ตอนที่ 823 ง่ายดายเช่นนี้เอง
ซูหมิงยกเท้าขึ้น ยามที่ทุกคนโดยรอบตื่นตะลึงเพราะเสียงระเบิดจากวงแหวนอาคม เขาเดินหน้าหนึ่งก้าว เมื่อก้าวเดินร่างพลันหายวับไป
การหายไปของเขาไม่ได้สร้างความตื่นตะลึงต่อคนอื่น เพราะซูหมิงแกร่งที่สุดในใจพวกเขาอยู่แล้ว ทว่ามังกรยมโลกด้านข้างกลับหรี่ตาลงทันควันและเผยอาการไม่อยากเชื่อ เหม่อมองตรงจุดที่ซูหมิงหายไป
เสี้ยววินาทีเมื่อครู่นี้มันรู้สึกถึงกลิ่นอายพลังแห่งโลกเด่นชัด กระทั่งยังรู้สึกถึงอันตรายจากซูหมิง นั่นคืออันตรายที่มีอำนาจคุกคามต่อมัน จึงทำให้มันเหลือเชื่อ
โครม!
ภายในปราการหมู่เกาะไกลออกไป เต้าหยวนกับทาสเต๋าห้าคนเพิ่งจะเข้ามา ช่วงที่เต้าหยวนผู้ทำสีหน้าโอหังเพิ่งลอยขึ้น กำลังจะกล่าวคำพูดที่เตรียมมาอย่างดี ทาสเต๋าห้าคนข้างกายเขาพลันหน้าเปลี่ยนสีอย่างเด่นชัด
แทบเป็นช่วงที่พวกเขาหน้าเปลี่ยนสี ซูหมิงเดินออกมาจากอากาศด้วยใบหน้าเฉยชา ทว่าจิตสังหารในแววตาเหลือล้น ทันทีที่ปรากฏตัว เขาก็ตรงไปหาเต้าหยวนโดยไม่หยุดแม้แต่น้อย
“ผู้แข็งแกร่ง ผู้แข็งแกร่งระดับเจ้าปกครองโลก บัดซบ เหตุใดที่นี่ถึงมีเจ้าปกครองโลกได้!”
“คุ้มกันนายน้อย เขามีกลิ่นคาวเลือดเข้มข้น พลังแห่งโลกยิ่งใหญ่ นี่มัน…กลิ่นคาวเลือดของการสังหารเจ้าปกครองโลกระดับเดียวกันมาจำนวนมาก!”
ขณะที่ทาสเต๋าห้าคนหน้าเปลี่ยนสี มีคนหนึ่งคว้าเต้าหยวนพาถอยไปทันที สี่คนที่เหลือกลายเป็นสายรุ้งยาวสี่สายตรงไปหาซูหมิง ช่วงที่สี่คนนี้เข้ามาใกล้ ขั้นพลังในร่างกายปะทุขึ้นทุกส่วน แต่น่าเสียดาย…บนโลกหมานแห่งนี้ ถึงพวกเขาจะเป็นเจ้าปกครองโลกตอนต้นแต่ก็ถูกระงับพลังแห่งโลกเอาไว้ ใช้ได้เพียงกำลังรบ ในตอนนั้นสามารถทำให้ซูหมิงสิ้นหวังได้แล้ว ทว่าตอนนี้…
ซูหมิงห้อเหยียดเข้าไป พริบตาเดียวก็ปะทะกับสี่คน ช่วงที่เกิดเสียงครึกโครมสนั่นหวั่นไหว เขาชกหมัดขวาใส่ทาสเต๋าสิบเก้า
ทาสเต๋าสิบเก้าพลันเบิกตากว้าง ตอนนี้ร่างแหลกเป็นเสี่ยงๆ เลือดเนื้อระเบิดกระจุย…..ไม่อยากเชื่อว่าจะถูกซูหมิงสังหารในพริบตายามเข้าห้ำหั่นกัน พลังแห่งโลกที่มีการทำลายล้างหลั่งทะลักเข้าสู่ร่างกายแหลกลาญแล้วฉีกทึ้งจิตแรก ลบจิตวิญญาณ ทำลายล้างจนสูญสิ้นไป
ขณะเดียวกัน ทางด้านทาสเต๋าสามคนที่เหลือ เวลานี้วิชาอภินิหารของพวกเขาโจมตีโดนตัวซูหมิงทั้งหมด ทว่าพวกเขากลับต้องตกตะลึง เพราะวิชาไม่มีผลใดๆ กับอีกฝ่ายเลย กระทั่งยังชะลอความเร็วไม่ได้ ได้แต่มองทาสเต๋าสิบเก้าถูกทำลายไปต่อหน้าต่อตา
