Skip to content

สู่วิถีอสุรา 697

ตอนที่ 697 ต่างกับความทรงจำ

‘ข้ามาจากที่ใด…’ ซูหมิงสะบัดแขนเสื้อ พลันมีเสียงระเบิดกึกก้องตรงหน้าและเกิดทะเลเพลิงลุกโชติช่วง มองไกลๆ มากกว่าครึ่งฟ้าดินเป็นโลกแห่งเปลวเพลิง

‘เหตุใดข้าถึงเกิดเป็นเด็กทารกที่ตายแล้ว…’ ซูหมิงตาแดงก่ำ มือซ้ายทำสัญลักษณ์มือชี้ไป มวลอากาศตรงหน้าระเบิดในทันที เกิดรอยร้าวลุกลามไปอย่างเร็วรี่ หากสัมผัสจุดใดของร่างกายเซียน จุดนั้นจะแยกออกจากร่างกาย

‘ข้ามีชาวเผ่าหรือไม่…’ ซูหมิงกระโดดลอยขึ้น ใบหน้าเขาเหยเก มีเส้นเลือดดำปูดนูน ความเจ็บปวดในร่างกายทำให้เขาคลุ้มคลั่งขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งความเจ็บปวดรุนแรงมากเท่าไร เขาก็จะยิ่งระเบิดปะทุ ใช้วิธีนี้มารับมือกับความเจ็บปวด

ความเจ็บปวดทำให้คนเสียสติ นี่เป็นเรื่องปกติ ทว่าความเจ็บปวดก็ทำให้คนคลุ้มคลั่งได้เช่นกัน นี่คือวิธีแก้!

‘ข้า…มีบิดามารดาหรือไม่!’ ซูหมิงร้องคำรามพร้อมกับบุกทะลวงไป ใช้ศีรษะกระแทกใส่ชายชราเผ่าเซียนคนหนึ่ง ชายชราผู้มีขั้นพลังเซียนก้าวที่สองคนนี้ ตอนนี้อ่อนแอราวกับกระดาษ หลังจากเขาพุ่งชนด้วยความบ้าคลั่ง ศีรษะชายชราระเบิดกระจุยเหมือนกับของเหลวข้นๆ ร่างดิ่งลงสู่พื้น จิตแรกถูกบดขยี้

‘ข้า…..มีบ้านหรือไม่!’ ซูหมิงใช้สองมือคว้าร่างเซียนคนหนึ่งตรงหน้าเอาไว้ แล้วออกแรงฉีกภายใต้ความเจ็บปวดในร่างกาย ร่างเซียนผู้นี้จึงถูกฉีกแบ่งครึ่งตรงกลางออก

‘ข้าคงอยู่เพราะเหตุใดกันแน่!’ จุดที่ซูหมิงผ่านจะมีโลหิตเป็นสายฝน จำนวนการสังหารมากจนเผ่าหมานตื่นตะลึง ขณะเดียวกันพวกเขาก็ร้องคำรามด้วยความตื่นเต้น และเข่นฆ่าเซียนอย่างบ้าคลั่ง

‘เจ้าทำให้ข้าเจ็บ ข้าก็จะใช้การสังหารคืนหลายเท่ามาโต้กลับ!’ ซูหมิงยกมือขวาเรียกทวนฝังอสูร เมื่อปาออกไปก็เกิดเสียงโครมดังสนั่น มีเสียงกรีดร้องดังกังวาน

ตอนนี้เอง วงแหวนอาคมสี่จุดบนฟ้าขยับแสงวูบวาบสว่างจ้า แล้วมีเซียนอีกหลายพันคนลงมาเยือนพร้อมกัน หลังจากปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว ลำแสงสี่เส้นระเบิดมาจากในวงแหวนอาคมสี่จุด มีลำแสงสองเส้นพุ่งมายังแผ่นดิน แล้วระเบิดบนปราการไร้รูปที่ซูหมิงวางเอาไว้ ปราการนั้นพังทลายลงในทันที ทำให้เผ่าหมานบนพื้นบินขึ้นมาได้

ส่วนลำแสงอีกสองเส้นตรงไปหาซูหมิงในชั่วพริบตาเดียว ซูหมิงพลันหันหน้ากลับ ยกมือขวากดไปทางลำแสงเส้นที่หนึ่งที่เข้ามาใกล้ เสียงครึกโครมดังสนั่น ลำแสงบิดเบี้ยวก่อนพังทลายลง แต่ขณะเดียวกันลำแสงเส้นที่สองก็เข้ามาระเบิดบนตัวเขา

