ตอนที่ 949 เหยียบดาวขอบสวรรค์
บนดาวขอบสวรรค์ ผืนแผ่นดินใหญ่อาบไปด้วยสีเขียวมรกต มองไปแวบแรกจะเป็นป่าหนาทึบกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา และจะเห็นว่ามีต้นไม้ใหญ่ขนาดร้อยจั้งไม่น้อยตั้งตระหง่านไม่โค่นล้ม
มองยอดต้นไม้ยักษ์จากไกลๆ เหมือนกับยักษ์คนแล้วคนเล่ายืนอยู่บนพื้นดิน
ทั้งยังมีต้นไม้ยักษ์พันจั้งอยู่ ให้ความรู้สึกผ่านโลกมาอย่างโชกโชน และทำให้คนเกิดความคิดหรืออารมณ์ขึ้นเอง
ไกลออกไปอีกเป็นมหาสมุทรสีครามเข้ม คลื่นน้ำทะเลไหลเชี่ยว ราวกับว่าใต้ทะเลมีต้นไม้ยักษ์นับไม่ถ้วนกำลังแกว่งไกวอยู่
นี่เป็นดาวดวงหนึ่งที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณ มีต้นกำเนิดโลกเข้มข้น จนทำให้สิ่งมีชีวิตบนดาวดวงนี้ตั้งแต่กำเนิดมาก็มีขั้นพลังอ่อนๆ โดยธรรมชาติ
ที่นี่ไม่มีเมือง ไม่มีชนเผ่า ประหนึ่งว่าเป็นดาวอันเงียบสงบที่ไม่มีความน่าเกรงขามใดๆ เลย แต่หากมองยอดต้นไม้ยักษ์ในป่าทึบเหล่านั้นดีๆ จะพบว่าใต้แมกไม้มีบ้านไม้อยู่หลายหลัง!
จะมีร่างคนมีปีกบินผ่านในบ้านไม้เหล่านั้นเป็นบางครั้ง
ทว่าความสงบทุกอย่างถูกทำลายเมื่อมีเสียงฟ้าผ่าดังมาจากบนฟ้า ส่งเสียงเปรี้ยงปร้างดังสนั่น แผ่นดินสั่นสะเทือน ขณะต้นไม้โยกไหวอย่างรุนแรงก็มีหลายต้นฉีกออกจากตรงกลาง มีเสียงคลื่นทะเลดังแว่วมาจากไกลๆ
ร่างมีปีกในบ้านไม้เหล่านั้นต่างเงยหน้าขึ้นทันที เดิมทีดวงตาพวกเขาเป็นสีเหลืองอ่อน แต่ทันทีที่มองฟ้ากลับเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานทันที
พลังชั่วช้าพลันปะทุมาจากตัวคนมีปีกทุกคน
ทั้งยังมีเสียงร้องดังมาจากปากพวกเขา เสียงเหล่านี้หลอมรวมด้วยกันกลายเป็นเสียงคำรามแหลม ก่อเป็นแรงปะทะพุ่งขึ้นฟ้า ประหนึ่งจะต่อต้านกับคลื่นเสียงจากบนฟ้าก่อนหน้านี้
เสียงโครมครามสะเทือนฟ้าดิน บนฟ้าปรากฏดาวตกลุกไหม้สายหนึ่ง กลายเป็นสายรุ้งยาวดิ่งมายังพื้นดินราวกับฉีกแยกมวลอากาศลงมา
สายรุ้งยาวนี้ทำให้ชาวเผ่าขวางสวรรค์ใต้ยอดต้นไม้เหล่านั้นดวงตาแดงฉานยิ่งกว่าเดิม ขณะเดียวกันก็ต่างบินขึ้น ขยับปีกมุ่งหน้าไปยังดาวตก
พวกเขาเป็นรักษาการณ์ดาวรอบนอกสุดภายในพื้นที่เผ่าขวางสวรรค์ เชี่ยวชาญการต่อสู้ ทั้งยังเหี้ยมโหดโดยสันดาน เวลาปกติจะออกจากฟ้ากระจ่างดาวไปล่า
หากมีสัตว์ร้ายไม่ดูตาม้าตาเรือบุกเข้ามาในดาวพวกเขา เช่นนั้นจุดจบคือเป็นอาหารลงกระเพาะพวกเขา