“อย่าว่าแต่พวกเจ้าใช้พลังแห่งโลกไม่ได้เลย ต่อให้ใช้พลังแห่งโลกก็เป็นเพียงเจ้าปกครองโลกตอนต้นเล็กจ้อย…แซ่ซูสังหารได้ไม่ยาก อีกอย่างพวกเจ้าในตอนนี้…สังหารง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ!” ซูหมิงหมุนตัวกลับ นัยน์ตาเผยความแค้นเหลือประมาณ น้ำเสียงประหนึ่งลมหนาวพัดผ่าน ทำให้ทาสเต๋าสามคนใจสั่นไหว
ทาสเต๋าห้าสิบเอ็ดกำลังพาเต้าหยวนทะยานหนีไป ส่วนเต้าหยวนที่มีสีหน้าหวาดกลัว ยามนี้หวาดผวายิ่งกว่าเดิม เพราะทาสเต๋าสามคนตรงหน้าซูหมิงถอยร่นมา ความแกร่งของซูหมิงทำให้พวกเขารู้สึกถึงแรงกดดันแก่กล้า กระทั่งคำพูดอีกฝ่ายฟังแล้วยังไม่มีความอวดดีใดๆ
เป็นจริงดั่งที่ฝ่ายตรงข้ามว่า ต่อให้พวกเขาใช้พลังแห่งโลกได้ เกรงว่าก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนตรงหน้า โดยเฉพาะกลิ่นอายการเข่นฆ่าจากตัวอีกฝ่ายที่สร้างความหวาดกลัวแก่พวกเขา ไม่รู้ว่าสังหารคนไปแล้วเท่าไรถึงรวมเป็นกลิ่นคาวเลือดแบบนี้ได้ พวกเขาไม่มีสิทธิ์ล่วงเกินผู้แข็งแกร่งระดับนี้เด็ดขาด เพียงแต่ว่าจู่ๆ ซูหมิงก็ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน กระทั่งพวกเขายังไม่รู้ว่าไปล่วงเกินอะไรเข้า
ควรรู้ว่าถึงพวกเขาจะมาด้วยจิตสังหาร ทว่าก็ยังไม่ได้ทำลายที่นี่แม้แต้น้อย อย่างมากสุดก็แค่ฉีกปราการผนึก
“เข้าใจผิดแล้ว ท่านอย่าเพิ่งโกรธ พวกเราเป็นคนสำนักดาราสัจธรรม เรื่องนี้เข้าใจผิดกัน”
“ใช่ พวกเราเพียงผ่านทางมาที่นี่ คุ้มกันนายน้อยเข้ามา ไม่รู้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ฝึกฝนของสหาย พวกเราขออภัย เราจะรีบไปกันเดี๋ยวนี้เลย”
“ท่านมีขั้นพลังไม่ธรรมดา จะต้องไม่ใช่คนไร้ชื่อเสียงแน่นอน พวกเราสองฝ่ายไม่มีความแค้นต่อกัน เรื่องนี้เข้าใจ….” สามคนรีบกล่าว ความแกร่งของซูหมิงทำให้พวกเขาตระหนก ตอนนี้เลยไม่สืบสาวเอาเรื่องความตายของทาสเต๋าสิบเก้าอีก การออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดต่างหากคือสิ่งสำคัญ ฉะนั้นจึงต้องวางท่าทีนอบน้อมมาก และยังประสานมือขออภัย ง
เพียงแต่ว่าสามคนยังกล่าวไม่จบ ซูหมิงก็หัวเราะเสียงแหลม ขัดคำพูดของพวกเขาทันที
“ไม่มีความแค้นอย่างนั้นรึ?” เสียงหัวเราะเขาแหลมสูงอย่างยิ่ง และยังมีความแค้นมหาศาลสะท้อนออกมา เขากล่าวขึ้นพร้อมกับเดินหน้าหนึ่งก้าว ทาสเต๋าสามคนหน้าเปลี่ยนสี รู้ว่าถ้าถอยก็ต้องตายอยู่ดี เวลานี้จึงพุ่งไปหาซูหมิงด้วยดวงตาแดงก่ำ
โครม โครม โครม!