ซูหมิงซวนเซถอยไปสิบกว่าจั้ง ตรงมุมปากมีโลหิตไหล ทว่าดวงตาสองข้างกลับแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นเซียนหลายพันคนที่มาเยือนก็ตรงเข้าไปหาเขาทั้งหมด ในเวลาเดียวกัน เมื่อปราการบนพื้นดินพังลง เผ่าเซียนที่กำลังเข่นฆ่ากับเผ่าหมานบนพื้นล้วนบินขึ้นมา ทำให้สนามรบขยายใหญ่ขึ้นในทันที

ซูหมิงกำลังสังหาร ทั้งเผ่าหมานก็กำลังร้องคำรามอยู่กลางสงคราม สงครามครั้งนี้ยืดยาวมาจนถึงตอนนี้ กลายเป็นสภาพการณ์ที่ไม่มีวันดับสูญ

เผ่าหมานทั้งหมดจะสูญสิ้นสายเลือด หรือไม่ก็เผ่าเซียนจะล้มเลิกการมาเยือน จากนี้ไปไม่ว่าอย่างใดอย่างหนึ่งจะไม่ปรากฏตัวบนโลกหมานอีก ได้แต่รอคอยความตายเท่านั้น

ซูหมิงชกหมัดใส่อากาศดังโครม ระลอกคลื่นสั่นสะเทือนเผ่าเซียนรอบๆ จากนั้นใช้มือซ้ายคว้าไป เซียนสามคนทางด้านซ้ายพลันร้องด้วยความสิ้นหวัง ก่อนร่างระเบิดโลหิตจำนวนมากจากทุกทางม้วนตรงเข้าไปยังเมืองหลวงต้าอวี๋กลางอากาศ ส่งผลให้น้ำแข็งของเมืองละลายอย่างรวดเร็ว กระทั่งมีบางจุดเผยออกมาแล้ว

หลังจากคว้าฝ่ามือไป ซูหมิงพลันหมุนตัวแล้วใช้นิ้วชี้มือขวากดไปทางพายุหมุนที่กำลังม้วนเข้ามาจากด้านข้าง เมื่อชี้นิ้วไป เขาก็เห็นใบหน้าคนที่ลอบโจมตีตนโดยไม่สนสิ่งใดอย่างแจ่มชัด

นั่นคือ…จิงหนาน!

เจ้าสำนักซ่อนมังกรบนโลกหมาน และเป็นจ้าวหมานเผ่าร่องลมในความทรงจำ จิงหนาน!

“จากนี้ไป เจ้าจะถูกลบออกจากความทรงจำข้า!” นัยน์ตาซูหมิงเต็มไปด้วยเส้นเลือด ช่วงที่น้ำเสียงหนาวเยือกทิ่มกระดูกเข้าถึงหูจิงหนาน นิ้วชี้มือขวากดตรงระหว่างคิ้วจิงหนานแล้ว

เสียงโครมดังขึ้น ร่างจิงหนานระเบิดกระจาย และสิ้นใจลงเดี๋ยวนั้น

“ซูหมิง!” เสียงคำรามด้วยความโกรธแว่วมาจากกลุ่มคน นั่นคือเฉินชง!

โอรสสวรรค์แห่งเผ่าร่องลมในความทรงจำ ยามนี้พอเห็นซูหมิงสังหารจิงหนาน ตนจึงมีสีหน้าเศร้าเสียใจพร้อมกับตรงมายังซูหมิง ช่วงที่เข้าใกล้ เขาก็ใช้มือขวาคว้าอากาศ พลันปรากฏขวดล้ำค่าในมือ

“หากเจ้าลงมือกับข้า ข้าก็จะลบเจ้าออกจากความทรงจำเช่นกัน” ซูหมิงกล่าวเสียงเบา เฉินชงพลันเข้ามาใกล้ ตอนที่ยกขวาล้ำค่าในมือ ก็เป่าสายลมหนาวออกมาจากในปากขวด ลมหนาวนี้มาพร้อมกับเสียงครืนๆ หมุนม้วนตรงไปหาซูหมิงอย่างไม่ลังเลนัยน์ตาซูหมิงแวววาว เขายกมือขวาอย่างเงียบเชียบ ก่อนใช้ฝ่ามือรับสายลมหนาวเอาไว้ เมื่อทะยานผ่านมาแล้วก็กดบนขวดล้ำค่า ขวดสั่นสะท้านก่อนระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ กระเด็นไปรอบๆ ทว่าความเร็วจากแรงกระเด็นไม่เท่ามือขวาซูหมิง เขาทะลวงมือขวาผ่านขวดล้ำค่านั้นเข้ามาบีบคอเฉินชง

