Skip to content

สู่วิถีอสุรา 917

ตอนที่ 917 เม็ดยาคลื่นเสียง

นัยน์ตาซูหมิงฉายแววแน่วแน่รางๆ ชีวิตนี้ของเขาคดเคี้ยว พบเจออันตรายเป็นตายมาหลายครั้ง แต่ขณะเดียวกัน หลังจากเส้นทางคดเคี้ยวกับอันตรายเหล่านี้แล้ว เขาก็ได้รับโชควาสนาที่มากกว่าคนอื่น

ไม่ว่าจะเป็นร่างแยกเอ้อชางหรือการเปลี่ยนแปลงของเศษหินสีดำในตอนนี้ ไม่ว่าสิ่งใดล้วนก็ทำให้เย้ยเยาะสวรรค์ได้ แต่ซูหมิงได้รับมาสองอย่างพร้อมกัน นี่คือเส้นทางการฝึกฝนในภายภาคหน้าของเขา กล่าวได้ว่าเปิดเป็นเส้นทางใหญ่และกว้างเส้นหนึ่ง

ซูหมิงนั่งฌานสมาธิอยู่ หลายชั่วยามต่อมา มือขวาก็เคลื่อนออกจากตัวสัตว์คลื่นเสียงตรงหน้า แม้สัตว์คลื่นเสียงจะแน่นิ่ง แต่พริบตาที่เขายกมือขวาขึ้น มันกลับสลายไปในทันใด กลายเป็นเศษผงกระจายไปรอบๆ

ซูหมิงตรึกตรองอยู่ชั่วครู่แล้วชี้นิ้วมือขวาไปยังตาข่ายใหญ่ มีสัตว์คลื่นเสียงมาอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้ง จากนั้นก็ใช้วิธีแบบเดิมศึกษาโครงสร้างชีวิตของมัน

เวลาค่อยๆ ผ่านไป จากการศึกษาและสังเกตมาตลอด ซูหมิงลืมไปแล้วว่าตนอยู่ที่นี่มานานเท่าไร เขาจำได้รางๆ ว่ามีสัตว์คลื่นเสียงราวหลายหมื่นตัวกลายเป็นเศษผงหายไปตรงหน้า

จากการสังเกตหลายครั้ง เขาค่อยๆ ร่างออกมาเป็นภาพหนึ่งในความคิด ในภาพนั้นมีเค้าโครง ลักษณะของเค้าโครงก็คือสัตว์คลื่นเสียง

ซูหมิงหลับตาลง ครั้งนี้เขาตรึกตรองอยู่หลายเดือน ตอนที่ลืมตาอีกครั้ง เขาก็ดูดสัตว์คลื่นเสียงมาอีกตัว ระหว่างที่ดวงตาขยับประกาย มือขวาก็ลากผ่านสัตว์คลื่นเสียงตัวนี้ ร่างของมันแยกออกโดยพลัน ก่อนจะคว้ากระดูกเอาไว้แล้วค่อยๆ ศึกษา

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ตอนที่ในสัตว์คลื่นเสียงหลายแสนตัวมีเกือบสามส่วนหายไปจากการศึกษาของซูหมิง ในเค้าโครงภาพสัตว์คลื่นเสียงในความคิดเขาก็ปรากฏออกมาเป็นโครงสร้างกระดูกสมบูรณ์

โครงสร้างกระดูกนี้คือกระดูกชั้นเยี่ยมที่สรุปออกมาให้เหมาะสมกับสัตว์คลื่นเสียงทุกตัวหลังจากซูหมิงศึกษาพวกมันไปหลายหมื่นตัว

มีเค้าโครง มีกระดูก จากนั้นก็มีทางเดินเลือดลมและเส้นเลือด ซูหมิงจิตใจสงบนิ่ง ตกอยู่ในห้วงการศึกษา หาทางเดินเลือดลมและเส้นเลือดที่กระจัดกระจายในตัวสัตว์คลื่นเสียงไม่หยุด จากสัตว์คลื่นเสียงหลายหมื่นตัว หาออกมาเป็นความต่างเล็กน้อยของพวกมัน และยังหาเจอจุดที่พวกมันเหมือนกัน

ไม่นาน เค้าโครงสัตว์คลื่นเสียงในความคิดก็ไม่ได้มีเพียงกระดูก แต่ยังมีเส้นสีแดงดำตัดสลับกันจำนวนหนึ่ง เส้นเหล่านี้ลากผ่านทุกจุดของเค้าโครง รวมขึ้นเป็นภาพสัตว์คลื่นเสียงที่ค่อนข้างสมบูรณ์