กระทั่งหากมีคนนอกเผ่าบังเอิญเข้ามาหรือผู้ฝึกฌานนอกทะเลดาราต้นกำเนิดจิตบุกเข้ามา ก็จะถูกพวกเขากัดกินทั้งเป็น
พวกเขาเกือบทุกคนเคยทำแบบนี้ และก็ชอบรสชาติเนื้อเนียนนุ่มของผู้ฝึกฌานมาก
ชาวเผ่าขวางสวรรค์หลายร้อยคนต่างรวดเร็วยิ่ง ขณะห้อเหยียด ด้านหลังยังมีชายชราสองคนบินออกมาจากต้นไม้ใหญ่พันจั้ง สองคนนี้สวมอาภรณ์ยาวสีฟ้า ใบหน้าแก่ชราไม่ว่า แต่ยังมีกลิ่นอายพลังของเจ้าปกครองโลกตอนปลาย
“กล้าบุกเขตขวางสวรรค์ ตาย!” ชายชราหนึ่งในนั้นแค่นเสียงหึเย็นชาก่อนยกมือขวาสะบัดไป ป่าไม้ตรงหน้าเขาพลันเกิดเสียงดังซ่าๆ ใบไม้นับไม่ถ้วนลอยออกมาอย่างเร็วไว ก่อนจะรวมขึ้นเป็นฝ่ามือใบไม้ยักษ์กลางอากาศกดไปยังดาวตกที่พุ่งมาตรงหน้า
โครม!
เสียงดังสั่นสะเทือนแผ่นดิน ดาวตกพุ่งลงสู่พื้นเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงปะทะกระจายออกเป็นวงกว้าง เปิดดินบนพื้นขึ้น เปิดต้นไม้จำนวนมาก ทำให้แผ่นดินที่อยู่ไกลๆ ส่งเสียงสั่นสะเทือนแว่วมา ซูหมิงในหลุมลึกบนพื้นค่อยๆ ยืนขึ้น
เขาสวมผ้าเนื้อหยาบ เส้นผมยาวปลิวไสว สีหน้าเย็นชา นัยน์ตาฉายแววเย็นเยียบ ตอนที่เขายืนขึ้น ท้องฟ้าเกิดเสียงแหลมเล็กดังฟุ่บๆชาวเผ่าขวางสวรรค์หลายร้อยคนมาถึงแล้ว
เมื่อชาวเผ่าขวางสวรรค์เหล่านี้เห็นซูหมิงแล้วก็ต่างตาลุกวาว ในสายตาพวกเขา ซูหมิงคือแกะอ้วนหลงทางตัวหนึ่ง ระดับความสดและนุ่มมากพอจะทำให้พวกเขาหลายร้อยคนกินไปหนึ่งคำแล้วติดใจรสชาติไปอีกนาน
แทบเป็นชั่วเสี้ยวขณะเดียว ชาวเผ่าขวางสวรรค์เหล่านี้ก็อ้าปากเผยฟันคมกริบ สีน้ำตาลอมเหลือง พวกเขาที่ใช้ชีวิตอยู่ในวงแหวนชั้นในของทะเลดาราต้นกำเนิดจิตแห่งนี้ ในด้านหนึ่งเป็นเหมือนกับสัตว์ร้ายไปแล้ว ไม่คู่ควรจะเรียกว่าคนอีก
ถึงอย่างไรปีกด้านหลังพวกเขาก็ทำให้เผ่าขวางสวรรค์ยากจะเป็นที่ยอมรับของ ผู้ฝึกฌานนอกทะเลดาราต้นกำเนิดจิต
ทันทีที่ชาวเผ่าขวางสวรรค์พุ่งไปหาซูหมิง สิ่งที่เร็วกว่าพวกเขาคือมือใหญ่ที่รวมขึ้นจากใบไม้นับไม่ถ้วน มือใหญ่พลันพุ่งผ่านชาวเผ่าขวางสวรรค์ พริบตาเดียวก็มาอยู่ข้างซูหมิง ก่อนจะคว้ามือไปอย่างรุนแรง
ซูหมิงเงยหน้าขึ้น สีหน้าปกติดังเดิม ระหว่างที่ฝ่ามือใบไม้ยักษ์พุ่งเข้ามา เขายกมือขวาขึ้นชกหมัดไปโดยไม่ใช้พลัง เพียงใช้พละกำลังเท่านั้น
โครม!