ด้วยความต่างอย่างยิ่งของขั้นพลัง ซูหมิงจึงสังหารเฉินชงได้อย่างง่ายดาย

“เจ้าจงใจรนหาที่ตายรึ?” ซูหมิงบีบคอเฉินชงพลางมองโอรสสวรรค์แห่งเผ่าร่องลมในความทรงจำ บุคคลนี้เป็นดั่งดาวล้อมเดือนในความทรงจำ ส่วนตนทำได้เพียงยืนมองอยู่ข้างๆ

“รนหาที่ตายแล้วอย่างไร เจ้าสังหารเซียนมากขนาดนี้ ก็สังหารข้าเพิ่มไปอีกหนึ่งจะเป็นอะไรไป ซูหมิง เจ้าไม่ใช่เจ้าตอนอยู่ภูเขาทมิฬแล้ว เจ้า….” ซูหมิงพลันออกแรงบีบ เฉินชงยังกล่าวไม่จบก็สิ้นลมหายใจไปเสียก่อน พลังมหาศาลจากซูหมิงบดขยี้จิตแรกเขาทันที

“อย่าพูดชื่อภูเขาทมิฬต่อหน้าข้า…เจ้าไม่คู่ควร!” ซูหมิงคลายมือออก แล้วมองไปรอบๆ ในกลุ่มเซียนเหล่านี้ เขาเห็นใบหน้าคุ้นเคยในความทรงจำเหล่านั้นกำลังมองตนด้วยความเย็นชา

ในสายตาเหล่านั้นมีบางคนมองด้วยความซับซ้อนในความเย็นชา นั่นคืออูลา เฉินซิน เป่นหลิงและหนานซง…..

“เจ้าสังหารเฉินชง สังหารจิงหนาน…เช่นนั้นก็สังหารพวกเราด้วยเถอะ!” คนที่กล่าวคือเล่อสั่ว ท่านยายของไป๋หลิงในความทรงจำ

หญิงชราคนนี้ขยับวูบไหว พุ่งตัวออกจากกลุ่มเซียนที่กำลังต่อสู้อยู่ ตรงมาหาซูหมิงด้วยความดุร้าย ซับซ้อน และเคียดแค้น

ซูหมิงนิ่งเงียบ ช่วงที่เล่อสั่วเข้ามา เขายกมือขวากดนิ้วไป เล่อสั่วยังไม่ทันเข้ามาใกล้ก็สั่นสะท้านไปทั่วร่าง ศีรษะระเบิดกระจุยตายตกลงไป คนในความทรงจำซูหมิงทั้งหมด พอเห็นเล่อสั่วตายแล้วก็พากันเงียบอยู่บนสนามรบที่กำลังเข่นฆ่ากันอย่างดุเดือด

ซูหมิงเงยหน้ากวาดสายตามองแผ่นดิน ก่อนขมวดคิ้วขึ้น แค่นเสียงหึแล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว ทันใดนั้นเขาก็ชนกับร่างคนที่โผล่ขึ้นมาจากมวลอากาศด้านหลังอย่างกะทันหัน

เสียงร้องโหยหวนดังกึกก้อง ร่างเงาด้านหลังเผยออกมาเป็นรูปลักษณ์บรรพบุรุษเทียนหลัน ร่างเขาแยกออกเป็นชิ้นๆ เห็นได้ชัดว่าถูกซูหมิงชนจนพลังชีวิตในร่างกายพินาศลง

“บรรพบุรุษเทียนหลัน” ซูหมิงยกมือซ้ายคว้าไปทางบรรพบุรุษเทียนหลันผู้ใกล้ตายที่กำลังถอยหนี ทันใดนั้นชายชรากระอักโลหิต ร่างบิดเบี้ยว ก่อนตรงเข้ามาหาซูหมิง และถูกบีบหน้าอกไว้