เมื่อทำสิ่งเหล่านี้เสร็จ ซูหมิงก็รู้สึกถึงการผ่านโลกมานานอยู่เล็กน้อย ความรู้สึกนี้ผุดขึ้นในใจ นั่นเป็นเพราะเขาศึกษามาไม่รู้นานเท่าไรแล้ว แม้คาดเดาว่าเวลาจะหยุดนิ่ง แต่ในใจกลับสั่นไหว ดังนั้นถึงจะอยู่ในเวลาที่หยุดนิ่งก็ยังรู้สึกผ่านโลกมานาน

‘มีเค้าโครง มีกระดูก และก็มีทางเดินเลือดลมแล้ว ตอนนี้ยังขาด….เลือดเนื้อ’ นัยน์ตาเขาขยับประกาย ตกอยู่ในห้วงการศึกษาเลือดเนื้อของสัตว์คลื่นเสียงทีละตัวอีกครั้ง เมื่อสัตว์คลื่นเสียงในตาข่ายใหญ่เหลือครึ่งหนึ่งหรือมีสัตว์คลื่นเสียงสลายไปด้วยมือเขาแสนกว่าตัวแล้ว ภาพในความคิดก็ลอยขึ้นมาเป็นสัตว์คลื่นเสียงสมบูรณ์แบบตัวหนึ่ง

มันมีโครงสร้าง มีเลือดเนื้อ มีกระดูก มีทางเดินเลือดลม

ภาพนี้เกิดจากการศึกษามาไม่รู้กี่ปี หลังจากทำลายสัตว์คลื่นเสียงแสนกว่าตัวแล้ว จึงรวมออกมาเป็นสัตว์คลื่นเสียงอย่างละเอียด

กระทั่งกล่าวได้ว่าความเข้าใจของเขาต่อสัตว์คลื่นเสียงมากกว่าตัวมันเองเสียอีก เขาเข้าใจโครงสร้างทุกอย่างของร่างกายมัน ละเอียดก็ดี มหาภาคก็ดี และยังเข้าใจระดับชีวิตของมันอย่างถ่องแท้

หลังจากเขาทำลายสัตว์คลื่นเสียงไปแสนกว่าตัว ย่อมเกิดกลิ่นอายพลังที่ไม่ชัดเจนขึ้นโดยธรรมชาติ กระทั่งมีเพียงสัตว์คลื่นเสียงเท่านั้นถึงจะรู้สึกได้ กลิ่นอายพลังนี้คือสิ่งที่สัตว์คลื่นเสียงคิดว่าเป็นศัตรูโดยธรรมชาติ มันรวมออกมาเป็นความชั่วร้ายหลังจากพวกมันตายด้วยมือเขาไปแสนกว่าตัว และจากการที่เขาเข้าใจพวกมันอย่างถ่องแท้ จึงเกิดเป็นพลังอำนาจมาจากจิตใจเขา!

ซูหมิงในตอนนี้ สัตว์คลื่นเสียงทุกตัวในสายตาเขา ไม่ว่าจะขนาดใด ล้วนโปร่งใสดุจดั่งมองทะลุร่างกาย

เมื่อซูหมิงยกมือขวาขึ้นก่อนมีสัตว์คลื่นเสียงตัวหนึ่งมาอยู่ตรงหน้าเขา เขาเพียงใช้นิ้วกดเบาๆ ตรงใต้หน้าอกมันไปสามชุ่น

จากนั้นมันตัวสั่นสะท้านทันที เขาไม่ยกนิ้วมือขึ้น แต่ลากลงไปจนวนครบตัวมันหนึ่งรอบ เขาไม่ได้ใช้พลังอะไรมากนัก แต่ตอนที่ยกมือขวาขึ้น สัตว์คลื่นเสียงตัวนี้กลับล้มลงกับพื้น ดูแล้วเหมือนปกติ ทว่าความจริงในร่างกายมีเส้นเลือดที่มีโลหิตอยู่ เพียงแต่ว่าตอนนี้เหือดแห้งทั้งหมด

นี่ไม่ได้เกิดจากอภินิหารวิชาของซูหมิง แต่เพราะเขาเข้าใจสัตว์คลื่นเสียง ทำให้มันที่อยู่ต่อหน้าเขาอ่อนแอจนรับการโจมตีครั้งเดียวไม่ไหวต่างหาก

กระทั่งซูหมิงในตอนนี้ สัตว์คลื่นเสียงในสายตาเขา ขอเพียงมองไปแวบเดียวก็จะเป็นเลือดเนื้อ โครงกระดูกรวมถึงทางเดินเลือดลมในตัวมันทั้งหมด

