยิ่งนัก ทว่าการตรวจสอบข้างหน้าเข้มงวดมาก มีเชมันระดับกลางสวมเสื้อคลุมแบบเดียวกันสิบกว่าคนยืนอยู่ หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดนอกเมืองแล้วก็เก็บค่าใช้จ่ายเล็กน้อย แล้วจะให้เข้าเมืองไป

ภายในแถวที่รอเข้าเมือง มีหลายคนแม้มีสีหน้าเบื่อหน่าย แต่พอเห็นเชมันระดับกลางสวมเสื้อคลุมแบบเดียวกันพวกนั้นแล้วกลับต้องอดกลั้นเอาไว้

บางครั้งก็มีบางคนมาถึงแล้วใช้ฐานะพิเศษ ไม่ต้องต่อแถวก็มาถึงหน้าประตูใหญ่ได้ทันที เมื่อตรวจสอบแบบง่ายๆ แล้วก็ให้เข้าเมืองไป คนเหล่านั้นล้วนเป็นคนเผ่าใหญ่ และยังมีความสัมพันธ์ค่อนข้างแน่นแฟ้นกับวิหารเทพเชมัน

“คนเยอะขนาดนี้ กว่าจะถึงพวกเราไม่ต้องรอไปจนถึงพรุ่งนี้เลยรึ?” ตอนที่มาถึงประตูเมือง หลันหลันเห็นแถวยาวเหยียดแล้วก็ถอนหายใจ ทว่านางก็สังเกตเห็นว่า เด็กหนุ่มสาวเหมือนนางทุกคนในแถวส่วนใหญ่มีสีหน้าอิดโรย เห็นได้ชัดว่าพบอุปสรรคหนักหนายิ่งนักระหว่างทาง ทั้งยังมีหลายคนมีสีหน้าเศร้าโศก เห็นชัดว่าต้องเสียสหายไประหว่างทาง

พอนึกถึงว่าการเดินทางมาครั้งนี้ไม่พบอันตรายใดๆ เลย

หลันหลันจึงอดมองซูหมิงมิได้

ซูหมิงมีสีหน้าสงบนิ่ง กวาดสายตามองกลุ่มคน เขาไม่สนว่าจะต้องรอจนถึงพรุ่งนี้เลยหรือไม่ เพราะเรื่องนี้มันช่วยไม่ได้

“ไม่ต้องรอ พวกเราเข้าไปกันเลย” เมื่อมาถึงเมืองเชมันแล้ว หนานกงเหินตื่นตกใจ พอได้ยินหลันหลันกล่าวเขาจึงอยากให้ซูหมิงรู้ถึงฐานะของเขา ถึงอย่างไรการสร้างมิตร สำหรับคนระดับพลังอย่างพวกเขาแล้ว นอกจากถูกชะตายังต้องมีคุณค่าเท่ากัน ฉะนั้นจึงอยากสร้างมิตรด้วย แต่เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายยังไม่เห็นถึงคุณค่าของเขา ยามนี้จึงยิ้มกล่าวก่อนพาทุกคนเดินหน้าไป

ซูหมิงยิ้มมุมปาก เขาอ่านความคิดหนานกงเหินออกบ้าง เห็นอีกฝ่ายมั่นใจในตัวเองเช่นนี้ ดูท่าคงจะมีวิธีจริงๆ อีกทั้งยังไม่ต้องรออยู่ตรงนี้ ซูหมิงย่อมไม่ยอมรอจนถึงวันพรุ่งนี้แน่

ซูหมิงตามหลังหนานกงเหิน หลันหลันกับเด็กหนุ่มอีกสองคนก็เดินตามมา การที่ทั้งห้าคนนี้ไม่ต้องต่อแถวและเดินไปถึงหน้าประตูได้เลยดึงดูดสายตาในกลุ่มคนจำนวนมาก มีเชมันระดับกลางที่คุ้มกันรุ่นเยาว์หลายคนเห็นหนานกงเหินแล้วล้วนมีสีหน้าตกใจ บ้างก็ประสานมือคารวะอยู่ไกลๆ บ้างก็ยิ้มกล่าวทักทาย

“ที่แท้เป็นสหายหนานกง ครั้งนี้มาคุ้มกันให้เผ่าใดรึ?”

“สหายหนานกง ไม่เจอกันหลายปีสบายดีหรือไม่”

“ฮ่าๆ สหานหนานกง ถ้าเข้าไปในเมืองเชมันแล้ว พวกเรามาร่ำสุราด้วยกัน ถ้าไม่เมาไม่เลิก”

หนานกงเหินยิ้ม เดินหน้าไปพลาง ประสานมือคารวะตอบกลับคนเหล่านั้นไปพลาง ไม่ได้ดูมึนงงเพราะทักทายคนเยอะเกินไป ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน เห็นได้ชัดว่าเขาเคยชินกับเรื่องแบบนี้แล้ว

จนกระทั่งหนานกงเหินมาถึงนอกประตูเมือง เชมันระดับกลางสวมเสื้อคลุมแบบเดียวกันสิบกว่าคนที่กำลังตรวจสอบอยู่ล้วนเผยรอยยิ้ม ไม่ได้ตรวจสอบพวกซูหมิงอะไรมากนัก ทั้งยังเปิดทางให้ ซูหมิงจึงประหลาดใจกับฐานะของหนานกงเหิน

หนานกงเหินยังคงยิ้ม หลังจากทักทายกับเชมันระดับกลางที่เฝ้าอยู่ตรงนี้แล้วก็พาพวกซูหมิงเข้าเมืองไป

“สหายหนานกงรู้จักคนเยอะจริงๆ แซ่โม่นับถือยิ่งนัก ทว่าให้องครักษ์ของวิหารเทพเชมันปล่อยเข้ามาอย่างนี้ได้เลย เกรงว่าคงไม่ใช่แค่สนิทสนม” เมื่อเดินเข้ามาในประตูเมืองแล้ว ซูหมิงจึงยิ้มกล่าว

“สหายโม่คงต้องหัวเราะแน่ ข้าชอบผูกมิตร อีกอย่างท่านปู่ข้ามีสหายไม่น้อย และข้ายังเติบโตในวิหารเทพเชมันอีก….ดังนั้น ช่างน่าหัวเราะๆ” หนานกงเหินยิ้มพลางกล่าว

ซูหมิงยิ้ม ขณะกำลังจะกล่าวรอยยิ้มก็แข็งค้าง หรี่ม่านตาลง เขาเห็นนอกเส้นทางตรงหน้าในเมือง มีสตรีกำลังเดินมาผู้หนึ่ง

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!