เสียงโครมดังกังวาน ซูหมิงถอยไปหนึ่งก้าว อาภรณ์แกว่งไกวอย่างรวดเร็ว ส่วนมือใหญ่นั้นระเบิดออกกลายเป็นใบไม้จำนวนมาก ก่อนสลายหายไปจากรอบๆ
ภาพนี้ทำให้ชาวเผ่าขวางสวรรค์ต่างพากันหยุดชะงักฝีเท้า ปีกข้างหลังขยับไหวแล้วบินขึ้นพร้อมกัน สายตาจ้องซูหมิงตาเขม็งด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร
ในเวลาเดียวกันชายชราสองคนนั้นก็เข้ามาใกล้ ช่วงที่มองซูหมิงในแวบแรก พวกเขาสองคนหรี่ตาลงพร้อมกัน
‘เจ้าปกครองโลกตอนปลาย…’ ชายชราสองคนมองหน้ากันและกัน
“เจ้าเป็นคนจากเผ่าใด มาเผ่าขวางสวรรค์มีเรื่องอันใด” ชายชราหนึ่งในนั้นเอ่ยอย่างเย็นชา เสียงเป็นลูกคลื่น ผู้ฝึกฌานปกติจะฟังไม่รู้เรื่อง ทว่าซูหมิงกลับเข้าใจ ภาษานี้คล้ายกับของเผ่าหมานกับเชมัน แต่ก็มีความต่างอยู่ ตอนแรกเขาเรียนมาจาก ตี้จิ่วโม่ซาบ้าง จึงเข้าใจความหมาย
ถึงอย่างไรเขาก็มีพื้นฐานภาษาเผ่าหมาน จึงไม่รู้สึกแปลกกับสังคมชนเผ่าของที่นี่
ซูหมิงไม่ตอบแต่ดีดฝุ่นบนอาภรณ์ ยิ้มมุมปากแล้วเดินหน้าหนึ่งก้าว ร่างเงาพลันเลือนรางในทันทีและหายไป ก่อนไปปรากฏอยู่บนฟ้าด้านหลังชาวเผ่าขวางสวรรค์คนหนึ่ง
“ระวัง!”
ชาวเผ่าเพิ่งจะกล่าวเตือน ชายหนุ่มเผ่าขวางสวรรค์คนนั้นก็หดตัว เขาไม่หนีไปข้างหน้า แต่กระแทกไปข้างหลัง ปีกของเขาเป็นเหมือนกับกริชคมกริบฟันไปข้างหลัง
นี่คือจุดที่ขาวเผ่าขวางสวรรค์ต่างกับเผ่าอื่นๆ พวกเขาคือเผ่าที่ชำนาญการรบ ถึงจะเป็นชาวเผ่าธรรมดาก็มีประสบการณ์ในการต่อสู้สูงยิ่ง ทว่า…หากขั้นพลังใกล้เคียงกัน สิ่งนี้ก็จะมีผล แต่สำหรับซูหมิงแล้ว ต่อให้อีกฝ่ายโต้ตอบเร็วมาก แต่ว่าก็ไร้ผลอยู่ดี
ตอนที่ฝนโลหิตตกลงและเกิดเสียงร้องโหยหวน ซูหมิงปล่อยให้ชายหนุ่มพุ่งชนใส่ ปล่อยให้ปีกฟันใส่ผิวหนังตน ส่วนมือขวาเขาบีบคออีกฝ่ายเอาไว้แล้วออกแรงบดขยี้ เสียงกรอบๆ ดังขึ้น คอของชายหนุ่มป่นปี้ พลังทะลวงเข้าสู่ร่างกายและทำลายจิตแรกอีกฝ่าย
เมื่อคลายมือออก ชาวเผ่าขวางสวรรค์หลายร้อยคนต่างร้องคำรามด้วยความโกรธอยู่รอบตัวเขา แล้วต่างพากันพุ่งเข้ามา
