Skip to content

สู่วิถีอสุรา 440

ตอนที่ 440 ขายของ

ซูหมิงไม่ได้กล่าวในทันที แต่มีสีหน้าขบคิด

“สหายจงมีวิธีอะไรทำให้ได้หินสีแดงจำนวนมากจากมือพวกตาแก่เชมันระดับปลายในงานพนันส่วนที่สอง?” ผ่านไปครู่หนึ่ง ซูหมิงก็กล่าวขึ้นช้าๆ

“เอ่อ…” อูตัวลังเลครู่หนึ่งก่อนส่ายศีรษะ กล่าวต่อว่า “หวังว่าสหายโม่จะไม่โกรธ หากสหายโม่ยอมร่วมมือกับข้า ข้าถึงจะบอกรายละเอียดให้ ข้าบอกได้เพียงว่ามีสหายเผ่าเชมันอีกสามคนมาช่วยเรื่องนี้ด้วย เดิมทีมีความมั่นใจหกส่วน ทว่าหากสหายโม่เข้าร่วมด้วยก็จะเพิ่มเป็นเจ็ดส่วนถึงแปดส่วน!” กล่าวจบอูตัวก็มองซูหมิงด้วยสีหน้าจริงใจยิ่ง

“เรื่องนี้ข้าต้องการเวลาตรึกตรอง ขอไม่ให้คำตอบสหายจงตอนนี้แล้วกัน”

ผ่านไปครู่หนึ่ง ซูหมิงส่ายศีรษะแล้วตอบเสียงเบา เขาเข้าใจว่าอูตัวบอกมากไม่ได้ ถึงอย่างไรหากเป็นตนก็คงไม่ทำเช่นนั้น แต่เรื่องนี้เกินกว่าการเสี่ยงอันตราย อีกทั้งหากของที่ได้มาไม่มีผลประโยชน์มาก ซูหมิงก็ไม่ค่อยอยากจะพนันกับหินสีแดงที่ตนยังไม่รู้จัก

“ดี หวังว่าสหายโม่จะตรึกตรองอย่างละเอียด แซ่จงหวังว่าจะได้ร่วมมือกับสหายโม่อีกครั้ง” เดิมทีอูตัวก็ไม่ได้คิดว่าซูหมิงจะตกลงทันทีอยู่แล้ว ถึงอย่างไรการแย่งหินสีแดงกับพวกตาแก่เชมันระดับปลาย หากไม่ระวังก็มีถึงตายเลยทีเดียว ซูหมิงไม่ได้กล่าวปฏิเสธ ในความคิดอูตัวถือว่าดีมากแล้ว

เขารู้ว่าซูหมิงมีนิสัยระวังตัว ในจุดนี้ตอนสองคนพบกันครั้งแรกเขาก็มองออกแล้ว ทั้งยังรู้ด้วยว่าถ้าซูหมิงบอกว่าตรึกตรอง เช่นนั้นก็จะตรึกตรองจริงๆ ไม่ใช่การบอกปัด ฉะนั้นจึงไม่ได้กล่าวโน้มน้าวต่อ อีกอย่างแม้เขาอยากให้ซูหมิงเข้าร่วมด้วยก็ตาม ทว่าหากพูดมากไปจะทำให้เกิดผลเสียได้

อูตัวคุยกับซูหมิงถึงตำนานหลายอย่างของโลกเก้าหยินอีกเล็กน้อย จนท้องฟ้าใกล้จะเข้าสู่ยามโพล้เพล้ ทั้งสองคนจึงแยกจากกัน

ซูหมิงไม่ได้กลับโรงเตี๊ยมในทันที แต่เดินทอดน่องในเมืองเชมัน ร้านค้าในนี้มีมากมายนัก มีสินค้าอยู่ไม่น้อยที่ซูหมิงไม่เคยได้ยินหรือรู้จักมาก่อน กระทั่งสมุนไพรที่หายากในโลกภายนอกยังมีไม่น้อยในนี้

บนแผ่นไม้ไผ่บันทึกของซูหมิงวาดสมุนไพรไว้จำนวนมาก ภายในเมืองเชมันนี้ เขาเจอมากกว่าเจ็ดแปดต้นแล้ว นี่ทำให้เขาตื่นเต้นยิ่งนัก

เป็นที่รู้กันดีว่าแม้ตอนนี้ซูหมิงจะยังทำใจใช้เม็ดโอสถชิงวิญญาณเปิดประตูบานถัดไปในมิติลึกลับไม่ได้ ทว่าในภายภาคหน้า สักวันหนึ่งเขาก็ต้องหลอมเม็ดโอสถถัดจากโอสถชิงวิญญาณอยู่ดี ถึงแม้ไม่รู้ว่าเม็ดถัดไปมีชื่อว่าอะไร ต้องการสมุนไพรชนิดใด ทุกต้นที่ตนหามาได้ก็จะต้องมีประโยชน์อย่างแน่นอน

ภายใต้ความตื่นเต้น หลายวันหลังจากนั้นซูหมิงใช้เวลาเกือบทั้งหมดค้นหาสมุนไพรในเมืองเชมัน นอกจากเจอสมุนไพรบนแผ่นไม้ไผ่บันทึกไม่น้อยแล้ว ยังถึงขั้นพบวัตถุดิบทั้งหมดในการหลอมโอสถชำระล้าง แดนใต้ วิญญาณผา กระทั่งชิงวิญญาณ!