พูดได้ว่าหากเขาออกจากที่นี่ไปข้างนอก ไปอยู่กลางฟ้ากระจ่างดาว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์คลื่นเสียงที่คลุ้มคลั่งและละโมบเหล่านั้น เขาจะทำให้พวกมันได้รู้ว่าอะไรคือศัตรูโดยธรรมชาติ อะไรคือความหวาดกลัว

“กว่าข้าจะทำแบบนี้ได้ต้องใช้เวลาไปไม่รู้เท่าไร ทว่าชายชราคนนั้นเพียงกดฝ่ามือในเสี้ยววินาทีก็บรรลุถึงระดับข้าในตอนนี้แล้ว” ซูหมิงขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดเสียงเบา

‘เข้าใจโครงสร้างชีวิตของสัตว์คลื่นเสียงทั้งหมด ถึงจะหลอมเม็ดยาแห่งวิญญาณสูญสลายจากในเม็ดโอสถเหล่านั้นที่สามารถฆ่าล้างสัตว์กลุ่มนี้ได้’ นัยน์ตาซูหมิงเป็นประกายเย็นชาเล็กน้อย มิตินี้ค่อนข้างจะหยุดนิ่ง เช่นนั้นโลกข้างนอกก็ยังคงอยู่แบบเดิม ยังคงมีสัตว์คลื่นเสียงแสนกว่าตัวอยู่

หากซูหมิงหลอมวิญญาณสูญสลายที่ใช้เฉพาะกับสัตว์คลื่นเสียง เช่นนั้นเมื่อเขาออกไปแล้ว ก็จะลบล้างอันตรายที่เกิดจากน้ำหวานดอกผนึกจิตไป

เขาตรึกตรองอยู่ชั่วครู่ แล้วจึงยกมือขวาชี้เม็ดโอสถที่ลอยอยู่เหล่านั้น พวกมันลอยเข้ามาโดยทันที ดวงตาแวววาวจ้องเม็ดโอสถเหล่านี้อยู่ครู่หนึ่งแล้ว ก็ใช้มือซ้ายดึงสัตว์คลื่นเสียงหลายสิบตัวมาจากในตาข่าย แล้วยกมือขวาขึ้นสะบัด ทันใดนั้นเม็ดโอสถที่ลอยอยู่ตรงหน้าต่างบินเข้าไปในปากสัตว์คลื่นเสียง

‘ในเมื่อที่นี่เป็นมายา เช่นนั้นนอกจากสัตว์คลื่นเสียงที่เพียงพอแล้ว จะต้องมี….เม็ดโอสถที่ไม่มีจำกัด มิตินี้เป็นเพียงสถานที่ให้ข้าหาวิธีหลอมพบ การหลอมจริงๆ คือหลังออกจากที่นี่ ไปตรงหน้าภูเขาลูกนั้นในเส้นทางของภูเขาลูกที่สอง’ ประสบการณ์ชีวิตเขามีมากมายนัก ความคิดและสติปัญญาสุกงอมเรื่องแค่นี้เพียงขบคิดเล็กน้อยก็เข้าใจแล้ว

แทบเป็นช่วงที่เม็ดโอสถเหล่านั้นเข้าไปในปากสัตว์คลื่นเสียงทีละตัว มวลอากาศข้างซูหมิงพลันบิดเบี้ยว แล้วปรากฏเม็ดโอสถจำนวนเท่าเดิม นี่ทำให้การคาดเดาของเขาได้รับการยืนยัน

เขาไม่มองเม็ดโอสถใหม่เหล่านั้น แต่ประกายในดวงตาขยับวิบวับ มองสัตว์คลื่นเสียงสิบกว่าตัวนั้นและสังเกตการเปลี่ยนแปลงและความต่างหลังจากพวกมันกินเม็ดยาไป

การยืนยันต่างกัน บันทึกทุกการเปลี่ยนแปลงในความคิด หล่อหลอมเข้าสู่ในภาพสัตว์คลื่นเสียงในจิตใจ แล้วทำการอนุมานทีละครั้งๆ ขั้นตอนนี้ยาวนาน แต่ซูหมิงไม่รีบร้อน เขาทดลองไม่หยุดด้วยสีหน้าปกติภายใต้การไหลเวียนของเวลา

สัตว์คลื่นเสียงทุกตัวที่กินเม็ดโอสถไปหนึ่งเม็ดก็ค่อยๆ เพิ่มเป็นหนึ่งตัวกินสองเม็ด สามเม็ด จนกระทั่งทุกตัวกินทั้งหมด จากการทดลองและการเปลี่ยนแปลงทีละครั้ง จิตใจเขาตกอยู่ในห้วงการตามหาข้อบกพร่องของสัตว์คลื่นเสียงโดยสมบูรณ์