“เจ้ารนหาที่ตาย!” ชายชราหนึ่งในเจ้าปกครองโลกตอนปลายสองคนแห่งเผ่าขวางสวรรค์ ยามนี้นัยน์ตาเป็นประกายจิตสังหาร พวกเขารวดเร็วที่สุด หนึ่งในนั้นพุ่งผ่านชาวเผ่าเข้ามาอยู่ข้างซูหมิง จังหวะที่ยกมือขวาขึ้น มือขวาเขาก็กลายเป็นต้นไม้แห้ง ซ้ำยังมีกิ่งแตกออกก่อนลุกลามไป คล้ายกับว่าแขนกลายเป็นต้นไม้พุ่งไปหาซูหมิง
ซูหมิงมีสีหน้าเรียบนิ่ง ร่างแยกขั้นพลังกับร่างแยกกลืนนภาพลันหลอมรวมกันในตอนนี้ ในร่างกายเต็มไปด้วยกำลังรบของเจ้าปกครองโลกสมบูรณ์ ขณะหมุนตัวกลับเขาก็ยกมือขวาขึ้นทำสัญลักษณ์มือชี้ไปยังมือต้นไม้ของชายชรา
เพียงชี้ไปชายชราก็หยุดชะงักทันควัน
“ข้าขอสาป…เผ่าขวางสวรรค์ สิบคนจงตายไปสาม!” ซูหมิงกล่าวเรียบๆ นี่คือวิชาคำสาปที่เขาเรียนรู้ตอนอยู่แดนหมาน วิชานี้เหี้ยมโหดยิ่งนัก เขาใช้มันไม่บ่อย ตอนนี้เมื่อขั้นพลังสูงขึ้นและใช้วิชาคำสาป พลานุภาพจึงรุนแรงกว่าเมื่อก่อนมาก
แทบทันทีที่ซูหมิงกล่าวประโยคนี้ นิ้วมือเขากลายเป็นสีดำทึบทันที มีควันดำลอยมาจากในนิ้วมือ มาพร้อมกับความเน่าเปื่อย ก่อนจะปะทะกับแขนต้นไม้ของชายชราในพริบตา จากนั้นสีดำก็ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ชายชราหน้าเปลี่ยนสีอย่างเด่นชัด มันก็ลามไปครึ่งร่างเขาแล้ว
ซูหมิงไม่สนใจชายชราคนนี้อีก เขาวูบไหวตัวพุ่งไปยังชาวเผ่าขวางสวรรค์ที่กำลังพุ่งมาหาเหล่านั้น
ช่วงเวลานี้เกิดสายลมกลิ่นคาวเลือดและฝนโลหิต เสียงร้องโหยหวนดังไม่หยุดหย่อน ซูหมิงเย็นชาจนเหมือนไร้ความรู้สึก และก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนข่มเหงผู้อ่อนแอกว่า เพราะชาวเผ่าขวางสวรรค์เหล่านี้มีขั้นพลังต่างกับตนเกินไปด้วย
กระทั่งต่อให้เป็นสตรีเผ่าขวางสวรรค์ ขอเพียงอยู่ในกลุ่มคนหลายร้อยคนนี้ ก็จะถูกเขากำหนดเป้าหมายสังหาร
พริบตาเดียวก็มีชาวเผ่าขวางสวรรค์ตายด้วยมือซูหมิงไปหลายสิบคนแล้ว ผู้คนรอบๆ ต่างหน้าเปลี่ยนสี ถอยไปพร้อมกัน มีเพียงชายชราเจ้าปกครองโลกตอนปลายอีกคนที่ตะโกนด้วยความโกรธพลางพุ่งไปหาซูหมิง