“ไม่มีความแค้นต่อกัน พวกเจ้าบอกว่าไม่มีความแค้นกับแซ่ซูอย่างนั้นรึ!” เกิดเสียงระเบิดใต้เท้าซูหมิง แสงทองอ่อนพลันขยายออกไปพันจั้ง เข้าปกคลุมรอบๆ สร้างเป็นหมอกสีทองหมุนตลบ นี่คือพลังแห่งโลกของเขา
มิหนำซ้ำวินาทีที่พลังแห่งโลกปะทุออกมา ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดหนึ่งในสามคนร่างระเบิดกระจาย ถูกพลังแห่งโลกของซูหมิงบดขยี้จนแหลก
“พวกเราจะไม่มีความแค้นต่อกันได้อย่างไร!” ซูหมิงกล่าวเสียงดังกังวานพลางขยับวูบไหวมาอยู่ข้างทาสเต๋าสามสิบเอ็ด แล้วกดนิ้วชี้มือขวาทะลวงระหว่างคิ้วทาสเต๋าสามสิบเอ็ดพร้อมด้วยความแค้น เขาระเบิดศีรษะฝ่ายตรงข้าม และยังปล่อยให้การโจมตีก่อนตายของศัตรูปะทะใส่ร่างโดยไม่สนใจ
“นี่มัน…เสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดารา เขามีเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดารา!” ก่อนตายทาสเต๋าสามสิบเอ็ดเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นตะลึงอย่างสุดขีด นี่คือเสียงสุดท้ายของชีวิตเขา
“พวกเรามีความแค้นฝังลึกต่อกัน!” ซูหมิงพลันหมุนตัวกลับ หลังสังหารทาสเต๋าสามสิบเอ็ดแล้ว ก็มองทาสเต๋าสี่สิบเอ็ดที่หน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง ด้วยความตื่นตะลึงจากคำพูดก่อนตายของทาสเต๋าสามสิบเอ็ด ตอนนี้ก็กำลังถอยไปอย่างเร็วไวและไม่ลังเล
นัยน์ตาซูหมิงเผยจิตสังหารแรงกล้า มิหนำซ้ำในตอนนี้ กระทั่งซูหมิงยังไม่สังเกตเห็นว่า อักขระในดวงตาขวาที่เข้ามาแทนที่ลูกตาเมื่อไม่นานนี้พลันขยับแสงวูบวาบภายใต้จิตสังหารเด่นชัด
ช่วงเวลานี้เอง ทาสเต๋าสี่สิบเอ็ดที่กำลังถอยร่นพลันตัวสั่นเทิ้ม ในดวงตาขวาเขาสะท้อนเป็นเงากลับหัวของรูปอักขระจากในดวงตาขวาซูหมิง
แทบทันทีที่อักขระเพิ่งโผล่มา ทาสเต๋าสี่สิบเอ็ดก็ร้องโหยหวน ร่างกายสั่นไหว ขั้นพลังหายไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ไม่เหลืออะไร กลายเป็นเพียงคนธรรมดา
พร้อมกันนั้น ร่างกายเขาเหมือนจะรับพลังจากแสงวูบวาบของอักขระในดวงตาซูหมิงไม่ไหว ชั่ววินาทีเดียว ร่างกายก็กลายเป็นเถ้าธุลีหายไปโดยไม่มีเสียงระเบิดโครมคราม
เมื่อเขาสิ้นชีพไป ก็มีอักขระตัวหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศ ตรงเข้าไปยังดวงตาขวาซูหมิง หลังหลอมรวมเข้าไปในพริบตาแล้ว อักขระในดวงตาขวาก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และยังสว่างไสวขึ้น
ซูหมิงอึ้งงัน ทว่าตอนนี้เขายังไม่อยากศึกษาความลับในดวงตา แต่มองทาสเต๋าห้าสิบเอ็ดกับเต้าหยวนที่อยู่ไกลออกไปแทน เต้าหยวนหน้าซีดเผือด ตอนที่เห็นซูหมิงมองตน เขาร้องเสียงเล็กแหลมดังชัดเจน
“เจ้าเป็นใคร เจ้าเป็นใครกันแน่ มีเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดารา แต่ข้าไม่เคยเจอเจ้ามาก่อน เจ้าเป็นใคร!” ยามที่เต้าหยวนเพิ่งร้องเสียงเล็กแหลมออกไป ทาสเต๋าห้าสิบเอ็ดข้างกายก็ตัวสั่น ภายในดวงตาปรากฏอักขระแบบเดียวกับของซูหมิง
ไม่มีเสียงครึกโครม ทุกอย่างเงียบเชียบ ขณะทาสเต๋าห้าสิบเอ็ดตัวสั่น ขั้นพลังก็หายไปทั้งหมด ก่อนที่ร่างจะแหลกละเอียดกลายเป็นอักขระตัวที่สองลอยมาหาซูหมิงทันที หลังจากผสานรวมเข้าไปในดวงตาขวาแล้ว อักขระในดวงตาขวาซูหมิงขยับวิบวับรุนแรง จนเกิดเป็นเงาซ้อนทับกัน นี่คือการซ้อนทับกันของอักขระสามตัว
“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ข้ามีเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดารา ไม่มีใครฆ่าข้าได้!” เต้าหยวนตัวสั่นงันงก ร้องเสียงแหลม ในใจหวาดกลัวอย่างสุดขีด เขายกมือขวาสะบัดไป วัตถุที่เขาเอาออกมาก่อนหน้านี้นานแล้วจึงปล่อยพลังการเรียกหาทันที
ในเวลาเดียวกันฟ้าเกิดเสียงอึกทึก มีระลอกคลื่นขยายออกเป็นวงกว้างทีละวง ปรากฏเรือขึ้นทีละลำ บนเรือเหล่านั้นมีร่างเงาคนอยู่จำนวนมาก
“ลงมือ ฆ่ามันให้ข้า ฆ่ามัน!” เต้าหยวนตะโกนเสียงเล็ก แววตามีความบ้าคลั่ง
ทว่าทันทีที่เรือเหล่านั้นรวมถึงร่างด้านบนเรือปรากฏ ซูหมิงยิ้มเยาะมุมปาก เขากำลังรอช่วงเวลานี้อยู่ สังหารเพียงทาสเต๋าห้าคนกับเต้าหยวนยังไม่พอจะระบายแค้น เขากำลังรอคนพวกนี้ต่างหาก เขาจะสังหารพวกมันให้สิ้นซาก!
