Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 138

Yi Jian Du Zun
H

H

H

บทที่ 138 หลิงเอ๋อร์ พี่กลับมาแล้ว! (ปลาย)

ณ เมืองชายแดน

ภายในกระโจมที่พักของเจียงจิ้ว ชายชราผู้หนึ่งถลันเข้าไปอย่างรีบด่วน จากนั้นกล่าวรายงานด้วยน้ำ

เสียงร้อนรนตะกุกตะกัก “ฝ่าบาทองค์หญิง คุณชายเยี่ย..เรือเหาะที่คุณชายเยี่ยโดยสารอับปางพะย่ะค่ะ!”

จากเสียงรายงานร้อนรนที่ได้ยิน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองผู้ที่เข้ามาใหม่ “ท่านว่าอะไร?”

ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เรือเหาะระเบิดและแตกออกเป็นเสี่ยงๆ……ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบ

แน่ชัด ทว่าเชื่อแน่ว่าต้องมีใครสักคนอยู่เบื้องหลัง ทั้งยัง……”

อีกฝ่ายถามตัดบท “เขาเป็นอย่างไร?”

คนถูกถามอึกอัก เขาส่ายหน้าพลางตอบว่า “กระหม่อมยังไม่ได้ข่าวของเขาว่าเป็นหรือตาย ทว่าตกลงมาจากที่สูงขนาดนั้น……”

แกร๊ก!

เสียงโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าของหญิงสาวพังทลายลงด้วยน้ำมือของนาง สีหน้าโกรธจัด “ให้ตายสิ สถาน

ศึกษาฉางมู่! เลวทรามสิ้นดี!”

ชายชราจ้องมองหญิงสาวด้วยความตกตะลึง “ฝ่าบาท……”

อีกฝ่ายหันขวับมาทางชายชราทันที “ส่งทหารม้าหนึ่งร้อยนายออกลาดตระเวน ทำทุกวิถีทางตามหา

เขาให้พบให้ได้!”

ชายชราพยักหน้ารับคำ ก่อนจะหันหลังกลับออกไปอย่างรวดเร็ว

หญิงสาวยังยืนอยู่ภายในกระโจม ชั่วขณะหนึ่งนางหยิบแผ่นป้ายสีทองออกมา สายตาที่ทอดมองวัตถุ

ในมือแววตาเคร่งเครียด “ถ้าเจ้าเป็นอะไรไป ข้าจะทำให้สถานศึกษาฉางมู่ได้รับผลที่มันก่อกรรมเอาไว้อย่าง

สาสม”

หลังจากนั้นจึงลุกออกจากที่เดินออกไปภายนอก สายตาเหม่อมองบนท้องฟ้าในระยะไกล “อย่า เจ้า

ต้องไม่ตาย……ช่วยมีชีวิตอยู่ให้ได้……”

มือข้างขวากำเข้าหากันโดยไม่ตั้งใจจนปลายเล็บจิกไปบนเนื้ออุ้งมือ……

……

ยามวิกาล เยี่ยฉวนเดินเท้ากลับเข้าเมืองชายแดน ชายหนุ่มใช้ผ้าคลุมสีดำเพื่อปกปิดอำพรางสายตา

ของผู้พบเห็น

เขามิได้ย้อนกลับไปที่ค่ายทหารของเจียงจิ้ว ในเวลานี้เพื่อความปลอดภัยจึงไม่ปรารถนาจะเปิดเผย

สถานะของตนเอง

ทว่าเขากลับเข้าไปที่สำนักอัปสรเมรัยและแอบซื้อที่นั่งของเรือเหาะอีกเที่ยว

ในเวลาครึ่งชั่วยามถัดมา เรือเหาะลำนั้นได้ทะยานขึ้นเหนือท้องฟ้าของเมืองชายแดนและไม่นานต่อมาก็กลืนหายไปในท้องฟ้ายามราตรี

บนเรือเหาะ ในห้องผู้โดยสารทั่วไป

เยี่ยฉวนปิดล็อคประตูเรียบร้อยแล้ว จึงเข้าสู่หอคอยแห่งเรือนจำ

การฝึกปรือกระบี่!

ทว่าในช่วงเวลาเช่นนี้ ชายหนุ่มมิได้ฝึกกระบี่ เขากำลังฝึกปรือการใช้พลังหลอมรวมลมปราณควบคุม

กระบี่!