สมุนไพรเหล่านี้ถูกวางขายกระจัดกระจาย มีไม่น้อยเลยที่ถูกใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น ทว่าในสายตาซูหมิง สมุนไพรพวกนี้ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่า

เพียงแต่ผลึกเชมันของซูหมิงมีจำกัดจริงๆ แม้ราคาสมุนไพรเหล่านี้จะไม่สูง แต่หากซูหมิงคิดจะซื้อมันทั้งหมด ราคาย่อมไม่น้อยแน่ อีกทั้งอูตัวยังเคยบอกว่าถ้าหากอยากพึ่งโชคในงานพนันสมบัติ จะต้องเตรียมผลึกเชมันไว้จำนวนมาก

ทว่าซูหมิงไม่ได้สนใจงานพนันสมบัติครั้งนี้มากนัก ในความคิดเขาสมบัติเหล่านี้มีโอกาสได้น้อยเกินไป อีกทั้งเขาก็ไม่มีผลึกเชมันไปพนันมากขนาดนั้น รายจ่ายกับสิ่งที่ได้รับมาห่างกันเกินไป

‘ไม่ต้องเข้าร่วมงานพนันสมบัติได้ แต่ตอนนี้ผลึกเชมันที่ใช้ซื้อสมุนไพรใกล้จะหมดแล้ว เรื่องนี้ยุ่งยากเอาการอยู่…’ ครึ่งเดือนต่อมา ซูหมิงยืนอยู่ข้างหน้าต่างโรงเตี๊ยม ทั้งดีใจและเป็นกังวล ที่ดีใจคือในครึ่งเดือนนี้เขาแทบจะเดินเข้าทุกร้านในเมืองเชมันแล้ว และซื้อวัตถุดิบมาจำนวนมาก ทำให้เขามั่นใจว่าจะหลอมเม็ดโอสถได้มากขึ้น ต่อให้เป็นโอสถชิงวิญญาณ นอกจากศพคนที่หายากแล้ว ในด้านวัตถุดิบเขาก็หลอมได้อีกเป็นสิบเม็ดทีเดียว

ส่วนที่กังวลคือตอนนี้เขาขาดผลึกเชมัน เมื่อเห็นสมุนไพรอีกไม่น้อยที่ยังซื้อไม่ได้ในเมืองเชมัน จึงทำให้ซูหมิงเป็นกังวลว่าหากพลาดโอกาสนี้ไป กว่าจะได้มาโลกเก้าหยินอีกครั้งก็ไม่รู้ว่าอีกกี่ปี

‘ช่างเถอะ สงสัยคงต้องขายเม็ดโอสถอีกครั้งแล้ว ดีที่หลายวันมานี้ตอนซื้อสมุนไพรแอบได้ยินมาบ้างเลยเข้าใจมากขึ้น แม้การขายกับแลกเปลี่ยนเม็ดโอสถจะหายาก ทว่าก็ยังมีอยู่’ นัยน์ตาซูหมิงขยับประกายและตัดสินใจเด็ดขาด หลายวันมานี้เขาสอบถามแบบอ้อมๆ ว่ามีเม็ดโอสถอย่างเช่นโอสถชำระล้างขายหรือไม่

หลังจากเดินเกือบทั้งเมืองแล้ว เขาก็พบว่าในร้านค้าเมืองนี้มีเม็ดโอสถชำระล้างขายอยู่สองเม็ดจริงๆ ทว่าประสิทธิภาพด้อย

อีกทั้งวิธีการหลอมและกลิ่นยังทำให้ซูหมิงมองแวบเดียวก็รู้เลยว่าน่าจะเหมือนกับโอสถชำระล้างของตน แม้ว่าจะมีความต่างอยู่เล็กน้อยก็ตาม!