เขาเดินหนึ่งก้าวบนอากาศ มวลอากาศเกิดเสียงดังสนั่น ตอนเดินก้าวที่สอง ขาสองข้างกลายเป็นต้นไม้ เมื่อเดินก้าวที่สาม เขายกมือขวาขึ้นคว้าบนฟ้า พลันมีแส้สีเขียวเข้มเส้นหนึ่งโผล่ขึ้นมาในมือ จากนั้นเขาก็ตวัดมันจนเกิดเสียงดังเพี๊ยะๆ สนั่นฟ้าดิน
ก้าวที่สี่ เขากลายเป็นสายรุ้งยาวสายหนึ่ง ตอนที่บีบเข้าประชิดตัวซูหมิง เขาระเบิดพลังเจ้าปกครองโลกตอนปลายออกมา อีกทั้งระหว่างที่กลิ่นอายพลังกระจายออก ทั้งดาวแท้จริงก็เหมือนกับว่าเอ็นดูเขา ต้นไม้ทั้งหมดล้วนโอนเอนไปทางเขา เสียงคลื่นทะเลแว่วมาไกลๆ ลูกคลื่นสูงเทียมฟ้า เหมือนกับส่งพลังงานของตนมาให้เขา
ในความรู้สึกซูหมิง ชายชราคนนี้เหมือนจะเหนี่ยวนำดาวแท้จริงดวงนี้ได้ ราวกับว่าการไหลเวียนโลหิตของเขาคือคลื่นจากทะเล ใต้เท้าเขาก็คือพลังชีวิตของต้นไม้ การเต้นของหัวใจก็คือร่องรอยของการโคจรดาวดวงนี้
“น่าสนใจ…” ซูหมิงยิ้มน้อยๆ ตอนที่ชายชราเข้ามาใกล้และแส้ตวัดเข้ามานั้น ในดวงตาซูหมิงพลันปรากฏอักขระต้นกำเนิดจิตขึ้น
หลังปรากฏต้นกำเนิดจิต ขั้นพลังเขาก็ปะทุ จากเจ้าปกครองโลกสมบูรณ์ทะยานถึงภัยพิบัติจันทรา แม้ด้านหลังเขาจะไม่มีเงาดวงจันทร์ แต่กำลังรบก็คือภัยพิบัติจันทรา!
ซูหมิงก้มหน้าลงไปทางชายชราที่พุ่งมา ยกมือขวาชกไปเพียงหมัดเดียว!
หนึ่งหมัดชกใส่มวลอากาศ เสียงครึกโครมดังสนั่นฟ้า มวลอากาศตรงหน้าซูหมิงพลันพังพินาศลง ม้วนตลบถอยไปเป็นชั้นๆ กลายเป็นพายุคลั่งน้ำวน แวบเดียวก็เข้าปะทะกับชายชราที่เหมือนเป็นศูนย์รวมความโปรดปรานของดาวนี้ จากนั้นก็กลบเขาจนมิด
แผ่นดินสั่นสะเทือน ต้นไม้หยุดชะงักพร้อมกัน เสียงคลื่นทะเลเงียบลง
ชาวเผ่าขวางสวรรค์ทั้งหมดรอบตัวเหม่อมองโลหิตสดลอยมาจากกลางพายุน้ำวนนั้น ข้างหูได้ยินเสียงร้องแหลมดังติดต่อกัน
“เจ้าเป็นใคร!” ชายชราที่ทั่วร่างเป็นสีดำเน่าเปื่อยจากคำสาปอยู่ไม่ไกลตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ
“ศิษย์คนที่สี่ของเทียนเสียจื่อ ซูหมิง มาเอาวิญญาณชาวเผ่าขวางสวรรค์สามหมื่นคน ถือเป็นดอกเบี้ยที่ตอนนั้นพวกเจ้าล่าสังหารอาจารย์ของแซ่ซู!” ซูหมิงดึงมือขวากลับแล้วเงยหน้าตอบเรียบๆ