ภายในหอคอยแห่งเรือนจำชั้นที่หนึ่ง กระบี่เล่มหนึ่งพุ่งทะยานฉวัดเฉวียนไปมากลางลานโดยไร้การ

ควบคุม บางขณะก็ตกลงสู่พื้นล่างจากกลางอากาศ หรือไม่บางขณะก็หยุดนิ่งไร้ความเคลื่อนไหว

เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มขาดประสบการณ์ในการควบคุมกระบี่ทว่าเขากลับไม่รู้สึกหวั่นไหว ด้วยว่าตนเองยังขาดทักษะ เขาจึงต้องหมั่นฝึกปรือหนักขึ้นๆ ไปอีก

ผ่านไปกว่าหนึ่งวันครึ่ง ขณะที่เรือเหาะเข้าใกล้เมืองหลวงขึ้นทุกที

เยี่ยฉวนยังอยู่ภายในหอคอย เขาพร่ำฝึกปรืออย่างหนักหน่วงยิ่ง ทว่าโดยพื้นฐานชายหนุ่มมีความเป็นยอดฝีมือและความประจักษ์แจ้งอยู่แล้ว จึงช่วยให้เขาค่อยๆ เข้าใจเคล็ดลับและสามารถใช้งานกระบี่หลิงซิ่วได้อย่างราบรื่นขึ้นเรื่อยๆ……

ครึ่งชั่วยามถัดมาเรือเหาะเข้าใกล้เมืองหลวงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมองจากบนเรือเหาะสายตาของชายหนุ่ม

สามารถจับภาพเค้าโครงของเมืองหลวงได้

ณ เมืองหลวง

บริเวณด้านหน้าของห้องโถงประชุมแห่งสถานศึกษาฉางหลาน

เยี่ยหลิงนั่งอยู่บนขั้นบันได ในมือประคองหุ่นไม้แกะสลักชิ้นหนึ่ง หุ่นไม้ตัวน้อยนี้คือเยี่ยฉวน

สายตาจ้องมองหุ่นไม้ในมือ เด็กหญิงทอดถอนใจเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าชะเง้อมองออกไปทางเชิงเขา

เสียงรำพึงกับตนเองว่า “ท่านพี่ ข้าคิดถึงท่าน”

ทุกวัน เด็กหญิงจะมานั่งตรงจุดนี้ราวหนึ่งชั่วยามเพื่อรอคอยการกลับมาของเยี่ยฉวน!

ในตอนนั้นเอง จี้อันซื่อพลันปรากฏขึ้นข้างกายของเยี่ยหลิง เด็กน้อยจึงเงยหน้าขึ้นมองผู้ที่เพิ่งเข้ามา

“พี่สาวจี้ ท่านหิวข้าวอีกหรือเจ้าคะ?”

หญิงสาวก้มมอง นางส่ายหน้าปฏิเสธพลางทรุดลงนั่งข้างเด็กหญิง พลันสายตาเหลือบไปเห็นหุ่นไม้

แกะสลักในมือของเยี่ยหลิง “นั่นคือท่านพี่ของเจ้าล่ะสิ?”

เยี่ยหลิงพยักหน้ารับ “ท่านพี่แกะสลักเองเจ้าค่ะ หล่อไหมเจ้าคะ? ฮิฮิ……”

อีกฝ่ายกำลังจะเอ่ยปากพูด ทันใดนั้นนางหันไปมองอีกด้านหนึ่งไม่ห่างออกไป ด้วยมีบุรุษผู้หนึ่งกำลัง

ก้าวตรงมาพร้อมด้วยกลุ่มคนอีกนับสิบ

ชายผู้นี้และกลุ่มคน ทั้งหมดคือศิษย์แห่งสถานศึกษาฉางมู่!

เมื่อสายตาของหญิงสาวปะทะกับร่างผู้มาเยือน พลันสีหน้าเปลี่ยนไปสิ้นเชิง!

“เฟินเจี๋ย!”

ผู้ที่นำหน้าคือเฟินเจี๋ย ทั้งเขาและเป่ยเฉินได้ชื่อว่ายอดคนแห่งฉางมู่!

เฟินเจี๋ยที่กวาดสายตามาทางจี้อันซื่อพลันร้องถาม “เยี่ยฉวนอยู่ที่ไหน?”

คนถูกถามค่อยลุกขึ้นยืน “เขาไม่อยู่”

อีกฝ่ายชำเลืองมองด้วยหางตา “ตอนที่ข้าออกจากเมืองหลวง คนจากสถานศึกษาฉางหลานสังหาร

ศิษย์แห่งฉางมู่ มันผู้นั้นกล้าดีอย่างไร?”

ทันทีที่พูดจบ ร่างเบื้องหน้าอันตรธานไปจากสายตา

แกร๊ก!

พื้นดินที่อยู่เบื้องหน้าของจี้อันซื่อบังเกิดรอยแตกร้าว!

หญิงสาวกระชากดาบออกจากฝัก และตวัดฟาดลงอย่างแรง!

ผัวะ!