“ซูหมิง!” ฉับพลันนั้นมีสายรุ้งสองเส้นลากยาวมาจากสนามรบ นั่นคือ…เทียนหลันเมิ่งกับเทียนหลันโยว พวกนางสองคนเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว คนที่ตะโกนชื่อซูหมิงคือเทียนหลันเมิ่ง ส่วนเทียนหลันโยวตรงเข้ามาด้วยใบหน้าเฉยชา พุ่งเข้าไปหาซูหมิงราวกับแมงเม่าบินเข้ากองไฟ

ซูหมิงมองเทียนหลันเมิ่งแวบหนึ่ง มือขวาหยุดชะงักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนบีบหน้าอกบรรพบุรุษเทียนหลันจนแหลก แม้แต่หัวใจกับจิตแรกในร่างกายยังแหลกละเอียด

เทียนหลันเมิ่งหน้าซีดขาว ร่างโซเซถอยไปหลายก้าว ตอนนี้เทียนหลันโยวเข้ามาใกล้ซูหมิงแล้ว นางยกมือขวาทำสัญลักษณ์มือชี้ไปทางเขา

ซูหมิงมีสีหน้าเย็นชา ชั่วขณะที่เทียนหลันโยวเข้ามาใกล้ เขาพลันยกมือขวาคว้ามืองามของนางเอาไว้ แล้วยกขึ้นพร้อมกับเสียงดังกึก มือขวาเทียนหลันโยวผิดรูป รวมถึงแขนนางก็ถูกหมุนกลับด้าน ก่อนแตกหักในทันที

เหงื่อเย็นๆ ซึมมาจากหน้าผากเทียนหลันโยว แต่นางกลับกัดฟันแน่น

“ตอนนั้นบรรพบุรุษเทียนหลันเคยทำร้ายข้า ข้าต้องสังหารเขา ส่วนเจ้าสองคน…”

ซูหมิงมองเทียนหลันเมิ่งแวบหนึ่ง แล้วคลายมือจากมือเทียนหลันโยว ก่อนสะบัดมือผลักนางถอยไปหลายสิบจั้ง กลับไปอยู่ข้างเทียนหลันเมิ่ง

“จงอยู่ในที่ของเจ้า!”

“ส่วนพวกเจ้า…” ซูหมิงกวาดสายตามองใบหน้าคุ้นเคยในความทรงจำบนพื้นดิน

“วันนี้ข้าจะให้พวกเจ้าไป จากนี้ไปถือว่าไม่รู้จักกัน!” ซูหมิงขยับวูบไหวไปข้างหน้า มาปรากฏอยู่ตรงหน้าซือคงแห่งสำนักธุลีอสูร จากนั้นกดนิ้วตรงระหว่างคิ้วขณะอีกฝ่ายยังตัวสั่นงันงก

“แต่ไม่รวมเจ้า” ซูหมิงเดินหน้าอีกครั้ง ครั้งนี้มาปรากฏอยู่ตรงหน้าปี้ซู่ สตรีผู้นี้หน้าเปลี่ยนสี ห้อเหยียดถอยไปทันที ซูหมิงมีสีหน้าเรียบนิ่ง เพียงกดนิ้วผ่านอากาศ ปี้ซู่ก็พลันกรีดร้อง ร่างแหลกเป็นชิ้นๆ

“และก็ไม่รวมเจ้าด้วย” ซูหมิงหมุนตัวกลับไปมองพี่ชายของปี้ซู่ อีกหนึ่งปี้ซู่แห่งสำนักเซียนอสูร ชายคนนี้หน้าซีดขาว ทว่ากลับเลือกระเบิดตัวเองตายด้วยความเหี้ยมโหด เห็นได้ชัดว่าจะใช้แรงระเบิดตัวเองสร้างบาดแผลให้ซูหมิง แม้ว่าตนต้องตายก็ตาม

แต่ยังไม่ทันระเบิดตัว ซูหมิงก็เดินผ่านข้างกายไปพร้อมกับศีรษะของเขา

“และยังมีเจ้า” ซูหมิงมาปรากฏตัวตรงหน้าปี้ถู่ จ้าวหมานเผ่าภูผาดำในอดีต ตอนนี้เป็นเจ้าสำนักกระหายอสูรบนแผ่นดินหมาน เมื่ออยู่ต่อหน้าซูหมิง เขาไม่มีแรงต่อต้านใดๆ เลย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!