ซูหมิงยกมือขวาแล้วพลิกฝ่ามือ ตรงกลางฝ่ามือเขาปรากฏโอสถชำระล้างสามเม็ด โอสถทั้งสามเม็ดนี้มีสีสันมันวาว โชยกลิ่นหอมสมุนไพรสดชื่น ดูไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง

ซูหมิงมองเม็ดโอสถชำระล้างสามเม็ดในมือ เมื่อเก็บเข้าไปแล้วก็นั่งขัดสมาธิลงบนเตียงในห้อง หลับตาทำสมาธิ

ครึ่งเดือนนี้เขาไม่มีเวลาไปสนใจหลันหลันกับอาหู่ ทว่าก็ประทับจิตสัมผัสเอาไว้ในตัวเด็กทั้งสองคน หากมีอันตราย ซูหมิงจะรีบไปช่วยเหมือนเมื่อครึ่งเดือนก่อน

ซูหมิงรับปากเอาไว้แล้ว หากเขาไม่รับปากกับจ้าวเชมันเผ่าโคขาวคงไม่เป็นอะไร แต่ในเมื่อรับปากแล้วเขาก็จะทำให้สำเร็จอย่างสุดความสามารถ การให้ความสำคัญกับคำสัญญาเช่นนี้ คนอื่นเห็นเพียงภายนอกเท่านั้น ทว่าความจริงเป็นเพราะในใจเขาไม่อยากผิดคำสัญญากับใครอีก…

ฉะนั้นแม้ซูหมิงจะดูเหมือนไม่ค่อยสนใจหลันหลันกับอาหู่ แต่จริงๆ แล้วกลับมิใช่เช่นนั้น

หนึ่งคืนผ่านไป ยามเช้าตรู่มาเยือน ซูหมิงลืมตาจากสมาธิ นัยน์ตาขยับวูบไหว ก่อนยืนขึ้นเดินออกจากห้อง หนานกงเหินยังคงปิดด่านนั่งฌาน ครึ่งเดือนแล้วยังไม่ออกมา หลังจากกวาดสายตามองห้องของหนานกงเหินแวบหนึ่งเขาก็ละสายตากลับ แล้วจึงออกจากโรงเตี๊ยมไป

หลังจากเดินอยู่ในเมืองเชมันครู่หนึ่งแล้ว ซูหมิงพลันเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาโดยไม่มีใครสังเกต หน้ากากหายไป สวมงอบบนศีรษะ รูปร่างดูกำยำขึ้นเล็กน้อย ส่วนที่กำยำขึ้นนั้นคนนอกมองไม่ค่อยเห็นรายละเอียด ทว่าจริงๆ แล้วนี่คือแมลงปีกแข็งสีดำของจีอวิ๋นไห่ร่างแยกเขา ภายใต้จิตของร่างแยก มันเกาะอยู่บนตัวซูหมิง ทำให้รูปร่างเขากำยำและสูงขึ้นอีกหนึ่งรอบ

เมื่อปรับเปลี่ยนเสร็จแล้ว ซูหมิงมาปรากฏตัวอยู่นอกร้านค้าที่ดูใหญ่แห่งหนึ่งบนถนนซึ่งค่อนข้างครึกครื้น ร้านนี้มีหกชั้น ร้านค้าแบบนี้ในเมืองเชมันมีประมาณสิบกว่าหลังเท่านั้น

ตรงหน้าสุดของร้านค้ามีศิลาหินปักอยู่ ด้านบนแกะสลักเป็นตัวอักษรใหญ่ฉวัดเฉวียนว่า…หอเก้าเชมัน!

หอเก้าเชมันแห่งนี้ซูหมิงเคยมาแล้วสองครั้งในเวลาครึ่งเดือน ทุกครั้งจะมาซื้อสมุนไพรไปไม่น้อย เขารู้ว่าที่นี่เป็นแหล่งที่มีสมุนไพรค่อนข้างครบครัน อีกทั้งนอกจากสมุนไพรแล้ว หอแห่งนี้ยังแทบจะขายทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นของวิเศษ สิ่งของ หรือของพิเศษเฉพาะที่มีในโลกเก้าหยิน กระทั่งยังมีพวกข้อมูลลับบางอย่างด้วย

ซูหมิงละสายตากลับก่อนเดินเข้าไปในหอเก้าเชมัน ยามนี้เขาสวมงอบ ปล่อยจิตสัมผัสปกคลุมรอบตัว และยังมีพลังของวิญญาณแรกแฝงอยู่ภายใน ทำให้กลิ่นอายพลังในตัวเขาสับสนปนเปยิ่งนัก ทว่ากลับสมดุล

ชั้นหนึ่งของหอใหญ่มาก ดูค่อนข้างกว้างโล่ง ตรงกลางมีผนังหินกว้างใหญ่สูงหลายจั้งอยู่สามจุด ด้านบนมีตัวอักษรขยับวิบวับ ข้างผนังหินสามแห่ง ยามนี้มีชาวเผ่าเชมันจำนวนหนึ่งสวมเครื่องแบบเดียวกันของทางร้านมองตาไม่กะพริบ บ้างก็รีบเดินมารออยู่ตรงสองข้าง หลังจากคุยกันเบาๆ แล้วก็จะพาเข้าไปในห้องลับที่ถูกผนึกสิบกว่าห้องโดยรอบห้องโถงใหญ่ชั้นหนึ่ง