ขณะนั้นเกิดเสียงระเบิดกึกก้อง พลันร่างทั้งร่างของหญิงสาวถูกแรงปะทะผลักดันเข้าไปภายในห้องโถงประชุม

เวลานั้นเฟินเจี๋ยตั้งใจจะติดตาม ทว่ามีเสียงจากศิษย์ฉางมู่ด้านหลังชี้มือตรงไปยังเด็กหญิงตัวน้อยซึ่ง

ยืนอยู่ไม่ห่างออกไป ที่พูดขึ้นว่า “ศิษย์พี่อาวุโสเฟินเจี๋ยขอรับ นั่นน้องสาวของเยี่ยฉวน ในเมื่อน้องของมันอยู่ที่นี่ ผู้เป็นพี่ชายคงหลบซ่อนอยู่ในนี้เป็นแน่!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฟินเจี๋ยหันขวับมาทางเยี่ยหลิง เด็กหญิงเห็นท่าไม่ดีหันหลังวิ่งหนี ทว่าเฟินเจี๋ยกลับ

มาปรากฏตัวขวางหน้าไว้ทันทีพลางใช้มือขยุ้มผมของนางและยกร่างของเด็กน้อยลอยขึ้นจากพื้น ทำให้เยี่ยหลิงเริ่มร้องไห้น้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวด

ภายในห้องโถง จี้อันซื่อกระโดดสปริงตัวและใช้ดาบในมือฟันเข้าที่เฟินเจี๋ย!

พลังปะทะนั่นสามารถสะบั้นขาดแม้แต่อากาศธาตุ!

อย่างไรก็ตาม ผู้จู่โจมกลับชะงักยั้งดาบกระทันหันและถอยออกห่าง ด้วยเฟินเจี๋ยจับเยี่ยหลิงไว้เป็นเกราะกำบังพลังปะทะจากนาง

สายตาของจี้อันซื่อจ้องเขม็งที่เฟินเจี๋ย “เจ้าใจดำอำมหิตมาก!”

“ใจดำอำมหิตอย่างนั้นหรือ?”

พลันแปรเปลี่ยนเป็นเสียงคำราม “อย่าคิดว่าข้าเกรงกลัวเจ้า เพียงแต่ยังไม่มีอารมณ์อยากสังหารเจ้า

เท่านั้น จงจำไว้ ภายในหนึ่งชั่วยามให้เยี่ยฉวนเดินไปหาความตายที่สถานศึกษาฉางมู่ หรือมิเช่นนั้น จะมีร่าง

คนตายถูกแขวนริมทางเดินขึ้นเขาฉางซานอีกหนึ่ง!”

จากนั้นจึงจับเยี่ยหลิงแบกขึ้นบ่าและหันหลังเดินจากไป

ทันใดนั้นมีเสียงของจี้อันซื่อน้ำเสียงเยือกเย็นเจือดูแคลนดังไล่หลัง “จับเด็กน้อยไว้เป็นตัวประกัน ไม่

เกรงว่าคนภายนอกจะมองสถานศึกษาฉางมู่ของเจ้าเป็นตัวตลกหรืออย่างไร?”

“ตัวตลกหรือ?”

เฟินเจี๋ยหันกลับ สายตาแฝงแววเหี้ยมเกรียมเขม้นมองคนพูด “ในแคว้นเจียง ใครหน้าไหนกล้าหัวเราะ

เยาะสถานศึกษาฉางมู่บ้าง?”

สายตาของจี้อันซื่อแฝงความโหดเหี้ยมไม่ต่างกัน “เจ้าเป็นบุรุษกลับใช้วิธีสกปรก ไม่คิดหรือว่าการ

กระทำเช่นนี้ต่ำทรามสิ้นดี?”

พลันมุมปากของเฟินเจี๋ยบิดเบี้ยวด้วยรอยยิ้มหยามหยัน “ผู้ยิ่งใหญ่ย่อมใช้ทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมายข้าไม่อยากเสียเวลาพูดกับเจ้า จำไว้ภายในหนึ่งชั่วยาม ถ้าไอ้เยี่ยฉวนคนที่สังหารศิษย์ฉางมู่ไม่ออกมาปรากฏตัวที่ทางเดินขึ้นเขาฉางซาน เช่นนั้นก็ตามไปเก็บศพน้องสาวของมันได้เลย ในเมื่อมันสังหารศิษย์ฉางมู่……หากไม่ได้

ชีวิตมันมาชดใช้ งั้นแล้วข้าก็จะฆ่าน้องมันแทน!”

จากนั้นก็หันหลังออกไปพร้อมด้วยเด็กหญิงเยี่ยหลิง

ในโถงหอประชุม จี้อันซื่อบดขยี้ศิลาถ่ายสัญญาณอย่างรวดเร็ว

ไม่นานนักภายหลังจากเฟินเจี๋ยและกลุ่มศิษย์ออกไปพร้อมจับตัวเยี่ยหญิงไปด้วย พลันปรากฏคนผู้หนึ่งวิ่งขึ้นมาตามเชิงเขา คนผู้นั้นคือเยี่ยฉวน

เยี่ยฉวนเร่งฝีเท้าเต็มที่ ตลอดตามทางเสียงเขาหัวเราะร่าอย่างมีความสุข “หลิงเอ๋อร์ พี่กลับมาแล้ว”

— จบตอน —

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!