ไม่นาน สัตว์คลื่นเสียงในตาข่ายใหญ่ก็น้อยลงเรื่อยๆ ถึงที่สุดเหลือไม่ถึงสองส่วน ดูแล้วมีราวๆ หกเจ็ดหมื่นตัว

แต่สัตว์คลื่นเสียงที่ตายด้วยมือซูหมิง ตอนนี้มากถึงสองแสนตัวแล้วตามการสั่งสมของเวลา

‘จากการเข้าชุดของเม็ดโอสถเหล่านี้ จะเกิดผลลัพธ์พิเศษได้….’ ซูหมิงยกมือขวาสะบัดไป สัตว์คลื่นเสียงดวงตาแดงก่ำตรงหน้า ร่างกายเหมือนหลอมละลายพลันกลายเป็นเศษผง

‘นี่คือส่วนประกอบยาที่สามพันเจ็ดร้อยหกสิบเอ็ด ทว่าส่วนประกอบยานี้ทำได้เพียงให้สัตว์คลื่นเสียงกระดูกละลาย ยังไม่อาจสังหารได้ในพริบตา’ ซูหมิงส่ายศีรษะ นี่ไม่ใช่ยาวิญญาณสูญสลายที่เขาต้องการ

‘ยาวิญญาณสูญสลายที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้อย่างแท้จริงนี้ ถึงข้าจะไม่รู้ว่ามีประสิทธิผลอย่างไร แต่ว่า…ในใจข้ามียาชนิดหนึ่ง ตอนที่มันทำงานจะเรียกได้ว่า… ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’ นัยน์ตาเขาหวนคะนึงคิด เขานึกไปถึงเม็ดยาที่ตนหลอมในวัยเยาว์…โอสถโลหิต!

เม็ดยาที่สัมผัสกับโลหิตแล้วจะทำให้อีกฝ่ายละลายชนิดนั้น มันรุนแรงอย่างยิ่ง

“หากละลายแล้ว ร่างกายยังระเบิดด้วย เพียงแค่สัมผัสกับโลหิตสัตว์คลื่นเสียงก็จะทำให้มันละลายและระเบิดอีกครั้ง…นี่ต่างหากคือยาวิญญาณสูญสลายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ตรงกับความคิดข้า” ซูหมิงกล่าวพึมพำเบาๆ นัยน์ตาฉายแววเหี้ยมโหดบางๆ

เวลาผ่านไป การประกอบยายังคงดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะหนึ่งเม็ดหรือครึ่งเม็ด หรือจะเพียงนิดเดียว ซูหมิงได้ทดลองส่วนประกอบยาต่างๆ ที่เขาคิดได้หมดแล้ว

จำนวนของสัตว์คลื่นเสียงจากหกเจ็ดหมื่นเหลือสามสี่หมื่น จนสุดท้ายเหลือเพียงหลายพันตัว….

“ส่วนประกอบยาชนิดที่เจ็ดหมื่นแปดพันหกร้อยสี่สิบห้าก็อ่อนเกินไปอีก….”

“ส่วนประกอบยาชนิดที่แปดหมื่นหนึ่งพันสามร้อยยี่สิบสี่ก็ยังไม่ได้….”

จนกระทั่งสัตว์คลื่นเสียงในตาข่ายใหญ่เหลือไม่ถึงหลายร้อยตัว ซูหมิงพลันตัวสั่นสะท้าน สัตว์คลื่นเสียงพันจั้งตรงหน้าเกิดตัวแดงไปทั้งตัวภายใต้การประกอบยา ฉับพลันนั้นก็ระเบิดออก เลือดกระเด็นไปรอบๆ นัยน์ตาซูหมิงพลันเพ่งสมาธิ นึกย้อนไปถึงส่วนประกอบยาก่อนหน้านี้ นัยน์ตาเริ่มเปล่งประกาย

“สิ่งนี้เกิดจากการหลอมรวมของเม็ดโอสถต่างกัน จะเกิดเป็นโลหิตที่ไม่ละลายในโครงสร้างชีวิตสัตว์คลื่นเสียง โลหิตประหลาดชนิดนี้ ขอเพียงสัมผัสก็จะละลายเข้าสู่ร่างกาย และเกิดการละลายเหมือนกับการกัดกิน

ยังต้องเพิ่มแรงระเบิดตัวเองเข้าไปด้วย เพียงแต่ว่าพลังนี้ต้องดูที่ขั้นพลังของสัตว์คลื่นเสียงที่ต่างกัน ยิ่งขั้นพลังสูง แรงระเบิดตัวเองจะยิ่งรุนแรง”

ซูหมิงยิ้มมุมปาก ก่อนลุกพรวดขึ้น

“เม็ดยานี้ชื่อว่าเม็ดยาคลื่นเสียง!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!