ซูหมิงมาแล้วสองครั้ง มาครั้งที่สามนี้จึงรู้ทางดี เขารู้ว่าตัวอักษรวิบวับบนผนังหินสามจุดนั้นคือของที่ต้องการขาย หากมีคนชอบก็จะเข้ามาเจรจากับผู้ดูแลของร้าน

ตรงท้ายสุดของห้องโถงชั้นหนึ่งมีอาคมเคลื่อนย้ายขนาดราวหลายจั้งอยู่หนึ่งจุด อาคมเคลื่อนย้ายนี้จะส่งขึ้นไปเพียงชั้นสองเท่านั้น นอกจากสิ่งนี้แล้วก็ไม่มีวิธีขึ้นชั้นสองอย่างอื่นอีก

ซูหมิงกวาดสายตามองห้องโถงใหญ่ ใบหน้าของเขาถูกงอบปกปิดอยู่ คนนอกจึงมองไม่เห็น หากแต่กลิ่นอายพลังสับสนปนเปทว่าสมดุลในตัวกลับดึงดูดความสนใจของผู้ดูแล ชายวัยกลางคนหนึ่งในนั้นรีบเดินเข้ามาและประสานมือคารวะซูหมิง

“สหาย มีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่?” ชายวัยกลางคนเป็นเชมันระดับกลาง อีกทั้งยังดูไม่ธรรมดา เขามองซูหมิงด้วยรอยยิ้ม

“ข้ามาขายของ!” ซูหมิงกล่าวเรียบๆ ไม่พูดเยอะนัก

“อ้อ? ไม่ทราบว่าท่านจะขายสิ่งใด หอเก้าเชมันของเราจะตั้งราคาสมบัติทุกอย่างในโลกนี้ตามที่ควรจะเป็นโดยให้ท่านพอใจด้วย” ขณะชายวัยกลางคนยิ้มน้อยๆ ปลดปล่อยประสาทสัมผัสปกคลุมตัวซูหมิง ทว่าพลันถูกพลังมหาศาลดีดกลับอย่างแรง ทำให้ชายวัยกลางคนหน้าเปลี่ยนสี ถอยไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัว

“หอเก้าเชมันไม่รู้ระเบียบเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน” เสียงแหบแห้งดังมาจากใต้งอบซูหมิง เสียงเขาเย็นเยียบยิ่งนัก ปานไอหนาวที่บีบคั้นผู้คน

หลังจากชายวัยกลางคนถูกจิตสัมผัสของซูหมิงดีดกลับ ยามนี้มีเสียงเปรี้ยงดุจฟ้าผ่าดังในความคิด ความแข็งแกร่งของจิตสัมผัสซูหมิง แม้แต่เชมันระดับปลายยังต้องชำเลืองมอง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเชมันระดับกลางเลย ชายวัยกลางคนหน้าซีดขาว ขณะกำลังจะกล่าว ซูหมิงก็แค่นเสียงหึแล้วสะบัดมือขวา โยนขวดเล็กสีขาวออกไปหนึ่งขวด

“เอาสิ่งนี้ให้เจ้านายของเจ้าดู จะรับหรือไม่รับ ข้าจะรอเพียงหนึ่งก้านธูป!”

น้ำเสียงซูหมิงเย็นชา ชายวัยกลางคนรับขวดสีขาวนั้นมา ขณะยังตื่นตะลึงในระดับพลังของซูหมิงก็เปิดขวดนั้นแล้วก้มหน้าลองดม จากนั้นขมวดคิ้วขึ้น ในขวดนี้มีกลิ่นหอมหมุนไพร ดมดูแล้วไม่ธรรมดา ทว่าภายในกลับว่างเปล่า มีเพียงเศษเสี้ยวกลิ่นหอมเท่านั้น

หลังจากชายวัยกลางคนประสานมือคารวะซูหมิงอย่างระมัดระวังแล้วก็เดินหายเข้าไปในอาคมเคลื่อนย้าย

ซูหมิงยืนอยู่กลางห้องโถง ใบหน้าใต้งอบเป็นปกติ แต่หลังจากชายวัยกลางคนหายไปไม่ถึงครึ่งก้านธูป อาคมเคลื่อนย้ายก็ส่องสว่างอีกครั้ง ชายคนเดิมเดินออกมาด้วยสีหน้าตื่นตะลึง ด้านหลังเขายังมีชายชราอีกหนึ่งคนเดินตามมาด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!