โครม!
ซูหมิงระเบิดพลังแห่งโลกออกมาทั้งหมด หมอกสีทองอ่อนขยายไปถึงห้าพันจั้งทันใด ทำให้ในระยะห้าพันจั้งกลายเป็นโลกของเขา เขากระโดดลอยขึ้นฟ้า แล้วเข้าปะทะกับเรือเหล่านั้นอย่างจัง
เสียงระเบิดดังไม่มีสิ้นสุดบนน่านฟ้า ไม่มีทาสเต๋าที่บรรลุถึงเจ้าปกครองโลก อย่างแกร่งที่สุดคือระดับฟ้า กระทั่งระดับดินในนั้นยังมีมากกว่าครึ่ง กองกำลังเช่นนี้มีแต่ต้องถูกเข่นฆ่าเมื่อเผชิญหน้าซูหมิง
เสียงระเบิดดังไม่หยุดหย่อน ผ่านไปราวหนึ่งก้านธูป ฟ้ากลายเป็นสีโลหิต และยังมีอักขระลอยขึ้นฟ้าทีละตัว รวมแล้วมากกว่าหลายร้อยตัวได้ อักขระเหล่านี้วนเวียนรอบๆ ขณะที่ซูหมิงกำลังเดินทีละก้าวบนฟ้าพร้อมด้วยกลิ่นคาวเลือด พวกมันก็หลอมรวมเข้าสู่ดวงตาขวาพร้อมกัน ทำให้ดวงตาขวาเขาดูเต็มไปด้วยเงาซ้อนทับพิลึกที่น่ากลัว
ในสายตาเต้าหยวน แผ่นหลังซูหมิงเต็มไปด้วยหมอกโลหิต เมื่อเขาเดินเข้ามาเหมือนมันกลายเป็นเสื้อคลุมตัวหนึ่ง ซูหมิงในตอนนี้สวมเสื้อคลุมผืนฟ้าสีโลหิต กำลังเข้ามาใกล้ตนด้วยกลิ่นอายชั่วร้ายไม่มีสิ้นสุด
“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ เจ้าจะฆ่าข้าไม่ได้ พวกเราไม่มีความแค้นต่อกัน…” เต้าหยวนหวาดกลัวจนสิ้นหวัง ขณะกำลังถอยไปอย่างเร็วรี่ ดวงตาขวาซูหมิงพลันขยับแสงวูบวาบ ทันใดนั้นบนตัวเต้าหยวนปรากฏอักขระพร้อมกันหลายร้อยตัว อักขระเหล่านี้กระจายอยู่ทุกจุดในร่างกายและขยับแสงพร้อมกัน เต้าหยวนเงียบไป ร่างกายแหลกสลายในทันที กระทั่งเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดารายังกลายเป็นเถ้าธุลีด้วย
โลกเงียบสงบลงทันควัน มีเพียงสายตาจากคนบนยอดเขาลำดับเก้าที่แทบจะหายใจติดขัด หลังจากมาปรากฏตัวอยู่รอบๆ ด้วยอาการตะลึงงันแล้ว ก็พากันมองซูหมิง
ซูหมิงยืนเงียบอยู่กลางอากาศ เขาพลันหัวเราะ หัวเราะไปหัวเราะมาก็หันหน้าไปมองผู้คนจากยอดเขาลำดับเก้ารอบๆ มองใบหน้าที่ยอมตายเพื่อยอดเขาลำดับเก้าในความทรงจำเหล่านั้น แววตากลับมาเศร้าโศกอีกครั้งหนึ่ง
“ที่แท้ ก็สังหารง่ายดายเช่นนี้เอง…”



